mybest
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
mybest
เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
  • 10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ราคาดี วัดค่าได้อย่างแม่นยำ 1
  • 10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ราคาดี วัดค่าได้อย่างแม่นยำ 2
  • 10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ราคาดี วัดค่าได้อย่างแม่นยำ 3
  • 10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ราคาดี วัดค่าได้อย่างแม่นยำ 4
  • 10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ราคาดี วัดค่าได้อย่างแม่นยำ 5

10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ราคาดี วัดค่าได้อย่างแม่นยำ

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเฝ้ารอลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์คุณแม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถใช้เพื่อตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ อีกทั้งยังสามารถติดตามสุขภาพและการเจริญเติบโตเบื้องต้นของทารกได้ ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาฟังก์ชันมากมายเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของทารกได้อีกด้วย


บทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกจากหลากหลายยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและมีมาตรฐาน พร้อมฟังก์ชันการทำงานที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ มาแนะนำเพิ่มเติมอีกด้วย

อัปเดตล่าสุดเมื่อ 13/03/2025

Top 5 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยอดนิยม

1

Jumper AngelSounds

Jumper AngelSounds JDP-100S6
Jumper AngelSounds JDP-100S6

เครื่องฟังเสียงหัวใจ ใช้งานง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อทารก

2

AEON

AEON A100SD
AEON A100SD

แม่นยำสูง มีแบตเตอรี่ในตัว ตัวเครื่องมีหูจับ พกพาสะดวก

3

EDAN

EDAN SD6
EDAN SD6

ที่วัดแบบไร้สาย พร้อมลำโพงคู่ บันทึกเสียงได้ หน้าจอขนาดใหญ่

4

CONTEC

CONTEC Sonoline A
CONTEC Sonoline A

มาพร้อมกับอัลกอริธึมอัจฉริยะ ตัดเสียงรบกวน ตรวจจับได้แม่นยำ

5

Jumper AngelSounds

Jumper AngelSounds JPD-100S4
Jumper AngelSounds JPD-100S4

มีโหมดเปิดเพลงบรรเลง 5 โหมด บันทึกได้นานถึง 60 วินาที

ณัฐสุดา ทิพย์ภูนอก (มาร์)
บรรณาธิการ
นักเขียนประจำ mybest
ณัฐสุดา ทิพย์ภูนอก (มาร์)

คุณมาร์เริ่มต้นเส้นทางนักเขียนจากความสนใจในการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะของใช้สำหรับแม่และเด็ก ยิ่งหลังจากที่มีลูก ความใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะเชื่อว่าคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง คุณมาร์ศึกษาอย่างละเอียดเกี่ยวกับของใช้เด็ก ตั้งแต่ขวดนม ผ้าอ้อม อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไปจนถึงครีมบำรุงผิวสำหรับทารก รวมถึงแนวทางการเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวของเด็กเล็ก และอยากแบ่งปันข้อมูลที่มีประโยชน์นี้ให้กับคุณแม่ท่านอื่น ๆ อีกทั้งคุณมาร์ยังให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง เพราะเชื่อว่าคุณแม่ที่สุขภาพดีและดูแลตัวเองดีจะดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ จึงสนใจเรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอดด้วย โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ไม่มีสารอันตราย เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวพรรณให้สดใส ซึ่งบทความของคุณมาร์ไม่ได้มีเพียงวิธีการเลือกสินค้า แต่ยังสอดแทรกคำแนะนำที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย เพื่อช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและลูกน้อยได้อย่างมั่นใจ

ประวัติของ ณัฐสุดา ทิพย์ภูนอก (มาร์)
…อ่านต่อ

สารบัญ

Why You Can Trust Us

มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้


นโยบายกองบรรณาธิการ

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกเริ่มใช้ได้เมื่อมีอายุครรภ์เท่าไร

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกเริ่มใช้ได้เมื่อมีอายุครรภ์เท่าไร

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่ใช้ในทางการแพทย์ คือเครื่องตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจของลูกน้อยในครรภ์ด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่ประมาณ 2 - 3 MHz ที่สามารถตรวจสอบช่องท้องได้ในทางนรีเวช ซึ่งมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการฟังเสียงหัวใจของทารกในครรภ์ โดยปกติแล้วสามารถฟังเสียงได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 - 12 สัปดาห์ โดยอัตราการเต้นของหัวใจปกติของทารกช่วงอายุครรภ์ 8 - 12 สัปดาห์ จะอยู่ที่ 140 - 170 ครั้งต่อนาที (BPM) และอายุครรภ์ 13 สัปดาห์เป็นต้นไป จะอยู่ระหว่าง 110 - 160 ครั้งต่อนาที


