mybest
โทนเนอร์

บริการแนะนำข้อมูลสินค้า

  1. TOP
  2. เครื่องสำอาง, สกินแคร์
  3. ผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดผิวหน้า
  4. 10 อันดับ โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ทำความสะอาดผิว กระชับรูขุมขน
  • 10 อันดับ โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ทำความสะอาดผิว กระชับรูขุมขน 1
  • 10 อันดับ โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ทำความสะอาดผิว กระชับรูขุมขน 2
  • 10 อันดับ โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ทำความสะอาดผิว กระชับรูขุมขน 3
  • 10 อันดับ โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ทำความสะอาดผิว กระชับรูขุมขน 4
  • 10 อันดับ โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ทำความสะอาดผิว กระชับรูขุมขน 5

10 อันดับ โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ทำความสะอาดผิว กระชับรูขุมขน

โทนเนอร์ (Toner) เป็นสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าชนิดหนึ่งที่ใช้หลังจากทำความสะอาดใบหน้าด้วยน้ำยาล้างเครื่องสำอางหรือโฟมล้างหน้า และใช้เป็นผลิตภัณฑ์แรกก่อนเริ่มขั้นตอนการบำรุงผิวหน้า เพราะโทนเนอร์มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดผิว ชะล้างสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางที่ยังหลงเหลืออยู่ในรูขุมขน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยการบำรุงผิวต่าง ๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการให้ความชุ่มชื้น ลดสิวเสี้ยน สิวอุดตัน สิวอักเสบ อีกทั้งยังกระชับรูขุมขน เป็นต้น

การเลือกโทนเนอร์ที่ถูกต้อง ควรเริ่มจากการพิจารณาสภาพผิวหรือปัญหาผิวของเราเป็นหลัก ในบทความนี้ เราแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ผิวทั่วไปที่ไม่มีปัญหาผิวเป็นพิเศษโดยเลือกจากสภาพผิวต่าง ๆ ทั้งผิวมัน ผิวแห้ง และผิวผสม และปัญหาผิวอย่าง ผิวรูขุมขนกว้าง ผิวเป็นสิวง่าย และผิวแพ้ง่าย พร้อมคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง พร้อม 10 อันดับ​ โทนเนอร์ ที่น่าสนใจและเหมาะกับการสภาพผิวแต่ละแบบ

อัปเดตล่าสุดเมื่อ 28/08/2023
นพ.ธนภัทรสรณ์ เอกสมทราเมษฐ์ (แบงค์)
ผู้เชี่ยวชาญ
แพทย์ผิวหนัง
นพ.ธนภัทรสรณ์ เอกสมทราเมษฐ์ (แบงค์)

คุณแบงค์จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หลังจากนั้นได้ศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทางสาขาตจวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี ปัจจุบันทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนและคลินิกเฉพาะทางด้านผิวหนังที่ครอบคลุมทั้งความงามและการรักษาโรคผิวหนังทั่วไปทั้งในหาดใหญ่และกรุงเทพฯ คุณแบงค์ใช้วิชาชีพในการตรวจวินิจฉัย ดูแล ป้องกัน และรักษาโรคผิวหนังทั่วไป รวมไปถึงการให้คำแนะนำผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านความงาม นอกเหนือจากการใช้วิชาชีพเพื่อวินิจฉัยและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับด้านผิวพรรณแล้ว คุณแบงค์ยังหมั่นอัปเดตความรู้และความเชี่ยวชาญอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโรคและความผิดปกติของผิวหนัง เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยรักษาและแก้ไขปัญหาผิวในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงข้อมูลทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ อีกทั้ง ส่วนตัวแล้วคุณแบงค์ยังหมั่นดูแลตัวเองในด้านสุขภาพผิวและเส้นผม รวมไปถึงการใช้ชีวิตในแต่ละด้าน เพราะเชื่อว่าหากดูแลสุขภาพและร่างกายจากภายในจะทำให้สุขภาพผิวดีตามไปด้วย

ประวัติของ นพ.ธนภัทรสรณ์ เอกสมทราเมษฐ์ (แบงค์)
…อ่านต่อ
กองบรรณาธิการ mybest
บรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ mybest

มายเบสท์ผลิตคอนเทนต์ใหม่ ๆ ทุกวันตั้งแต่ "เครื่องสำอางและสกินแคร์" "เครื่องใช้ไฟฟ้า" "สินค้าในชีวิตประจำวัน" ไปจนถึง "บริการ" เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีสุดตามสโลแกน "ให้ทุกการเลือกเป็นเรื่องง่าย" ผ่านผู้ใช้งานเว็บไซต์มากกว่า 3 ล้านคนต่อเดือน

ประวัติของ กองบรรณาธิการ mybest
…อ่านต่อ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ

สารบัญ

โทนเนอร์คืออะไร และต้องใช้กับสำลีหรือไม่ ?

