เชื่อว่าสาว ๆ ผิวคล้ำหลายคนต้องเคยเจอกับปัญหาการไม่มีสีของรองพื้นที่เหมาะกับโทนสีผิวของตัวเอง ทำให้หลายคนต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อคอนทัวร์มาผสมกับรองพื้นสีอ่อนเพื่อให้ใกล้เคียงกับสีผิวของตัวเองมากที่สุด อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องของโทนสีที่ต้องพิจารณาให้ดีแล้ว ยังมีในเรื่องของเนื้อสัมผัส ฟินิชลุคที่ต้องการและความสามารถในการปกปิดที่ควรใส่ใจด้วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วการเมคอัพของเราอาจดูหมอง ดูเทากว่าเดิมอีกด้วย
ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะในครั้งนี้เราได้สรุปสาระน่ารู้เกี่ยวกับการเลือกรองพื้นสำหรับคนผิวคล้ำมาฝากกัน พร้อมคำแนะนำจากเมคอัพอาร์ทติสต์โดยตรง และยังมี 10 รองพื้นสำหรับผิวคล้ำ รุ่นยอดฮิต จากแบรด์ดังมาแนะนำ เพื่อให้สาว ๆ ทุกคนสามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติ ราคาและรีวิวของรองพื้นแต่ละรุ่นได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
Top 5 รองพื้นสำหรับผิวคล้ำ ยอดนิยม
Estee Lauder
มีหลายเฉดสี ปกปิดขั้นสุด ผิวสวยเป็นธรรมชาติ คุมมัน ติดทนนาน
Hourglass
ใช้งานง่ายและรวดเร็ว ทำคอนทัวร์ก็ได้ แทนคอนซีลเลอร์ก็ดี
คุณนุ๊กจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชา MAKEUP FASHION EDITORAIL IMAGE จาก University of the Arts London และมีประสบการณ์การทำงานเป็นช่างแต่งหน้าในประเทศอังกฤษมากว่า 11 ปี โดยมีโอกาสได้ร่วมงานกับช่างภาพมืออาชีพและนางแบบจากบริษัท Modelling Agency ที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในลอนดอน เช่น NEVS, Elite Models, Booking Model รวมทั้งยังมีโอกาสร่วมงานแฟชั่นโชว์และเทศกาลดนตรีมากกว่า 30 งาน หลังจากที่เดินทางกลับเมืองไทย คุณนุ๊กโดยได้รับเกียรติเป็นเมคอัพสไตล์ลิสต์และเทรนนิ่งให้กับองค์กรบริษัทที่เป็นที่รู้จักหลายแห่ง เช่น Makeup Store, Oriental Princess และ Flormar และยังเป็นครูผู้สอนให้กับช่างแต่งหน้า ช่างทำผม และอบรมเสริมบุคลิกภาพให้กับพนักงานบริษัทชื่อดังหลายแห่งอีกด้วย ปัจจุบันคุณนุ๊กเป็นเจ้าของสถาบันสอนแต่งหน้า IMFA International Makeup Fashion Academy มายาวนานถึง 10 ปี ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ สาขาแจ้งวัฒนะและสาขาเดอะสตรีทรัชดา เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้แก่ผู้ที่มีความสนใจที่อยากจะเป็นเมคอัพอาร์ทติสให้ประสบความสำเร็จในด้านการประกอบอาชีพ
คุณอีฟใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2017 และทำงานเป็นพนักงานประสานงานระหว่างคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในจังหวัดคานะกะวะ นอกเหนือจากงานหลักแล้ว คุณอีฟยังทำงานเป็นล่ามฟรีแลนซ์และมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและสกินแคร์ โดยชอบติดตามเทรนด์ความงามทั้งจากแบรนด์ญี่ปุ่นและอื่น ๆ ทดลองผลิตภัณฑ์ และอ่านรีวิวเกี่ยวกับเครื่องสำอางและสกินแคร์อยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังมีประสบการณ์แต่งหน้าสำหรับงานต่าง ๆ ทั้งในไทยและญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแต่งหน้าเจ้าสาว แต่งหน้ารับปริญญา หรือแต่งหน้าออกงาน ทำให้คุณอีฟเข้าใจการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวและโอกาสต่าง ๆ ซึ่งนอกจากด้านความงามแล้ว คุณอีฟยังรักการทำอาหาร โดยเฉพาะการคิดค้นสูตรใหม่ ๆ ที่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยและญี่ปุ่น รวมถึงสอนทำอาหารไทยให้กับคนญี่ปุ่นเป็นครั้งคราว จึงชอบทดลองวัตถุดิบที่หาได้ในญี่ปุ่น และปรับรสชาติให้เข้ากับวัฒนธรรมการกินของที่นี่ อีกทั้งยังสนุกกับการแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคแต่งหน้า การเลือกสกินแคร์ หรือการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประโยชน์
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
รองพื้นถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ของการแต่งหน้า ดังนั้น เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินใจซื้อจากแค่การอ่านรีวิวของรุ่นใดรุ่นหนึ่ง เพราะโทนสีผิวของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันด้วย คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า มีอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกรองพื้นสำหรับคนผิวคล้ำ
ปัจจัยที่จะมีผลต่อการแต่งหน้าเป็นอย่างมากก็คือ "เนื้อรองพื้น" เพราะถ้าเราเลือกลักษณะของเนื้อสัมผัสที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวหรือการใช้งานของเรา ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี โดยปกติแล้ว เนื้อสัมผัสของรองพื้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
เนื้อสัมผัสประเภทนี้จะค่อนไปทางเหลวแบบน้ำ ๆ มีเนื้อบางเบาเกลี่ยง่าย เวลาลงแนะนำให้ใช้คู่กับแปรงรองพื้นหรือฟองน้ำบิวตี้เบลนเดอร์ก็จะช่วยในการลงรองพื้นและการเบลนด์สีได้ง่าย ไม่เป็นคราบ แม้แต่มือใหม่ก็สามารถใช้ได้อย่างง่ายดาย จึงกลายเป็นลักษณะของเนื้อสัมผัสที่แบรนด์เครื่องสำอางต่างพัฒนาออกมามากที่สุด มีหลายสูตรให้สาว ๆ เลือกซื้อตามสภาพผิวของตนเอง
1. สูตร Oil-free : รองพื้นที่ไม่ผสมน้ำมัน ทาแล้วจึงไม่มีความมันวาว เหมาะกับสาว ๆ ที่มีสภาพผิวมัน
2. สูตร Oil-base : มีส่วนผสมของน้ำมัน ทำให้มีความชุ่มชื้นสูง ช่วยอำพรางริ้วรอย เหมาะกับสาวที่มีสภาพผิวแห้ง ผิวธรรมดาและผิวผสม
