รถออฟโรดเป็นรถที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีกับรูปร่างพิเศษต่างจากรถยนต์ทั่วไป โดยเฉพาะช่วงล่างที่จะมีการยกสูงกว่าปกติและเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ารถโฟร์วีลนั่นเอง ซึ่งสำหรับคนที่มีกิจกรรมแบบสายลุยก็จะคุ้นเคยกับรถออฟโรดเป็นพิเศษ เพราะว่ารถยนต์ประเภทนี้เหมาะกับการเดินทางในเส้นทางถนนที่มีความขรุขระและยากลำบากเป็นพิเศษ การใช้รถออฟโรดจึงตอบโจทย์ในด้านนี้ได้ดีที่สุด
สำหรับคนที่มีกิจกรรมเข้าป่าลุยน้ำบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลำเลียงสิ่งของในพื้นที่ทุรกันดาร หรือเพื่อการท่องเที่ยว การขับรถออฟโรดจะช่วยทำให้ทริปของคุณนั้นราบรื่นขึ้น เหมาะกับการลุยแบบสมบุกสมบันได้ ดังนั้นใครที่กำลังมองหารถออฟโรดคันแรกเป็นของตัวเอง และยังไม่แน่ใจว่าจะต้องเลือกอย่างไร ในวันนี้เรามีวิธีการเลือกรถออฟโรดแบบเหมาะกับทุกสถานการณ์ พร้อมกับ 10 อันดับ รถออฟโรดที่ได้รับความนิยมจากหลากหลายยี่ห้อดัง ที่ทั้งดีไซน์สวย ขนาดเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนมีประสิทธิภาพมาแนะนำกันอีกด้วยค่ะ
Top 5 รถออฟโรด ยอดนิยม
Jeep
รถออฟโรดที่บุกลุยได้ทุกสถานการณ์ อันดับหนึ่งของรถที่ถึกและทน
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
สารบัญ
รถออฟโรดนั้นเป็นรถที่มีดีไซน์เอกลักษณ์และความสวยงามเฉพาะตัว หากต้องเลือกรถออฟโรดคู่ใจสักคันนั้น เราควรคำนึงถึงปัจจัยของสมรรถนะเครื่อง ขนาด ล้อแม็กและประเภทของการใช้งานให้เหมาะสมเพื่อการใช้ในระยะยาวด้วย
แน่นอนว่าอันดับแรก ๆ ในการเลือกรถออฟโรดนั้นจะต้องเลือกรถออฟโรดที่มีสมรรถนะเครื่องยนต์ตามความต้องการในการใช้งาน เพราะถึงแม้ว่ารถออฟโรดนั้นจะสามารถขับลุยได้สมบุกสมบัน แต่เรื่องของสมรรถนะในแต่ละรุ่นนั้นก็อาจจะทำให้การขับเคลื่อนแตกต่างกันได้ และยังส่งผลต่อการใช้งานอีกด้วย รถออฟโรดที่มีสมรรถนะสูง ๆ จะสามารถขับลุยได้แม้แต่ถนนที่มีน้ำขัง ขึ้นทางลาดชันได้ หรือแม้แต่การลุยเส้นทางที่มีความโค้งชันเป็นพิเศษ ดังนั้นการเลือกสมรรถนะเครื่องยนต์นั้นก็เป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ผู้ขับขี่จะต้องคำนึงเป็นพิเศษ
สิ่งสำคัญของรถออฟโรดก็คือช่วงล่างและล้อ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในระบบขับเคลื่อนของรถยนต์และยังมีผลต่อการใช้งานด้วย เพราะระบบขับเคลื่อนนั้นจะเป็นตัวกำหนดความสะดวกสบายในการขับขี่ การยึดเกาะถนน รวมไปถึงสมรรถนะเครื่องยนต์ด้านความปลอดภัยด้วย การเลือกขนาดล้อที่เหมาะสม อย่างเช่น ล้อแม็กที่มีขนาดไม่เล็กจนเกินไป เพื่อที่จะทำให้การบรรทุกน้ำหนักสิ่งของได้อย่างเหมาะสม และเพื่อวิ่งในสภาพเส้นทางถนนที่ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งถ้าเลือกขนาดล้อที่เล็กไปอาจจะทำให้ล้อเกิดการชำรุดได้และไม่สามารถขับขี่ได้ดีเท่าที่ควรอีกด้วย
