10 รองเท้ากอล์ฟ ผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมรองเท้าตีกอล์ฟใส่สบาย

รองเท้าตีกอล์ฟมีพื้นรองเท้า 2 ประเภทให้เลือกตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ โดยสามารถแบ่งประเภทตามลักษณะการใช้งานได้ ดังนี้

การเลือกรองเท้ากอล์ฟที่ขนาดพอดีและกระชับกับรูปเท้าไม่ใช่แค่เรื่องของความสบายเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการเล่นและป้องกันอาการบาดเจ็บได้อีกด้วย โดยเมื่อลงน้ำหนักและหมุนตัวขณะสวิง ร่างกายต้องใช้แรงส่งจากเท้าขึ้นไปถึงลำตัว หากรองเท้าหลวมเกินไปจะทำให้เท้าเคลื่อนไหวภายในรองเท้าขาดความมั่นคง ซึ่งอาจเสียจังหวะหรือท่าทางในการตี ในขณะเดียวกันหากรองเท้าคับเกินไป จะทำให้รู้สึกเจ็บ บีบรัดนิ้วเท้าหรือส้นเท้า ส่งผลให้เดินไม่สะดวก โดยเฉพาะในสนามที่ต้องใช้เวลาเล่นหลายชั่วโมง

ดังนั้น เราจึงแนะนำให้เลือกรองเท้าที่พอดีเพื่อช่วยให้ทรงตัวได้ดีขึ้น โดยควรมีพื้นที่บริเวณปลายเท้าเล็กน้อย เพื่อให้ขยับนิ้วเท้าได้ขณะเดินอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ และลดโอกาสเกิดแผลจากแรงเสียดสี ทั้งยังช่วยกระจายน้ำหนักได้สมดุล ทำให้ลดแรงกดที่จุดใดจุดหนึ่ง และลดความเสี่ยงของอาการปวดเท้าหรือเจ็บส้นในระยะยาวได้

การเลือกวัสดุอัปเปอร์ที่มีคุณภาพจะช่วยให้รองเท้ากอล์ฟคงรูป ไม่เสียทรงง่าย และสามารถใช้งานได้ยาวนานแม้ต้องใช้งานบ่อยในสนามจริง โดยมีตัวอย่างวัสดุที่แนะนำดังต่อไปนี้

• หนังแท้ มีความแข็งแรง ทนทาน และไม่เสียทรงแม้ใช้งานหนัก จึงเหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องเล่นในสนามจริงเป็นประจำ หรือผู้ที่ต้องเดินเป็นระยะทางไกลตลอดทั้งรอบการเล่น
• หนังสังเคราะห์ ทนต่อสภาพอากาศต่าง ๆ ได้ดี ทำให้ดูแลรักษาง่าย และมีคุณสมบัติกันน้ำในระดับหนึ่ง จึงเหมาะสำหรับนักกอล์ฟมือใหม่หรือมือสมัครเล่นที่ตีกอล์ฟเป็นประจำ แต่ยังไม่ต้องการลงทุนสูง
• ผ้าเท็กซ์ไทล์ผสม วัสดุชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี ช่วยให้สวมใส่สบายและไม่เกิดความอับชื้นขณะใช้งาน จึงเหมาะกับสภาพอากาศร้อนหรือการฝึกซ้อมในสนามไดร์ฟ แต่อาจไม่เหมาะกับสนามที่มีความชื้นสูงหรือในวันที่มีฝนตก เนื่องจากมีโอกาสซึมน้ำได้ง่ายและทำให้รู้สึกไม่สบายเท้าระหว่างการเล่น
• ผ้าตาข่าย มีจุดเด่น คือ น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี และใส่สบายคล้ายกับรองเท้าวิ่ง แต่อาจกันน้ำและความชื้นได้ไม่มีเท่าที่ควร และไม่ทนทานเท่ากับวัสดุหนังหากใช้งานหนัก

การตีกอล์ฟ 1 รอบอาจต้องเดินหลายกิโลเมตรโดยเฉพาะในสนาม 18 หลุม ทำให้การเลือกรองเท้ากอล์ฟที่มีน้ำหนักเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเมื่อยล้า และป้องกันอาการปวดเมื่อยหลังจบเกม ซึ่งหากรองเท้าเบาเกินไปอาจไม่สามารถรองรับแรงกระแทกหรือแรงกดจากการเดินบนพื้นสนามที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่รองเท้าที่มีน้ำหนักมากเกินไปจะเพิ่มภาระให้กับขาและข้อเท้าได้โดยไม่จำเป็น

ดังนั้น การเลือกน้ำหนักรองเท้าที่เหมาะสมควรพิจารณาตามสไตล์การเล่นและสภาพสนาม หากเป็นผู้ที่ต้องเดินสนามเองบ่อย ๆ ควรเลือกรองเท้าที่ทำจากวัสดุเบา เช่น ผ้าตาข่าย หนังสังเคราะห์ หรือแบบที่มีพื้นรองเท้ายางน้ำหนักเบา แต่ยังคงโครงสร้างรองรับแรงกดได้ดี โดยแนะนำให้ลองสวมเดินจริงก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

รองเท้าตีกอล์ฟที่มีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มเติมจากพื้นฐานจะยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น โดยมีตัวอย่างคุณสมบัติที่แนะนำ เช่น

• เทคโนโลยีกันน้ำ 100% เช่น เทคโนโลยี GORE-TEX ช่วยป้องกันน้ำซึมเข้าสู่รองเท้าแม้เล่นในสนามเปียกหรือฝนตก โดยบางรุ่นมีการรับประกันคุณสมบัติกันน้ำยาวนานถึง 1 - 2 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นในสนามกลางแจ้งเป็นประจำ
• ปุ่มหมุนปรับแทนเชือก ใช้ปุ่มหมุนเพื่อปรับระดับความกระชับได้ ทำให้สวมใส่สะดวก ถอดง่าย และไม่ต้องกังวลเรื่องเชือกหลุดระหว่างเล่น
• พื้นรองเท้าแบบ Hybrid Sole เป็นพื้นรองเท้าแบบ Spikeless ที่ถูกออกแบบให้ยึดเกาะได้ดีใกล้เคียงกับรองเท้ามีปุ่ม สามารถใส่ได้ทั้งในสนามจริงและนอกสนาม เช่น สนามไดร์ฟหรือคลับเฮาส์ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานได้ดี
• Insole เสริมเทคโนโลยีเฉพาะแบรนด์ เช่น EVA หรือ Ortholite ที่ช่วยซัพพอร์ตแรงกระแทกขณะเดิน ลดอาการเมื่อยล้าของฝ่าเท้าเมื่อต้องเดินรอบสนามเป็นเวลานาน ทำให้เพิ่มความสบายตลอดการสวมใส่