3. สูตร Moisturizing-base : มีน้ำเป็นส่วนผสมหลักผสมกับน้ำมัน เนื้อจึงบางเบาที่สุดในบรรดา 3 สูตร มีคุณสมบัติเน้นให้ความชุ่มชื้น ใช้แล้วรู้สึกไม่หนักผิว เหมาะกับผิวมันและผิวธรรมดา
รองพื้นที่มีเนื้อสัมผัสแบบครีมจะมีส่วนผสมของแว็กซ์และน้ำมันสูง ทำให้เนื้อค่อนข้างแน่น แต่ก็มีความชุ่มชื้นสูงกว่าแบบลิควิดทุกสูตร จึงเหมาะกับคนผิวแห้งมาก มีปัญหารอยฝ้ากระหรือสำหรับใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น วันรับปริญญาหรือวันแต่งงาน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการปกปิดสูงอีกด้วย คุณสามารถลงรองพื้นตัวนี้แบบบาง ๆ ให้ทั่วใบหน้าในรอบแรกและมาเน้นตรงจุดที่เป็นปัญหาด้วยการเพิ่มเลเยอร์ของรองพื้นให้หนาขึ้นเฉพาะจุด
ส่วนข้อเสีย คือ เกลี่ยค่อนข้างยาก เพราะต้องอาศัยเทคนิค แถมยังมีเนื้อที่หนัก ทำให้เมื่อทาแล้วอาจจะรู้สึกไม่สบายผิวได้ เราจึงขอแนะนำให้ใช้ปริมาณเล็กน้อยเท่านั้นจะดีกว่าครับ
รองพื้นรูปแบบแป้งผสมรองพื้น เป็นประเภทที่ใช้งานง่ายและสะดวกสุด ๆ เพราะมาในรูปแบบตลับ พกพาง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการแต่งหน้าหรือต้องการเอามาใช้เติมระหว่างวันได้อย่างเนียนกริบ ดูเป็นธรรมชาติ เพียงแค่เอาพัฟแต่งหน้ามาปัด ๆ ตบ ๆ ให้ดูสวยงาม ข้อดีของรองพื้นประเภทนี้ คือ ช่วยให้แต่งหน้าง่ายและรวดเร็วขึ้น เนื้อแป้งจะช่วยดูดซับความมัน ทาแล้วเบาสบายผิว แถมยังสามารถใช้เซ็ตใบหน้าหลังจากลงรองพื้นประเภทอื่น ๆ แล้วได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แป้งผสมรองพื้นบางรุ่นยังมีข้อเสียอย่างหนึ่งคือ เมื่อใช้แล้วอาจรู้สึกเหมือนสีดรอปและสีเปลี่ยนระหว่างวัน ทางแก้คือ ให้คุณทาเมคอัพไพรเมอร์บาง ๆ ทุกครั้งก่อนลงแป้งและใช้ฟินิชชิ่งสเปรย์เพื่อล็อกหลังลงแป้ง เพียงแค่นี้ก็จะทำให้สีแป้งไม่ดรอปและไม่เปลี่ยนสีระหว่างวันได้แล้วครับ
ถือเป็นอีกข้อที่สำคัญมากทีเดียว เพราะถ้าสาว ๆ เลือกผิดจะส่งผลต่อเมคอัพลุคทั้งหมด จนอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจและไม่กล้าหยิบรองพื้นรุ่นนั้น ๆ ขึ้นมาใช้อีกเลย ส่วนฟินิชลุคแบบไหนจะเหมาะกับสภาพผิวใดบ้างต้องติดตามครับ
ฟินิชลุคแบบแมตต์นั้นจะทำให้ผิวหน้าไร้ความมันวาว จึงเหมาะกับสาวผิวมันหรือผิวผสม เพราะจะช่วยกลบและดูดซับความมันได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าสาวผิวปกติอยากลองใช้ก็ได้เช่นกัน แต่ขอแนะนำว่า ให้ลงมอยเจอร์ไรเซอร์ก่อนเพื่อไม่ให้หน้าดูแห้งกร้านเกินไป หรือใช้วาสลีนผสมเฉพาะตรงส่วนที่แห้งแล้วลองลงใหม่อีกครั้งก็จะช่วยแก้ปัญหาได้ดี ส่วนสาวผิวแห้งควรจะหลีกเลี่ยงรองพื้นแบบนี้ไปเลย เพราะจะยิ่งเน้นสภาพผิวที่แห้งลอกให้ดูเด่นชัดมากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูไร้ชีวิตชีวาได้
