หลอดไฟหน้ารถยนต์ (Head Lamp) มีความสำคัญอย่างมากสำหรับรถยนต์ทุกคัน ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง รถกระบะหรือรถตู้ โดยเฉพาะคนที่ต้องขับขี่รถในช่วงเวลากลางคืนบ่อย ผ่านเส้นทางที่มืดสลัวหรือมืดสนิท ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสว่างในเวลากลางคืน ทำให้มองเห็นทัศนวิสัยอย่างชัดเจนและขับขี่รถยนต์ได้ปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
บทความนี้เรามีวิธีการเลือกหลอดไฟหน้ารถยนต์ ให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละคน โดยมีทั้ง หลอดฮาโลเจน หลอดซีนอน และหลอด LED พร้อมคำแนะนำจากคุณพยัต จิรสุวรรณพงศ์ วิศวกรไฟฟ้า, เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ และยังมี 10 หลอดไฟหน้ารถยนต์ จากแบรนด์ยอดนิยม โดยมีทั้งโคมไฟแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์และแบบโปรเจกเตอร์ มาแนะนำเพิ่มเติมด้วย
Top 5 หลอดไฟหน้ารถยนต์ ยอดนิยม
คุณเอ๊ะจบการศึกษาปริญญาตรีและโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันประกอบธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจต่อเนื่องมาจากครอบครัว คุณเอ๊ะจึงมีประสบการณ์ทั้งในวงการซ่อมรถยนต์และประกันภัยรถยนต์มากว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมสีตัวถังรถยนต์ ช่วงล่าง ล้อยาง เครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า ถุงลมนิรภัย รวมทั้งยานยานต์ไฟฟ้าก็กำลังติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากงานซ่อมรถยนต์มีหลากหลายรูปแบบ โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่ารถยนต์ที่ผลิตออกมาจากโรงงานได้ผ่านการคิดวิเคราะห์จากวิศวกรผู้ออกแบบอย่างดีแล้ว จึงไม่ควรที่ผู้ใช้หรือช่างซ่อมรถยนต์จะไปดัดแปลงเปลี่ยนสเปกที่แตกต่างไปจากเดิม ดังนั้นงานซ่อมหรือคำแนะนำของคุณเอ๊ะจะเป็นไปในลักษณะซ่อมหรือเปลี่ยนให้อยู่ในสเปกดั้งเดิมของโรงงานผลิตมากกว่าดัดแปลงรถยนต์ นอกจากนี้แนวคิดงานซ่อมของคุณเอ๊ะยังคำนึงถึงราคาค่าซ่อมที่สมเหตุสมผล คุณภาพอะไหล่ที่ได้มาตรฐาน และความปลอดภัยในการใช้งานรถยนต์ต่อไปด้วย
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
สำหรับขั้นตอนในการเลือกหลอดไฟหน้ารถยนต์ มีจุดสำคัญที่จะต้องใช้พิจารณาอยู่ 4 เรื่องด้วยกันคือประเภทของหลอดไฟ ประเภทของโคมไฟ ค่าความสว่างที่มาพร้อมกับค่าอุณหภูมิของแสง และรุ่นของขั้วหลอดไฟ ซึ่งมีรายละเอียดแต่ละหัวข้อดังนี้
ในตลาดอะไหล่รถยนต์มีประเภทของหลอดไฟค่อนข้างหลากหลาย โดยมีมากถึง 4 แบบ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เลือกเปลี่ยนตามความเหมาะสม ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีลักษณะการทำงานที่ต่างกัน รวมถึงมีประสิทธิภาพและข้อดีเฉพาะที่น่าสนใจทีเดียว
