Top 5 เครื่องทำความชื้น ยอดนิยม
Xiaomi
ทำความชื้นได้นาน 30 ชั่วโมง ไร้เสียงรบกวน เติมน้ำง่าย
คุณน้อยเป็นนักเขียนที่มีความหลงใหลในเรื่องสกินแคร์และเครื่องสำอาง เพราะเชื่อว่าการดูแลผิวเป็นการลงทุนให้กับตัวเองในระยะยาว ด้วยความที่เป็นคนชอบทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ จึงมีโอกาสได้ใช้สกินแคร์และเครื่องสำอางหลากหลายประเภท ตั้งแต่เซรั่มบำรุงผิว ครีมกันแดด รองพื้น ไปจนถึงลิปสติกและเมคอัพต่าง ๆ ทำให้เข้าใจถึงคุณสมบัติของแต่ละผลิตภัณฑ์ และสามารถเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียได้อย่างตรงจุด โดยนอกจากสกินแคร์และเครื่องสำอางแล้ว ยังให้ความสำคัญกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น เครื่องหนีบผม ไดร์เป่าผม เตารีดไอน้ำ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เครื่องฟอกอากาศ ไปจนถึงอุปกรณ์ในครัวอย่างหม้อทอดไร้น้ำมัน ไมโครเวฟ ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณน้อยให้ความสำคัญกับการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าใจง่าย ทุกบทความที่เขียนจะผ่านการค้นคว้าอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้อ่านเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการของตนเองได้ดีที่สุด
สารบัญ
ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนของการใช้งานเครื่องทำความชื้น (Humidifier) คือในวันที่มีอากาศแห้ง หรือประสบปัญหาด้านการนอนหลับ รวมถึงปัญหาผิวแห้งกร้านขาดความชุ่มชื้น ซึ่งเครื่องทำความชื้นจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะตัวเครื่องจะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ โดยทำให้น้ำในตัวเครื่องเปลี่ยนเป็นไอน้ำระเหยออกมาส่งผลให้ในห้องมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น หมดปัญหาเรื่องอากาศแห้ง
อีกทั้งเครื่องทำความชื้นยังช่วยทำให้หายใจสะดวกขึ้น จึงช่วยให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น ลดอาการนอนกรน อาการไอแห้ง เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณ สามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคภายในอากาศได้บ้าง รวมถึงช่วยปรับสมดุลความชื้นในอากาศให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ไม่แห้งหรือชื้นจนเกินไป โดยปริมาณความชื้นที่เหมาะสมสำหรับมนุษย์จะอยู่ในช่วง 40 - 60 %Rh ในทางกลับกันหากเพิ่มความชื้นมากเกินไป อาจทำให้เกิดความชื้นในห้องมากเกินไปจนเกิดเป็นราหรือแบคทีเรียตามเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าหรือพรมได้ หรือหากไม่รักษาความสะอาดของแทงค์น้ำหรือเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ ก็จะก่อให้เกิดคราบตะไคร่น้ำได้เช่นกัน ซึ่งที่กล่าวมานี้จะส่งผลเสียต่อร่างกายหากใช้อย่างไม่ถูกวิธี
นอกจากนี้ หากอากาศค่อนข้างแห้งและมีความชื้นในอากาศต่ำกว่า 40% ก็สามารถเปิดใช้เครื่องทำความชื้นได้ตลอดทั้งคืน แต่ถ้าหากความชื้นในอากาศมีมากกว่า 60% ก็ไม่ควรเปิดใช้งานเครื่อง เพราะถ้าหากร่างกายได้รับความชื้นมากเกินไปจะทำให้ไม่สบายตัวและส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวด้วย
