10 น้ำหอม Armani กลิ่นไหนหอม ปี 2024 สำหรับผู้ชายและผู้หญิง

น้ำหอมขวดนี้อยู่ในซีรีส์ Si ซึ่งเป็นน้ำหอมแบบ Chypre Fruity ที่เมื่อดมแล้วจะให้กลิ่มหอมที่นุ่มลึก โดยจะเปิดมาด้วยกลิ่นของแบล็คเคอแรนต์และส้มแมนดาริน เป็นกลิ่น Top Note ก่อนจะเพิ่มความหวานด้วยกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยเนโรลี โอ๊คมอส และดอกกุหลาบ จากนั้นปิดท้ายด้วยความอบอุ่นจากวานิลลาและไวท์มัสก์ เป็น Base Note ภาพรวมของกลิ่นจะเป็นโทนที่หอมหวานแต่ไม่เลี่ยน และให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น นอกจากนี้ก็ยังมีกลิ่นที่ติดทนนาน เพราะเป็นน้ำหอมประเภท Eau de Parfum

น้ำหอมรุ่นนี้เป็น Edition ของปี 2020 ของตระกูล Acqua Di Giò ที่เปิดตัวมาด้วยแพ็กเกจขวดสีน้ำเงิน เป็นกลิ่นแนวสดชื่นด้วยบรรยากาศธรรมชาติของท้องทะเล เริ่มตั้งแต่กลิ่น Marine และ Aquozone ให้ความเบาสบาย พร้อมเติมความสดชื่นด้วยตระกูลซิตรัสอย่างส้มแมนดารินและมะกรูด ตามมาด้วยกลิ่นที่ทำให้รู้สึกตื่นตัวและมีชีวิตชีวาอย่างโรสแมรีและลาเวนเดอร์แล้วจึงปิดท้ายด้วยความนุ่มละมุน อบอุ่นของกลิ่นแนวป่าและเปลือกไม้ และมีกลิ่นของมัสก์ที่ช่วยขับให้กลิ่นมีความลุ่มลึก

น้ำหอมตัวนี้มีกลิ่นหอมแบบ Fruity Floral ที่ให้ความสดชื่นและทันสมัย โดยเมื่อฉีดแล้วจะได้รับความสดชื่นจากกลิ่นแบล็กเคอแรนต์ ตามด้วยกลิ่นกุหลาบและมะลิแบบนุ่มนวล ไม่ฉุน ไม่ทำให้เวียนหัว และไม่ทำให้แสบจมูก แล้วปิดท้ายด้วยกลิ่นวานิลลา, พิมเสน, ไวท์มัสก์ และซีดาร์ เมื่อดมแล้วจะช่วยเพิ่มพลังบวกและความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า อีกทั้งยังเป็นนโทนกลิ่นที่สามารถฉีดได้ทุกวันและทุกโอกาส กลิ่นมีความติดทนยาวนาน ดีไซน์ขวดสีแดงสวยโดดเด่น

น้ำหอมรุ่น My Way เปิดตัวเมื่อปี 2020 สร้างสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอม Carlos Benaïm และ Bruno Jovanovic โดยเป็นกลิ่นหอมที่มีความหอมของดอกไม้ผสานเข้ากับความอบอุ่นของไม้หอม เติมความสดชื่นและความสดใสจากกลิ่นดอกส้มและมะกรูด แฝงไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนและผ่อนคลายด้วยกลิ่นของวานิลลา ไวท์มัสก์ และซีดาร์ปิดท้าย สามรถใช้ได้ทุกโอกาส นอกจากนี้ ทางแบรนด์ยังออกแบบให้ขวดน้ำหอมสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งทำให้กระบวนการรีไซเคิลเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น

น้ำหอมรุ่นนี้เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นผ่อนคลาย ให้ความรู้สึกสบายสดชื่น แต่ก็มีโทนกลิ่นที่หลายหลายผสมผสานกัน โดยในสัมผัสแรกจะมีความเป็น Citrus ซึ่งเป็น Top Note ที่มีกลิ่นแรกที่สดชื่นด้วยกลิ่นของตระกูลซิตรัสอย่างมะนาว, มะกรูด และส้มแมนดาริน แต่เติมความเบาสบายด้วยกลิ่นมะลิ จากนั้นจะได้กลิ่นแนว Marine และ Floral ในช่วงของ Middle Note ก่อนปิดท้ายด้วยกลิ่นอบอุ่นแนว Woody กลิ่นมีความติดทน ดีไซน์ขวดสวยแบบโมเดิร์น