หลอดแบบฮาโลเจน (Halogen Lamp) คือ หลอดไฟรุ่นแรกที่พัฒนามาจากหลอดไส้ทั่วไปที่ใช้กันในอดีตและยังคงใช้กันต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีระบบการทำงานที่ต้องอาศัยไส้ทังสเตนเพื่อให้แสงสว่างและใช้แก๊สฮาโลเจนเพื่อช่วยเพิ่มความสว่าง ซึ่งจะมีมีอดีอยู่มากมาย ทั้งราคาถูก หาเปลี่ยนได้ทั่วไปและมีเกรดแบ่งตามการเก็บประจุให้เลือก รวมถึงให้แสงไฟส่องสว่างบนพื้นถนนได้ดีแม้อยู่ในสภาพอากาศที่ไม่ดีหรือในขณะที่ฝนตกก็ตาม แต่ทั้งนี้ข้อจำกัดของหลอดประเภทนี้ก็มีมากเช่นเดียวกัน เพราะมีความสว่างน้อยกว่าแบบอื่น มีอายุการใช้งานสั้นทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อย ที่สำคัญคือมีความร้อนสูงและความทนทานต่ำ จึงอาจพังเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนได้ง่าย
โดยส่วนใหญ่รถยนต์ที่ออกมาจากโรงงานผลิตจะใช้หลอดประเภทนี้โดยแสงไฟจะออกลักษณะเหลือง ๆ หากรถยนต์ของคุณใช้หลอดประเภทนี้ เมื่อหลอดเสียก็ควรจะเปลี่ยนใช้หลอดที่มีสเปกเดิมของผู้ผลิต โดยดูจากขั้วหลอด รวมถึงวัตต์ของหลอดเก่าด้วย เหตุผลคือถ้าผู้ใช้รถเปลี่ยนหลอดเป็นสเปกเดิมก็ไม่ต้องดัดแปลงระบบไฟฟ้ารถยนต์ และไม่ส่งปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้าตามมาในภายหลัง ที่สำคัญ หลอดไฟฮาโลเจนนี้ ราคาถูก หาซื้อได้ทั่วไป และสามารถเปลี่ยนเองได้ไม่ยากอีกด้วย
หลอดไฟหน้ารถยนต์ประเภทหลอดซีนอน (Xenon) หรือที่ถูกเรียกว่า HID (High Intensity Discharge) เคยได้รับความนิยมอย่างมากอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่จะมีหลอด LED ออกมา เพราะเป็นหลอดที่ให้ความเข้มของแสงมากกว่าหลอดฮาโลเจน มีค่าอุณหภูมิสีที่ให้ความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 4300K แต่หากมากกว่านี้ความสว่างก็จะลดลงและค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีอมฟ้ามากขึ้น ซึ่งในแง่ของการประหยัดพลังงาน หลอดซีนอนนั้นถือได้ว่ากินไฟน้อยมากเมื่อเทียบกับประเภทอื่น แต่ก็มีข้อเสียที่ราคาสูง บำรุงรักษายาก และหากติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน ก็จะทำให้ไม่สามารถควบคุมการกระจายของแสงสว่างได้ จนไปรบกวนการมองเห็นของผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย
ไฟซีนอลได้ชื่อว่าเป็นไฟเห็นชัดที่สุดในตอนกลางคืน เนื่องจากสีของไฟที่ออกมาเป็นสีฟ้า หากรถยนต์ที่ไม่ได้ใช้หลอดไฟหน้าซีนอลเป็นมาตรฐาน แล้วต้องการแปลงเปลี่ยนมาใช้หลอดซีนอลจะค่อนข้างยุ่งยากแถมราคาสูง นอกจากนี้ กล่องไฟซีนอล (บาราจหลอดไฟหน้า) ซึ่งบริเวณใต้โคมไฟหน้าของบางยี่ห้อยังเสียง่ายอีกด้วย ปัจจุบันผู้ใช้รถจึงนิยมแปลงไฟหน้าไปใช้หลอด LED มากกว่าเพราะถูกกว่า ยุ่งยากน้อยกว่า แถมสว่างใกล้ ๆ กัน นอกจากนี้ หากไฟหน้าสว่างมากเกินไปมาก ก็อาจทำให้ผู้ใช้ถนนโดยรอบเกิดความรำคาญและอาจจะเกิดอันตรายได้อีกด้วย
หลอด LED (Light Emit Diode) คือประเภทหลอดไฟหน้ารถยนต์ที่กำลังได้รับความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ และค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่ยังนิยมนำไปพัฒนาเป็นเทคโนโลยีประหยัดพลังงานของตัวเอง เพราะให้แสงสว่างที่เหมาะสมคมชัด อีกทั้งยังครอบคลุมพื้นที่ในการมองเห็นมากกว่าหลอดแบบฮาโลเจนถึง 3 เท่า มีลักษณะการทำงานแบบให้กระแสไฟฟ้าผ่านไดโอดที่ให้แสงสว่างโดยตรงโดยไม่ต้องใช้แผงกระจกสะท้อนแสง ทำให้ใช้พลังงานน้อย ไม่เปลืองไฟ มีความร้อนต่ำและมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ข้อเสียคือมีราคาสูงพอสมควรค่ะ
