Top 5 เครื่องเสียงบ้าน ยอดนิยม
จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัย ราชมงคล ล้านนา ปัจจุบันทำงานเป็นอาจารย์ประจำ และใช้เวลาว่างในการทำช่อง Youtube "แมวนูน" ในการรีวิว Gadget และ เครื่องเล่นเกมใหม่ ๆ เพื่อเติมเต็มความชอบส่วนตัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก ๆ และติดตามข่าวเกมเป็นประจำ ทั้ง PlayStation, Nintendo, XBOX อีกทั้งยังชอบดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือและการ์ตูน
คุณมอสเป็นคนที่สนใจในเครื่องใช้ไฟฟ้า แกดเจ็ต กล้อง โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีมาตั้งแต่เด็ก เพราะเติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยปัจจุบันยังคงติดตามข่าวสารวงการไอทีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ เทคโนโลยีล่าสุด หรือแนวโน้มของตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากการอัปเดตข้อมูลสินค้าไอทีแล้ว คุณมอสยังชื่นชอบงานช่างและ DIY โดยมักซ่อมแซมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยตัวเองเป็นประจำ ทำให้มีความเข้าใจเรื่องโครงสร้างและฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น ความชอบนี้ช่วยให้คุณมอสสามารถเปรียบเทียบจุดเด่นจุดด้อยของสินค้าเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้อย่างชัดเจน ทำให้สนุกกับการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ไอที ทั้งในแง่ของการเลือกซื้อ อัปเกรด และดูแลรักษา เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองได้อย่างคุ้มค่า
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
สิ่งที่สำคัญเวลาเลือกซื้อเครื่องเสียงบ้านมีอยู่หลายปัจจัย หากเราทราบข้อมูลพื้นฐานก็จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อได้มากขึ้น วันนี้เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกชุดเครื่องเสียงบ้านมาฝากทุกคนกันด้วย
ชุดเครื่องเสียงบ้านนั้นมีหลายรูปแบบให้เลือก ดังนั้น อันดับแรกเราขอแนะนำให้คุณลองเลือกชุดเครื่องเสียงที่เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพแวดล้อมภายในบ้านคุณจะดีที่สุด
หากคุณมีพื้นที่ห้องขนาดใหญ่หรือบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวาง การเร่งเสียงจากลำโพงเพียงสองตัวอาจไม่ใช่การฟังเพลงที่รื่นรมย์นัก เพราะอาจต้องเร่งเสียงดังเกินความจำเป็นจนรบกวนรอบข้าง และอาจเกินกำลังขับของชุดเครื่องเสียงที่อาจจะดังมากเพียงพอแต่เสียงไม่ได้ไพเราะเท่าไหร่นัก การพิจารณาชุดลำโพงแบบหลายตัวก็อาจทำให้ประสบการณ์ในการฟังเพลงดีขึ้น อีกทั้งในแง่ทิศทางของเสียงก็มีความชัดเจนมากกว่าการจำลองเสียงที่ผ่านลำโพงไม่กี่ตัว
ดังนั้นแนะนำให้เลือกลำโพงแบบ Multi-Speaker ซึ่งเป็นลำโพงที่ให้เสียงแบบกระหึ่ม มีพลัง โดยส่วนใหญ่แล้วลำโพงประเภทนี้จะประกอบด้วยลำโพงข้างโทรทัศน์ 3 ตัว ลำโพงด้านหลัง 2 ตัว และมีลำโพง Subwoofer เพื่อเพิ่มเสียงทุ้มต่ำอีก 1 ตัว เหมาะกับการเพลิดเพลินกับเสียงที่สมจริง เข้าถึงอารมณ์ภาพยนตร์และเพลงได้อย่างจุใจ แต่อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้ใช้กับห้องที่มีขนาดมากกว่า 15 ตารางเมตร เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้ยุ่งยากในการเชื่อมต่อและเปลืองพื้นที่