สำหรับเครื่องที่ใช้งานที่บ้านจะเป็นเครื่องขนาดเล็ก ควรเริ่มใช้ช่วงตั้งครรภ์ไตรมาส 2 หรืออายุครรภ์ตั้งแต่ 14 สัปดาห์ขึ้นไป เนื่องจากการตั้งครรภ์ไตรมาสแรกนั้น ตำแหน่งของมดลูกยังอยู่ในกระดูกเชิงกราน จึงตรวจวัดชีพจรของทารกในครรภ์ด้วยเครื่องขนาดเล็กได้ยาก โดยให้ใช้ในขณะที่ทารกตื่นตัว เช่น เวลาหลังรับประทานอาหาร หลังตื่นนอน และก่อนเข้านอน อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีระดับต่ำกว่าหรือสูงกว่าค่าปกติค่อนข้างมาก ต้องรีบไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง 


ทั้งนี้ เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่ใช้ในทางการแพทย์ออกแบบมาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับสูง จึงมีความแม่นยำมากกว่าเครื่องสำหรับใช้ที่ในบ้าน ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ได้อาจมีความคลาดเคลื่อนและไม่สามารถบอกถึงสุขภาพของทารกได้อย่างครอบคลุม จึงเหมาะสำหรับการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทารกในครรภ์กับบุคคลในครอบครัว ส่งเสริมสุขภาพจิตใจของคุณแม่ และสังเกตความผิดปกติเบื้องต้นของทารกในครรภ์เท่านั้น

วิธีการเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกสำหรับใช้ที่บ้านมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถคลายปัญหาความกังวลและตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ได้แตกต่างกัน ดังนั้น จึงควรเลือกเครื่องที่ฟังก์ชันคุ้มค่า ตรวจวัดได้อย่างแม่นยำ และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน

1

อันดับแรก ! เลือกฟังก์ชันเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ให้ตอบโจทย์ความต้องการและปัญหาที่กำลังกังวล

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกสำหรับใช้ที่บ้านในปัจจุบัน มีฟังก์ชันและคุณสมบัติมากมายที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้และเสริมพัฒนาการทารก อีกทั้งการเลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจที่สามารถอ่านค่าได้อย่างแม่นยำก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยมีข้อควรพิจารณาในการเลือก ดังนี้

ต้องการใช้งานสม่ำเสมอ แนะนำให้พิจารณาเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ที่มีฟังก์ชันบันทึกเสียงหัวใจและการดิ้น มีค่าความผิดพลาดต่ำ

ต้องการใช้งานสม่ำเสมอ แนะนำให้พิจารณาเครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ที่มีฟังก์ชันบันทึกเสียงหัวใจและการดิ้น มีค่าความผิดพลาดต่ำ
การติดตามฟังเสียงหัวใจทารกอย่างสม่ำเสมอสามารถตรวจสอบสุขภาพของทารกและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์เบื้องต้นได้ ซึ่งในฟังก์ชันการบันทึกเสียงหัวใจทารกในตัวเครื่อง จะช่วยบันทึกคลื่นเสียงภายในครรภ์รวมถึงเสียงการดิ้นของทารกได้ สามารถเก็บไว้เป็นความทรงจำและแบ่งปันเรื่องราวให้กับคนในครอบครัวภายหลังได้

นอกจากนี้ ความแม่นยำของการวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารกก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะความผิดพลาดอาจสร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ โดยให้พิจารณาเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีความผิดพลาดต่ำ หรือที่ประมาณ ±2 bpm เพราะจะสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจคลาดเคลื่อนบวกลบไม่เกิน 2 ครั้งต่อนาที จึงเหมาะกับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ต้องการฟังเสียงทารกเป็นประจำและต้องการลดความกังวลเกี่ยวกับทารกในครรภ์

กังวลปัญหาทารกดิ้นน้อย แนะนำเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราหัวใจผิดปกติและหัววัดที่มีความไวสูง

กังวลปัญหาทารกดิ้นน้อย แนะนำเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราหัวใจผิดปกติและหัววัดที่มีความไวสูง

สำหรับคุณแม่ที่กังวลปัญหาลูกดิ้นน้อยและต้องการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อตรวจสอบสุขภาพเบื้องต้น แนะนำให้พิจารณาเครื่องที่มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราหัวใจผิดปกติและหัวตรวจความไวสูง เนื่องจากสามารถส่งเสียงเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำกว่า 110 - 160 ครั้งต่อนาที ซึ่งเป็นค่าปกติของทารกในอายุครรภ์ 13 - 40 สัปดาห์ 


