ถ้าหากพูดถึงกีฬากลางแจ้ง หลาย ๆ คนคงนึกถึงการตีกอล์ฟ เพราะนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายที่สนุกและต้องใช้ทักษะหลากหลายด้านแล้ว ยังสามารถนัดกันออกไปเล่นกับกลุ่มเพื่อนได้ทีละหลาย ๆ คนอีกด้วย ซึ่งลูกกอล์ฟถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการตีกอล์ฟ โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือ ลูกกอล์ฟ Bridgestone ที่มีหลากหลายรุ่นให้เลือกซื้อ อีกทั้งยังมีโครงสร้างที่แข็งแรงและน้ำหนักที่เหมาะสมต่อการตี
นอกจากนี้ Bridgestone ยังเป็นแบรนด์ที่ผลิตลูกกอล์ฟที่ราคาไม่แพงมาก ดังนั้นสำหรับทั้งผู้ที่ชื่นชอบกีฬาประเภทนี้หรือมือใหม่ที่กำลังมองหาลูกกอล์ฟเอาไว้ฝึกตี เราก็ได้รวบรวมข้อมูลวิธีการเลือกลูกกอล์ฟ Bridgestone มาแบ่งปันให้คุณได้ศึกษา รวมทั้งยังได้คัดเลือก 10 อันดับ ลูกกอล์ฟ Bridgestone หลากหลายรุ่นมานำเสนอ เพื่อให้คุณได้ใช้เป็นตัวเลือกประกอบการตัดสินใจด้วยค่ะ
Top 5 ลูกกอล์ฟ Bridgestone ยอดนิยม
Bridgestone
สารเคลือบช่วยถ่ายทอดแรงได้ดี ตัวเลือกของนักกีฬาระดับโลก
Bridgestone
แกนกลาง Hydro Core ช่วยดูดซับแรงเหวี่ยงและเพิ่มความแม่นยำ
Bridgestone
ผลิตด้วยเทคนิคเฉพาะ เพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสและแกนกลางที่มั่นคง
Bridgestone
เน้นการเคลื่อนที่แบบเส้นตรง มีรอยบุ๋มเยอะช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัส
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
สารบัญ
อันที่จริงแล้ววิธีการเลือกลูกกอล์ฟนั้นไม่ซับซ้อนอย่างที่หลายเข้าใจ โดยมีปัจจัยเพียงไม่กี่ข้อที่ต้องพิจารณา ดังนั้นก่อนที่จะไปดูว่ามีลูกกอล์ฟรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง เรามาดูข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อลูกกอล์ฟ Bridgestone กันดีกว่าค่ะ
โครงสร้างภายในเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญต่อการเลือกซื้อลูกกอล์ฟเป็นอย่างมาก เพราะโครงสร้างจะส่งผลต่อระยะทางที่ลูกกอล์ฟเคลื่อนที่ไปได้ อีกทั้งยังส่งผลต่อแรงหมุนของลูกกอล์ฟอีกด้วย ซึ่งสามารถโครงสร้างออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ดังนี้
อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงก่อนเลือกซื้อลูกกอล์ฟก็คือ ค่า Compression หรือค่าแรงอัดของลูกกอล์ฟ กล่าวคือ วัสดุที่ใช้ทำลูกกอล์ฟแต่ละชนิดจะมีความยืดหยุ่นไม่เท่ากัน ซึ่งจะส่งผลให้ค่าแรงอัดในแต่ละลูกไม่เท่ากันตามไปด้วย ดังนั้นแรงที่ใช้ในการตีก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับค่าตัวเลขนี้ โดยค่า Compression ที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้จะมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ แบบ 70 - 80 ซึ่งจะเหมาะกับคนที่แรงน้อยหรือผู้สูงอายุที่มีวงสวิงช้า, แบบ 90 เหมาะกับผู้เล่นทั่ว ๆ ไป และแบบ 100 เหมาะกับคนที่มีแรงเยอะและมีวงสวิงเร็ว
จากที่ได้กล่าวไปแล้วว่าโครงสร้างและค่าแรงอัดมีผลต่อการตีกอล์ฟ ซึ่ง Bridgestone ได้ผลิตลูกกอล์ฟที่มีโครงสร้างหลากหลายแบบและมีค่า Compression ที่ไม่เท่ากันให้ลูกค้าได้เลือกตามใจชอบ ดังนั้น วิธีหนึ่งที่ทำให้การซื้อลูกกอล์ฟของคุณง่ายขึ้นก็คือ เลือกซื้อจากรุ่นของลูกกอล์ฟ Bridgestone ซึ่งหลัก ๆ มี 2 รุ่น ดังนี้