โทนเนอร์คืออะไร และต้องใช้กับสำลีหรือไม่ ?

โทนเนอร์ (Toner) คือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้หลังจากล้างหน้าและก่อนเริ่มบำรุงผิวหน้า มีลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เป็นน้ำเหลวคล้ายกับน้ำเปล่าไปจนถึงเนื้อที่หนืดข้น เราใช้โทนเนอร์เพื่อเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกหรือสารตกค้างบนผิวหนังหลังล้างหน้าและเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงขั้นถัดไป โทนเนอร์มีหลายสูตร ได้แก่ Alcohol-based, Water based, Hydrating toners ซึ่งมีประโยชน์แตกต่างกันออกไปตามแต่ละสภาพผิว

สำหรับวิธีใช้ เราสามารถใช้ร่วมกับสำลีที่แห้งสะอาด หรือจะเทลงฝ่ามือหรือเทลงผิวหน้าโดยตรงก็ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์และสภาพผิวหน้า ตัวอย่างเช่น การเทโทนเนอร์ที่มีเนื้อข้นหนืดลงบนสำลีอาจจะกระจายตัวได้ไม่ดี ดูดซึมไม่ทั่วทั้งแผ่น ทำให้ใช้งานค่อนข้างยาก ส่วนคนที่มีสภาพผิวหน้าของเป็นสิวง่ายหรือผิวบอบบางแพ้ง่าย การใช้สำลีอาจจะจำเป็นมากกว่าเพราะลดการเสียดสีและระคายเคืองได้

กรณีที่ใช้สำลี ให้เช็ดทั่วใบหน้า หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและรอบจมูกแล้วเช็ดลงมาถึงบริเวณคอ หากเทลงบนมือให้ใช้ปลายนิ้วกระจายเนื้อผลิตภัณฑ์จนทั่วใบหน้าและเน้นตรงบริเวณหน้าแก้มหรือจุดที่มีปัญหา รอให้โทนเนอร์ซึมลงไปที่ชั้นผิวหนัง หลังจากนั้นค่อยลงสกินแคร์ชนิดอื่น เช่น เซรั่ม โลชั่น หรือครีม

วิธีการเลือกโทนเนอร์

เราควรเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ผิวทั่วไปที่ไม่มีปัญหาผิวเป็นพิเศษโดยเลือกจากสภาพผิวต่าง ๆ ผิวรูขุมขนกว้าง ผิวเป็นสิวง่าย และผิวแพ้ง่าย

① เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์และส่วนผสมตามสภาพผิว สำหรับสภาพผิวทั่วไปที่ไม่มีปัญหาผิวเป็นพิเศษ

สำหรับผิวทั่วไปที่ไม่มีปัญหาผิวเป็นพิเศษ ควรเลือกตามสภาพผิวเป็นหลัก คือ ผิวมัน ผิวแห้ง และผิวผสม ซึ่งแต่ละสภาพผิวต้องการโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป

เลือกโทนเนอร์เนื้อบางและใส มีส่วนผสมทำความสะอาดผิว สำหรับผิวมัน

เลือกโทนเนอร์เนื้อบางและใส มีส่วนผสมทำความสะอาดผิว สำหรับผิวมัน

โทนเนอร์ที่มีลักษณะเป็นน้ำเหลวใส เนื้อบางเบา เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน เนื่องจากทำให้ผิวหน้าไม่ดูมันและเหนอะหนะจนเกินไปหลังจากทาครีมบำรุง อีกทั้ง คนผิวมันควรเน้นการทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด โดยเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยชะล้างคราบสกปรกและความมันส่วนเกินบนผิวหนัง เช่น สารกลุ่ม AHA อย่าง Glycolic Acid, Citric Acid ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าให้หลุดออกได้ง่าย และ กลุ่ม BHA อย่าง Salicylic Acid ซึ่งมีฤทธิ์ขจัดไขมันที่อยู่ตามรูขุมขน รวมไปถึงส่วนผสมจำพวก Witch Hazel และ Tea Tree oil ที่ช่วยลดการสร้างน้ำมันใต้ผิวหนังและกำจัดคราบมันบนใบหน้าได้ดี 


