10 น้ำยาบ้วนปาก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ขจัดคราบ ลดกลิ่นปาก

สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรักษาความสะอาดให้กับช่องปากทั่วไปหรือเพิ่มความมั่นใจในระหว่างวัน สามารถเลือกสูตรที่ป้องกันฟันผุทั่วไปได้ รวมทั้งเลือกสูตรที่ให้ลมหายใจหอมสดชื่น โดยขอแนะนำการเลือกเบื้องต้น ดังนี้

คราบหินปูนที่เกาะอยู่บนผิวฟันนั้นมาจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์ ซึ่งในการแปรงฟันปกติอาจกำจัดคราบเหล่านี้ได้ไม่หมด ดังนั้น คนที่มีปัญหาคราบหินปูนจึงสามารถเลือกใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารทำความสะอาด เช่น 

• อีรีทรีทอล (Erythritol) 
• เตตระโซเดียม ไพโรฟอสเฟต (Tetra Sodium Pyrophosphate) 
• คลอเฮกซิดีน (Chlorhexidine) 

โดยสารในกลุ่มนี้จะช่วยกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ที่สะสมจนเป็นคราบพลัคหรือหินปูนให้หลุดออกไปได้ พร้อมเคลือบฟันเพื่อป้องกันการสะสมของคราบ รวมทั้งยังช่วยรักษาโรคปริทันต์อักเสบได้

ทั้งนี้ การเลือกน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมในกลุ่มนี้ ควรเลือกสูตรที่มีปริมาณเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย และเพื่อสุขอนามัยที่ดีของช่องปาก ก็ควรจะต้องขูดหินปูนโดยทันตแพทย์ ปีละ 2 ครั้ง หรือทุก ๆ 6 เดือน เพื่อกำจัดคราบหินปูนที่สะสมอยู่ทั้งบริเวณผิวฟันและซอกฟัน

ปัญหาฟันเหลืองจากการดื่มชา กาแฟ รวมถึงการสูบบุหรี่ อาจส่งผลต่อบุคลิกภาพได้ ดังนั้นใครที่ต้องการลดปัญหาคราบเหลืองเพิ่มเติมจากการแปรงฟันและทำให้ฟันขาวขึ้น ขอแนะนำให้เลือกน้ำยาบ้วนปากที่มีสารช่วยฟอกสีฟันหรือสารลดคราบจำพวก Peroxide เช่น Hydrogen Peroxide หรือ Carbamide Peroxide เป็นต้น

ทั้งนี้ สารในกลุ่ม Peroxide จะช่วยทำให้ฟันขาวได้ แต่ต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน โดยการทำงานของสารนี้จะช่วยเปลี่ยนคราบเหลืองให้ไม่มีสี แต่จะไม่ได้กำจัดคราบออกแต่อย่างใด อีกทั้งอาจจะพบผลข้างเคียงคือมีอาการเสียวฟัน หรือมีอาการระคายเคืองในช่องปากได้

นอกจากนี้ การสะสมของคราบบนผิวฟันก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฟันดูเหลืองได้เช่นกัน จึงอาจเลือกใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีองค์ประกอบของ Chlorhexidine ที่เป็นสารช่วยกำจัดคราบและ Cetylpyridinium Chloride ที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียและจุลินทรีย์ ซึ่งก่อให้เกิดคราบบนฟันได้ เพียงแต่จะเห็นผลน้อยในเรื่องของการฟอกฟันให้ขาว

ดังนั้น หากใครที่ต้องการฟอกฟันให้ขาวแบบทันใจแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับฟอกสีฟันโดยเฉพาะจะมีประสิทธิภาพมากกว่า เพียงแต่ควรจะต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์ด้วย

ผู้ที่มีอาการอักเสบของเหงือกจนทำให้รู้สึกปวดฟันก็สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อบรรเทาอาการได้ โดยแนะนำให้เลือกสูตรที่มีส่วนผสมของสารคลอร์เฮกซิดีน (Chlorhexidine) เป็นหลัก ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการอักเสบตั้งแต่ระยะธรรมดาไปจนถึงระยะรุนแรง โดยเป็นสารที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และรักษาการติดเชื้อในช่องปาก จึงลดการอักเสบของเหงือกจากการสะสมคราบจุลินทรีย์จนทำให้เหงือกบวมได้

นอกจากนี้ ยังมีสูตรที่มีสารจำพวกเกลือ เช่น Sodium Bicarbonate หรือ Calcium Carbonate ที่จะช่วยลดการอักเสบของเหงือกและปรับสมดุลของ pH ในช่องปากให้มีความเป็นกลางมากขึ้น รวมถึงสารในกลุ่มสมุนไพรหรือสารสกัดจากธรรมชาติ ที่สามารถออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบได้

ทั้งนี้ การใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อลดปัญหาเหงือกอักเสบจะบรรเทาอาการอักเสบได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ควรจะต้องพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม ไม่ควรปล่อยทิ้งเอาไว้ เพราะอาจจะอักเสบหนักและลุกลามจนถึงรากฟันได้

การมีเครื่องมือจัดฟันในช่องปากอาจทำให้การทำความสะอาดฟันไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะในซอกฟันที่อยู่ลึก ทำให้เกิดการสะสมของคราบหินปูนและสิ่งสกปรก ทั้งยังเสี่ยงต่อปัญหาเหงือกอักเสบและฟันผุได้ง่ายกว่าคนทั่วไป 

ดังนั้นจึงมีการแนะนำให้คนจัดฟันใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นผลิตภัณฑ์เสริมจากการแปรงฟันด้วย โดยควรจะเป็นสูตรที่ถูกออกแบบมาเพื่อคนจัดฟันโดยเฉพาะ ซึ่งสูตรเหล่านี้มักจะมีสาร CPC ที่เป็นสารกำจัดแบคทีเรียที่เหมาะสม อีกทั้งยังมีฟลูออไรด์ในสัดส่วนที่เพียงพอสำหรับคนจัดฟัน รวมไปถึงสารชนิดอื่น ๆ ที่จะช่วยปรับสมดุลภายในช่องปาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียที่ไม่ดี

นอกจากนี้ ผู้ที่จัดฟันอาจต้องมีการใช้น้ำยาบ้วนปากบ่อยและถี่กว่าคนทั่วไป ซึ่งน้ำยาบ้วนปากสูตรสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะจะมีความอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ระคายเคืองช่องปาก เช่น แอลกอฮอล์ อีกด้วย