นอกจากนี้ สำหรับสาวผิวมันหรือผิวผสมที่มีริ้วรอยตีนกาเยอะ เราขอแนะนำให้เลือกรองพื้นที่ให้ฟินิชลุคแบบกึ่งแมตต์ หรือลุคแมตต์ที่มีความเป็นธรรมชาติ มีความชุ่มชื้นเล็กน้อย เพื่อช่วยอำพรางริ้วรอยต่าง ๆ เพราะรองพื้นที่แมตต์มากเกินไปจะตกร่องริ้วรอย ทำให้มองเห็นข้อบกพร่องบนผิวหน้ายิ่งเด่นชัดมากขึ้นนั่นเองครับ
ฟินิชลุคแบบนี้จะให้ความชุ่มชื้นฉ่ำวาวแบบผิวแลดูอิ่มน้ำ ถ้าบวกไฮไลต์เข้าไปอีก ก็จะยิ่งทำให้ความฉ่ำวาว แต่รองพื้นที่ให้ฟินิชลุคแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ควบคุมความมัน ดูไม่เป็นขุยเวลาแต่ง จึงเหมาะกับสาวผิวแห้งซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้แบรนด์เครื่องสำอางที่มีรองพื้นประเภทนี้มักจะเป็นแบรนด์จากฝั่งตะวันตก เพราะด้วยสภาพอากาศทางภูมิประเทศที่ค่อนข้างหนาวเย็น ทำให้สาว ๆ ต้องการรองพื้นที่ให้ความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ ส่งผลให้ร้านเครื่องสำอางในไทยต้องนำเข้ามา ผลิตภัณฑ์รองพื้นประเภทนี้จึงมีราคาค่อนข้างสูงและมีรุ่นให้เลือกค่อนข้างน้อยตามไปด้วย
อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วในตอนต้นว่า เรื่องโทนสีของรองพื้นนั้นมักเป็นปัญหาจนสาวผิวคล้ำมีความกังวล ดังนั้น อันดับแรกเลย สาว ๆ ควรมองหาแบรนด์ที่มีสีของรองพื้นให้เลือกหลายเฉด ชนิดที่ครอบคลุมทั้งอันเดอร์โทนเหลืองและชมพู ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว แบรนด์ที่มีสีของรองพื้นให้เลือกเยอะมักจะเป็นเคาน์เตอร์แบรนด์จากประเทศทางตะวันตก ทำให้มีราคาค่อนข้างสูง แต่เพื่อให้ได้เฉดสีที่ตรงกับสีผิวของเราอย่างแท้จริง สาว ๆ จึงต้องลองลงทุนสักหน่อย รับรองว่าคุ้มค่าครับ
ส่วนวิธีการเลือกสีก็ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ลองแต้มรองพื้นบริเวณเส้นกรอบหน้าและลากลงมาถึงต้นคอเล็กน้อย เพื่อทดสอบว่าสีใดที่จะกลมกลืนกับผิวของเรามากที่สุด อย่างไรก็ตาม สำหรับการสั่งซื้อทางออนไลน์อาจจะไม่สามารถลองแบบนี้ได้ เราจึงแนะนำให้เลือกเบอร์สีที่ใกล้เคียงกับสีรองพื้นที่เคยใช้ หรือไม่ก็ซื้อรุ่นขนาดทดลองมาใช้ก่อน เพื่อเพิ่มความมั่นใจและป้องกันการสูญเสียทุนทรัพย์โดยใช่เหตุ
โดยทั่วไปรองพื้นจะมีระดับการปกปิดอยู่ 3 ระดับ แต่ละระดับจะเหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
1. ระดับบางเบา : ให้การปกปิดเพียงเล็กน้อย ผิวยังคงดูเป็นธรรมชาติ หลังจากทาไปแล้วจะรู้สึกเบาสบาย ไม่หนัก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่มากนัก หรือต้องการเน้นเมคอัพลุคแบบธรรมชาติ