หากห้องของคุณมีขนาดไม่ใหญ่มากนักและไม่ได้ซีเรียสเรื่องเสียงมาก แต่ต้องการอัปเกรดเสียงทีวีสู่ความบันเทิงในระดับ Home Theater การเลือกใช้ Sound Bar ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากใช้พื้นที่ไม่มาก เสียงดีกว่าฟังจากทีวี ทั้งบทสนทนาหรือบรรยากาศในการดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง อีกทั้ง Sound Bar ในปัจจุบันยังมาพร้อมการจำลองเสียงระบบรอบทิศทาง ที่แม้อาจจะไม่โอบล้อมเท่ากับระบบ Home Theater แบบดั้งเดิม แต่ก็เสียงดีมากเพียงพอให้สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของหนังหรือเกมที่เรากำลังรับชมรับฟังอยู่ได้
เนื่องจากลำโพงแบบ Sound Bar ซึ่งจะประกอบด้วย Speaker และ Subwoofer เรียงกันอยู่ในลำโพงตัวเดียว ช่วยให้คุณจัดวางได้ในพื้นที่จำกัด เช่น หน้าโทรทัศน์ ลดการต่อสายลำโพงหลายตัวที่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาเครื่องเสียงที่ใช้งานง่าย หรือใครที่ต้องการเสริมประสิทธิภาพ Sound Bar ขึ้นมาอีกระดับ ลองเลือกรุ่นที่มี Speaker กับ Subwoofer แยกออกจากกัน ก็จะช่วยให้สามารถรับฟังเสียงที่มีมิติทรงพลังและสมจริงมากขึ้น อีกทั้งยังไม่เปลืองพื้นที่จัดวาง และยิ่งไปกว่านั้น ในปัจจุบันมีหลายโมเดลที่สามารถต่อลำโพงเพิ่มเข้าไปได้ ถือเป็นลำโพงอีกรูปแบบหนึ่งที่ควรเก็บไว้พิจารณา
ระบบเสียง CH (Channel) จะเปลี่ยนแปลงไปตามจำนวนลำโพง โดยทั่วไปจะมีอยู่ 3 ชนิด คือ 2.1 CH , 5.1 CH และ 7.1 CH เวลาเลือกให้พิจารณาถึงขนาดของพื้นที่จัดวางและขนาดของห้องด้วย
ลำโพงระบบ 2.1 CH หรือลำโพงแบบ Stereo ส่วนมากจะเป็นชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์แบบมินิที่มี Speaker 2 ตัว และ Woofer ซึ่งเป็นชุดที่ราคาถูกที่สุดและไม่เปลืองพื้นที่จัดวาง แม้ห้องขนาดเล็กเพียง 10 ตารางเมตร ก็สามารถใช้งานได้ เหมาะสำหรับการใช้ในห้องส่วนตัวหรือห้องในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด เนื่องจากระยะฟังของคุณอาจมีไม่มากเท่าไหร่ ทำให้ระบบเสียงแบบ 2.1 สามารถโอบล้อมในแบบ 180 องศา ซึ่งดีพอที่จะสร้างบรรยากาศในการดูหนังหรือเล่นเกม และไม่ทำให้เกิดอาการเสียงคับห้องเนื่องมาจากเลือกระบบเสียงไม่สัมพันธ์กับห้องฟังได้ด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ลำโพงประเภทนี้อาจยังไม่รองรับกับระบบเสียงใหม่ ๆ เช่น Dolby Digital Plus ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อจึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่าสามารถต่อกับอุปกรณ์ที่ต้องการใช้ได้หรือไม่
ระบบ 5.1 CH ประกอบด้วยลำโพงหน้า ลำโพงกลาง ลำโพงหลังอย่างละ 2 ตัว และ Woofer โดยลำโพงคู่หลังจะช่วยสร้างมิติโอบล้อมด้านข้างได้อย่างชัดเจน เป็นชุดที่เหมาะกับการชมภาพยนตร์หรือซีรีส์ เพราะจะมีเสียงออกมาจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้คุณสามารถสัมผัสเสียงที่สมจริงได้มากขึ้น โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นลำโพงแบบที่มีจำหน่ายเป็นชุดรวมทุกอุปกรณ์พื้นฐานทั้งหมดที่จำเป็นเข้าไว้ด้วยกัน