เคยสังเกตไหมว่าเวลานอนในห้องแอร์ตื่นขึ้นมาแล้วจะคอแห้ง ไอแห้ง ๆ แสบคอ บางคนมีอาการจามร่วมด้วย นั่นเพราะการนอนในห้องปรับอากาศที่มีความเย็นมาก ๆ จะทำให้คุณสูญเสียความชื้น ด้วยเหตุนี้เองหลายคนจึงเลือกซื้อเครื่องทำความชื้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งวิธีการเลือกก็ไม่ยากเลย แค่ลองทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
ในปัจจุบันไม่ได้มีเครื่องทำความชื้นมีหลักการทำงานหลายรูปแบบ เราไปดูกันว่าเครื่องทำความชื้นแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบไหน และมีข้อควรระวังในการใช้งานอย่างไรบ้าง
เครื่องทำความชื้นแบบไอระเหย (Evaporator) จะมีการใช้พัดลมร่วมกับแผ่นกรองที่สามารถดูดซับน้ำได้ดี เพื่อให้ลมเคลื่อนที่ผ่านแผ่นกรองที่ซึมซับน้ำไว้อย่างเต็มที่ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนเอาน้ำออกสู่อากาศ ช่วยกระจายความชื้นในอากาศได้อย่างเต็มที่ เป็นเครื่องกรองประเภทที่ไม่ได้มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงปลอดภัยต่อเด็กที่อวัยวะหลายอย่างยังบอบบางและอยู่ในช่วงเจริญเติบโต
แต่เนื่องจากมีการใช้พัดลมในตัวเครื่อง จึงทำให้เครื่องทำความชื้นประเภทนี้มีเสียงค่อนข้างดังเมื่อเทียบกับเครื่องประเภทอื่น อีกทั้งตัวแผ่นกรองที่ต้องดูดซับน้ำจนเปียกตลอดเวลา จึงทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย จำเป็นต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ ส่วนข้อดีคือมีราคาไม่สูง ทั้งยังใช้งานง่าย
จุดด้อยของเครื่องทำความชื้นประเภทนี้ คือ ราคาของเครื่องมีราคาค่อนข้างสูง กินไฟ 200 - 300 วัตต์ เมื่อเปิดใช้ประมาณ 8 ชั่วโมง หากใครที่ให้ความสำคัญกับค่าไฟ อาจต้องพิจารณาเครื่องทำความชื้นประเภทอื่นแทน
โดยหลักการทำงานคือจะใช้การสั่นสะเทือนแบบอัลตราโซนิคทำให้น้ำกลายเป็นละออง จากนั้นพัดลมในเครื่องจะทำให้ละอองน้ำที่แตกตัวออกมาเข้าสู่อากาศภายในห้อง อีกทั้งในบางเครื่อง ละอองหมอกที่ถูกพ่นออกมายังสามารถปรับตั้งค่าให้เป็นได้ทั้งแบบอุ่นและแบบเย็น ขึ้นกับความต้องการของผู้ใช้อีกด้วย นอกจากนี้ ตัวเครื่องจำเป็นต้องได้รับการทำความสะอาดบ่อย ๆ โดยควรทำความสะอาดแทงค์น้ำทุก ๆ 4 - 5 วันเพื่อกำจัดคราบตะไคร่สีเขียวหรือแบคทีเรียที่อาจจะเติบโตในแทงค์เก็บน้ำ ซึ่งหากผู้ใช้งานไม่ทำความสะอาดก็จะส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้งานโดยตรงได้
เนื่องจากเครื่องทำความชื้นต้องใช้น้ำในการทำงานเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเติมน้ำเข้าแทงค์หรือเทน้ำทิ้งเพื่อเปลี่ยนน้ำใหม่ รวมถึงต้องทำความสะอาดถังเก็บน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการหมักหมมจนก่อเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ดังนั้น การเลือกขนาดของแทงค์ให้พอดีกับอ่างล้างจานหรืออ่างล้างหน้าจะช่วยให้การทำความสะอาดหรือการเปลี่ยนถ่ายน้ำเป็นไปอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าใหญ่เกินไปจนไม่สะดวกอาจจะทำให้ผู้ใช้งานละเลยเรื่องการทำความสะอาดเนื่องจากความยุ่งยากในการยกไปยกมานั่นเอง
ในปัจจุบันนี้เครื่องทำความชื้นมีให้เลือกใช้หลากหลายขนาด ความกว้างใหญ่ของห้องจึงถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา ว่าจะเลือกเครื่องทำความชื้นขนาดใดจึงจะเหมาะสม เพราะถ้าเลือกใช้เครื่องทำความชื้นที่มีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะทำให้มีความชื้นภายในห้องสูงเกิน ทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย รวมถึงยังส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวเนื่องจากได้รับความชื้นที่มากเกินไป หรือถ้าเลือกเครื่องทำความชื้นที่มีขนาดเล็กไป ก็จะทำความชื้นได้ไม่ทั่วถึง แก้ปัญหาเรื่องอากาศแห้งไม่ได้ ทำให้เราจำเป็นต้องอยู่ใกล้ ๆ เครื่องทำความชื้น ซึ่งถ้าหากอยู่ใกล้เกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน
ในเครื่องทำความชื้นรุ่นใหม่ ๆ ไม่เพียงแต่จะทำความชื้นอย่างเดียวเท่านั้น มักจะมีฟังก์ชั่นเพิ่มเติมเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเช็คระดับน้ำ การตั้งเวลา และอื่น ๆ เช่น
● เช็คระดับน้ำได้ : ฟังก์ชั่นเช็คระดับน้ำถือเป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะตัวเครื่องจะติดตั้ง Sensor สำหรับตรวจสอบปริมาณน้ำภายในตัวเครื่อง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเติมน้ำได้ตามความต้องการ ทำให้ไม่ต้องเปิดถังเก็บน้ำดูบ่อย ๆ อีกทั้งเครื่องทำความชื้นจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อน้ำหมด หมดความกังวลเรื่องอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อน้ำหมดแต่เครื่องยังคงทำงาน
● ตั้งเวลาได้ : เครื่องทำความชื้นรุ่นหลัง ๆ บางรุ่นจะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นตั้งเวลาเข้ามา มีทั้งแบบที่ตั้งเวลาเปิด-ปิดเครื่องได้ ซึ่งจะทำงานโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดหรือปิดเครื่องด้วยตัวเอง หรือบางรุ่นที่สามารถใส่น้ำมันหอมระเหยได้ก็จะมีโหมดตั้งเวลาแบบ Aroma ให้ตัวเครื่องพ่นความชื้นพร้อมกลิ่นอโรม่าออกมาตามระยะเวลาที่กำหนด มีตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป และหลากหลายเวลาแล้วแต่รุ่น
● ระบบล็อคป้องกันเด็ก : การทำงานของเครื่องพ่นความชื้นคือจะมีการพ่นไอน้ำออกมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะดึงดูดเด็ก ๆ ให้พุ่งเข้าหาได้ ในบางรุ่นจึงมีฟังก์ชั่นล็อคที่เมื่อเปิดใช้งานแล้วจะไม่สามารถกดปุ่มใด ๆ ได้อีก ยกเว้นกดปลดล็อคเท่านั้น แต่เพื่อความปลอดภัยสำหรับบ้านที่เด็ก ควรวางไว้ในสถานที่ที่เด็กเอื้อมหยิบไม่ถึง และไม่ควรปล่อยเด็กไว้เพียงลำพัง เพราะอาจจะมีอันตรายด้านอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้
● ฟังก์ชั่นปรับความชื้นอัตโนมัติ : ฟังก์ชั่นปรับความชื้นอัตโนมัติถือว่าเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก เพราะตัวเครื่องจะมาพร้อม Sensor ตรวจจับความชื้นในอากาศ จากนั้นจะปรับการทำงานของเครื่องเพื่อให้พ่นความชื้นออกมาในระดับที่เหมาะสม ทำให้ความชื้นในอากาศอยู่ในระดับพอดี ไม่แห้งหรือชื้นมากจนเกินไป ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ทำให้เราไม่ต้องปรับหรือทำอะไรเลย เพียงแค่เปิดเครื่องไว้ จากนั้นตัวเครื่องก็จะจัดการให้ทุกอย่าง นับว่าสะดวกเลยทีเดียว
นอกเหนือไปจากเรื่องประเภท ขนาด และฟังก์ชั่นของเครื่องทำความชื้นแล้ว ลักษณะภายนอกของตัวเครื่องก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะมีให้เลือกหลายรูปแบบเลยทีเดียว โดยการออกแบบของแต่ละแบรนด์ก็จะแตกต่างกันไป มีทั้งที่เน้นความมินิมอล หรือเน้นความหรูหรา รวมถึงเน้นการใช้งานจริงที่ไม่ได้เคร่งเรื่องดีไซน์มากนัก ซึ่งลักษณะภายนอกมีทั้งแบบทรงกลมอ้วน ทรงกระบอก ทรงเหลี่ยม และมีหลายสีให้เลือก ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานว่าจะเลือกแบบใดถึงจะเข้ากับห้อง เพราะเครื่องทำความชื้นก็สามารถใช้งานในแง่ไอเทมตกแต่งห้องได้เช่นกัน