อีกหนึ่งข้อที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การเลือกรถออฟโรดที่มีการใช้ยี่ห้อล้อแม็กจากโรงงานผลิตที่ได้รับการรองรับ เช่น การผ่านการรับรองจากสถาบันที่เกี่ยวกับยานยนต์หรือสถาบันของล้อแม็กโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่ารถออฟโรดของคุณนั้นจะไม่มีปัญหาในการขับขี่ ซึ่งล้อแม็กเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของรถออฟโรด เพราะล้อแม็กที่ดีนั้นจะช่วยทำให้การขับรถลื่นไหลขึ้น โดยราคาของล้อแม็กนั้นก็จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถออฟโรดนั้นจะต้องรู้จุดประสงค์ของการใช้งานของตนเองก่อน การเลือกรถที่มีสเปกไม่เหมาะกับการใช้งานอาจจะทำให้รถนั้นเกิดการชำรุดเสียหายได้หากใช้งานผิดประเภท โดยเฉพาะรถออฟโรดนั้นจะต้องทำความเข้าใจว่าจะนำรถไปใช้งานแบบไหนบ้าง เช่น การขับรถในทางวิบากที่มีพื้นผิวถนนขรุขระและเป็นหลุมบ่อ การขับรถเดินทางเข้าป่าบ่อย ๆ เป็นต้น ซึ่งรถออฟโรดแต่ละประเภทจะมีรูปแบบของขนาดล้อ ล้อแม็ก การรับน้ำหนัก และสมรรถนะเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น ดังนั้นจะต้องทำความเข้าใจและตรวจสอบให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Jeep รถออฟโรด รุ่น Gladiator Sport | ![]() | ออกแบบตามหลักพลศาสตร์ ตัวถังน้ำหนักเบา ลุยได้ทุกสถานการณ์ | |
2 | Ford รถออฟโรด รุ่น Ranger Raptor X | ![]() | มาพร้อมกับสไตล์โดดเด่นสมชื่อ Raptop สมรรถนะเครื่องยนต์แรง | |
3 | Toyota รถออฟโรด รุ่น Hilux Revo Rocco | ![]() | เครื่องยนต์ช่วงล่างนุ่ม รองรับแรงกระแทกจากการขับออฟโรดได้ดี | |
4 | Jeep รถออฟโรด รุ่น WRANGLER 4-Door Sport | ![]() | รถออฟโรดที่บุกลุยได้ทุกสถานการณ์ อันดับหนึ่งของรถที่ถึกและทน | |
5 | Ford รถออฟโรด รุ่น Ranger Fx4 Max | ![]() | ขึ้นลงเขาด้วยระบบความเร็วและการทรงตัวที่เสถียร ยึดเกาะถนนดี | |
6 | Mitsubishi รถออฟโรด รุ่น Pajero Sport | ![]() | ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย พร้อมขับลุยได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง | |
7 | Nissan รถออฟโรด รุ่น Navara Pro-4X | ![]() | รถออฟโรดทรงสปอร์ต ตกแต่งช่วงล่างเพิ่มเติมเพื่อลุยได้เต็มที่ | |
8 | Ford รถออฟโรด รุ่น Ranger Wild Track | ![]() | ระบบส่งกำลังที่วิ่งได้นานมากกว่า พร้อมอุปกรณ์อเนกประสงค์ครบ | |
9 | Isuzu รถออฟโรด รุ่น V-Cross 4x4 | ![]() | ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า วิ่งได้ทุกเส้นทางนานขึ้น เข้าป่าไม่มีสะดุด | |
10 | Jeep รถออฟโรด รุ่น Renegade | ![]() | เหมาะกับสไตล์ขาลุยสายชิว ที่ไม่เน้นใช้งานหนัก รูปทรงกะทัดรัด |
อีกรุ่นของ Jeep ที่ได้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง Gladiator ที่มีดีไซน์ที่หรูหราแต่คงยังสไตล์แบบ Off Road เอาไว้ และยังมาพร้อมกับ 4 ประตู ซึ่งเหมาะกับการขับรถวิบากเป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวเครื่องนั้นได้ถูกออกแบบตามหลักพลศาสตร์ มีน้ำหนักเบา ทำให้ง่ายต่อการขับขี่ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะหักโค้งศอกไหน รุ่นนี้ก็เอาอยู่ด้วยระบบเกียร์ 8 สปีด ทำให้เร่งเครื่องได้เต็มกำลัง ส่วนช่วงล่างของล้อนั้นมีจุดพิเศษคือ Sway Bar ที่จะช่วยให้เวลาที่รถตกร่องนั้นสามารถตะกายขึ้นได้ทุกล้อ ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าจับตามองสำหรับรุ่นนี้