เหมาะกับห้องฟังที่มีความลึกพอประมาณหรือมีขนาดพื้นที่ประมาณ 15 ตารางเมตรขึ้นไป และเนื่องจากมีจำนวนลำโพงเยอะ จึงควรจัดวางให้ล้อมรอบพื้นที่ที่ต้องการเปิดใช้งาน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการโยนเสียงระหว่างลำโพงได้ และยังทำให้คุณสามารถรับรู้ถึงทิศทางของเสียงแบบรอบทิศได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ระบบ 7.1 CH เป็นระบบที่มีจำนวนลำโพงเยอะที่สุด และไม่ค่อยมีขายแบบชุดสักเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อลำโพงในแบบที่ชอบมารวมกันเป็นชุดเอง ซึ่งลำโพงจะประกอบด้วย Surround Back เพิ่มขึ้นมาจากระบบ 5.1 CH อีก 2 ตัว เพื่อให้สามารถรับรู้ทิศทางเสียง บรรยากาศ และระยะต่าง ๆ ของเสียงได้อย่างเต็มที่เหมือนเข้าไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่องนั้น ๆ เรียกได้ว่า ล้อมรอบไปด้วยลำโพงแบบ 360 องศา จึงมีพลังและความสมจริงมากกว่าทุกประเภท ใกล้เคียงกับการอัดเสียงตามที่ภาพยนตร์ตั้งใจให้เป็นเลย
ลำโพงระบบนี้เหมาะสำหรับการชมภาพยนตร์และการเล่นเกมให้ได้อรรถรส นอกจากนี้ เราขอแนะนำสำหรับการใช้ร่วมกันกับโทรทัศน์ขนาด 40 นิ้วขึ้นไป แต่ข้อควรระวังคือลำโพงแบบนี้มีจำนวนเยอะ คุณจึงจำเป็นต้องมีพื้นที่จัดวางพอสมควร โดยกะขนาดห้องประมาณ 20 ตารางเมตรขึ้นไป
เสียงที่ได้ยินจากลำโพงจะเปลี่ยนไปตามชนิดของระบบ Surround ถ้าเป็น Virtual Surround หรือระบบเสียงจำลอง ก็จะรู้สึกเหมือนได้ยินจากด้านหลังด้วย แต่จะเก็บรายละเอียดเสียงไม่ค่อยได้ ฉะนั้น หากคุณต้องการความสมจริง เราแนะนำให้เลือกระบบ Real Surround หรือระบบเสียงจริง ที่จะปล่อยเสียงจากลำโพงทั้งหน้าและหลัง 360 องศา อย่างไรก็ตาม เสียงที่ได้ก็จะต่างไปตามจำนวน CH ของลำโพงด้วย เช่น หากเลือกใช้ลำโพงแค่ 2.1 CH ก็จะแสดงประสิทธิภาพได้น้อยกว่า ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียงจริง ๆ ขอแนะนำให้เลือก Real Surround 5.1 CH จะดีกว่า
หากเลือกลำโพงมาใช้ในลักษณะของ Multimedia ลำโพงที่รองรับระบบ Surround เป็นทางเลือกที่น่าพิจารณา เนื่องจากลำโพงในลักษณะนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานในการดูหนัง เล่นเกม และสามารถฟังเพลงได้ด้วย ซึ่งจะโดดเด่นในแง่ของการโอบล้อมของเสียง การโยนเสียง หรือความคมชัดที่สร้างความน่าตื่นเต้นของเสียง ปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ที่ได้รับการรับรองว่าสามารถใช้กับระบบเสียงรอบทิศทางได้ เช่น Dolby Atmos ซึ่งได้ปรับจูนมาโดยเฉพาะ และให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากการเอาลำโพงที่ใช้ในการฟังเพลงมาดูหนังหรือเล่นเกมแน่นอน
การเชื่อมต่อเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่น่าพิจารณาในการเลือกชุดลำโพงสำหรับดูหนังฟังเพลง แน่นอนว่าในเชิงคุณภาพเสียงอาจเทียบกับการต่อแบบมีสายไม่ได้ แต่ความรู้สึกปลอดโปร่ง สบายตาที่ห้องฟังไม่มีสายมาให้รกตาก็ให้ความรู้สึกที่ดีไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่ใช้ลำโพงระบบ 5.1 CH ที่ทั้งต้องต่อสายกับเข้าโทรทัศน์ DVD Player และ Recorder อีกมากมาย การเชื่อมต่อแบบไร้สายจึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ในปัจจุบัน ทีวีส่วนใหญ่มีการเชื่อมต่อแบบไร้สายมาให้ในตัว ทำให้เราสามารถที่จะเชื่อมต่อชุดลำโพงของเรากับทีวีโดยไม่จำเป็นต้องเสียบสายใด ๆ เลย โดยเฉพาะการเชื่อมต่อกับทั้งตัว Subwoofer หรือลำโพง Surround คู่หลังผ่านระบบ Bluetooth หรือ Wi-Fi ซึ่งถ้าคุณอยากให้การเชื่อมต่อเป็นไปได้อย่างเสถียรมากขึ้น ควรเลือกประเภทที่เป็น Dual Band กล่าวคือ สามารถใช้ได้ทั้งความถี่คลื่น 5GHz และ 2.4GHz เพราะจะช่วยลดปัญหาเรื่องคลื่นรบกวนหรือสิ่งกีดขวางได้ดีมากขึ้น