นอกจากนี้ ผู้มีผิวหน้ามันอาจใช้โทนเนอร์ร่วมกับสำลี เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดได้มากขึ้น ทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกมาได้มากกว่าการเทผลิตภัณฑ์ลงบนใบหน้าหรือฝ่ามือโดยตรง

เลือกโทนเนอร์เนื้อหนืดหรือข้น มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น สำหรับผิวแห้ง

เลือกโทนเนอร์เนื้อหนืดหรือข้น มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น สำหรับผิวแห้ง
ผู้ที่มีผิวแห้งควรใช้โทนเนอร์ที่มีลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เหลวข้นถึงหนืด เพราะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่าเนื้อแบบเหลว และเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของสารที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ได้แก่ Urea, Hyaluronic Acid, Sorbitol, Honey, Glycerin, Panthenol เป็นต้น เพราะสารเหล่านี้มีคุณสมบัติดูดความชุ่มชื้นจากอากาศและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเข้ามาที่ผิวหนัง ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่นมากขึ้น ไม่ลอกหรือแห้งกร้าน ป้องกันการระคายเคืองที่เกิดจากความแห้ง ทำให้ผิวแข็งแรงพร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป

เลือกโทนเนอร์เนื้อทุกรูปแบบ มีส่วนผสมปรับสมดุลผิว สำหรับผิวผสม

เลือกโทนเนอร์เนื้อทุกรูปแบบ มีส่วนผสมปรับสมดุลผิว สำหรับผิวผสม
ผู้ที่มีผิวผสมสามารถเลือกใช้โทนเนอร์ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโทนเนอร์ที่มีลักษณะเหลวใสหรือหนืดข้น ขึ้นอยู่กับปัญหาสภาพผิวในแต่ละวัน ช่วงไหนที่รู้สึกว่าผิวแห้งก็อาจเลือกแบบที่ข้นหนืดเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว หากช่วงไหนรู้สึกว่าผิวมันมากขึ้นก็อาจเลือกโทนเนอร์ที่มีเนื้อเหลวใสเพื่อไม่ให้หน้ามันมากเกินไป

สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาผิวเป็นพิเศษ เราแนะนำให้เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมช่วยปรับสมดุลสภาพผิว (pH balance) ทำให้ผิวมีค่า pH อยู่ที่ 4.5 - 5.5 หรือกรดอ่อนๆ ซึ่งเป็นภาวะที่ผิวสามารถทำหน้าที่กักเก็บน้ำได้ดีที่สุด ลดการระเหยของน้ำออกจากผิวหนัง รวมทั้งป้องกันมลภาวะ แบคทีเรียและสารระคายเคืองต่าง ๆ โดยส่วนผสมช่วยปรับสมดุลสภาพผิวหน้า ได้แก่ สารที่เป็นกรดอ่อน ๆ  Citric Acid, Glycolic Acid และสารที่เป็นด่าง เช่น Sodium Hydroxide, Potassium Hydroxide และสาร Disodium EDTA ที่เป็นตัวช่วยคงสภาวะของ pH ในโทนเนอร์

② เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมทำความสะอาดผิวและลดความมัน สำหรับผิวรูขุมขนกว้าง

สำหรับผิวรูขุมขนกว้าง ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมทำความสะอาดรูขุมขนร่วมกับการใช้สำลีที่ถูกต้อง และมีสารบำรุงที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า

เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมทำความสะอาดรูขุมขนร่วมกับการใช้สำลีที่ถูกต้อง

เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมทำความสะอาดรูขุมขนร่วมกับการใช้สำลีที่ถูกต้อง
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้รูขุมขนกว้าง คือ ผิวหนังของเราผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ดังนั้น เราควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ Astringent หรือสารที่ช่วยทำความสะอาดไขมันและสิ่งสกปรกในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกระชับและผิวเรียบเนียนมากขึ้น ได้แก่ Alcohol, Witch Hazel, Tea Tree oil, Salicylic Acid เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Salicylic Acid ที่สามารถซึมลงผ่านเข้าสู่รูขุมขนได้ดีที่สุด ทำให้สามารถชำระล้างไขมันและสิ่งอุดตันได้อย่างล้ำลึก