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภท | ขนาด | น้ำหนัก | ความจุถังน้ำ | กำลังไฟ | เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | รับประกันสินค้า | ทำความชื้นได้นานสูงสุด | ระดับเสียงการทำงาน | ปรับระดับไอน้ำได้ | มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | ระบบตัดไฟอัตโนมัติ | |||||
1 | Xiaomi Humidifier 2 รุ่น Air Purifier Aromatherapy | ![]() | ทำความชื้นได้นาน 30 ชั่วโมง ไร้เสียงรบกวน เติมน้ำง่าย | ไอระเหย | 190 x 202 x 315 มม. | 1.4 กก. | 4 ลิตร | 23 วัตต์ | ไม่ระบุ | 1 ปี | 30 ชม. | 38 เดซิเบล | |||||
2 | DEERMA Ultrasonic Air Humidifier |F628S | ![]() | หน้าจอ LED แสดงสถานะการทำงาน กำจัดเชื้อโรคด้วย UV | ไอน้ำแบบเย็น | 187 x 200 x 295 มม. | 1.20 กก. | 5 ลิตร | 25 วัตต์ | 25 - 30 ตร.ม. | 1 ปี | 12 ชม. | 30 เดซิเบล | |||||
3 | Levoit Humidifier VeSync Classic |300S | ![]() | ควบคุมผ่านแอปฯ ถังใส ความจุ 6 ลิตร มองเห็นระดับน้ำ | อัลตราโซนิก | 245 x 192 x 340 มม. | 2 กก. | 6 ลิตร | 26 วัตต์ | 20 - 47 ตร.ม. | 1 ปี | 60 ชม. | 30 เดซิเบล | |||||
4 | SHARP Air Purifier |KI-N40TA | ![]() | แผ่นกรอง 3 ชั้น ช่วยดักจับฝุ่นและกลิ่น สั่งการผ่านแอปฯ | ไอน้ำแบบเย็น | 384 x 619 x 320 มม. | 8.20 กก. | 2.70 ลิตร | ไม่ระบุ | 28 ตร.ม. | 1 ปี | ไม่ระบุ | 19 - 38 เดซิเบล | |||||
5 | KIVEE เครื่องเพิ่มความชื้น |JSQ16 | ![]() | หัวฉีดนาโนแบบสเปรย์คู่ ปรับได้ 3 ระดับ มีความจุ 3 ลิตร | ไอน้ำ | 14ุ6 x 146 x 260 มม. | 0.57 กก. | 3 ลิตร | 3 วัตต์ | 30 - 90 ตร.ม. | 1 ปี | 30 ชม. | 40 เดซิเบล | |||||
6 | Smartmi Evaporative Humidifier 2|SM0003 | ![]() | ทำความชื้นแบบระเหย ไม่มีไอน้ำรบกวน ปรับระดับได้ | ไอระเหย | 240 x 240 x 363 มม. | 4.30 กก. | 4 ลิตร | 8 วัตต์ | ไม่ระบุ | 1 ปี | 24 ชม. | 34.40 เดซิเบล | |||||
7 | SCE Plus เครื่องทำความชื้น |AT1 | ![]() | ความจุ 5 ลิตร ปรับความแรงไอน้ำ 3 ระดับ ทำงานเสียงเงียบ | ไอน้ำ | 184 x 184 x 325 มม. | 1 กก. | 5 ลิตร | 25 วัตต์ | 25 - 30 ตร.ม. | 2 ปี | 18 ชม. | 35 เดซิเบล | |||||
8 | Beurer เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ |LB 88 | ![]() | ระบบอัลตราโซนิก มีระบบฆ่าเชื้อ ใส่น้ำมันหอมระเหยได้ | อัลตราโซนิก | 195 x 295 x 280 มม. | 2.24 กก. | 6 ลิตร | 16 - 280 วัตต์ | สูงสุด 48 ตร.ม. | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | |||||
9 | Alectric Air Humidifier|AH1 | ![]() | หน้าจอดิจิทัล LED เลือกใช้งานได้ 4 ฟังก์ชัน ความจุ 3.8 L | ไอน้ำ | 160 x 175 x 305 มม. | 1.1 กก. | 3.8 ลิตร | 23 วัตต์ | 25 ตร.ม. | 3 ปี | ไม่ระบุ | 35 เดซิเบล | |||||
10 | Commy Aroma Diffuser |DF001 | ![]() | ดีไซน์เรียบง่าย มีระบบพ่นอโรมา ตั้งเวลาปิดเครื่องได้ | ไอน้ำ | 138 x 138 x 167 มม. | 0.415 กก. | 0.3 ลิตร | 24 วัตต์ | 30 ตร.ม. | 1 ปี | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ |
ประเภท | ไอระเหย |
---|---|
ขนาด | 190 x 202 x 315 มม. |
น้ำหนัก | 1.4 กก. |
ความจุถังน้ำ | 4 ลิตร |
กำลังไฟ | 23 วัตต์ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | ไม่ระบุ |