หากการร้องคาราโอเกะเป็นกิจกรรมที่คุณโปรดปรานทำเป็นประจำ การเลือกลำโพงที่รองรับฟีเจอร์การร้องคาราโอเกะมาด้วยจะทำให้เราช่วยประหยัดงบประมาณและสร้างความสะดวกสบายในการใช้งาน เนื่องมาจากลำโพงที่รองรับฟีเจอร์คาราโอเกะจะมาพร้อมการเชื่อมต่อไมโครโฟนทำให้คุณไม่ต้องใช้แอมป์แยกออกมาเพื่อใช้ในการร้องเพลง เช่นเดียวกับการที่มาพร้อมกับระบบ Equalizer ในตัวที่ทำให้เราสามารถปรับแต่งเสียงให้สัมพันธ์กับโทนเสียงของเราหรือแนวเพลงที่เราชื่นชอบได้
โดยส่วนใหญ่จะเป็นลำโพงขนาดเล็กอย่างระบบ 2.1 CH ที่มาพร้อมอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการร้องเพลงอย่างไมโครโฟน นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบเสียงให้สมจริง ควบคุมระดับเสียงเบสได้ตามต้องการ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับ Bluetooth ซึ่งจะช่วยให้คุณเชื่อมต่อได้ทั้งกับโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภท | ขนาด | น้ำหนัก | จำนวนวัตต์ | ย่านความถี่ที่รองรับ | ระบบเสียง | การเชื่อมต่อไร้สาย | พอร์ตเชื่อมต่อ | อุปกรณ์ที่รองรับ | การรับประกันสินค้า | รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | รองรับ Streaming | ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |||||
1 | SONY HT-S100F Soundbar 2ch | ![]() | ระบบเสียงรอบทิศทาง ย่านเบสแน่น เสียงแยกฝั่งซ้าย - ขวา | Sound Bar | 90 x 6.4 x 8.8 ซม. | 2.4 กก. | 120 วัตต์ | ไม่ระบุ | 2.0 Ch | Bluetooth | USB, HDMI, Optical | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน HDMI, Optical และ Bluetooth | 1 ปี | |||||
2 | Sherman ลำโพง Active 2.1 Ch รุ่น SB - 55B2B | ![]() | ปรับเพิ่ม - ลดเสียงเบสได้ รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ | Multi-Speaker | 25 x 27 x 28 ซม. (Subwoofer), 12 x 11 x 28 ซม. (ลำโพงแต่ละตัว) | 5.8 กก. | 80 วัตต์ | 50 - 20,000 Hz | 2.1 Ch | Bluetooth | USB, Optical, RCA, SD Card | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน RCA, Optical และ Bluetooth | 1 ปี | |||||
3 | JBL Bar 2.0 All In One | ![]() | ขนาดกะทัดรัด เสียงสมจริง สตรีมเพลงไร้สายผ่าน Bluetooth | Sound Bar | 61.4 x 5.6 x 9 ซม. | 1.6 กก. | 80 วัตต์ | 70 - 20,000 Hz | 2.0 Ch | Bluetooth | USB, HDMI, Optical | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน HDMI, Optical และ Bluetooth | 1 ปี | |||||
4 | Panasonic Mini System SC - UX100GS - K | ![]() | ตัวเลือก Equalizer หลากหลาย ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | Multi-Speaker | 13.2 x 25 x 22.7 ซม. (ตัวเครื่องหลัก), 18.1 x 30.8 x 16.5 ซม. (ลำโพงแต่ละตัว) | 1.7 กก. (ตัวเครื่องหลัก), 2 กก. (ลำโพงแต่ละตัว) | 300 วัตต์ | ไม่ระบุ | 2.0 Ch | Bluetooth | USB, CD, FM | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน USB และ Bluetooth | 1 ปี | |||||