สำหรับใครที่ชื่นชอบเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะแรงสูง ราคาไม่แรง Ford ก็เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่หลาย ๆ คนที่ชื่นชอบรถสไตล์ Off Road มักจะเลือกเช่นกัน สำหรับรุ่นนี้โดดเด่นที่เรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์แรง พร้อมกับมีการออกแบบปรับให้ขับขี่ได้หลายโหมด เช่น โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมด Grass/Snow โหมด Mud/Sand โหมด Rock และโหมด Baja ซึ่งเป็นโหมดที่ออกแบบให้เหมาะกับการขับ Off Road โดยเฉพาะ นอกเหนือจากนั้นยังมีการออกแบบเพื่อรองรับแรงกระแทกเวลาที่ต้องขับบนถนนขรุขระได้อีกด้วย
หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อเสียงของรถ Toyota รุ่น Hilux Revo มาบ้างพอสมควร เพราะเป็นรุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของช่วงล่างของรถที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ แม้จะขับบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ตัวรถก็ยังสามารถทำหน้าที่ยึดเกาะถนนได้ดี และยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแรงกระแทกในการขับออฟโรดได้ด้วย สไตล์ของรถก็ถูกออกแบบให้มีความทันสมัยขึ้น ดีไซน์ทรงรถอเมริกันขึ้น โดยเฉพาะการตกแต่งกระจังหน้าที่มีความดุดันขึ้น เสริมด้วยสปอร์ตบาร์ท้ายให้ดูแข็งแรงขึ้น เป็นอีกหนึ่งรุ่นในราคาไม่แรงที่น่าสนใจเช่นกัน
เมื่อพูดถึงรถที่จะขับไปบุกป่าฝ่าดงแล้วล่ะก็ เชื่อว่ายี่ห้อ Jeep ต้องเป็นอันดับต้น ๆ ในใจหลายคน สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับกำลังแรงม้าที่เพิ่มขึ้น มีกำลังขับเคลื่อน 450 แรงม้า และยังเป็นรถยนต์ 4 ประตูที่เสริมดีไซน์ความสปอร์ตให้กับตัวรถ อีกทั้งยังสามารถขับลุยน้ำได้ดี เพราะตัวรถมีความสูงจากพื้น 10.3 นิ้ว จึงช่วยเพิ่มความสามารถในการลุยน้ำได้สูงถึง 32.5 นิ้ว ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับสายรถออฟโรดตัวจริงเลยค่ะ
Ford Ranger Fx4 รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ขึ้นชื่อช่วงล่างที่แน่น คล้าย ๆ กับรุ่น Raptor แต่รุ่นนี้จะอยู่ในราคาที่ถูกลงมา ซึ่งเหมาะกับสายออฟโรดมือใหม่ที่เพิ่งลองขับบนถนนวิบากในตอนแรก ๆ เพราะมีการออกแบบระบบมาให้ใช้งานง่ายในการขับขี่ทางลาดชัน โดยสามารถทำได้เพียงแค่กดปุ่มคำสั่งบนพวงมาลัยเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการใช้โช้คที่เพิ่มความสามารถในการทำงานควบคู่กับระบบต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นผิวที่ไม่เรียบแบบถนนลูกรัง ทำให้ควบคุมได้อย่างง่ายดาย และยังช่วยลดอาการโคลงตัวของรถไปได้ด้วย
รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอย่างมิตซูบิชิก็ได้มีการผลิตรถออฟโรดมาเช่นกันกับแบรนด์อื่น ๆ โดยรุ่น Pajero Sport ก็เป็นอีกรุ่นยอดฮิตที่มักจะเห็นบ่อย ๆ โดยรุ่นนี้จะแตกต่างตรงที่ห้องโดยสารมีความกว้างพิเศษ นั่งสบายไม่อึดอัด เหมาะเป็นรถครอบครัวได้ด้วย และสามารถขับลุยน้ำลุยบก หรือขับในเมืองปกติธรรมดาก็สามารถขับได้สบาย ๆ เอกลักษณ์ของรุ่นนี้ที่สะดุดตาก็คือ Advanced Dynamic Shield Design ที่ทำให้หลายคนจดจำ Pajero Sport ได้ดีและยังมาพร้อมด้วยชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Bi-LED และไฟส่อง