นอกจากนี้ หัววัดที่มีความไวสูงจะสามารถส่งคลื่นอัลตราซาวนด์เพื่อตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจทารกได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งโดยปกติแล้วทารกจะเริ่มดิ้นในช่วง 16 - 25 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ และมีความถี่อย่างน้อย 10 ครั้งในระยะเวลา 2 ชั่วโมง และมักจะดิ้นช่วงหลังรับประทานอาหาร หากมีความถี่น้อยกว่าจำนวนดังกล่าว ถือว่าทารกดิ้นน้อยและสามารถบอกถึงความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้

พิจารณาเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่สามารถเปิดเพลงได้ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของทารกในครรภ์

พิจารณาเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่สามารถเปิดเพลงได้ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของทารกในครรภ์
เสียงเพลงเป็นหนึ่งในวิธีเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับทารกในครรภ์เช่นเดียวกับการพูดคุยและการสัมผัสลูบคลำหน้าท้องบ่อย ๆ ซึ่งเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่สามารถเปิดเพลงได้ จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ โดยเสียงเพลงสามารถกระตุ้นการได้ยินและส่งเสริมการพัฒนาของสมองทารก รวมถึงช่วยให้คุณแม่รู้สึกเพลิดเพลินและผ่อนคลาย ซึ่งส่งผลดีต่อทารกได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การเปิดเพลงให้ทารกในครรภ์ฟัง ควรมีระดับเสียงประมาณ 50 - 60 เดซิเบล และวางห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต เพราะหากเสียงดังเกินไป อาจรบกวนการเจริญเติบโตและสร้างความเครียดให้กับทารกได้ โดยคุณแม่ควรร้องเพลงคลอไปด้วย เนื่องจากขณะเปล่งเสียงพูดคุยหรือร้องเพลงจะเกิดการสั่นสะเทือนภายในร่างกายของคุณแม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพต่อพัฒนาการของทารกเป็นอย่างมาก
2

กังวลเรื่องความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ เลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น มาตรฐาน CE, RoHS, FDA

กังวลเรื่องความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ เลือกเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น มาตรฐาน CE, RoHS, FDA
การเลือกซื้อเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกควรพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานรองรับ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดต่อสุขภาพทารกในครรภ์และคุณแม่ เนื่องจากเครื่องที่ไม่ผ่านข้อกำหนดการผลิตที่น่าเชื่อถือ อาจมีการใช้คลื่นความถี่ในระดับที่ไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการและสุขภาพของทารกได้ ดังนั้น แนะนำให้พิจารณาผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ดังต่อไปนี้

  • มาตรฐาน CE เป็นมาตรฐานสินค้าที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดความปลอดภัยด้านสุขภาพของข้อกำหนดของสหภาพยุโรป
  • มาตรฐาน RoHS เป็นข้อกำหนดในการควบคุมการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้าอย่างปลอดภัยในสหภาพยุโรป
  • มาตรฐาน ISO 13485 เป็นมาตรฐานจัดการคุณภาพของเครื่องมือแพทย์ระดับสากล
  • มาตรฐาน FDA จากสหรัฐอเมริกา มาจากองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร และยา ซึ่งเป็นที่ยอมรับและมีความน่าเชื่อถือในระดับโลก
3

พิจารณาเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีการแสดงค่าชัดเจนและหลากหลาย

พิจารณาเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่มีการแสดงค่าชัดเจนและหลากหลาย

โดยทั่วไปแล้วหน้าจอของเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกจะแสดงผลตัวเลข กราฟ ปริมาณแบตเตอรี่ ระดับเสียง ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถเห็นค่าต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน และมองเห็นภาพรวมของจังหวะอัตราการเต้นของหัวใจขึ้นลงจากกราฟได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยหน้าจอแสดงผลที่เหมาะสมควรมีความยาวประมาณ 38 - 45 มม. และความกว้าง 25 - 28 มม. ทั้งยังควรมีแสงพื้นหลังสำหรับการมองในที่แสงน้อยหรือในที่มืด เช่น หน้าจอ LED หน้าจอ LCD 


นอกจากการแสดงผลทางหน้าจอ ยังมีการแสดงผลด้วยเสียงผ่านลำโพงหรือหูฟัง โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • ผ่านลำโพง จะทำให้กระจายเสียงได้ในวงกว้าง เหมาะกับการฟังพร้อมกับสมาชิกหลายคน 
  • ผ่านหูฟัง จะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการลดเสียงรบกวนจากภายนอก ซึ่งสามารถแบ่งปันหูฟังให้คุณพ่อรับฟังพร้อมกันได้ ช่วยกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี 