หากผู้ใช้รถยนต์ประจำในเวลากลางคืนประกอบกับสถานที่ที่ไปค่อนข้างมืด อาจจะเลือกเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแบบ LED แทน เพราะข้อดีของหลอดประเภทนี้คือ แสงกระจายน้อยกว่าหลอดฮาโลเจน มีความร้อนน้อยกว่า ทนทานกว่า อีกทั้งยังสว่างกว่ามากหากใช้วัตต์เท่ากัน อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น รถยนต์บางรุ่นที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้หลอด LED ต้องดัดแปลงเพื่อที่จะใส่หลอดแบบนี้เข้าไป และอาจจะทำให้มีปัญหากันระบบไฟฟ้ารถยนต์ได้ ถ้าหากเลือกวัตต์ของหลอดไฟไม่ดี อาจสว่างมากเกินไปจนทำให้เป็นที่รำคาญของทั้งรถข้างหน้าและรถที่สวนกันจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วยครับ
หลอดแบบเลเซอร์ (Laser) เป็นเทคโนโลยีล่าสุดและถือได้ว่าล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน สามารถให้ความสว่างกว่าแบบ LED มากถึง 2 - 5 เท่า แต่ยังมีใช้ในวงที่ค่อนข้างจำกัดและมีใช้ในรถยนต์บางรุ่นเท่านั้น คือ BMW i8 ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้หลอดไฟหน้ารถยนต์แบบเลเซอร์ และปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 โดยสามารถส่องสว่างออกมาเป็นแสงสีขาวนวลได้ไกลถึง 600 เมตร และรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่ใช้ไฟประเภทนี้ก็คือ Audi A8 มีชื่อเทคโนโลยีว่า Laser High Beams ซึ่งให้ความสว่างได้ไกลมากถึง 600 - 700 เมตร ทั้งนี้จะใช้สำหรับไฟสูงเท่านั้น เนื่องจากมีความสว่างสูงมาก จึงไม่อาจใช้ส่องทางได้ตามปกติ เพราะค่าความสว่างที่มีอาจรบกวนเพื่อนร่วมทาง ทำให้สายตาพร่ามัวและอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้
หลอดประเภทนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่อาจจะยังไม่มีการแปลงใส่รถทั่วไป แต่เทคโนโลยีนี้ก็ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเหตุผลหลัก ๆ สองข้อคือ 1. ความปลอดภัย และ 2. ความประหยัดพลังงาน เนื่องจากจะสามารถกำหนดแสงที่จะใช้ได้ในช่วงคลื่นที่สบายตากับผู้ร่วมใช้งานบนท้องถนน และสามารถกำหนดลำแสงได้อย่างแม่นยำ จึงไม่ทำให้แสงแยงตาผู้ร่วมใช้ท้องถนน จึงลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนเรื่องประหยัดพลังงานนั้น ทาง BMW บอกว่าหลอดไฟ Laser มีขนาดเล็กกว่าหลอด LED ถึงร้อยเท่าและประหยัดพลังงานมากกว่าครึ่งหนึ่งของหลอด LED ทั่วไปครับ
นอกจากนวัตกรรมการส่องสว่างจากประเภทของหลอดไฟแล้ว การเลือกไฟที่ตรงกับชุดโคมไฟของหน้ารถยนต์ก็ส่งผลต่อทิศทางของแสงด้วยเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันโคมไฟนั้นถูกแบ่งได้ 2 แบบคือ แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์และแบบโปรเจกเตอร์