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Tour B X | ![]() | สารเคลือบช่วยถ่ายทอดแรงได้ดี ตัวเลือกของนักกีฬาระดับโลก | |
2 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น PHYZ V | ![]() | แกนกลาง Hydro Core ช่วยดูดซับแรงเหวี่ยงและเพิ่มความแม่นยำ | |
3 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น e12 Contact | ![]() | ผลิตด้วยเทคนิคเฉพาะ เพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสและแกนกลางที่มั่นคง | |
4 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Super Straight | ![]() | เน้นการเคลื่อนที่แบบเส้นตรง มีรอยบุ๋มเยอะช่วยเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัส | |
5 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Tour B RX | ![]() | วัสดุมีความยืดหยุ่นพอเหมาะ ทำระยะได้ไกลและพุ่งตัวได้แม่นยำ | |
6 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Lady Precept | ![]() | ลูกกอล์ฟสำหรับผู้หญิง ให้สัมผัสนุ่มสบายด้วยวัสดุยางคุณภาพดี | |
7 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น JGR Splash | ![]() | มีสารเคลือบกันน้ำ กันโคลน แกนกลางแน่น ไม่แกว่งขณะเคลื่อนที่ | |
8 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Tour B RXS | ![]() | เหมาะกับมือใหม่ คุณภาพดีในราคาไม่แพง ทนทานต่อสภาพลมแรง | |
9 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Tour Stage Extra Distance | ![]() | เน้นการตีสร้างระยะทาง ตัวลูกเคลื่อนที่ได้ไกลพร้อมสัมผัสนุ่มนวล | |
10 | Bridgestone ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น New e6 | ![]() | ตอบโจทย์มือใหม่ที่ต้องการฝึกควบคุมระยะทางและการออกแรง |
อีกหนึ่งลูกกอล์ฟที่นักกีฬาระดับโลกหลายคนให้ความไว้วางใจก็คือ Bridgestone Tour B X ที่มีโครงสร้างทั้งหมด 3 ชั้น แต่ละชั้นมีความแข็งแรง โดยเฉพาะเปลือกหุ้มด้านนอกที่ทำจาก Urethane พร้อมด้วยสารเคลือบ REACTIV iQ สูตรเฉพาะของทางแบรนด์ ที่ช่วยให้การถ่ายทอดแรงจากไม้สู่ลูกกอล์ฟมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถพุ่งตัวได้อย่างเต็มกำลัง ทั้งนี้ เนื่องจากค่า Compression ที่สูงถึง 98 ทำให้รุ่นนี้เหมาะกับนักกอล์ฟที่สามารถสวิงไม้ได้เร็ว 105 MPH ขึ้นไปค่ะ
สำหรับมือโปรที่ต้องการพัฒนากลยุทธ์และทักษะการเล่นให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น PHYZ V คือรุ่นที่ตอบโจทย์คุณเป็นอย่างมากค่ะ เพราะรุ่นนี้ประกอบด้วยโครงสร้างถึง 4 ชั้น โดยแกนกลางมีความอ่อนนุ่มและถูกหุ้มด้วยชั้น Hydro Core ที่จะยิ่งเพิ่มความนุ่มสบายขณะตีลูกให้มากขึ้น ซึ่งแกนกลางชนิดนี้เองที่จะช่วยดูดซับแรงเหวี่ยงที่ส่งผลให้ลูกกอล์ฟเสียทิศทาง ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่าลูกกอล์ฟนี้จะเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งยังสามารถเสริมความเร็วเริ่มต้นหลังจากตีลูกได้อีกด้วย