ทั้งนี้ บางรุ่นที่มีการแสดงผลด้วยเสียงอาจไม่มีหน้าจอแสดงผล จำเป็นต้องเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพื่ออ่านค่าผลลัพธ์ หรือมีบางรุ่นที่สามารถเลือกเปิดลำโพงหรือต่อหูฟังได้ในเครื่องเดียว ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ตามความต้องการและความสะดวกในการใช้งานของตัวเอง
4

ตรวจสอบเรื่องวิธีการชาร์จ น้ำหนักตัวเครื่อง และการเชื่อมต่อมือถือ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ตรวจสอบเรื่องวิธีการชาร์จ น้ำหนักตัวเครื่อง และการเชื่อมต่อมือถือ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกส่วนใหญ่มักใช้พลังงานแบตเตอรี่จากถ่านประเภท AA, AAA และ 9V โดยสามารถใช้งานได้นานประมาณ 8 - 10 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง และหาซื้อแบตเตอรี่สำรองเพื่อเปลี่ยนได้ง่าย หรือบางรุ่นมีที่ชาร์จมาด้วยในตัว เพียงต่อสาย USB ก็สามารถชาร์จเพื่อใช้งานได้ทันที สะดวกในการใช้งานเป็นอย่างมาก อีกทั้งตัวเครื่องยังมีน้ำหนักให้เลือกได้หลากหลาย ซึ่งหากต้องการน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา แนะนำน้ำหนักที่ประมาณ 155 - 245 กรัม เพื่อความสะดวกในการพกพาและเคลื่อนย้ายหาตำแหน่งฟังเสียงหัวใจของทารก 


นอกจากนี้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่อาจพิจารณาการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อช่วยในการบันทึกเสียงและอัปโหลดข้อมูลลงบนระบบต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย

วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?

10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก ยี่ห้อไหนดี ราคาดี วัดค่าได้อย่างแม่นยำ

10 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกต่อไปนี้ ได้รับความนิยมสูง และมาจากหลากหลายยี่ห้อที่มีคุณภาพ โดยยี่ห้อไหนจะตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด สามารถเลือกได้จากข้อมูลสินค้าดังต่อไปนี้
เรียงจากความนิยม
ตัวกรอง
สินค้า
รูปภาพ
ราคาต่ำสุด
คะแนน
รายละเอียด
ขนาด
น้ำหนัก
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่
การรับประกัน
ค่าความผิดพลาด
คุณสมบัติพิเศษ
วิธีการชาร์จ
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
1

Jumper AngelSounds

Jumper AngelSounds JDP-100S6

Jumper AngelSounds Jumper AngelSounds JDP-100S6 1

เครื่องฟังเสียงหัวใจ ใช้งานง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อทารก

130.00 x 100.00 x 36.00 มม.

0.25 กก.

11 - 12 สัปดาห์

1 ปี

± 2 bpm

ใช้งานง่าย

ถ่าน AA 2 ก้อน

2

AEON

AEON A100SD

AEON AEON A100SD 1

แม่นยำสูง มีแบตเตอรี่ในตัว ตัวเครื่องมีหูจับ พกพาสะดวก

280.00 x 148.00 x 200.00 มม.

1.50 กก.

1 ปี

±1 bpm

ปรับความสว่างหน้าจอได้

มีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยสายชาร์จ

3

EDAN

EDAN SD6

EDAN EDAN SD6 1

ที่วัดแบบไร้สาย พร้อมลำโพงคู่ บันทึกเสียงได้ หน้าจอขนาดใหญ่

265.00 x 155.00 x 18.00 มม.

1.70 กก.

1 ปี

±1 bpm

หัวตรวจแบบไร้สาย

แบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยที่ชาร์จ

4

CONTEC

CONTEC Sonoline A

CONTEC  CONTEC Sonoline A 1

มาพร้อมกับอัลกอริธึมอัจฉริยะ ตัดเสียงรบกวน ตรวจจับได้แม่นยำ

135.00 x 92.00 x 29.00 มม.

0.24 กก.

9 สัปดาห์

1 ปี

±2 bpm

ถ่าน 1.5V 2 ก้อน

5

Jumper AngelSounds

Jumper AngelSounds JPD-100S4

Jumper AngelSounds Jumper AngelSounds JPD-100S4 1

มีโหมดเปิดเพลงบรรเลง 5 โหมด บันทึกได้นานถึง 60 วินาที

210.00 x 38.00 x 68.00 มม.