โคมไฟแบบสะท้อนแสง (Reflector) หรือมัลติรีเฟล็กเตอร์ (Multi-Reflector) เป็นชุดโคมที่มีราคาถูก มักใช้ในรถรุ่นทั่วไป และนิยมใช้ร่วมไปหลอดไฟฮาโลเจน มีหลักการทำงานคืออาศัยการหักเหและการสะท้อนแสง โดยด้านในจะมีการติดกระจกหรือวัสดุสะท้อนแสงเอาไว้และติดตั้งตัวให้แสงหรือหลอดไฟไว้ตรงกลาง จากนั้นเมื่อเปิดไฟแสงก็จะสะท้อนเข้าหากันและพุ่งออกไปสู่พื้นถนน โดยไม่มีการรวมแสง จึงทำให้แสงที่ได้ไม่มีความสม่ำเสมอและแสงบางส่วนอาจไปแยงตาผู้อื่นได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังมานี้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยผู้ผลิตหลายราย ซึ่งทำการเพิ่มหมวกบังหลอดไฟมาให้ เพื่อให้การรวมตัวของแสงอยู่ในจุดที่เหมาะสมมากขึ้น ทั้งนี้ มีคำเตือนว่าไม่ควรนำโคมแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ไปใช้ร่วมกับหลอดซีนอน เพราะจะยิ่งทำให้แสงฟุ้งกระจาย ควบคุมไม่ได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างยิ่ง
โคมไฟแบบเลนส์รวมแสงหรือโปรเจคเตอร์ (Projector) เป็นชุดโคมที่มีราคาสูง ใช้ได้ทั้งหลอดแบบฮาโลเจนและหลอดซีนอน รวมถึงสามารถติดตั้งเพิ่มได้ในโคมไฟรถยนต์ได้เกือบทุกรุ่น แต่ในระยะหลังมานี้มักจะถูกแนะนำให้ใช้กับหลอดซีนอนเป็นหลัก มีลักษณะการทำงานที่ใช้เลนส์เข้ามาช่วยในการรวมแสง หรืออาจกล่าวได้ว่าถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาแสงที่ฟุ้งกระจายโดยเฉพาะ โดยตัวเลนส์จะทำมุมให้แสงสะท้อนไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้แสงที่ได้พุ่งไปข้างหน้าและมีความเข้มของแสงที่มากกว่าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์
อีกทั้งโคมไฟแบบโปรเจคเตอร์ยังถูกแบ่งได้ 2 แบบคือ Single Xenon Projector ที่มีหน้าที่ส่องสว่างเฉพาะไฟต่ำและใช้หลอดซีนอนเท่านั้น ส่วนไฟสูงจะใช้หลอดฮาโลเจน เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไป และแบบ Bi-Xenon หรือ Bi-LED, Bi-Halogen ตามแต่ชนิดของหลอดไฟ ซึ่งเป็นไฟต่ำไฟสูงในชุดเดียวกัน แต่สามารถสลับไปมาได้อย่างรวดเร็วจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นในที่มืดได้เป็นอย่างดี
ตอนเลือกซื้อรถยนต์รุ่นเดียวกันอาจจะมีราคาที่แตกต่าง หนึ่งในออฟชันที่จะได้เพิ่มขึ้นมาถ้าราคาสูงขึ้นคือ ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ ซึ่งพัฒนาจากแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ (แบบธรรมดา) ซึ่งเวลาใช้งานแสงไฟจะกระจายตัวทำให้สว่างกว้างแต่ไปได้ไม่ไกล นอกจากนี้ โคมไฟแบบโปรเจกเตอร์จะทำให้ไฟหน้าเป็นลักษณะลำแสงพุ่งออกไปจากไฟหน้ารถ ส่งผลให้ลำแสงไฟสว่างและส่องไปได้ไกลขึ้น ผู้ใช้รถสามารถเปลี่ยนโคมจากธรรมดาเป็นแบบโปรเจกเตอร์ได้โดยซื้อชุด KIT มาเปลี่ยนเองได้ หรือจะให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์เปลี่ยนให้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องระวังเรื่องสเปกของหลอดไฟหน้าด้วยนะครับ
และอีกค่าหนึ่งคือค่าอุณหภูมิของแสง มีหน่วยเป็นเคลวิน (K) ที่เมื่อค่า K ยิ่งสูงสีก็จะยิ่งขาวขึ้น ส่วนใหญ่หลอดไฟจากโรงงานจะกำหนดค่ามาให้ไม่เกิน 4,300 K ซึ่งเป็นสีขาวนวลอมเหลืองและเป็นค่าความสว่างสูงสุดตามกฎหมาย แต่หากสูงถึงจุดประมาณ 7,000 - 8,000 K ก็จะให้สีขาวนวล ถ้าเป็น 10,000 K ก็จะได้สีขาวอมฟ้า และสีจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นฟ้าเมื่อตัวเลขไปแตะที่ 12,000 K จากนั้นหากเพิ่มขึ้นเป็น 17,000 - 18,000 K ก็จะได้สีม่วง และหากสูงถึง 20,000 K ก็จะกลายเป็นสีชมพูตามลำดับ