นอกจากนี้ การใช้สำลีที่ไม่ถูกวิธีอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้รูขุมขนกว้างได้ เช่น การใช้เนื้อสำลีเนื้อหยาบ การเทผลิตภัณฑ์ลงบนสำลีปริมาณน้อยเกินไปทำให้เนื้อสำลีเสียดสีกับใบหน้า หรือการเช็ดที่แรงเกินไปก็ล้วนส่งผลให้รูขุมขนใหญ่ขึ้น ดังนั้น เราจึงควรใช้สำลีให้ถูกวิธีโดยเลือกสำลีเนื้อนุ่ม เทโทนเนอร์ในปริมาณที่เหมาะสมและเช็ดใบหน้าของเราด้วยความอ่อนโยน

เลือกโทนเนอร์ที่มีสารบำรุงช่วยลดความมันบนใบหน้า

เลือกโทนเนอร์ที่มีสารบำรุงช่วยลดความมันบนใบหน้า

คุณสมบัติการทำความสะอาดรูขุมขนอาจไม่เพียงพอสำหรับผิวรูขุมขนกว้าง แต่ยังจำเป็นที่จะต้องควบคุมความมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย เพราะสภาพผิวที่มันมีส่วนทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน ดังนั้น นอกเหนือจากส่วนผสมที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนแล้ว ผู้มีปัญหารูขุมขนกว้างควรมองหาโทนเนอร์ที่มีสารบำรุงที่ช่วยลดความมันเป็นส่วนประกอบด้วย เช่น Zinc, Niacinamide, Panthenol, Tea Tree Oil, Retinoid, Licorice Extract ฯลฯ เพื่อขจัดน้ำมันส่วนเกินที่ร่างกายผลิตออกมา ลดโอกาสที่รูขุมขนจะอุดตันและเกิดสิวจนทำให้รูขุมขนใหญ่และกว้างขึ้นนั่นเอง

③ เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมลดการเกิดสิวหรือลดรอยสิว สำหรับผิวเป็นสิวง่าย

เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมลดการเกิดสิวหรือลดรอยสิว สำหรับผิวเป็นสิวง่าย

ผู้ที่มีปัญหาสิวหรือมีผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่ายควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดการเกิดสิว ตัวอย่างเช่น Tea Tree Oil เพราะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ P.acne ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่กระตุ้นให้เกิดสิว หรือจะเป็นสาร Benzoyl peroxide และ Witch Hazel ที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวของเราและบรรเทาอาการอักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้

นอกจากคุณสมบัติลดการเกิดสิวแล้ว เราควรเลือกโทนเนอร์ส่วนผสมที่ช่วยลดรอยสิวด้วยเพื่อให้ใบหน้าดูกระจ่างใสและสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น โดยส่วนผสมจะแบ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยลดรอยดำและกลุ่มสำหรับลดรอยแดง สารที่ช่วยลดรอยดำที่เกิดจากสิว ได้แก่ Thiamidol, Retinoid, Arbutin, Tranexamic Acid หรือวิตามินซี ส่วนสารที่มีสรรพคุณลดรอยแดงของสิว ได้แก่ Niacinamide, Licorice Extract, Allantoin เป็นต้น

ในขณะเดียวกัน ผู้ที่เป็นสิวง่ายควรหลีกเลี่ยงสารบางชนิดในโทนเนอร์ที่อาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ เช่น Coconut Oil, Isopropyl Myristate, Silicone, Lanolin รวมไปถึงสารอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น Sodium Lauryl Sulfate, Fragrances, Alcohol ที่มีความเข้มข้นสูงก็สามารถก่อให้เกิดสิวได้เช่นกัน

④ เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมสร้างความแข็งแรงให้ผิว สำหรับผิวแพ้ง่าย

เลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมสร้างความแข็งแรงให้ผิว สำหรับผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่ายมักจะมีลักษณะบอบบาง ไวต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้น สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายกว่าปกติ เราแนะนำให้ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนประกอบของสารบำรุงที่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เช่น Niacinamide, Ceramide, Hyaluronic Acid, Glycerin เพราะสารเหล่านี้เป็นสารที่มีสรรพคุณลดการอักเสบและระคายเคือง ช่วยเคลือบผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียของน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิวของเรา เมื่อผิวแข็งแรงขึ้น การบำรุงในขั้นตอนต่อไปก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

⑤ หลีกเลี่ยงส่วนประกอบในโทนเนอร์ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองง่าย

หลีกเลี่ยงส่วนประกอบในโทนเนอร์ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองง่าย