2. ระดับปานกลาง : ส่วนใหญ่แล้วเนื้อสัมผัสของรองพื้นที่ให้การปกปิดระดับนี้จะมีความหนาขึ้นมาหน่อย จึงเหมาะกับผู้ที่มีจุดบกพร่องบนผิวหน้าประมาณหนึ่ง แต่ทาแล้วยังคงรู้สึกเบาสบายผิว ซึ่งรองพื้นส่วนใหญ่จะให้การปกปิดที่ระดับนี้ครับ
3. ระดับสูงสุด : รองพื้นที่ให้การปกปิดระดับนี้มักจะมาพร้อมเนื้อสัมผัสที่หนาหนัก จึงอาจทำให้รู้สึกไม่สบายผิวได้ แต่ก็แลกมากับประสิทธิภาพการปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยม จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหลายจุด
อย่างไรก็ตาม หากอยากได้ลุคผิวที่สวยเป๊ะ แต่ก็ไม่อยากใช้รองพื้นที่ปกปิดสูงเพราะกลัวจะหนักผิว เราขอแนะนำให้ใช้รองพื้นที่ปกปิดระดับกลาง แล้วใช้คอนซีลเลอร์ช่วยอำพรางข้อบกพร่องเฉพาะจุดเพิ่มเติม ก็จะช่วยให้รู้สึกเบาสบายผิวหน้ามากขึ้น นอกจากนี้ ยังควรเลือกให้เหมาะกับงานและสถานการณ์ที่คุณจะนำมาใช้ด้วยครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation | ![]() | ผสมเพอร์ไลท์และซิลิกาช่วยคุมมัน ติดทนนานหลายชั่วโมง | |
2 | Estee Lauder Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10 / PA+++ | ![]() | มีหลายเฉดสี ปกปิดขั้นสุด ผิวสวยเป็นธรรมชาติ คุมมัน ติดทนนาน | |
3 | Nars Sheer Glow Foundation | ![]() | เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย มาพร้อมสารบำรุง ให้ผิวโกลว์ดูมีสุขภาพดี | |
4 | Hourglass Vanish Seamless Finish Foundation Stick | ![]() | ใช้งานง่ายและรวดเร็ว ทำคอนทัวร์ก็ได้ แทนคอนซีลเลอร์ก็ดี | |
5 | Laura Mercier Silk Crème Oil Free Foundation | ![]() | เนื้อครีมสูตร Oil-Free ปกปิดกำลังดีแต่บางเบาไม่หนักหน้า | |
6 | MAC Studio Fix Powder Plus Foundation | ![]() | เนื้อแป้งเนียนละเอียด ผิวผ่องดูสดใส ช่วยให้ถ่ายรูปสวยขึ้น | |
7 | Covermark รองพื้น Essence Foundation Jusme | ![]() | ผิวเปล่งปลั่งด้วยทฤษฎีสี JUSME COLOR ปราศจากน้ำหอม | |
8 | Revlon ColorStay™ Makeup for Combination/Oily Skin SPF 15 | ![]() | รองพื้นระดับตำนาน ที่สุดแห่งความเนียน ช่วยบำรุงและกันแดดได้ดี | |
9 | L'Oreal Paris True Match Liquid Foundation SPF16 PA++ | ![]() | ลุคแมตต์สวย เฉดสีครอบคลุมผิวสาวไทย ชุ่มชื้นด้วยไฮยาลูรอนิค | |
10 | Cute Press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF30 PA+++ | ![]() | เพิ่มความสว่างให้ผิวหน้าดูมีออร่า ช่วยคุมมันไม่ให้ดูเยิ้มจนเกินไป |