ทั้ง 2 ค่านี้จะมีความเชื่อมโยงแปรผกผันกัน หากค่าเคลวินสูงขึ้นค่าลูเมนจะลดลง กล่าวคือเมื่อสียิ่งขาวหรือไต่ระดับไปจนถึงสีชมพู ก็จะยิ่งทำให้หลอดไฟสว่างน้อยลงและลดทอนประสิทธิภาพการมองเห็นลงไปด้วย แต่ในทางกลับกันถ้ามีการดัดแปลงจนทำให้มีแสงที่สว่างจ้ามากเกินไป แสงก็จะสะท้อนเข้ากระจกของผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหน้าหรือผู้ที่สวนทางมา ซึ่งจะไปรบกวนการมองเห็น ทำให้สายตาพร่ามัว0นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายร้ายแรงได้
หลักในการเลือกเวลาเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ คือ เปลี่ยนให้ได้สเปกเดิมที่ผู้ผลิตแนะนำเพราะจะไม่ทำให้ระบบไฟฟ้ารถยนต์มีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น ในคู่มือแนะนำเป็นหลอดไฟหน้าฮาโลเจน 12V 55w ชนิด HIR2 ซึ่งจะมีค่าลูเมนประมาณ 1,500 ลักซ์ และอุณหภูมิสีไฟ 3,200 K แต่ถ้าหากผู้ใช้รถเปลี่ยนไปใช้หลอดที่มีวัตต์น้อยกว่าที่แนะนำก็อาจจะไม่สว่างเท่าเดิม และหากเปลี่ยนไปใช้หลอดที่มีวัตต์มากกว่าเดิม ก็จะทำให้หลอดร้อนขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้โคมเหลือง กรอบแตกร้าว หลอดขาดง่ายไม่ทนทาน หากต้องการจะเปลี่ยนความสว่างหรือสีไฟ ควรจะปรึกษาช่างไฟฟ้ารถยนต์ที่เชื่อถือได้จะดีกว่าครับ
นอกจากนี้เพื่อความมั่นใจยังสามารถตรวจสอบได้จากคู่มือรถยนต์ หรือจะนำรายละเอียดรุ่นรถ ยี่ห้อ ปี ไปค้นหาทางอินเทอร์เน็ตก็ได้เช่นกัน หรือหากมีโอกาสได้เห็นสินค้าจริง ก็สามารถเปรียบเทียบขาของหลอดไฟได้เลย เพราะแต่ละขั้วจะถูกออกแบบมาให้มีขาที่ต่างกัน เพื่อให้แยกรูปแบบขั้วออกจากกันได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ขั้วหลอดแต่ละประเภทจะไม่สามารถใส่กันได้ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องซื้อหลอดมาทำการเปลี่ยน หลัก ๆ ต้องดูสีไฟหน้า ประเภทขั้วหลอดและจำนวนวัตต์ หากดูไม่ดี เผลอซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้อาจจะเสียเงินและเสียเวลาเปล่า ๆ ถ้าอยากจะให้แน่นอนให้ถอดตัวอย่างไปเทียบที่ร้านอะไหล่รถยนต์ก็จะแน่นอนมากขึ้น และหากไม่อยากเปลี่ยนเอง ก็สามารถให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์หรือร้านอะไหล่รถยนต์เปลี่ยนให้ครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภท | ลักษณะโคมไฟ | ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | ค่าอุณหภูมิสี | แรงดันไฟฟ้า | กำลังไฟ | ลักษณะขั้วหลอดไฟ | ระยะเวลารับประกัน | จำนวนจัดจำหน่าย | |||||
1 | Novsight N39 | ![]() | หลอดไฟกันน้ำ ระบายความร้อนได้ดี ทนทาน ใช้งานได้นาน | หลอด LED | แบบโปรเจกเตอร์ | 10000 LM | 10000 LM | 6000 K | 9 - 32 โวลต์ | 72 วัตต์ | ไม่ระบุ | 1 ปี | 2 ดวง | |
2 | PHILIPS Ultinon Essential LED | ![]() | หลอดเล็ก ระบายความร้อนเร็ว ทนทาน อายุการใช้งานนาน 5 ปี | หลอด LED | แบบโปรเจกเตอร์ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | 6000 K | 12 โวลต์ | 17 วัตต์ | ไม่ระบุ | 1 ปี | 2 ดวง | |
3 | F2 หลอดไฟหน้ารถ LED H7 | ![]() | ไฟสว่าง มีระบบระบายความร้อน ช่วยยืดอายุการใช้งานได้นาน | หลอด LED | ใช้ได้ทั้ง 2 แบบ | 6,000 LM | 6,000 LM | 6,500 K | 9 - 32 โวลต์ | 36 วัตต์ | PX26d | 2 ปี | 2 ดวง | |