ในผลิตภัณฑ์โทนเนอร์แต่ละยี่ห้อหรือแต่ละสูตรอาจมีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการแพ้และการระคายเคือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย ส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ สารที่ออกฤทธิ์ขจัดเซลล์ผิว เช่น สารกลุ่ม AHA อย่าง Glycolic Acid, Lactic acid และกลุ่ม BHA อย่าง Salicylic Acid, Retinoids หรือสารมีสรรพคุณทำให้ผิวขาว เช่น Retinoids, Vit C, Kojic Acid, Bakuchiol รวมไปถึงสารที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยบางชนิดด้วย ผู้ที่แพ้สารเหล่านี้ อาจมีอาการแสบ คัน สิวขึ้น เกิดผื่นหรือมีลักษณะบวมแดงที่ผิวหนัง โดยอาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละราย เพราะฉะนั้น เราจึงควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมข้างต้นเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง

วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
ใช้ได้
ใช้ไม่ได้

10 อันดับ โทนเนอร์ ยี่ห้อไหนดี ทำความสะอาดผิว กระชับรูขุมขน

โทนเนอร์แบบไหนหรือยี่ห้อไหนที่น่าสนใจ ทั้งยังมีคุณสมบัติที่เหมาะกับสภาพผิวแต่ละประเภท 10 อันดับ โทนเนอร์ ตามรายการด้านล่างนี้จะช่วยให้เราเลือกได้ง่ายมากขึ้น
สินค้า
รูปภาพ
ราคาต่ำสุด
คะแนน
1

ANUA

โทนเนอร์ Heartleaf 77% Soothing Toner

ANUA โทนเนอร์ Heartleaf 77% Soothing Toner 1枚目

โทนเนอร์พี่จุนตัวดัง อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้ระคายเคือง

2

SKIN1004

โทนเนอร์ Madagascar Centella Toning

SKIN1004  โทนเนอร์ Madagascar Centella Toning 1枚目

มี PHA ช่วยทำความสะอาดหมดจด ไม่ระคายเคือง ใช้ได้ทุกวัน

3

Round Lab

โทนเนอร์ 1025 Dokdo

Round Lab  โทนเนอร์ 1025 Dokdo 1枚目

เติมความชุ่มชื้นด้วย Vitamin B5 และสารสกัดจากสาหร่ายทะเล

4

THAYERS

โทนเนอร์ Alcohol-Free Rose Petal Witch Hazel

THAYERS โทนเนอร์ Alcohol-Free Rose Petal Witch Hazel 1枚目

ใช้ได้ทุกสภาพผิว มีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมและฟื้นบำรุงผิว

5

SOS

โทนเนอร์ Hyaluron pH Balancing

SOS โทนเนอร์ Hyaluron  pH Balancing 1枚目

ช่วยสภาพค่าสมดุล pH ของผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงขั้นถัดไป

6

Pixi

โทนเนอร์ Glow Tonic

Pixi  โทนเนอร์ Glow Tonic 1枚目

มีส่วนช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิว ปรับสมดุล pH ลดการรระคายเคือง

7

innisfree

โทนเนอร์ Green Tea Seed Skin

innisfree  โทนเนอร์ Green Tea Seed Skin 1枚目

มีชาเขียวที่อยู่ในกลุ่ม Antioxidants บำรุงผิวให้นุ่ม ไม่แห้งกร้าน

8

SOME BY MI

โทนเนอร์ AHA-BHA-PHA 30DAYS MIRACLE

SOME BY MI โทนเนอร์ AHA-BHA-PHA 30DAYS MIRACLE  1枚目

ทำความสะอาดได้หมดจด ช่วยลดอาการอักเสบ ควบคุมความมัน

9

LANCOME

โทนเนอร์ Tonique Confort

LANCOME โทนเนอร์ Tonique Confort 1枚目

เน้นการบำรุงความชุ่มชื้นเป็นหลัก ฟื้นฟูผิวจากการโดน UV ทำร้าย

10

Eucerin

โทนเนอร์ Pro Acne Solution

Eucerin  โทนเนอร์ Pro Acne Solution 1枚目

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ ลดความมันและสิวอุดตัน

รายละเอียดสินค้า
ปิด
หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1

ANUAโทนเนอร์ Heartleaf 77% Soothing Toner

โทนเนอร์ Heartleaf 77% Soothing Toner รูป 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
790 บาท

โทนเนอร์พี่จุนตัวดัง อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้ระคายเคือง

หากพูดถึงโทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมในวงกว้างก็ต้องเป็นแอนนัว ฮาร์ทลีฟหรือ “โทนเนอร์พี่จุน” มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากดอกคุณนายตื่นสายที่เป็น Anti-Aging, สารสกัดจากดอกคาโมมายล์, สารสกัดจากใบบัวบก, สารสกัดจากรากไม้โกโบ และสารสกัดจากองุ่น มีคุณสมบัติเป็น Antioxidants ช่วยลดอาการอักเสบ สารสกัดจากแอปเปิ้ล และสารสกัด Heartleaf กว่า 77% 


ปราศจากน้ำหอม, แอลกอฮอล์, พาราเบน, ซิลิโคน สามารถใช้เป็นมาส์กสำหรับ Night Routine ได้ ใช้ได้ทุกวันทั้งเช้าและก่อนนอน เนื้อสัมผัสเป็นแบบใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นปรุงแต่งใด ๆ ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองสำหรับทุกสภาพผิว บางเบาซึมไว สามารถลงสกินแคร์ต่อได้ทันทีไม่ต้องรอเลยค่ะ

การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
ใช้ได้
ใช้ไม่ได้
No.2

SKIN1004 โทนเนอร์ Madagascar Centella Toning

มี PHA ช่วยทำความสะอาดหมดจด ไม่ระคายเคือง ใช้ได้ทุกวัน

โทนเนอร์จาก SKIN1004 สูตรที่มาพร้อมกับส่วนผสมในกลุ่ม Exfoliate อย่าง PHA แต่ข้อดีของกรดชนิดนี้คือมีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่กว่ากรดชนิด AHA และ BHA จึงทำความสะอาดได้แค่บริเวณผิวชั้นนอกสุด ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองน้อยกว่า จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมากกว่านั่นเอง พร้อมด้วย Hyaluronic Acid ช่วยเติมน้ำให้กับผิว เปิดรูขุมขนให้พร้อมรับการบำรุง


อีกทั้งทางแบรนด์ยังได้เลือกใส่สารสกัดจากใบบัวบกและสารสกัดจากชะเอมเทศลงมาด้วยเพื่อปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ รวมถึง Niacinamide หรือ Vitamin B3 คืนความชุ่มชื้นให้ผิว ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และเป็นสูตร Essential Oil-free ทำให้สามารถใช้ติดต่อกันได้ทุกวันเลยค่ะ

No.3

เติมความชุ่มชื้นด้วย Vitamin B5 และสารสกัดจากสาหร่ายทะเล

โทนเนอร์จาก Round Lab เป็นโทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับแบรนด์อื่น ๆ เลยค่ะ เพราะคอนเซปต์หลักของแบรนด์คือพยายามเลือกใช้แต่ส่วนผสมจากธรรมชาติและอ่อนโยนกับผิว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ส่วนผสมหลักภายในโทนเนอร์ขวดนี้จะเน้นไปที่การเติมความชุ่มชื้นให้กับด้วย Moisturizer ทั้งหมด 5 ชนิด ช่วยปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน และ Pro-Vitamin B5 


นอกเหนือจากนั้นยังมีสารสกัดจากสาหร่ายแดงช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของชั้นผิวด้านนอก ขณะเดียวก็มีสารสกัดจากต้นอ้อยที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับ AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะระคายเคือง เพราะว่าทางแบรนด์ใส่มาในปริมาณเล็กน้อย ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองเท่าสูตร AHA โดยเฉพาะค่ะ

No.4

THAYERSโทนเนอร์ Alcohol-Free Rose Petal Witch Hazel

ใช้ได้ทุกสภาพผิว มีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมและฟื้นบำรุงผิว

โทนเนอร์ขวดนี้จาก THAYERS เป็นสูตรที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน, ผิวผสม หรือผู้ที่มีปัญหาสิว มีส่วนผสมของสารสกัดจาก Witch Hazel ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของ Calm Essentiel และ Antioxidants มีส่วนช่วยในเรื่องของการควบคุมความมัน ลดการเกิดสิวอักเสบ สิวอุดตัน คุณสมบัติช่วยปลอบประโลม ฟื้นฟู และบำรุงผิวจากอาการระคายเคือง ลดอาการอักเสบ พร้อมทั้ง Glycerin กักเก็บน้ำให้ผิว


โดดเด่นด้วยสารสกัดจากดอกกุหลาบช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และสารสกัดจากว่านหางจระเข้ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่ม ป้องกันผิวแห้งกร้าน ปราศจากพาราเบนและซิลิโคน สามารถเช็ดด้วยสำลีหรือจะมาส์กทิ้งไว้ 10 - 15 นาทีเพื่อบำรุงผิวก่อนลงเซรั่มก็ได้เช่นกันค่ะ