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรองพื้นที่มีเฉดสีให้เลือกเยอะมากเลยครับ รับรองว่าสาว ๆ ผิวคล้ำที่เป็นคนช่างเลือกจะต้องรู้สึกฟิน ในด้านของคุณสมบัตินั้น รุ่นนี้เป็นสูตรปราศจากน้ำมัน แถมมีส่วนประกอบของเพอร์ไลท์และซิลิกา ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินด้วย เนื้อรองพื้นเนียนลื่นเกลี่ยง่าย ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ อำพรางข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้ดี ช่วยให้ผิวดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น พร้อมทั้งกันน้ำกันเหงื่อ จึงติดทนนานหลายชั่วโมง ดูดีตั้งแต่เช้าจรดเย็น และยังมีสารกันแดด SPF 15 ในตัว ที่สำคัญ สามารถล้างออกได้ง่ายแม้จะใช้คลีนซิ่งทั่วไปก็ตาม
รองพื้นรุ่นนี้ถือเป็นหนึ่งในรองพื้นระดับตำนาน และยังเป็นอันดับ 1 ของแบรนด์ มีสีให้เลือกเยอะมากถึง 35 สี ไม่ว่าจะมีผิวคล้ำไทนไหนก็หาเฉดสีที่เข้ากับตัวเองเจอแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้น แต่ตัวนี้ยังโด่งดังเรื่องความสามารถในการปกปิดขั้นสุด ช่วยอำพรางรูขุมขนได้ดี สีผิวสม่ำเสมอ เนียนสวยและดูเป็นธรรมชาติ แต่ต้องใช้ความชำนาญในการเกลี่ยเล็กน้อย เพราะรองพื้นค่อนข้างแห้งไวเลย นอกจากนี้ ยังควบคุมความมันได้ดี สาวผิวมันส่วนใหญ่หลงรักตัวนี้มาก แถมยังติดทนนานตลอดทั้งวันโดยไม่เป็นคราบและไม่ดรอปอีกด้วย
ถือเป็นหนึ่งในรองพื้นที่สาว ๆ ผิวคล้ำต้องหลงรัก เพราะมีหลายเฉดสีให้เลือกซื้อ แถมเนื้อรองพื้นยังเนียนลื่นละมุนผิว เกลี่ยง่าย แห้งไว ทาแล้วรู้สึกเบาสบายผิว ให้การปกปิดแบบบางเบาแต่เป็นแบบ Buildable จึงช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอดูเนียนสวยเป็นธรรมชาติได้ ควบคุมความมันระดับปานกลาง และด้วยความที่เป็นสูตรลิควิด ทำให้สาวผิวผสมกับผิวมันอาจจะไม่เหมาะกับรุ่นนี้เท่าไร หรือถ้าอยากใช้จริง ๆ แนะนำให้ลงไพรเมอร์คุมมันก่อนทารองพื้นและใช้สเปรย์ล็อกเมคอัพอีกทีหนึ่งครับ
เป็นรองพื้นที่มีคุณสมบัติคล้ายคอนซีลเลอร์ เพราะมาในรูปแบบแทง แถมยังให้การปกปิดขั้นสุด แต่รู้สึกเบาสบายไม่หนักผิว เป็นสูตรกันน้ำกันเหงื่อ ติดทนนานหลายชั่วโมง จากเสียงรีวิวบอกว่า เนื้อค่อนข้างแห้งแต่ก็มีความหนึบ ทำให้ไม่เหมาะกับคนหน้ามัน ในขณะเดียวกัน สาว ๆ ที่มีผิวหน้าแห้งมากก็ต้องระวัง แนะนำให้ลงมอยเจอร์ไรเซอร์ก่อน หลังรองพื้นเซ็ตตัวแล้วให้ฟินิชลุคงานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ยิ่งถ้าใช้แปรงทาผิวยิ่งสวยเลยครับ นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาใช้ในการทำคอนทัวร์ได้อีกด้วย
รองพื้นเนื้อครีมตัวนี้ มาจากแบรนด์ที่มีความโด่งดังเรื่องงานผิวอย่าง LAURA MERCIER ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้ อยู่ที่ความเป็นสูตร Oil-Free ที่ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่าไม่อุดตันรูขุมขน และแม้จะเป็นเนื้อครีมแต่มีความบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่ต้องใช้แปรงช่วยก็ลงได้เนียนกริบ พร้อมให้การปกปิดระดับปานกลางขึ้นไป เมื่อเซ็ตตัวแล้วจะทำให้ผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติและดูสวยมากขึ้น แม้ว่าราคาอาจจะสูงสักหน่อย แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์แล้วถือว่าเป็นคุ้มค่าเลยครับ