ลูกกอล์ฟ e12 Contact เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการตีสร้างระยะไกลโดยเฉพาะ โดยทางแบรนด์ได้พัฒนารุ่นนี้โดยใช้เทคนิครอยบุ๋ม Contact 6 เหลี่ยม ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ Bridgestone ที่สามารถเพิ่มพื้นผิวสัมผัสระหว่างลูกกอล์ฟกับหน้าไม้ได้ถึง 38 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงค่าแรงอัดที่ 75 ยังทำให้รุ่นนี้เหมาะกับคนที่มีแรงสวิงปานกลาง ประกอบกับแกนกลางที่ถูกปรับปรุงให้มีความคงที่มากขึ้น จึงช่วยให้การถ่ายโอนแรงจากไม้ไปสู่ตัวลูกกอล์ฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ระหว่างที่ลูกกอล์ฟเคลื่อนที่ ตัวลูกจะมีการหมุนและแกว่งไปมาทำให้มีการเปลี่ยนทิศทางไปบ้าง ซึ่งถ้าหากนักกีฬาคำนวณแรงและระยะทางผิดพลาดก็อาจทำให้เสียคะแนนได้ ดังนั้นทางแบรนด์จึงออกแบบลูกกอล์ฟรุ่น Super Straight ออกมา เพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการให้ลูกเคลื่อนที่ได้คงที่มากขึ้น โดยรอยบุ๋มแบบ DeltaWing จะช่วยเพิ่มพื้นผิวสัมผัส ทำให้การถ่ายทอดแรงมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งแกนกลางและเปลือกหุ้มภายนอกยังมีความแข็งแรง ทำให้ลูกกอล์ฟเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงได้ดีขึ้น
ถ้าหากคุณต้องการลูกกอล์ฟที่ให้สัมผัสที่นุ่มนวลแต่ยังมีพลัง Tour B RX อาจเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่ดีสำหรับคุณค่ะ โดยรุ่นนี้มีโครงสร้างทั้งหมด 3 ชั้น และเปลือกหุ้มภายนอกทำมาจาก Urethane จึงทำให้ลูกกอล์ฟมีความยืดหยุ่นพอเหมาะ เมื่อวาดวงสวิงแล้ว จะมีแรงส่งที่ดีและสามารถพุ่งตัวออกเป็นเส้นโค้งได้อย่างสวยงามและแม่นยำ รวมทั้งยังช่วยให้คุณควบคุมระยะทางและความเร็วของลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ลูกกอล์ฟนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีวงสวิงความเร็วไม่เกิน 105 MPH เท่านั้น
แน่นอนว่าในการเล่นกีฬา ผู้หญิงจะมีพละกำลังน้อยกว่าผู้ชาย ซึ่งถ้าหากใช้ลูกกอล์ฟที่มีค่าแรงอัดมากเกินไปจะทำให้ตีลูกได้ไม่สะดวกนัก และอาจต้องออกแรงเยอะกว่าปกติ ทำให้เหนื่อยเร็ว ดังนั้น Bridgestone จึงออกแบบรุ่น Lady Precept ขึ้นมาเพื่อเอาใจสาว ๆ โดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นรุ่นที่มีค่าแรงอัดเพียง 50 และโครงสร้างแบบ 2 ชั้น ที่ทำจากยาง Ionomer จึงทำให้ได้สัมผัสที่นุ่มนวลเป็นพิเศษ แต่ตัวลูกยังเคลื่อนที่ได้ไกลด้วยรอยบุ๋มแบบไร้รอยต่อที่จะช่วยให้การเล่นกอล์ฟของคุณสนุกมากขึ้น
ก่อนออกรอบตีกอล์ฟแต่ละครั้ง นักกีฬาจำเป็นจะต้องพิจารณาสภาพอากาศ เพื่อประกอบการเลือกอุปกรณ์ที่จะใช้เล่น ซึ่งในวันฝนตก สนามมักจะมีสภาพเปียกแฉะและอาจมีโคลนเป็นหย่อม ๆ การเลือกลูกกอล์ฟที่สามารถกันน้ำได้อย่างรุ่น JGR Splash จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะมีสารเคลือบป้องกันไม่ให้น้ำหรือโคลนเกาะที่พื้นผิวแล้ว ทางแบรนด์ยังได้พัฒนาแกนกลางด้วยเทคโนโลยี Muscle Core ที่จะทำให้ตัวลูกมีน้ำหนักพอดี แข็งแรง และไม่ส่ายไปมาขณะเคลื่อนที่
สำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาลูกกอล์ฟเอาไว้ฝึกฝนทักษะ เราขอแนะนำ Tour B RXS เพราะเป็นลูกกอล์ฟที่ราคาไม่แพงมาก แต่มีคุณภาพดีไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือ สามารถเคลื่อนที่ได้ไกล และมีแรงหมุนพอเหมาะ ซึ่งความเร็ววงสวิงที่แนะนำจะอยู่ที่ 105 MPH อีกทั้งรุ่นนี้ยังสามารถทนทานต่อสภาพลมแรง คุณจึงมั่นใจได้ว่าตัวลูกจะไม่แกว่งไปมา สามารถตกลงจุดที่คุณต้องการได้อย่างแม่นยำแน่นอน นอกจากนี้ลูกกอล์ฟยังมีสีขาวสว่าง โดดเด่น และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล
ถ้าหากคุณกำลังมองหาลูกกอล์ฟที่ราคาไม่แพงแต่มีประสิทธิภาพดีเทียบเท่ารุ่นอื่น ๆ เราขอแนะนำลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Tour Stage Extra Distance ที่ประกอบด้วยโครงสร้าง 2 ชั้น โดยด้านนอกหุ้มด้วยวัสดุ Ionomer ที่มีความยืดหยุ่นพอเหมาะ ทำให้เมื่อตีแล้วจะได้สัมผัสนุ่มนวล ประกอบกับรอยบุ๋มที่มากถึง 372 รอย ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงส่งให้เคลื่อนที่ไปได้ไกล ดังนั้นจึงถือเป็นรุ่นที่เหมาะกับคนที่ชอบเล่นกอล์ฟแบบเน้นสร้างระยะทาง นอกจากนี้รุ่นนี้มีให้เลือกถึง 3 สี เพื่อให้เหมาะกับสภาพสนามแต่ละที่นั่นเอง
ด้วยขนาดที่กำลังพอดี ประกอบกับค่าแรงอัดเพียง 40 ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Ultra-low Compression จึงทำให้ลูกกอล์ฟ New e6 เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่มากที่สุดเลยค่ะ โดยรุ่นนี้มีโครงสร้าง 2 ชั้น ที่ภายนอกหุ้มด้วยยาง Ionomer ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้เมื่อตีแล้ว คุณจะได้สัมผัสที่นุ่มนวลและไม่ต้องออกแรงมากเกินไป แต่ตัวลูกยังสามารถเคลื่อนที่ได้ไกล นอกจากนี้ถึงแม้ระยะการตกและหยุดของรุ่นนี้อาจควบคุมค่อนข้างยาก แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับมือใหม่ในการฝึกวาดวงสวิงและการควบคุมแรงขณะตีลูกนั่นเอง
ลูกกอล์ฟเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญมากในกีฬากอล์ฟ โดยการเลือกลูกกอล์ฟแต่ละแบบต้องคำนึงถึงสไตล์การเล่นของแต่ละคน โครงสร้างของลูกกอล์ฟและวัสดุที่ใช้ในการผลิต รวมทั้งค่าแรงอัดภายในด้วย เพราะปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของลูกและความนุ่มนวลขณะที่คุณลงมือตีลูก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเล่นกีฬาทุกชนิดก็คือ การหมั่นฝึกฝนทักษะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกมของคุณสนุกมากขึ้นและยังเป็นการสร้างเสริมสุขภาพอีกด้วย
อันดับที่ 1: Bridgestone|ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Tour B X
อันดับที่ 2: Bridgestone|ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น PHYZ V
อันดับที่ 3: Bridgestone|ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น e12 Contact
อันดับที่ 4: Bridgestone|ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Super Straight
อันดับที่ 5: Bridgestone|ลูกกอล์ฟ Bridgestone รุ่น Tour B RX
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