No.5

SOSโทนเนอร์ Hyaluron pH Balancing

ช่วยสภาพค่าสมดุล pH ของผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงขั้นถัดไป

อีกหนึ่งโทนเนอร์จากแบรนด์ญี่ปุ่นกับ SOS Hyaluron pH Balancing โดยขวดนี้มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น Portulaca Oleracea หรือที่รู้จักในชื่อของดอกคุณนายตื่นสายที่จัดอยู่ในกลุ่มของ Antioxidants และ Anti-Aging สามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV มีส่วนช่วยในเรื่องของลดการอักเสบ รอยแดง และช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจาก ALGAE หรือสาหร่ายช่วยดูดซับสารพิษและสกปรกตกค้าง


นอกจากนี้ ยังมี Beta Glucan ช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวให้เหมาะสม พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป ในส่วนของเนื้อสัมผัสค่อนข้างบางเบา ซึมไว และไม่เหนียว เป็นของเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำมัน และไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการอุดตัน

No.6

มีส่วนช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิว ปรับสมดุล pH ลดการรระคายเคือง

Glow Tonic จากแบรนด์ Pixi เป็นโทนเนอร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว เพราะมีส่วนผสมหลักเป็น Glycolic Acid (AHA) ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน ปรับสภาพให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น มี Pro-Vitamin B5 เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว อีกทั้งยังช่วยลดอาการอักเสบ อาการแพ้ หรืออาการคัน นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากเกาลัด, สารสกัดจาก Witch-Hazel ช่วยขจัดสิ่งสกปรกตามรูขุมขน


ขณะเดียวกันก็ปลอบประโลมไม่ให้ระคายเคืองจาก AHA ด้วยสารสกัดจากว่านหางจระเข้, สารสกัดจากโสมเกาหลี นอกจากนี้ยังมี Aspartic Acid ที่ช่วยปรับสมดุล pH ของผิวให้พร้อมสำหรับการลงสกินแคร์ขั้นต่อไปอีกด้วย แต่ขอแนะนำให้ใช้เฉพาะช่วงกลางคืนเพราะว่า AHA อาจทำให้ผิวไวต่อแสงได้นั่นเองค่ะ

No.7

innisfree โทนเนอร์ Green Tea Seed Skin

มีชาเขียวที่อยู่ในกลุ่ม Antioxidants บำรุงผิวให้นุ่ม ไม่แห้งกร้าน

innisfree อีกหนึ่งแบรนด์ชื่อดังจากเกาหลีใต้ที่โด่งดังเป็นพิเศษด้วยส่วนผสมตัวดังของแบรนด์ อย่างชาเขียว (Green Tea Water 2.0™) ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ผ่านการควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูกตลอดจนขั้นตอนกลั่นออกมาอย่างพิถีพิถัน มีคุณสมบัติเป็นสาร Antioxidants ช่วยฟื้นฟูผิวที่โดนทำร้ายจากแสงแดด ลดอาการอักเสบ และลดการก่อตัวของแบบคทีเรียได้ในระดับหนึ่ง


ที่สำคัญ ยังมีส่วนผสมในกลุ่ม Moisturizer ทำหน้ากักเก็บน้ำให้ผิวไม่ให้แห้งกร้าน เป็นสูตรเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งเพราะว่าปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่มี Essential Oil และเลือกใช้สารกันเสียชนิดที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากชาเขียวให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

No.8

SOME BY MIโทนเนอร์ AHA-BHA-PHA 30DAYS MIRACLE

ทำความสะอาดได้หมดจด ช่วยลดอาการอักเสบ ควบคุมความมัน

สำหรับโทนเนอร์ขวดนี้เป็นสูตรที่ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นสูตรผลัดเซลล์ผิวเก่าและเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ มีส่วนผสมที่สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าได้ถึง 3 ชนิด ได้แก่ AHA, BHA และ PHA ซึ่งข้อดีคือแต่ละชนิดมีขนาดโมเลกุลแตกต่างกัน ทำให้สามารถตรงเข้าทำความสะอาดรูขุมขุนและผลัดเซลล์ผิวเก่าได้อย่างสะอาดหมดจด ลดปัญหาสิวอุดตัน ควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า


