10 น้ำหอม Dior ผู้หญิง กลิ่นไหนหอม ปี 2024 รวมรีวิวรุ่นยอดนิยม กลิ่นหอม ติดทน

ทาง Dior ได้ผลิตน้ำหอมรุ่นนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นเกียรติแก่ความหลงใหลในดอกไม้นานาพันธุ์ของ Christian Dior ค่ะ ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นที่เป็นจุดเด่นของน้ำหอมรุ่นนี้จะเป็นกลิ่นสไตล์ Floral จากการผสานกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกกุหลาบดามัซก์และกลิ่นหอมละมุนนุ่มนวลจากดอกโบตั๋น แต่ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นที่หวานมากจนเกินไปนะคะ เพราะมีการผสมผสานกลิ่น Citrus จากมะกรูดและเสริมกลิ่นหอมจากไวท์มัสก์ ทำให้น้ำหอมรุ่นนี้มีมิติ ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ยังคงความสดใสไว้อยู่นั่นเอง

JOY by Dior EDP Intense เป็นน้ำหอมที่เข้มข้นกว่าตัวอื่น ๆ ในซีรีส์เดียวกัน โดยเปิดตัวด้วย Neroli จากต้นส้มที่แฝงไปด้วยความสดชื่น ผสานความหอมหวานแต่ไม่เลี่ยนจนเกินไปของกลิ่นละมุนละไมจากดอกกุหลาบและดอกมะลิ ปิดท้ายด้วยกลิ่นที่เพิ่มเสน่ห์เย้ายวนชวนหลง โดยรวบรวมกลิ่นของน้ำหอมที่โดดเด่นหลาย ๆ กลิ่นมาผสานกันอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะ Tonka bean, Vanilla, Sandalwood และ Musk เหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการลุคอ่อนหวาน สดใส แต่ยังคงความน่าค้นหาค่ะ

เปิดตัวกลิ่นน้ำหอม Top Note เป็นกลิ่น Citrus โดยจะได้มาจากผลไม้และผัก เช่น เลมอน, ส้ม, มะกรูดและพริกไทยชมพู เป็นต้น ต่อมาเป็นกลิ่น Middle Note ซึ่งเป็นจุดเด่นของน้ำหอมรุ่นนี้เลยค่ะ โดยจะประกอบไปด้วยกลิ่นของดอกกุหลาบ 2 ชนิด ได้แก่ กุหลาบจากเมืองกราซและดอกกุหลาบจากดามัซก์ อีกทั้งยังรวมกลิ่นของดอกลิลลี่มารวมกับดอกกุหลาบทั้ง 2 ชนิดอีกด้วย เรียกได้ว่าทาง Dior นั้นจัดหนักจัดเต็มให้กับสาว ๆ ทุกคนมากค่ะ นอกจากนี้ยังเพิ่มความสดชื่นจากพิมเสนให้สาว ๆ ไม่รู้สึกหวานเลี่ยนจนเกินไป

น้ำหอมรุ่น Lucky เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง มาพร้อมกลิ่นที่จินตนาการได้ถึงเครื่องลางแห่งความโชคดี ผ่านความหอมสไตล์กลิ่น Floral ด้วย White Flora ต่าง ๆ โดยเฉพาะดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ที่มีความละมุนและอบอุ่น ทำให้ภาพรวมของกลิ่นออกมาดูหอมสะอาดและสดชื่น ซึ่งสามารถใช้ฉีดได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกฉุน นอกจากนี้ หากใครชอบขวดเอกลักษณ์สวยงาม ทางแบรนด์เปิดตัวรูปแบบขวดใหม่ที่ห่อหุ้มไปด้วยลวดลาย houndstooth ใน New Look Houndstooth Limited Edition ค่ะ

น้ำหอมรุ่นนี้ได้รับเสียงชื่นชมทั้งในเรื่องของดีไซน์ขวดน้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากส่วนเว้าส่วนโค้งของผู้หญิงและสร้อยคอของชนเผ่ามาไซ ส่วนในเรื่องของกลิ่นโดยรวมที่จะเป็นสไตล์ White Floral มีความหอมละมุน ให้ความรู้สึกหรูหรา และมีเสน่ห์เย้ายวนใจ โดยกลิ่นที่โดดเด่นของน้ำหอมรุ่นนี้คือ กลิ่นของดอกกระดังงา, ดอกกุหลาบ, ดอกมะลิก้านแดง และดอกมะลิซ้อน เห็นแบบนี้หลาย ๆ คนอาจกังวลว่าจะฉุนและเลี่ยน ทาง Dior จึงเสริมกลิ่น Fruity ลงไปด้วยเพื่อไม่ให้เลี่ยนจนเกินไปนั่นเองค่ะ