0.37 กก.

12 สัปดาห์

1 ปี

± 2 bpm

ถ่าน AAA 4 ก้อน

6

BBLUV

BBLUV ECHO

BBLUV BBLUV ECHO 1

ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ใช้คลื่น 3 MHz รับเสียงผ่านหูฟัง

102.00 x 71.00 x 51.00 มม.

0.50 กก.

12 สัปดาห์

1 ปี

มีหูฟังในตัว

ถ่าน 9 โวลต์

7

Jumper Angelsounds

Jumper Angelsounds JPD-100E

Jumper Angelsounds Jumper Angelsounds JPD-100E  1

เปิดใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง มีช่องเสียบหูฟังและลำโพงในตัว

147.00 x 101.90 x 31.60 มม.

0.25 กก.

16 สัปดาห์

1 ปี

±2 bpm

ปิดอัตโนมัติ เมื่อไม่ใช้งานเกิน 1 นาที

แบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วย USB

8

Bistos

Bistos BT-250

Bistos Bistos BT-250 1

ขนาดกะทัดรัด หน้าจอสีขนาด 3.2 นิ้ว อ่านค่าได้ง่ายขึ้น

250.00 x 118.00 x 90.00 มม.

1.10 กก.

±2 bpm

หน้าจอขนาดใหญ่

มีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยที่ชาร์จ

9

Jumper

Jumper JPD-200C

Jumper Jumper JPD-200C 1

ตรวจได้ตั้งแต่ 9 สัปดาห์ ความแม่นยำ ± 1 bpm ชาร์จไฟได้

240.00 x 160.00 x 115.00 มม.

1.12 กก.

9 สัปดาห์

1 ปี

±1 bpm

หัววัดคู่

มีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยที่ชาร์จ

10

Feta Track

Feta Track DD250

Feta Track Feta Track DD250 1

ควบคุมง่ายเพียงปุ่มเดียว แบตเตอรี่ในตัว ต่อหูฟังได้

320.00 x 190.00 x 60.00 มม.

1.90 กก.

1 ปี

หัววัดคู่

มีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยที่ชาร์จ

หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1

Jumper AngelSounds
Jumper AngelSounds JDP-100S6

Jumper AngelSounds JDP-100S6 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
2,100 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ
ราคาอ้างอิง
2,100 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

เครื่องฟังเสียงหัวใจ ใช้งานง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อทารก

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกรุ่นนี้จาก Jumper AngelSounds เป็นรุ่นมาตรฐานที่คุณแม่หลาย ๆ คนต่างเลือกใช้ โดยรุ่นนี้จะมีจอ LCD ขนาดใหญ่ที่มีระบบประมวลผลออกมาทั้งในรูปแบบตัวเลขและกราฟ ช่วยทำให้อ่านค่าต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่มีลำโพงในตัว ทำให้ฟังเสียงหัวใจทารกได้ง่ายและชัดเจนมากขึ้น ตัวเครื่องยังมีประสิทธิภาพในการตรวจจับคลื่นเสียงหัวใจของลูกน้อยได้ดี มีการแสดงผลค่าอัตราการเต้นหัวใจแบบ Real Time ที่สำคัญยังใช้งานได้ง่าย พร้อมกับสามารถบันทึกเสียงผ่านคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้อีกด้วย

ขนาด130.00 x 100.00 x 36.00 มม.
น้ำหนัก0.25 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 11 - 12 สัปดาห์
การรับประกัน1 ปี
ค่าความผิดพลาด± 2 bpm
คุณสมบัติพิเศษใช้งานง่าย
วิธีการชาร์จถ่าน AA 2 ก้อน
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
No.2

AEON
AEON A100SD

AEON A100SD 1
อ้างอิง:aeon-med.com
ราคาอ้างอิง
22,500 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ราคาอ้างอิง
22,500 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

แม่นยำสูง มีแบตเตอรี่ในตัว ตัวเครื่องมีหูจับ พกพาสะดวก

จุดเด่นของเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกรุ่นนี้ก็คือ มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัว ที่ใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีหน้าจอ LED สีสัน แสดงผลการทำงานของตัวเครื่อง รวมถึงสถานะแบตเตอรี่ สำหรับความถี่ของหัวตรวจอยู่ที่ 2.5 MHz ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจเด็กได้ระหว่าง 60 - 210 bpm โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 bpm และตั้งค่าแจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดปกติได้ นอกจากนี้ ยังออกแบบมาให้เคลื่อนย้ายและพกพาได้ง่าย เพราะด้านบนมีหูจับ และตัวเครื่องยังมีขนาดกะทัดรัด 