4 | OSRAM XENARC Night Breaker Laser | ![]() | หลอดไฟแบบซีนอน สีขาวนวล ให้แสงสว่างมาก แต่ไม่แสบตา | หลอดซีนอน (Xenon) / HID | แบบโปรเจกเตอร์ | 3200 LM | 3200 LM | 4500 K | 85 โวลต์ | 35 วัตต์ | D2S | 6 เดือน | 2 ดวง | |
5 | PHYLLIS หลอดไฟหน้ารถยนต์ ขั้ว H7 | ![]() | แสงสีขาวส้ม ช่วยลดแสงแยงตา และได้ความสว่างที่เพียงพอ | หลอดฮาโลเจน | ใช้ได้ทั้ง 2 แบบ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | 12 โวลต์ | 55 วัตต์ | PX26d | 1 เดือน | 1 ดวง | |
6 | Tuffoo T6C | ![]() | มีระบบพัดลมระบายความร้อน วัสดุเป็นอะลูมิเนียม ทนทาน | หลอด LED | แบบโปรเจกเตอร์ | 25000 LM | 25000 LM | 4300 K, 6000 K | 12 โวลต์ | 120 วัตต์ | ไม่ระบุ | 1 ปี | 2 ดวง | |
7 | YILED Y15 H Model 2024 | ![]() | หลอด LED ปรับความเอียงของแสงได้ ไฟไม่ฟุ้งและไม่แยงตา | หลอด LED | แบบโปรเจกเตอร์ | 52000 LM | 52000 LM | 6000 K | 9 - 50 โวลต์ | 150 วัตต์ | ไม่ระบุ | 1 ปี | 2 ดวง | |
8 | BRIFA หลอดไฟหน้ารถยนต์ ฮาโลเจน | ![]() | ผลิตโรงงานเดียวกับ Philip มี 2 ไส้ ในหลอดเดียว ทนทานสูง | หลอดฮาโลเจน | แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | 12 โวลต์ | 55/60 วัตต์, 90/100 วัตต์ | ไม่ระบุ | 2 เดือน | 1 ดวง | |
9 | Maxgtrs Led 20000LM | ![]() | แบบ LED แสงส่องสว่างมาก มองเห็นทัศนวิสัยบนท้องถนนได้ดี | หลอด LED | แบบโปรเจกเตอร์ | 20000 LM | 20000 LM | 6500 K | 12 - 19 โวลต์ | 90 วัตต์ | ไม่ระบุ | 1 ปี | 2 ดวง | |
10 | FORMULA หลอดไฟหน้ารถยนต์ H7 12V 100W|44214 | ![]() | กำลังไฟสูง ให้อุณหภูมิแสงสีขาวส้ม ไม่แยงตา ติดตั้งได้ง่าย | หลอดฮาโลเจน | ใช้ได้ทั้ง 2 แบบ | 12,000 LM | 12,000 LM | 6,000 K | 12 โวลต์ | 100 วัตต์ | PX26d | 3 เดือน | 1 ดวง |
ประเภท | หลอด LED |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | แบบโปรเจกเตอร์ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | 10000 LM |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | 10000 LM |
ค่าอุณหภูมิสี | 6000 K |
แรงดันไฟฟ้า | 9 - 32 โวลต์ |
กำลังไฟ | 72 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | ไม่ระบุ |
ระยะเวลารับประกัน | 1 ปี |
จำนวนจัดจำหน่าย | 2 ดวง |
ประเภท | หลอด LED |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | แบบโปรเจกเตอร์ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | ไม่ระบุ |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | ไม่ระบุ |
ค่าอุณหภูมิสี | 6000 K |
แรงดันไฟฟ้า | 12 โวลต์ |
กำลังไฟ | 17 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | ไม่ระบุ |
ระยะเวลารับประกัน | 1 ปี |
จำนวนจัดจำหน่าย | 2 ดวง |
ความสว่างสูงสุด 12,000 ลูเมน ให้แสงสีขาวที่อุณหภูมิสี 6500K ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในที่มืด
มีระบบระบายความร้อนและพัดลมความเร็วสูง ช่วยลดความร้อน ยืดอายุการใช้งานหลอดไฟ
รองรับระบบ CANBUS ในรถยนต์ส่วนใหญ่ มีวงจรป้องกันการกะพริบ และมีการแจ้งเตือน