รับประกันสินค้า | 1 ปี |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | 30 ชม. |
ระดับเสียงการทำงาน | 38 เดซิเบล |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
ประเภท | ไอน้ำแบบเย็น |
---|---|
ขนาด | 187 x 200 x 295 มม. |
น้ำหนัก | 1.20 กก. |
ความจุถังน้ำ | 5 ลิตร |
กำลังไฟ | 25 วัตต์ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | 25 - 30 ตร.ม. |
รับประกันสินค้า | 1 ปี |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | 12 ชม. |
ระดับเสียงการทำงาน | 30 เดซิเบล |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
ประเภท | อัลตราโซนิก |
---|---|
ขนาด | 245 x 192 x 340 มม. |
น้ำหนัก | 2 กก. |
ความจุถังน้ำ | 6 ลิตร |
กำลังไฟ | 26 วัตต์ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | 20 - 47 ตร.ม. |
รับประกันสินค้า | 1 ปี |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | 60 ชม. |
ระดับเสียงการทำงาน | 30 เดซิเบล |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
ประเภท | ไอน้ำแบบเย็น |
---|---|
ขนาด | 384 x 619 x 320 มม. |
น้ำหนัก | 8.20 กก. |
ความจุถังน้ำ | 2.70 ลิตร |
กำลังไฟ | ไม่ระบุ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | 28 ตร.ม. |
รับประกันสินค้า | 1 ปี |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | ไม่ระบุ |
ระดับเสียงการทำงาน | 19 - 38 เดซิเบล |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
ประเภท | ไอน้ำ |
---|---|
ขนาด | 14ุ6 x 146 x 260 มม. |
น้ำหนัก | 0.57 กก. |
ความจุถังน้ำ | 3 ลิตร |
กำลังไฟ | 3 วัตต์ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | 30 - 90 ตร.ม. |
รับประกันสินค้า | 1 ปี |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | 30 ชม. |
ระดับเสียงการทำงาน | 40 เดซิเบล |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
ประเภท | ไอระเหย |
---|---|
ขนาด | 240 x 240 x 363 มม. |
น้ำหนัก | 4.30 กก. |
ความจุถังน้ำ | 4 ลิตร |
กำลังไฟ | 8 วัตต์ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | ไม่ระบุ |
รับประกันสินค้า | 1 ปี |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | 24 ชม. |
ระดับเสียงการทำงาน | 34.40 เดซิเบล |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
ประเภท | ไอน้ำ |
---|---|
ขนาด | 184 x 184 x 325 มม. |
น้ำหนัก | 1 กก. |
ความจุถังน้ำ | 5 ลิตร |
กำลังไฟ | 25 วัตต์ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | 25 - 30 ตร.ม. |
รับประกันสินค้า | 2 ปี |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | 18 ชม. |
ระดับเสียงการทำงาน | 35 เดซิเบล |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
ประเภท | อัลตราโซนิก |
---|---|
ขนาด | 195 x 295 x 280 มม. |
น้ำหนัก | 2.24 กก. |
ความจุถังน้ำ | 6 ลิตร |
กำลังไฟ | 16 - 280 วัตต์ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | สูงสุด 48 ตร.ม. |
รับประกันสินค้า | ไม่ระบุ |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | ไม่ระบุ |
ระดับเสียงการทำงาน | ไม่ระบุ |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
ประเภท | ไอน้ำ |
---|---|
ขนาด | 160 x 175 x 305 มม. |