ขนาด280.00 x 148.00 x 200.00 มม.
น้ำหนัก1.50 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่
การรับประกัน1 ปี
ค่าความผิดพลาด±1 bpm
คุณสมบัติพิเศษปรับความสว่างหน้าจอได้
วิธีการชาร์จมีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยสายชาร์จ
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
No.3

EDAN
EDAN SD6

EDAN SD6 1
อ้างอิง:edanusa.com
ราคาอ้างอิง
32,000 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

ที่วัดแบบไร้สาย พร้อมลำโพงคู่ บันทึกเสียงได้ หน้าจอขนาดใหญ่

รุ่นนี้จะมีความแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ ในส่วนของหัววัดที่เป็นแบบไร้สายแยกออกจากเครื่อง สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ใช้ความถี่ในช่วง 2 - 3 MHz และสามารถวัด FHR ได้ระหว่าง 50 - 120 bpm ที่ความละเอียด 1 bpm ในส่วนของตัวรับสัญญาณมาพร้อมกับลำโพงคู่ ให้เสียงที่ดังยิ่งขึ้น และมีช่องเสียบหูฟังเพื่อให้ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ที่สำคัญคือสามารถบันทึกเสียงไว้ฟังในภายหลังได้ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ ที่ถึงแม้จะเป็นขาวดำแต่ก็มีแสงสว่างสูง ทำให้อ่านค่าได้อย่างชัดเจน

ขนาด265.00 x 155.00 x 18.00 มม.
น้ำหนัก1.70 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่
การรับประกัน1 ปี
ค่าความผิดพลาด±1 bpm
คุณสมบัติพิเศษหัวตรวจแบบไร้สาย
วิธีการชาร์จแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยที่ชาร์จ
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
No.4

CONTEC
CONTEC Sonoline A

ราคาอ้างอิง
899 บาท
ราคาต่ำ

มาพร้อมกับอัลกอริธึมอัจฉริยะ ตัดเสียงรบกวน ตรวจจับได้แม่นยำ

CONTEC SonolineA รุ่นนี้เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ที่ได้รับมาตรฐานทางการแพทย์ อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน CE และ FDA ด้วยคุณสมบัติและจุดเด่นของรุ่นนี้ คือ อัลกอริทึมอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวัด ซึ่งอัลกอริทึมในเครื่องจะช่วยขจัดสัญญาณรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยต้านทานสัญญาณรบกวนจากเสียงสะท้อน ทำให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังมีการใช้เทคโนโลยีลดเสียงรบกวนกรองขั้นสูง สามารถช่วยลดเสียงรบกวนอื่น ๆ ในช่องท้องได้

ขนาด135.00 x 92.00 x 29.00 มม.
น้ำหนัก0.24 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 9 สัปดาห์
การรับประกัน1 ปี
ค่าความผิดพลาด±2 bpm
คุณสมบัติพิเศษ
วิธีการชาร์จถ่าน 1.5V 2 ก้อน
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
No.5

Jumper AngelSounds
Jumper AngelSounds JPD-100S4

ราคาอ้างอิง
2,190 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

มีโหมดเปิดเพลงบรรเลง 5 โหมด บันทึกได้นานถึง 60 วินาที

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ Jumper AngelSounds รุ่นนี้เป็นรุ่นยอดนิยมที่คุณแม่ต่างเลือกใช้ เนื่องจากรุ่นนี้มีจุดเด่นที่คุณแม่สามารถฟังเสียงหัวใจของลูกผ่านทางหูฟังหรือสามารถใช้สาย Data เพื่อเชื่อมต่อกับลำโพงในการรับฟังเสียงหัวใจได้ อีกทั้งยังสามารถบันทึกเสียงกับเครื่องบันทึกเสียงหรือคอมพิวเตอร์ก็ได้เช่นกัน ที่สำคัญรุ่นนี้ยังมีโหมดเปิดเพลงบรรเลงในตัวเครื่อง 5 เพลง สามารถบันทึกเสียงเต้นของหัวใจพร้อมเปิดฟังได้ในตัวเครื่อง เรียกได้ว่าเครื่องเดียวจบ

ขนาด210.00 x 38.00 x 68.00 มม.
น้ำหนัก0.37 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์
การรับประกัน1 ปี
ค่าความผิดพลาด± 2 bpm
คุณสมบัติพิเศษ
วิธีการชาร์จถ่าน AAA 4 ก้อน
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
No.6

