10 ไมโครเวฟ SHARP รุ่นไหนดี ปี 2025 รุ่นใหม่ล่าสุด

ไมโครเวฟ SHARP แต่ละประเภทมีฟังก์ชันการทำงานหลักที่แตกต่างกันไป การตรวจสอบและเลือกประเภทของไมโครเวฟที่ถูกต้องจะช่วยตอบโจทย์กับความต้องการใช้งานและแสดงประสิทธิภาพการทำงานของไมโครเวฟได้ดีที่สุด

ความจุไมโครเวฟ SHARP จะบ่งบอกความจุอาหารที่สามารถบรรจุภายในเตาไมโครเวฟได้ โดยระบุเป็นหน่วยลิตร หากมีความจุมากก็จะสามารถบรรจุอาหารได้มาก จึงควรตรวจสอบและเลือกความจุที่เหมาะสมกับลักษณะอาหาร

• 20 - 24 ลิตร เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงปานกลาง หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในหอพักและคอนโด ใช้สำหรับอุ่นอาหาร อบ หรือทำเมนูง่าย ๆ ได้อย่างสะดวก และไม่เปลืองพื้นที่จัดวาง

• 25 - 29 ลิตร เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง 3 - 5 คน หรือผู้ที่ชอบทำอาหารเองเป็นประจำ สามารถอุ่น อบ ย่าง หรือทำอาหารจานใหญ่ได้สะดวก มีพื้นที่ภายในมากพอสำหรับภาชนะขนาดใหญ่

• 30 - 34 ลิตร เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ หรือผู้ที่ทำอาหารบ่อยและชอบทำเมนูอบหรือย่าง สามารถใส่อาหารขนาดใหญ่หรือหลายจานพร้อมกันได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวกและประสิทธิภาพสูงในการประกอบอาหาร

ระบบควบคุมของไมโครเวฟ SHARP มี 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ ลูกบิดและดิจิทัล ผู้ใช้งานควรพิจารณาระบบควบคุมการทำงานเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด

• แบบลูกบิด ควบคุมการทำงานด้วยลูกบิดหมุน สำหรับตั้งเวลาและระดับความร้อน แทนการใช้หน้าจอดิจิทัล ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ อีกทั้งยังมีความทนทานและราคาย่อมเยา

• แบบดิจิทัล ควบคุมด้วยแผงปุ่มกดที่มาพร้อมหน้าจอดิจิทัล ช่วยให้สามารถตั้งเวลาและกำลังไฟได้อย่างแม่นยำ มีฟังก์ชันอัตโนมัติหลายรูปแบบ เช่น อุ่น อบ หรือละลายน้ำแข็ง เหมาะกับผู้ที่ต้องการความแม่นยำและฟังก์ชันครบถ้วน

รูปแบบการรองภาชนะในไมโครเวฟ SHARP มีทั้งแบบจานหมุนและไร้จานหมุน การเลือกรูปแบบรองที่เหมาะสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอุ่นอาหารและความสะดวกในการทำความสะอาด

• แบบจานหมุน มีจานแก้วหมุนอยู่ภายใน เพื่อช่วยกระจายความร้อนให้อาหารสุกทั่วถึงมากขึ้น ข้อดีคือทำให้อาหารอุ่นร้อนได้สม่ำเสมอ ลดปัญหาบางส่วนร้อนเกินหรือเย็นเกิน ใช้งานง่าย เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในครัวเรือน

• แบบไร้จานหมุน ไม่มีจานแก้วหมุนภายใน แต่ใช้เทคโนโลยีกระจายคลื่นไมโครเวฟให้ทั่วถึงแทน ทำให้อาหารสุกสม่ำเสมอโดยไม่ต้องหมุนภาชนะ ข้อดีคือมีพื้นที่ภายในกว้างขึ้น วางภาชนะได้หลายรูปทรง และทำความสะอาดง่ายกว่าแบบจานหมุน

1. โปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติ มีชนิดของอาหารที่ต้องการทำหรืออุ่นให้เลือก และจะปรับระดับความร้อนหรือระยะเวลาที่เหมาะกับเมนูนั้น ๆ โดยอัตโนมัติ แต่ก็สามารถปรับค่าแบบแมนวลตามที่ต้องการได้เช่นเดียวกัน
2. ปรับระดับความร้อน อาหารแต่ละชนิดใช้เวลาในการทำให้สุกหรืออุ่นที่ไม่เท่ากัน โดยเฉพาะอาหารแช่แข็ง ที่ความร้อนสูงจะช่วยละลายได้เร็วยิ่งกว่า การปรับอุณหภูมิความร้อนได้หลากหลายระดับจะช่วยให้ใช้งานได้เหมาะสมกับลักษณะอาหารแต่ละชนิดได้มากยิ่งขึ้น
3. ตั้งเวลา อาหารแต่ละชนิดใช้เวลาในการทำให้ละลาย การอุ่น การทำความร้อน และการทำให้สุกไม่เท่ากัน หากเป็นอาหารที่ใช้เวลานาน การที่ไมโครเวฟสามารถตั้งเวลาการทำงานได้นานจะช่วยเพิ่มความสะดวกได้มากขึ้น