ขนาดใกล้เคียงกับหลอดฮาโลเจน ติดตั้งได้ง่าย เหมาะกับโคมไฟหน้าของรถยนต์กว่า 95%
ประเภท | หลอด LED |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | ใช้ได้ทั้ง 2 แบบ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | 6,000 LM |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | 6,000 LM |
ค่าอุณหภูมิสี | 6,500 K |
แรงดันไฟฟ้า | 9 - 32 โวลต์ |
กำลังไฟ | 36 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | PX26d |
ระยะเวลารับประกัน | 2 ปี |
จำนวนจัดจำหน่าย | 2 ดวง |
ประเภท | หลอดซีนอน (Xenon) / HID |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | แบบโปรเจกเตอร์ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | 3200 LM |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | 3200 LM |
ค่าอุณหภูมิสี | 4500 K |
แรงดันไฟฟ้า | 85 โวลต์ |
กำลังไฟ | 35 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | D2S |
ระยะเวลารับประกัน | 6 เดือน |
จำนวนจัดจำหน่าย | 2 ดวง |
หลอดฮาโลเจนขั้ว H7 เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและการขับขี่ในสภาพแวดล้อมที่มืด
ประเภท | หลอดฮาโลเจน |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | ใช้ได้ทั้ง 2 แบบ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | ไม่ระบุ |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | ไม่ระบุ |
ค่าอุณหภูมิสี | ไม่ระบุ |
แรงดันไฟฟ้า | 12 โวลต์ |
กำลังไฟ | 55 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | PX26d |
ระยะเวลารับประกัน | 1 เดือน |
จำนวนจัดจำหน่าย | 1 ดวง |
ประเภท | หลอด LED |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | แบบโปรเจกเตอร์ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | 25000 LM |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | 25000 LM |
ค่าอุณหภูมิสี | 4300 K, 6000 K |
แรงดันไฟฟ้า | 12 โวลต์ |
กำลังไฟ | 120 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | ไม่ระบุ |
ระยะเวลารับประกัน | 1 ปี |
จำนวนจัดจำหน่าย | 2 ดวง |
ประเภท | หลอด LED |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | แบบโปรเจกเตอร์ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | 52000 LM |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | 52000 LM |
ค่าอุณหภูมิสี | 6000 K |
แรงดันไฟฟ้า | 9 - 50 โวลต์ |
กำลังไฟ | 150 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | ไม่ระบุ |
ระยะเวลารับประกัน | 1 ปี |
จำนวนจัดจำหน่าย | 2 ดวง |
ประเภท | หลอดฮาโลเจน |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | ไม่ระบุ |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | ไม่ระบุ |
ค่าอุณหภูมิสี | ไม่ระบุ |
แรงดันไฟฟ้า | 12 โวลต์ |
กำลังไฟ | 55/60 วัตต์, 90/100 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | ไม่ระบุ |
ระยะเวลารับประกัน | 2 เดือน |
จำนวนจัดจำหน่าย | 1 ดวง |