BBLUV
BBLUV ECHO

BBLUV ECHO 1
อ้างอิง:bbluv.ca
ราคาอ้างอิง
2,290 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ
ราคาอ้างอิง
2,290 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ใช้คลื่น 3 MHz รับเสียงผ่านหูฟัง

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก BBLUV ECHO ถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์และมีขนาดกะทัดรัด ช่วยให้คุณแม่หรือผู้ใช้งานสามารถจับได้ถนัดมือและสะดวกยิ่งขึ้น ในส่วนของวิธีการฟังเสียงหัวใจจะฟังผ่านหูฟังที่มีแถมมาให้พร้อมใช้งาน สำหรับคลื่นความถี่ที่ใช้จะอยู่ที่ 3 MHz เหมาะสำหรับอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และเพื่อให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนที่สุด จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับ Ultrasonic Gel หรือ Baby Oil และสามารถปรับระดับเสียงได้ รุ่นนี้เป็นระบบไร้สาย โดยใช้ถ่านขนาด 9V เป็นแหล่งให้พลังงาน

ขนาด102.00 x 71.00 x 51.00 มม.
น้ำหนัก0.50 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์
การรับประกัน1 ปี
ค่าความผิดพลาด
คุณสมบัติพิเศษมีหูฟังในตัว
วิธีการชาร์จถ่าน 9 โวลต์
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
No.7

Jumper Angelsounds
Jumper Angelsounds JPD-100E

Jumper Angelsounds JPD-100E  1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
2,650 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

เปิดใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง มีช่องเสียบหูฟังและลำโพงในตัว

สำหรับเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกจาก Jumper Angelsounds รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ที่มีขนาดใหญ่ถึง 2 นิ้ว ทำให้สะดวกต่อการอ่านค่า ซึ่งรุ่นนี้จะมีการบอกอัตราการเต้นของหัวใจทั้งแบบกราฟและแบบตัวเลข โดยสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารกได้ตั้งแต่ 50 - 240 ครั้ง/นาที อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง เพราะมีการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ต่ำ ทำให้สามารถฟังได้บ่อยตามต้องการ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับลำโพงและช่องเสียบหูฟังในตัว ซึ่งทั้งสอบแบบนี้ยังคงให้คุณภาพเสียงที่ชัดเจนแบบไม่มีเสียงรบกวนอีกด้วย

ขนาด147.00 x 101.90 x 31.60 มม.
น้ำหนัก0.25 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 16 สัปดาห์
การรับประกัน1 ปี
ค่าความผิดพลาด±2 bpm
คุณสมบัติพิเศษปิดอัตโนมัติ เมื่อไม่ใช้งานเกิน 1 นาที
วิธีการชาร์จแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วย USB
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
No.8

Bistos
Bistos BT-250

Bistos BT-250 1
อ้างอิง:bistos.co.kr
ราคาอ้างอิง
28,000 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ราคาอ้างอิง
28,000 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

ขนาดกะทัดรัด หน้าจอสีขนาด 3.2 นิ้ว อ่านค่าได้ง่ายขึ้น

Bistos BT-250 เป็นเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกที่ออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด ช่วยให้เคลื่อนย้ายและพกพาสะดวกขึ้น นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นที่มาพร้อมกับหน้าจอ LCD แบบสี ขนาดใหญ่ 3.2 นิ้ว ทำให้อ่านค่าต่าง ๆ ง่ายขึ้น ปรับความสว่างได้ 5 ระดับ และยังมีพอร์ต D-Sub ให้เชื่อมต่อกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น รวมถึงมีช่อง USB สำหรับจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับตัววัดปรับความถี่ได้ 2 คลื่น คือ 2 MHz และ 3 MHz วัดค่า FHR ได้ที่ช่วง 30 - 240 bpm ±2 BPM สามารถบันทึกข้อมูลไว้ภายในเครื่องได้นานสูงสุด 4 ชั่วโมง หรือจำนวน 25 คน

ขนาด250.00 x 118.00 x 90.00 มม.
น้ำหนัก1.10 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่
การรับประกัน
ค่าความผิดพลาด±2 bpm
คุณสมบัติพิเศษหน้าจอขนาดใหญ่
วิธีการชาร์จมีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยที่ชาร์จ
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
No.9