J'adore เป็นอีกหนึ่งซีรีส์น้ำหอมระดับตำนานประจำแบรนด์ ซึ่งเปิดตัวรุ่น J'adore Infinissime ในปี 2020 เน้นการสื่อถึงเสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงค่อนข้างสูง เปิดตัวด้วยกลิ่นซีตรัสบางเบาจากส้ม พริกไทยสีชมพู และมะกรูด พร้อมผสานความหอมจากดอกไม้นานาพันธุ์ เช่น ดอกกระดังงา, ลิลลี่, ดอกมะลิ และดอกกุหลาบ ทั้งยังเพิ่มความละมุนสุดเอกลักษณ์ของดอกซ่อนกลิ่นจากเมืองกราซ ทำให้เป็นตัวชูโรงกลิ่นหอมชั้นเลิศ ปิดท้ายด้วยกลิ่น Woody จากไม้จันทน์หอมที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนที่ไม่เหมือนใครค่ะ

เติมเต็มวันที่สดใสด้วยกลิ่นหอมของน้ำหอมรุ่น Souffle De Soie Dior สิคะ มาพร้อมกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกสบาย เปิดตัวด้วยกลิ่นลึกลับซับซ้อนจากดอกไม้นานาพันธุ์ ไม่ว่าจะดอกกุหลาบ ดอกมะลิ และดอกซ่อนกลิ่น แต่ให้ยังความรู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวาด้วยกลิ่นซีตรัสเบา ๆ ของมะกรูด ตบท้ายด้วยการเสริมกลิ่นหอมละมุนจากไวท์มัสก์และวานิลลา เพิ่มความเผ็ดเล็กน้อยด้วยอบเชย เรียกได้ว่าน้ำหอมรุ่นนี้มีกลิ่นหลากหลายมิติมาก ๆ เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่หาน้ำหอมใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ

ความโดดเด่นของน้ำหอมรุ่นนี้อยู่ที่การผสมผสานความเป็นกลิ่น Floral กับกลิ่น Citrus ค่ะ จึงทำให้ได้กลิ่นที่หอมหวานอมเปรี้ยวและมีความสดชื่นมาก ๆ นั่นเอง โดยเริ่มต้นนั้น Top Note จะมีกลิ่นเปรี้ยวของเกรปฟรุตผสานกับกลิ่นหอมนุ่ม ๆ ของมะกรูด ต่อมาจะเป็นกลิ่น Floral มากขึ้นจากการผสมผสานของดอกฟรีเซียและดอกลิลลี่ โดยกลิ่นของดอกไม้ทั้งสองชนิดนี้จะเข้าไปช่วยเสริมให้กลิ่นของน้ำหอมเบาลงและหอมหวาน สุดท้ายจะเป็นกลิ่นสไตล์ไวท์มัสก์ เสริมให้กลิ่นของน้ำหอมละมุนมากยิ่งขึ้นค่ะ

น้ำหอมรุ่น Pure Poison มาพร้อมกลิ่นหอมในตำนานราวกับแอปเปิลอาบยาพิษที่เผยความเย้ายวนชวนให้ใคร ๆ ต้องลองดม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่บ่งบอกความเป็นผู้หญิงอย่างชัดเจน เพราะมีความหวานที่อบอวลของดอกไม้อย่างดอกมะลิ ดอกการ์ดิเนีย และดอกส้ม พร้อมแฝงด้วยกลิ่นสดชื่นจากส้มและมะกรูด ปิดท้ายด้วยความเซ็กซี่ที่ช่วยดึงเสน่ห์ในตัวคุณออกมาด้วยกลิ่นไม้จันทน์หอม, ซีดาร์, ไวท์แอมเบอร์ และไวท์มัสก์ อย่างไรก็ตาม เริ่มแรกอาจมีความฉุนเล็กน้อย แต่เมื่อผ่านไปสักพักจะมีความละมุนติดทนนานตลอดทั้งวันค่ะ

สำหรับน้ำหอมรุ่นนี้ เรียกได้ว่าเป็นกลิ่นหอมที่บอกเล่าเรื่องราวของธรรมชาติได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ โดยมีโทนกลิ่นที่โดดเด่นคือ สะอาด สดชื่น และโปร่งสบาย อีกทั้งยังผสานความโรแมนติกและอบอุ่นจากกลิ่นของดอกกระดังงาและดอกลิลลี่ ซึ่งเป็นกลิ่น Top Note และ Middle Note นอกจากนี้ ยังผสมกลิ่น Base Note ด้วยกลิ่นของดอกมะลิ ไม้จันทน์หอม และไวท์มัสก์ เพื่อสร้างกลิ่นหอมที่สื่อถึงความหรูหราและความเป็นผู้หญิงอีกด้วย เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการลุคชิล ๆ สบาย ๆ ในวันหยุดค่ะ