5 | Bose Surround Speakers | ![]() | ลำโพงเสริม Sound Bar เชื่อมต่อไร้สาย ระบบเสียง Surround | Multi-Speaker | 9.55 x 8.32 x 8.49 ซม. ต่อข้าง | 0.54 กก. | 120 วัตต์ | ไม่ระบุ | 5.1 Ch | Wireless Receivers เชื่อมกับลำโพงแต่ละตัว | Bose Soundbar 500, Bose Soundbar 700, Lifestyle 600 และ Lifestyle 650 | 1 ปี | ||||||
6 | Aconatic ชุดลำโพง มินิโฮมเธียเตอร์ AN - SP150 | ![]() | เสียงนุ่มนวล มีช่อง USB เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย | Multi-Speaker | 9 x 22.5 x 9 ซม. (Satellite), 14.9 x 22.7 x 21.2 ซม. (Subwoofer) | 1.8 กก. | 12 วัตต์ | 20 - 20,000 Hz | 2.1 Ch | Bluetooth | USB, AUX | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน AUX, USB และ Bluetooth | 1 ปี | |||||
7 | Xiaomi Redmi TV Speaker With Soundbar 30W | ![]() | ดีไซน์เรียบหรู ย่านเสียงกลางชัดเจน พร้อมเสียงเบสดังกระหึ่ม | Sound Bar | 6.3 x 78 x 6.4 ซม. | 1.5 กก. | 30 วัตต์ | 80 - 20,000 Hz | 2.0 Ch | Bluetooth | AUX, S/PDIF | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน AUX, S/PDIF และ Bluetooth | 6 เดือน | |||||
8 | CREATIVE Speaker Sound Blaster Katana V.2 | ![]() | แอมป์ 3 ชุด มีไมโครโฟนในตัวและโหมดเสียงสำหรับเล่นเกม | Multi-Speaker | 60 x 9.5 x 6.2 ซม. (Sound Bar), 15 x 36.7 x 36.7 ซม. (Subwoofer) | 1.52 กก. (Sound Bar), 6.4 กก. (Subwoofer) | 126 วัตต์ | 50 - 20,000 Hz | 5.1 Ch | Bluetooth | USB, HDMI ARC, AUX, Optical | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน HDMI, Optical และ Bluetooth | 1 ปี | |||||
9 | SAMSUNG Q - Series Soundbar |HW - Q930D/XT | ![]() | เสียงโอบล้อมสามมิติ ปรับแต่งโหมดเสียงได้ตามการใช้งาน | Multi-Speaker | 111 x 5.8 x 12 ซม. (Sound Bar), 29 x 35 x 35 ซม. (Subwoofer), 19 x 22 x 19 ซม. (ลำโพงหลัง) | 5.3 กก. (Sound Bar), 10 กก. (Subwoofer), 2 กก. (ลำโพงหลัง) | 540 วัตต์ | 35 - 20,000 Hz | 9.1.4 Ch | Bluetooth | USB, HDMI, Optical | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน HDMI, Optical และ Bluetooth | 1 ปี | |||||
10 | Klipsch R - 50PM Powered Speaker | ![]() | เสียงแหลมใสสะอาด เบสชัดทุกระดับเสียง ต่อ Bluetooth ได้ | Multi-Speaker | 17.8 x 27.4 x 35.6 ซม. | 11.2 กก. | 120 วัตต์ | 60 - 20,000 Hz | 2.1 Ch | Bluetooth | USB, RCA | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน USB, RCA และ Bluetooth | ไม่ระบุ |
ประเภท | Sound Bar |
---|---|
ขนาด | 90 x 6.4 x 8.8 ซม. |
น้ำหนัก | 2.4 กก. |
จำนวนวัตต์ | 120 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | ไม่ระบุ |
ระบบเสียง | 2.0 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, HDMI, Optical |
อุปกรณ์ที่รองรับ | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน HDMI, Optical และ Bluetooth |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ประเภท | Multi-Speaker |
---|---|
ขนาด | 25 x 27 x 28 ซม. (Subwoofer), 12 x 11 x 28 ซม. (ลำโพงแต่ละตัว) |
น้ำหนัก | 5.8 กก. |