แป้งผสมรองพื้นที่มีเฉดสีให้สาว ๆ เลือกมากถึง 13 เฉด มาพร้อมความสามารถในการปกปิดระดับกลาง-ขั้นสุด ช่วยอำพรางรูขุมขนและริ้วรอย ควบคุมความมันในระดับหนึ่ง แต่ไม่แมตต์แห้งจนเกินไป หลายคนที่ใช้จริงรีวิวว่า เนื้อแป้งเนียนละเอียดไม่บาดผิว ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนสวย สีผิวสม่ำเสมอ ถ่ายรูปสวยขึ้น แต่สีจะดรอปลงเล็กน้อยในระหว่างวัน นอกจากนี้ สำหรับคนที่หน้ามันมาก หากไม่เซ็ตผิวด้วยไพรเมอร์ควบคุมความมันก่อนลงแป้ง หรือต้องอยู่ในที่อากาศร้อนนาน ๆ อาจจะเกิดคราบบริเวณจมูกได้ครับ
เป็นรองพื้นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความน่าสนใจจากทฤษฎีสีเฉพาะของแบรนด์หรือ JUSME COLOR ที่การันตีว่าช่วยทำให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น ลดความหมองคล้ำลงไป ตัวรองพื้นสามารถติดทนนานได้สูงสุด 8 ชั่วโมงด้วยสูตรอิมัลชัน นอกจากนี้ ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติช่วยบำรุงผิวและมีค่า SPF18/PA++ โดยเนื้อครีมเนียนละมุน เกลี่ยง่าย ให้การปกปิดดี ผิวดูเนียนสวยเป็นธรรมชาติ กันน้ำกันเหงื่อ ไม่เป็นคราบระหว่างวัน แต่ข้อเสีย คือ ล้างออกยาก จึงแนะนำให้ใช้อายรีมูฟเวอร์ช่วยอีกแรง เพราะถ้าล้างไม่สะอาดอาจจะอุดตันผิวหน้าได้
ตัวนี้เป็นรองพื้นสำหรับสาวผิวคล้ำที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะถูกร่ำลือว่า ดีเทียบเท่ากับรองพื้นระดับ Hi-End จากอีกยี่ห้อหนึ่ง มีเนื้อสัมผัสของรองพื้นที่หนืดเล็กน้อย แต่เกลี่ยง่าย มีเทคโนโลยีพิเศษช่วยให้ปกปิดข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้อย่างแนบเนียน บางเบาในระดับหนึ่งจึงไม่รู้สึกหนักผิวมากนัก มาพร้อมกับแร่ธาตุธรรมชาติ วิตามิน E และสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ ช่วยลดการระคายเคือง ปราศจากน้ำหอม ควบคุมความมันนานหลายชั่วโมง ระหว่างวันไม่เป็นคราบและสีไม่ดรอปแน่นอน
ถือเป็นรองพื้นตัวเด็ดของแบรนด์นี้เลยครับ เพราะพัฒนาเฉดสีให้ครอบคลุมสีผิวของสาวไทยโดยส่วนใหญ่ จึงมีโทนสีเข้มแบบต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย มีเนื้อแบบซาติน ไม่เหลวหรือข้นจนเกินไป ยังคงให้ความรู้สึกบางเบา ให้การปกปิดที่ดี แถมยังเกลี่ยง่ายมาก หลังจากทาแล้วผิวแลดูเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติและชุ่มชื้นด้วยกรดไฮยาลูรอนิค พร้อมช่วยควบคุมความมันในระดับหนึ่ง โดยที่ระหว่างวันไม่เป็นคราบและสีไม่ดรอป แต่สำหรับสาวผิวมัน แนะนำให้ลงไพรเมอร์คุมมันก่อนทา เพื่อที่จะได้ไม่ดูเยิ้มมากเกินไปครับ