Jumper
Jumper JPD-200C

ราคาอ้างอิง
8,990 บาท
ราคาปานกลาง

ตรวจได้ตั้งแต่ 9 สัปดาห์ ความแม่นยำ ± 1 bpm ชาร์จไฟได้

อีกหนึ่งเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกจาก Jumper ที่รุ่นนี้จะมีขนาดใหญ่เพราะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น หัวตรวจใช้ความที่ 2 ช่วง คือ 2.2 MHz และ 3 MHz ตรวจเสียงหัวใจทารกได้ตั้งแต่ 9 สัปดาห์ขึ้นไป รองรับช่วง FHR ที่ 60 - 210 bpm โดยมีอัตราการคลาดเคลื่อนไม่เกิน ± 1 bpm ฟังเสียงหัวใจผ่านลำโพงของตัวเครื่อง และมีหน้าจอ LCD เพื่อแสดงค่าอัตราการเต้นของหัวใจ ที่สำคัญคือรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ในตัว ความจุ 750 mAh เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม สามารถใช้ได้มากกว่า 8 ชั่วโมง และมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือหัวตรวจเดี่ยวและหัวตรวจคู่

ขนาด240.00 x 160.00 x 115.00 มม.
น้ำหนัก1.12 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 9 สัปดาห์
การรับประกัน1 ปี
ค่าความผิดพลาด±1 bpm
คุณสมบัติพิเศษหัววัดคู่
วิธีการชาร์จมีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยที่ชาร์จ
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา
No.10

Feta Track
Feta Track DD250

Feta Track DD250 1
อ้างอิง:thaimedical.in.th
ราคาอ้างอิง
75,000 บาท
ราคาสูง
ราคาอ้างอิง
75,000 บาท
ราคาสูง

ควบคุมง่ายเพียงปุ่มเดียว แบตเตอรี่ในตัว ต่อหูฟังได้

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกรุ่นนี้ มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูทันสมัย เพิ่มความน่าใช้งานยิ่งขึ้น และออกแบบมาให้ใช้งานง่ายเพราะควบคุมด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว ตัวเครื่องเป็นแบบไร้สาย มีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จ 5 ชั่วโมง สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง สำหรับหัววัดมีความถี่ 2 MHz และมีจอ LCD แสดงค่า FHR ได้ตั้งแต่ช่วง 50 - 210 bpm ส่วนระบบเสียงมีทั้งผ่านลำโพงของตัวเครื่อง และมีช่องสำหรับเสียบหูฟัง เพื่อให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ ยังแถม Ultrasonic Gel มาให้พร้อมใช้งานอีกด้วย

ขนาด320.00 x 190.00 x 60.00 มม.
น้ำหนัก1.90 กก.
เหมาะสำหรับผู้มีอายุครรภ์ตั้งแต่
การรับประกัน1 ปี
ค่าความผิดพลาด
คุณสมบัติพิเศษหัววัดคู่
วิธีการชาร์จมีแบตเตอรี่ในตัว ชาร์จด้วยที่ชาร์จ
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบ iOS และ Android
เชื่อมต่อกับลำโพงได้
ระบบตัดเสียงรบกวน
มีช่องเสียบหูฟัง/หูฟังมาด้วยในตัว
มีหน้าจอแสดงผล
บันทึกเสียงหัวใจได้
มีสัญญาณเตือนเมื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
หัววัดมีความไวสูง
มีโหมดเปิดเพลงได้
ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE
ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS
ผ่านการรับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา

บทส่งท้าย

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ และยังมีส่วนในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกเป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับใช้งานที่บ้าน ความแม่นยำอาจแตกต่างจากการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่คลินิกหรือโรงพยาบาล ซึ่งเกิดได้จากความชำนาญของผู้ใช้งานและคุณภาพของตัวเครื่องเอง ดังนั้น หากพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจของทารกมีความผิดปกติไปจากค่ามาตรฐาน ไม่ควรตื่นตระหนกมากเกินไป แต่ควรรีบไปพบสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำและทำการตรวจเช็กความปลอดภัยของทารกในครรภ์และสุขภาพของคุณแม่

TOP 5 เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก แนะนำ

อันดับที่ 1: Jumper AngelSoundsJumper AngelSounds JDP-100S6

อันดับที่ 2: AEONAEON A100SD

อันดับที่ 3: EDANEDAN SD6

อันดับที่ 4: CONTEC CONTEC Sonoline A

อันดับที่ 5: Jumper AngelSoundsJumper AngelSounds JPD-100S4

คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับ
คำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

ยอดนิยม
อันดับยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับ เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก

ตู้แช่นม

10 ผลิตภัณฑ์

ค้นหาตามหมวดหมู่

mybest

ให้เราเป็นตัวช่วยในทุกการเลือกเพื่อให้ทุกคนได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
พร้อมคำแนะนำในการเลือกสินค้าจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ

Copyright mybest All Rights Reserved.