จำนวนวัตต์ | 80 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 50 - 20,000 Hz |
ระบบเสียง | 2.1 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, Optical, RCA, SD Card |
อุปกรณ์ที่รองรับ | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน RCA, Optical และ Bluetooth |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ประเภท | Sound Bar |
---|---|
ขนาด | 61.4 x 5.6 x 9 ซม. |
น้ำหนัก | 1.6 กก. |
จำนวนวัตต์ | 80 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 70 - 20,000 Hz |
ระบบเสียง | 2.0 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, HDMI, Optical |
อุปกรณ์ที่รองรับ | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน HDMI, Optical และ Bluetooth |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ประเภท | Multi-Speaker |
---|---|
ขนาด | 13.2 x 25 x 22.7 ซม. (ตัวเครื่องหลัก), 18.1 x 30.8 x 16.5 ซม. (ลำโพงแต่ละตัว) |
น้ำหนัก | 1.7 กก. (ตัวเครื่องหลัก), 2 กก. (ลำโพงแต่ละตัว) |
จำนวนวัตต์ | 300 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | ไม่ระบุ |
ระบบเสียง | 2.0 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, CD, FM |
อุปกรณ์ที่รองรับ | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน USB และ Bluetooth |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ประเภท | Multi-Speaker |
---|---|
ขนาด | 9.55 x 8.32 x 8.49 ซม. ต่อข้าง |
น้ำหนัก | 0.54 กก. |
จำนวนวัตต์ | 120 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | ไม่ระบุ |
ระบบเสียง | 5.1 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wireless Receivers เชื่อมกับลำโพงแต่ละตัว |
พอร์ตเชื่อมต่อ | |
อุปกรณ์ที่รองรับ | Bose Soundbar 500, Bose Soundbar 700, Lifestyle 600 และ Lifestyle 650 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ประเภท | Multi-Speaker |
---|---|
ขนาด | 9 x 22.5 x 9 ซม. (Satellite), 14.9 x 22.7 x 21.2 ซม. (Subwoofer) |
น้ำหนัก | 1.8 กก. |
จำนวนวัตต์ | 12 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 20,000 Hz |
ระบบเสียง | 2.1 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, AUX |
อุปกรณ์ที่รองรับ | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน AUX, USB และ Bluetooth |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ประเภท | Sound Bar |
---|---|
ขนาด | 6.3 x 78 x 6.4 ซม. |
น้ำหนัก | 1.5 กก. |
จำนวนวัตต์ | 30 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 80 - 20,000 Hz |
ระบบเสียง | 2.0 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth |
พอร์ตเชื่อมต่อ | AUX, S/PDIF |
อุปกรณ์ที่รองรับ | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน AUX, S/PDIF และ Bluetooth |
การรับประกันสินค้า | 6 เดือน |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ประเภท | Multi-Speaker |
---|---|
ขนาด | 60 x 9.5 x 6.2 ซม. (Sound Bar), 15 x 36.7 x 36.7 ซม. (Subwoofer) |
น้ำหนัก | 1.52 กก. (Sound Bar), 6.4 กก. (Subwoofer) |