เป็นแป้งผสมรองพื้นของ Cute Press ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง โดยรุ่นนี้น่าสนใจตรงที่มีเทคโนโลยี "Instant Retouch" ทำให้อณูแป้งกระจายแสง ใบหน้าจึงดูเรียบเนียนและเปล่งปลั่ง ช่วยบำรุงให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วยสารสกัดธรรมชาติจากดอกกุหลาบพันปี แถมยังเป็นสูตร Oil-Free ช่วยควบคุมความมันในระดับหนึ่ง พร้อมช่วยอำพรางรูขุมขน เผยสีผิวสม่ำเสมอ ดูเรียบเนียน กรณีเป็นคนที่มักมีเหงื่อออกหรือเป็นคนผิวมันมาก ระหว่างวันอาจจะเป็นคราบเล็กน้อย แต่ถ้าสาว ๆ อยู่แต่ในห้องแอร์รุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ
ด้วยความที่คนไทยส่วนมากมีสีผิวที่คล้ำ แต่รองพื้นต่าง ๆ ที่ออกมาอาจจะไม่ตอบโจทย์มาก ทำให้เวลาเลือกรองพื้นก็อาจจะเกิดปัญหาต่าง ๆ ได้ ในวันนี้ เราจึงมีคำแนะนำและคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันครับ
ถ้าใช้รองพื้นสีเข้มกว่าหน้านับเป็นปัญหาแน่นอนครับ อย่างแรกเลยหน้าและคอของคุณจะออกมาคนละสี และอาจทำให้ใบหน้าของคุณแลดูหมองคล้ำแน่นอน แต่ถ้าคุณดันไปซื้อสีที่เข้มกว่าผิวมาแล้ว คุณก็อาจจะปรับเอามาทำเป็นเฉดดิ้งกรอบหน้าแทนได้ หรือจะเอามาผสมกับรองพื้นสีอ่อนหรือครีมไฮไลต์สีอ่อนที่คุณมีเพื่อมาปรับสีรองพื้นที่เข้มให้อ่อนลงแล้วค่อยนำมาใช้ก็ได้ครับ
วิธีเลือกเฉดสีรองพื้นให้เหมาะสมกับใบหน้านั้น ให้เราทำการเทสสีโดยการนำเอารองพื้นมาแตะและเบลนด์ตรงบริเวณคางหรือกรามของเรา ไม่ควรทดสอบตรงข้อมือหรือท้องแขนเพราะมีคนละสีกันครับ สีที่เหมาะกับผิวเรามากที่สุดควรเป็นสีที่เราลองแล้วแยกไม่ออกว่ามีสีรองพื้นอยู่บนผิว ถ้าหากเป็นแบบนั้นถึงจะนับว่าดีที่สุดครับ
หากคุณเป็นมือใหม่และอยากหัดแต่งหน้า ผมแนะนำรองพื้นประเภทแบบแท่งหรือแบบสติ๊กครับ เพราะตัวนี้ออกแบบมาเพื่อให้ใช้ได้ง่ายสะดวกพกพาง่าย เวลาใช้ก็เพียงหมุนและระบายลงบนผิวแล้วใช้นิ้วเกลี่ยให้เนียนได้เลย ไม่จำเป็นต้องพึ่งแปรงแต่งหน้าหรือฟองน้ำเลย แต่ขอแนะนำว่าน้ำหนักมือของคุณควรที่จะเบามาก ๆ ตอนเบลนด์ เพราะถ้าใส่น้ำหนักมือมากเกินไปก็อาจทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ นอกจากนี้ เรายังสามารถลงซ้ำตรงจุดที่เป็นปัญหา เช่น สิว ฝ้า กระ เพื่อกลบปัญหาที่มีให้ดูเนียน เหมาะกับมือใหม่มากที่สุดครับ
อันดับที่ 1: Lancome|Teint Idole Ultra Wear Foundation
อันดับที่ 2: Estee Lauder|Double Wear Stay-in-Place Makeup SPF10 / PA+++
อันดับที่ 3: Nars|Sheer Glow Foundation
อันดับที่ 4: Hourglass|Vanish Seamless Finish Foundation Stick
อันดับที่ 5: Laura Mercier|Silk Crème Oil Free Foundation
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