น้ำหนัก | 1.1 กก. |
ความจุถังน้ำ | 3.8 ลิตร |
กำลังไฟ | 23 วัตต์ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | 25 ตร.ม. |
รับประกันสินค้า | 3 ปี |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | ไม่ระบุ |
ระดับเสียงการทำงาน | 35 เดซิเบล |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
ประเภท | ไอน้ำ |
---|---|
ขนาด | 138 x 138 x 167 มม. |
น้ำหนัก | 0.415 กก. |
ความจุถังน้ำ | 0.3 ลิตร |
กำลังไฟ | 24 วัตต์ |
เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ | 30 ตร.ม. |
รับประกันสินค้า | 1 ปี |
ทำความชื้นได้นานสูงสุด | ไม่ระบุ |
ระดับเสียงการทำงาน | ไม่ระบุ |
ปรับระดับไอน้ำได้ | |
มีไฟแสดงสถานะการทำงาน | |
ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ | |
ระบบตัดไฟอัตโนมัติ |
หากคุณกำลังสงสัยว่าเครื่องทำความชื้นใช้งานอย่างไร วันนี้เรามีขั้นตอนง่าย ๆ ในการใช้เครื่องทำความชื้นมาอธิบายให้ทุกคนได้ทราบกันแล้วค่ะ ซึ่งมี 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. ประกอบตัวเครื่องให้เรียบร้อยด้วยการทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือ โดยจัดเตรียมชิ้นส่วนไว้ให้ครบถ้วน
2. ทำความสะอาดถังเก็บน้ำด้วยการใช้น้ำสะอาดหรือสบู่สูตรอ่อนโยน เพื่อกำจัดสิ่งตกค้างจากกระบวนการผลิต และป้องกันไม่ให้คุณสูดเอาเศษฝุ่นเข้าไปในร่างกาย
3. เติมน้ำลงในถังเก็บน้ำในปริมาณพอเหมาะ โดยสังเกตจากเส้นบอกระดับน้ำที่กำหนดไว้ให้ในตัวเครื่อง อาจเลือกใช้น้ำกลั่นเพื่อเพิ่มความบริสุทธิ์ให้กับอากาศมากขึ้น
4. เลือกตำแหน่งวางให้เหมาะสม และควรวางห่างจากผนังประมาณ 12 นิ้ว และวางไว้ในบริเวณที่สูงกว่าพื้น ไม่ควรตั้งไว้บนชั้นวางของหรือใกล้กับผ้าม่าน เพราะอาจทำให้เปียกชื้นได้
5. เสียบปลั๊กและเปิดเครื่องเพื่อเริ่มต้นการใช้งาน เลือกตั้งค่าระบบให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถใช้งานเครื่องทำความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วค่ะ แต่อย่าลืมที่จะปิดเครื่องทำความชื้นหลังจากใช้งาน และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อาจสะสมอยู่ในตัวเครื่องค่ะ
เนื่องจากระบบทำความชื้นเกิดจากการทำให้น้ำแตกตัวเป็นไอน้ำ ซึ่งไอน้ำที่พ่นออกมานั้นจะสะอาดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับน้ำที่เราใส่ลงไป หากเราใส่น้ำไม่สะอาด ไอน้ำที่ได้ก็จะไม่สะอาดเช่นกัน หรือหากเราไม่ทำความสะอาดเครื่องให้ดีก็อาจมีเชื้อแบคทีเรียปะปนมาในอากาศได้ นอกจากนี้ ข้อเสียอีกข้อก็คือ เครื่องทำความชื้นนั้นทำงานร่วมกับน้ำประปาหรือน้ำแร่ได้ไม่ดีมากเท่าน้ำกลั่น เพราะภายในน้ำประปาหรือน้ำแร่นั้นมีอนุภาคอื่น ๆ เจือปนอยู่ ทำให้หลงเหลือสิ่งตกค้างไว้ภายในเครื่อง ทำให้เกิดเชื้อราหรือแบคทีเรียสะสมได้ ดังนั้น การจะใช้เครื่องทำความชื้น คุณจึงควรเตรียมน้ำกลั่นหรือน้ำบริสุทธิ์เตรียมไว้ก่อน ซึ่งอาจเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับใครหลายคน
อันดับที่ 1: Xiaomi |Humidifier 2 รุ่น Air Purifier Aromatherapy
อันดับที่ 2: DEERMA |Ultrasonic Air Humidifier |F628S
อันดับที่ 3: Levoit|Humidifier VeSync Classic |300S
อันดับที่ 4: SHARP|Air Purifier |KI-N40TA
อันดับที่ 5: KIVEE |เครื่องเพิ่มความชื้น |JSQ16
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