จำนวนวัตต์ | 126 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 50 - 20,000 Hz |
ระบบเสียง | 5.1 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, HDMI ARC, AUX, Optical |
อุปกรณ์ที่รองรับ | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน HDMI, Optical และ Bluetooth |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ประเภท | Multi-Speaker |
---|---|
ขนาด | 111 x 5.8 x 12 ซม. (Sound Bar), 29 x 35 x 35 ซม. (Subwoofer), 19 x 22 x 19 ซม. (ลำโพงหลัง) |
น้ำหนัก | 5.3 กก. (Sound Bar), 10 กก. (Subwoofer), 2 กก. (ลำโพงหลัง) |
จำนวนวัตต์ | 540 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 35 - 20,000 Hz |
ระบบเสียง | 9.1.4 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, HDMI, Optical |
อุปกรณ์ที่รองรับ | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน HDMI, Optical และ Bluetooth |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ประเภท | Multi-Speaker |
---|---|
ขนาด | 17.8 x 27.4 x 35.6 ซม. |
น้ำหนัก | 11.2 กก. |
จำนวนวัตต์ | 120 วัตต์ |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 60 - 20,000 Hz |
ระบบเสียง | 2.1 Ch |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB, RCA |
อุปกรณ์ที่รองรับ | สมาร์ตโฟน, ทีวี, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน USB, RCA และ Bluetooth |
การรับประกันสินค้า | ไม่ระบุ |
รองรับระบบเสียง Dolby Atmos | |
รองรับ Streaming | |
ควบคุมผ่านรีโมตคอนโทรล | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ |
ในปัจจุบัน ชุด Home theater ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมารองรับการทำงานอย่างเอนกประสงค์ นั่นคือ มีการเชื่อมต่อได้หลายแบบทั้งการต่อผ่าน HDMI, การต่อผ่านสาย Optical, การต่อผ่านสายเสียง 3.5 มม. หรือการต่อแบบไร้สาย ทำให้เราสามารถใช้ได้กับหลายอุปกรณ์ รวมไปถึงยังรองรับระบบ Arc ที่ทำให้เราสามารถใช้รีโมตทีวีในการควบคุมเสียงของ Home Theater ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้อชุดลำโพง ควรทำการสำรวจว่าเรามีอุปกรณ์ใดบ้างที่เราต้องการทำการเชื่อมต่อกับชุดลำโพงและลำโพงที่เราสนใจนั้นรองรับการเชื่อมต่อนั้น ๆ หรือไม่จะดีที่สุด
แน่นอนว่าในระดับราคาเท่ากัน การเชื่อมต่อแบบไร้สายให้คุณภาพเสียงได้ไม่เทียบเท่าการเชื่อมต่อแบบมีสาย แต่ในปัจจุบัน ความแตกต่างของการเชื่อมต่อแบบมีสายกับไร้สายอาจไม่มากดังเช่นในอดีต การเชื่อมต่อแบบไร้สายแม้จะไม่ได้ดีเท่ากับการเชื่อมต่อแบบมีสาย แต่ก็ดีมากเพียงพอที่ทำให้สนุกไปกับการดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลงได้ หากไม่ได้ตั้งใจฟังอย่างมากหรือซีเรียสกับเรื่องเสียงมาก การเชื่อมต่อแบบไร้สายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่แลกมาด้วยความสะดวกสบายและความสะอาดตา
อันดับที่ 1: SONY |HT-S100F Soundbar 2ch
อันดับที่ 2: Sherman|ลำโพง Active 2.1 Ch รุ่น SB - 55B2B
อันดับที่ 3: JBL |Bar 2.0 All In One
อันดับที่ 4: Panasonic |Mini System SC - UX100GS - K
อันดับที่ 5: Bose |Surround Speakers
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