น้ำหอมกลิ่นนี้ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์โดย Antoine Lie ซึ่งกลิ่นหอมจะออกไปในทาง Oriental Spicy เป็นกลิ่นที่เรียบง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ และลุ่มลึก อีกทั้งยังมีความสดชื่น โดยใน Top Note จะมีกลิ่นของมะกรูดและเลม่อน ก่อนจะเพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยสมุนไพรอย่างโป๊ยกั๋ก, ดอกหอมหมื่นลี้ และน้ำมันไม้กวาเอคัม แล้วจึงปิดท้ายด้วยกลิ่น Leather, เมล็ดถั่วทองกา และ Tobacco ซึ่งก็คือกลิ่นยาสูบ นอกจากนี้น้ำหอมยังกระจายตัวได้ดี สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

น้ำหอมซีรีส์นี้เป็นน้ำหอมที่สามารถใช้ร่วมกับคู่รักได้ ซึ่งกลิ่นของฝ่ายชายนี้สร้างสรรค์โดยเซซิล มัตตง (Cécile Matton) เป็นกลิ่นโทน Amber-Fougere โดยที่รุ่นนี้จะเปิด Top Note มาด้วยกลิ่นของเหล้ารัม ผสมเข้ากับน้ำมันหอมระเหยเอเลมี่ และมะกรูด จากนั้นจะให้ฟีลแบบผ่อนคลาย อบอุ่น ของลาเวนเดอร์และ Davana พืชที่มีกลิ่นคล้ายชะเอมเทศ แล้วปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมหวานน่าทานจากวานิลลา, เกาลัด, พิมเสน และซีดาร์ น้ำหอมมีความหอมติดทนประมาณ 7 - 12 ชั่วโมง กลิ่นกระจายตัวได้ดี

น้ำหอมตัวนี้จะมีกลิ่นที่ลุ่มลึกแต่ก็นุ่มนวล โดยเปิดด้วยกลิ่นหวานฉ่ำจากแบล็คเคอแรนต์ ต่อจากนั้นในช่วง Middle Note จะเป็นกลิ่นฟลอรัลจาก Damascena Rose ที่ผสมกับความละมุนของ Davana จากนั้น Base Note จะเป็นความครีมมี่จาก Bourbon Vanilla รวมกับพิมเสน อีกทั้งยังมีกลิ่นแนวสโมคจากชาดำ ซึ่งช่วยขับเน้นความหอมละมุนของกลิ่นวานิลาได้ดี ภาพรวมของกลิ่นจะเป็นแนว Chypre Amber Fruity นอกจากนี้ตัวขวดก็มีดีไซน์ที่สวยโดดเด่นอีกด้วย

น้ำหอมรุ่น Light di Gioia ตัวนี้ถูกสร้างสรรค์โดย Olivier Cresp ที่ผสมผสานความสดชื่นของซิตรัสเข้ากับความหอมละมุนของดอกไม้ โดยเริ่มแรกในส่วนของ Top Note จะเป็นกลิ่นสดชื่นและให้ความรู้สึกเย็นจากมะกรูด เมื่อผ่านไปสักระยะจนเข้าสู่ช่วง Middle Note จะได้กลิ่นหอมละมุนของดอกไม้ อย่างดอกพุดและดอกมะลิรวมกัน จากนั้นจึงปิดท้ายด้วยกลิ่นไวท์มัสก์และวู้ด เป็นกลิ่น Base Note น้ำหอมจะมีความบางเบาจะก็ติดทนนานถึง 3 - 6 ชั่วโมง

น้ำหอมรุ่น In Love With You Freeze เป็นน้ำหอมผู้หญิงที่มีกลิ่นหอมแบบผู้หญิงอย่างเด่นชัด ประกอบด้วยกลิ่นสดชื่นจากส้ม, ลูกแพร์ และเชอร์รี เพิ่มเติมด้วยกลิ่นหอมหวานของดอกลิลลี่, พิโอนี และมะลิ แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นกลิ่นหอมหวาน จบด้วยกลิ่นแนวสุขุมของ Woody ผสานกับกลิ่นไวท์มัสก์ หญ้าแฝก และพิมเสนที่เพิ่มความอบอุ่นเย้ายวนใจและมิติของกลิ่นได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นน้ำหอมแนวสดชื่นอาจมีความติดทนไม่เท่ากับรุ่นอื่น ๆ