ประเภท | หลอด LED |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | แบบโปรเจกเตอร์ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | 20000 LM |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | 20000 LM |
ค่าอุณหภูมิสี | 6500 K |
แรงดันไฟฟ้า | 12 - 19 โวลต์ |
กำลังไฟ | 90 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | ไม่ระบุ |
ระยะเวลารับประกัน | 1 ปี |
จำนวนจัดจำหน่าย | 2 ดวง |
กำลังไฟสูงกว่า 100W ให้ความสว่างมากกว่าหลอดฮาโลเจนทั่วไป เหมาะสำหรับพื้นที่แสงน้อย
ให้แสงสีขาวส้ม ช่วยเพิ่มความชัดเจนในการมองเห็น โดยไม่แยงตาผู้ขับขี่ที่ขับในฝั่งตรงข้าม
สามารถติดตั้งได้โดยตรง เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้หลอดขั้ว H7 โดยไม่ต้องดัดแปลงระบบไฟฟ้า
มีกำลังไฟสูง จึงควรตรวจสอบความเข้ากันได้กับระบบไฟฟ้าของรถยนต์ ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
ประเภท | หลอดฮาโลเจน |
---|---|
ลักษณะโคมไฟ | ใช้ได้ทั้ง 2 แบบ |
ค่าความสว่าง (ไฟสูง) | 12,000 LM |
ค่าความสว่าง (ไฟต่ำ) | 12,000 LM |
ค่าอุณหภูมิสี | 6,000 K |
แรงดันไฟฟ้า | 12 โวลต์ |
กำลังไฟ | 100 วัตต์ |
ลักษณะขั้วหลอดไฟ | PX26d |
ระยะเวลารับประกัน | 3 เดือน |
จำนวนจัดจำหน่าย | 1 ดวง |
สำหรับใครที่พึ่งมีรถยนต์คันแรกแล้วเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนหลอดไฟหน้ารถยนต์อยู่ ในวันนี้ เรามีคำแนะนำและคำตอบเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ
หลอดไฟหน้ารถยนต์ไม่สว่างหรือสว่างไม่เท่ากันในบริเวณซ้าย-ขวามีด้วยกันหลายสาเหตุ โดยให้ทำการตรวจสอบตามนี้
1. ตรวจสอบหลอดไฟ เพราะอาจจะจะเป็นหลอดที่ใกล้หมดสภาพแล้ว ให้ทำการเปลี่ยนหลอดไฟทั้งซ้าย-ขวาเสียก่อน
2. บาราจไฟหน้า บาราจในระบบไฟฟ้ารถยนต์จะมีหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าให้คงที่ ส่งผลให้หลอดไฟหน้ารถยนต์มีความสว่างที่คงที่ หากบาราจเริ่มเสื่อมสภาพก็อาจจะทำให้ไฟหน้าเกิดอาการสว่างไม่เท่ากัน
3. เลนส์ไฟหน้าที่เป็นพลาสติก เมื่อใช้งานมานาน ๆ ก็อาจจะหมองได้ ให้ลองทำความสะอาดหรือเปลี่ยนเลนส์ไฟหน้าดูครับ
ไฟหน้าไม่ติดมีหลายสาเหตุ ผู้ใช้รถยนต์ต้องเริ่มต้นตรวจสอบจากง่ายไปหายาก
1. ตรวจสอบหลอดไฟ ลองถอดออกมาดูว่า หลอดขาดหรือเปล่าหรือสลับเอาหลอดที่ใช้การได้มาลองติดดูว่าใช้ได้ไหม หากหลอดที่ใช้การได้ติด แสดงว่าหลอดเดิมน่าจะมีปัญหา แค่เปลี่ยนหลอดก็น่าจะใช้การได้
2. ตรวจสอบขั้วหลอด หากดูแล้วหลอดไม่ขาดหรือสลับหลอดแล้วก็ยังไม่ติด ให้ลองขยับบริเวณขั้วหลอดดูหลาย ๆ มุม หากไฟติดขึ้นมาแสดงว่าขั้วหลอดอาจจะมีปัญหา
3. ตรวจสอบสายไฟ อาจจะไม่เรียบร้อย สายไฟขาด ช็อตกัน หรือโดนหนูแทะ
4. ตรวจสอบฟิวส์หลอดไฟหน้า (ในกล่องฟิวส์จะเขียนบอกว่าตำแหน่งไหน) อาจจะฟิวส์ขาดจึงทำให้หลอดไม่ติด
หากตรวจสอบ 5 อย่างแล้วยังไม่พบสาเหตุ อาจจะต้องเข้าหาช่างไฟฟ้ารถยนต์เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมครับ
อันดับที่ 1: Novsight |N39
อันดับที่ 2: PHILIPS|Ultinon Essential LED
อันดับที่ 3: F2|หลอดไฟหน้ารถ LED H7
อันดับที่ 4: OSRAM|XENARC Night Breaker Laser
อันดับที่ 5: PHYLLIS|หลอดไฟหน้ารถยนต์ ขั้ว H7
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