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Navara จาก Nissan เพราะตัวดีไซน์นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ที่เพียงแค่เห็นครั้งเดียวก็สามารถจดจำได้ดี อีกทั้งดีไซน์ก็ดูโฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร มั่นใจว่าสามารถขับลุยไปได้ทุกทริปแบบหมดห่วง ด้วยการออกแบบช่วงล่างพิเศษเพิ่มเติมด้วยยางแบบ All-Terrain จากแบรนด์ YOKOHAMA พร้อมกับมีการปรับแต่งช่วงล่างให้เหมาะกับการขับออฟโรดเป็นพิเศษกว่า Navara รุ่นทั่วไป จึงสังเกตได้ว่าตัวล้อช่วงล่างจะมีการยกสูงกว่าปกติด้วย
Concept ของ Ford รุ่น Ranger Wild Track นั้นมีภาพลักษณ์ที่สื่อถึง พร้อมลุยทุกสถานการณ์ เหมาะกับเป็นรถออฟโรดขาลุยที่ชื่นชอบการขับในระยะทางยาว ๆ อีกด้วย เนื่องจากรุ่นนี้มีการปรับระบบส่งกำลังใหม่ที่สามารถขับได้นานถึง 150,000 กม. รูปลักษณ์ด้านหน้ามีการออกแบบดีไซน์ใหม่เป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูตกแต่งตะแกรงสีดำเงาเล่นสีทอดยาวจรดกันชน พร้อมแต่งแถบสีส้มให้ดูทันสมัยขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมีอุปกรณ์อเนกประสงค์พร้อมในรถยนต์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับทางไกลได้อย่างปลอดภัยด้วย
ขึ้นชื่อว่าเป็นรถจากค่าย Isuzu นอกจากความแกร่ง ถึกและทนของเครื่องยนต์แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นก็คือ เรื่องการประหยัดน้ำมัน อีกทั้งรุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษในเรื่องของระบบ Terrain Command ที่มีการพัฒนาขึ้นมาให้ใหม่ สามารถทำงานได้ฉับไว แม่นยำ และยังมี Electronic Diff-Lock ระบบล็อกเฟืองท้ายที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ทำให้เสริมความมั่นใจในการพิชิตเส้นทางยาก ๆ วิ่งได้ทุกเส้นทาง มาพร้อมกับสมรรถนะการลุยน้ำที่สามารถลุยสูงสุดได้ถึง 0.8 เมตรอีกด้วยค่ะ
Jeep รุ่น Renegade นี้ถือว่าเป็นรุ่นที่แตกต่างจาก Jeep รุ่นก่อน ๆ ด้วยดีไซน์ที่มีการออกแบบให้ดูมีความ Modern บวกกับ City ในตัว แต่ยังคงฟังก์ชันการขับขี่แบบออฟโรดเอาไว้เช่นเดิม รูปร่างที่มีความโค้งมนทำให้รถออฟโรดดูเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายขึ้นกับทุกคนมากขึ้น ทั้งยังมีความพิเศษตรงที่เป็นรถแบบไฮบริด สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้และเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีเครื่องยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้ได้กำลังแรงม้าที่ขับออฟโรดลุย ๆ ได้สบาย ๆ
สำหรับผู้ที่ขับขี่รถออฟโรดนั้นจะต้องมีทักษะรอบตัวที่ต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะการขับรถอย่างถูกวิธี ความชำนาญของเส้นทาง และการทำความเข้าใจของเรื่องเครื่องยนต์เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หากสามารถทำความเข้าใจศักยภาพของรถออฟโรดได้ก็ทำให้การขับขี่ในทุกเส้นทางเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทางได้ อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าป่าลุยด้วยรถออฟโรด ควรหมั่นตรวจเช็กเครื่องยนต์ทุกครั้งและบำรุงเป็นประจำด้วยนะคะ
อันดับที่ 1: Jeep|รถออฟโรด รุ่น Gladiator Sport
อันดับที่ 2: Ford|รถออฟโรด รุ่น Ranger Raptor X
อันดับที่ 3: Toyota|รถออฟโรด รุ่น Hilux Revo Rocco
อันดับที่ 4: Jeep|รถออฟโรด รุ่น WRANGLER 4-Door Sport
อันดับที่ 5: Ford|รถออฟโรด รุ่น Ranger Fx4 Max
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