นอกจากนี้ ยังมี Niacinamide (Vitamin B3) และ Sodium Hyaluronate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นไม่ให้ผิวแห้งเกินไปจากการผลัดเซลล์ผิว พร้อมทั้ง Adenosine ที่ช่วยลดอาการระคายเคือง และสารสกัดจาก Witch Hazel ช่วยลดอาการอักเสบ สามารถใช้เป็นประจำแต่แนะนำให้เว้นช่วงบ้างในหนึ่งสัปดาห์เพื่อป้องกันผิวบอบบางค่ะ

No.9

LANCOMEโทนเนอร์ Tonique Confort

เน้นการบำรุงความชุ่มชื้นเป็นหลัก ฟื้นฟูผิวจากการโดน UV ทำร้าย

Tonique Confort Hydrating เป็นโทนเนอร์ที่ทาง LANCOME เลือกชูส่วนผสมหลัก 2 ชนิด อย่างสารสกัดจากน้ำผึ้ง มีส่วนช่วยในเรื่องของการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว พร้อมทั้งมีคุณสมบัติในการช่วยลดการสะสมตัวของแบคทีเรียบนผิวหนัง และสารสกัดจากน้ำมันอัลมอนด์ (Sweet Almond Oil) ที่อุดมไปด้วย Vitamin A, Zinc และ Omega-3 ที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากการโดนแสงแดดทำร้ายในชีวิตประจำวัน


โดดเด่นด้วย Vitamin E ชนิดที่มีความเสถียรและ Glycerin ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว บำรุงผิวให้ผิวชุ่มชื้นพร้อมสำหรับการลงสกินแคร์ตัวต่อไปอย่างเซรั่มหรือเอสเซนต์ ปราศจากแอลกอฮอล์ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สไตล์ Floral จากสารสกัดธรรมชาติเพิ่มความสดชื่น แต่ไม่ทำให้ฉุนจมูกค่ะ

No.10

Eucerin โทนเนอร์ Pro Acne Solution

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ ลดความมันและสิวอุดตัน

Eucerin Pro ACNE Solution เป็นโทนเนอร์สูตรสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ ส่วนผสมภายในขวดนี้มีเฉพาะสารที่สำคัญเท่านั้น โดยทางแบรนด์ได้เลือกเป็น Lactic Acid ที่จัดอยู่ในตระกูล AHA เลือกใส่มาในปริมาณที่ไม่เกิน 10% มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกได้อย่างอ่อนโยน ช่วยปรับสมดุลผิวให้มีค่า pH เป็นกลางที่พอเหมาะ สลายความมันอุดตันสะสมที่เป็นต้นตอปัญหาสิว


อีกทั้งยังเป็นสูตร Non-comedogenic ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการอุดตัน แต่เนื่องจากโทนเนอร์ขวดนี้เลือกใส่มาเฉพาะส่วนผสม AHA เพียงอย่างเดียว จึงขอแนะนำให้เช็ดด้วยสำลีเฉพาะบริเวณ T-Zone หรือเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาสิวโดยไม่ต้องล้างออก และควรลงสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นตามทันทีค่ะ

บทส่งท้าย

แม้เราจะสามารถเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของเราได้แล้วตามที่ได้เสนอไปในวิธีการเลือกข้างต้น เราก็ควรทดลองใช้โทนเนอร์ก่อนใช้จริง โดยทดสอบการแพ้หรือระคายเคืองบนผิวหนังโทนเนอร์ในปริมาณเล็กน้อย วิธีการทดสอบทำได้ง่าย ๆ คือ ทาบริเวณใต้ท้องแขนแล้วสังเกตอาการหรือความเปลี่ยนแปลงบริเวณที่เราทาอย่างน้อย 24 ชม. หากไม่เกิดอาการระคายเคืองใดบนพื้นที่นั้นก็สามารถใช้โทนเนอร์ได้อย่างปลอดภัย

TOP 5 โทนเนอร์ แนะนำ

อันดับที่ 1: ANUA | โทนเนอร์ Heartleaf 77% Soothing Toner

อันดับที่ 2: SKIN1004 | โทนเนอร์ Madagascar Centella Toning

อันดับที่ 3: Round Lab | โทนเนอร์ 1025 Dokdo

อันดับที่ 4: THAYERS | โทนเนอร์ Alcohol-Free Rose Petal Witch Hazel

อันดับที่ 5: SOS | โทนเนอร์ Hyaluron pH Balancing

คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับ

mybest อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นบางส่วนเมื่อกดซื้อสินค้าในเว็บไซต์
ข้อมูลสินค้าหรือบริการแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาของผู้ผลิตและเว็บไซต์ e-commerce

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง

บทความยอดนิยม

ค้นหาตามหมวดหมู่