รีวิว Supparerk Vision Center ปี 2024

มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้

นโยบายกองบรรณาธิการ

หลักในการเลือกร้านตัดแว่นที่ดีควรมีองค์ประกอบทั้งหมด 3 อย่างด้วยกัน ดังต่อไปนี้

1. คุณภาพ : "คุณภาพ" เป็นข้อสำคัญอันดับแรกในการเลือกร้านตัดแว่น หากร้านตัดแว่นนั้น ๆ มีผู้ชำนาญการ จักษุแพทย์ และนักทัศนมาตรอยู่ด้วยกัน ร้านนั้นก็คือร้านตัดแว่นที่มีคุณภาพที่ดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะมีบุคลากรที่เข้าใจเรื่องโรคทางตาและสายตาเป็นอย่างดี ทำให้การวัดค่าสายตา ตรวจโรคทางตาทำได้อย่างแม่นยำและแก้ไขปัญหาเรื่องสายตาได้อย่างตรงจุด
2. เทคโนโลยี : หากมีเทคโนโลยีในการตรวจวัดสายตาที่ดีก็จะช่วยให้การวัดสายตาทำได้อย่างแม่นยำขึ้น กำจัดค่าคลาดเคลื่อนต่าง ๆ ได้ดี โดยเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถตรวจวัดผิวกระจกตา ความโค้งของกระจกตา มุมช่องด้านหน้าลูกตา เลนส์ตาและกำลังการเพ่ง โดยเทคโนโลยีทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถนำมาออกแบบเลนส์ให้ตรงกับปัญหาของแต่ละบุคคลได้
3. ความทันสมัย : เมื่อกล่าวถึงการใส่แว่นแล้ว บางคนอาจจะรู้สึกว่าไม่อยากใส่เพราะจะทำให้ดูอายุมากขึ้น แต่ในปัจจุบันบริษัทที่ผลิตกรอบแว่นได้ผลิตโดยคำนึงถือเรื่องแฟชั่นด้วย ร้านตัดแว่นที่มีแบบแว่นตาให้เลือกหลากหลาย ดีไซน์ทันสมัยตามยุค แว่นตาที่น้ำหนักเบาและผลิตจากวัสดุคุณภาพดีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ใครหลายคนเลือกร้านตัดแว่นตาดังกล่าวให้เป็นร้านในดวงใจได้

1. ช่วงวัย 20 - 30 ปี : คำแนะนำทั่วไปในการตรวจสายตากับช่วงอายุนี้ ในวัย 20 ปี ควรตรวจสายตา 1 ครั้งต่อปี และควรตรวจ 2 ครั้งต่อปีในช่วงวัย 30 ปี แต่หากมีอาการเหล่านี้ให้ไปพบจักษุแพทย์โดยเร็ว หากตามีอาการติดเชื้อ ได้รับอุบัติเหตุ เห็นจุดดำลอยไปมาหรือเห็นแสงฟ้าผ่า ควรไปตรวจสายตาทันที หากใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ ควรตรวจสายตาทุกปี หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคเกี่ยวกับตาที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ควรปรึกษาจักษุแพทย์
2. ช่วงวัย 40 ปีขึ้นไป : ช่วงวัย 40 ปีถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจสายตา เนื่องจากมีโอกาสที่จะพบโรคเกี่ยวกับตาบางโรคในระยะเริ่มต้นเพื่อที่จะได้รักษาได้ทันท่วงที การตรวจตาประจำปีไม่ต้องรอจนถึงอายุ 40 ปีแล้วถึงจะไปตรวจ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตา เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และบุคคลที่มีประวัติเป็นโรคตา หลังจากการตรวจแล้วจักษุแพทย์จะเป็นผู้กำหนดว่าควรมาติดตามอาการครั้งต่อไปเมื่อใด
3. ช่วงวัย 65 ปีขึ้นไป : ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจสายตาทุก 1 - 2 ปี โดยโรคตาที่พบบ่อยในช่วงวัยนี้ ได้แก่ ต้อกระจก (Cataract), จอประสาทตาเสื่อม (Age-Related Macular Degeneration: AMD), ต้อหิน (Glaucoma) และโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา (Diabetic Retinopathy: DR)

1. มองไม่ชัดเจน มองเห็นแสงไฟแตก หรือมองเห็นภาพซ้อน ในบางคนอาจมีอาการหรี่ตา (Pin Hold Effect) ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอาจมีอาการสายตาสั้นหรือเอียงเพิ่มขึ้น
2. ต้องใช้ระยะอ่านหนังสือที่ห่างขึ้นจากเดิม บางคนมีการถือหนังสือหรือหน้าจอมือถือที่ไกลขึ้นเพื่อให้มองเห็นชัดเจนขึ้น แสดงว่าค่าสายตายาวมากขึ้นนั่นเอง
3. มีอาการปวดศีรษะบ่อย ๆ ซึ่งการใช้สายตามาก ๆ มีการเพ่งที่เยอะขึ้นอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อการปวดศีรษะ โดยเฉพาะอาการปวดศีรษะในช่วงเย็นของวัน ในบางบุคคลอาจมีอาการปวดกระบอกตาร่วมด้วยได้
4. แว่นเก่าที่มีเลนส์เสื่อมสภาพ เลนส์เป็นรอย เลนส์เหลือง หรือสารเคลือบเลนส์หลุดลอก กรอบแว่นบิดเบี้ยว ซึ่งเลนส์และกรอบแว่นที่เสื่อมสภาพจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น

เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive Lens) คือ เลนส์หลายระยะแบบไร้รอยต่อ ทำให้ผู้สวมใส่สามารถมองได้คมชัดทุกระยะการมอง สามารถทำกิจกรรมได้ทุกกิจกรรมที่ต้องการโดยไม่ต้องถอดแว่นเข้า - ออก จนมีการเรียนเลนส์ชนิดนี้ว่าเลนส์ "All In One"

โดยปกติแล้วเลนส์โปรเกรสซีฟจะเหมาะกับผู้สวมใส่ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป เพราะโดยมากจะมีปัญหาเรื่องสายตายาวตามวัย (Presbyopia) ที่มีผลทำให้มองใกล้ไม่ชัดและมักมีอาการปวดกระบอกตา ตาล้า และอาจมีการปวดศีรษะตามมาได้ แต่เลนส์ชนิดนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน บุคคลที่ไม่เหมาะกับการใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ มีดังนี้

• มีอาการของโรคบ้านหมุน (Vertigo) มีประวัติเลือดออกในสมอง ขึ้นลงบันไดยาก มีปัญหาเรื่องการตกบันไดบ่อย ๆ
• ค่าสายตาทั้งสองข้างต่างกันมากหรือต่างขั้วกันมาก เช่น สายตาข้างหนึ่งยาวมากส่วนอีกข้างสั้นมาก
• หากในชีวิตประจำวันมีการใช้งานสายตาระยะกลางและใกล้เป็นระยะเวลานาน จะเหมาะกับเลนส์เฉพาะทางอย่างอื่นมากกว่า

ส่วนการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟ ทาง Supparerk Vision Center จะแนะนำการใช้งานที่ง่ายและเหมาะสมสำหรับบุคคลนั้น ๆ