




ซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer) เป็นลำโพงเฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อขับเสียงย่านความถี่ต่ำที่ลำโพงทั่วไปไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังและมิติของเสียงให้ลึก แน่น และสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในระบบโฮมเธียเตอร์หรือเครื่องเสียงที่เน้นอรรถรสและพลังเสียงเต็มรูปแบบ
บทความนี้เรามีวิธีการเลือก Subwoofer สำหรับการใช้งานในบ้าน โฮมเธียเตอร์ ใช้ในรถยนต์ ไปจนถึงการใช้งานระดับมืออาชีพ เช่น ในสตูดิโอ หรือระบบเสียงระดับมืออาชีพ และยังมี 10 Subwoofer ยี่ห้อยอดนิยม เช่น ซับวูฟเฟอร์ JBL โดยมีทั้งซับวูฟเฟอร์ 3 นิ้ว, ซับวูฟเฟอร์ 4 นิ้ว, ซับวูฟเฟอร์ 8 นิ้ว, ซับวูฟเฟอร์ 10 นิ้ว และซับวูฟเฟอร์ 12 นิ้ว มาแนะนำเพิ่มเติมอีกด้วย
Top 5 Subwoofer ยอดนิยม

คุณมอสเป็นคนที่สนใจในเครื่องใช้ไฟฟ้า แกดเจ็ต กล้อง โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีมาตั้งแต่เด็ก เพราะเติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยปัจจุบันยังคงติดตามข่าวสารวงการไอทีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ เทคโนโลยีล่าสุด หรือแนวโน้มของตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากการอัปเดตข้อมูลสินค้าไอทีแล้ว คุณมอสยังชื่นชอบงานช่างและ DIY โดยมักซ่อมแซมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยตัวเองเป็นประจำ ทำให้มีความเข้าใจเรื่องโครงสร้างและฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น ความชอบนี้ช่วยให้คุณมอสสามารถเปรียบเทียบจุดเด่นจุดด้อยของสินค้าเทคโนโลยีแต่ละประเภทได้อย่างชัดเจน ทำให้สนุกกับการแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ไอที ทั้งในแง่ของการเลือกซื้อ อัปเกรด และดูแลรักษา เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองได้อย่างคุ้มค่า
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
ซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer) คือ ลำโพงที่ออกแบบมาเพื่อขับเสียงในย่านความถี่ต่ำหรือเสียงเบส ที่มีความถี่อยู่ในช่วง 20 - 200 เฮิรตซ์ (Hz) โดยความถี่เสียงระดับนี้มักเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกหนัก ลึก และมีแรงสั่นสะเทือน เช่น เสียงกลอง เสียงระเบิด หรือเสียงเครื่องยนต์ในภาพยนตร์ ซึ่งลำโพงทั่วไปไม่สามารถถ่ายทอดมิติเสียงเหล่านี้ออกมาได้ครบถ้วน แต่ซับวูฟเฟอร์จะเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างของเสียงให้มีความสมบูรณ์และทรงพลังมากขึ้น ทำให้เสียงเบสมีมิติและความลึกที่รับรู้ได้ทั้งจากการได้ยินและการสั่นสะเทือน ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมให้เหนือชั้นยิ่งกว่าเดิม
เพื่อให้ได้ Subwoofer ที่มีคุณภาพและเหมาะกับความต้องการใช้งานมากที่สุด ควรพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นประเภท ความถี่ รูปแบบตู้ หรือพอร์ตการเชื่อมต่อ โดยเลือกได้จากวิธีการดังต่อไปนี้
Subwoofer มีด้วยกันหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกให้เหมาะสมจะช่วยให้ได้พลังเสียงเบสที่สมดุลและคุ้มค่ามากที่สุด โดยพิจารณาได้ ดังนี้
สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การติดตั้งในรถยนต์ หรือชุดโฮมเธียเตอร์ภายในบ้าน เหมาะกับ Subwoofer แบบ Active หรือ Powered Subwoofer เพราะเป็นประเภทที่มีแอมป์ขยายเสียงติดตั้งอยู่ในตัว จึงรับสัญญาณเสียงจากเครื่องเล่น ทีวี หรือเครื่องรับสัญญาณโฮมเธียเตอร์ได้โดยตรง โดยไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อนหรือใช้แอมป์แยกภายนอกเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก เพียงเชื่อมต่อสายสัญญาณและแหล่งจ่ายไฟก็สามารถใช้งานได้ทันที
อย่างไรก็ตาม Subwoofer แบบ Active อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของกำลังขับ ซึ่งถูกออกแบบมาให้เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กถึงปานกลางเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนหรือเพิ่มกำลังขับภายหลังได้เหมือน Subwoofer แบบ Passive ที่ใช้แอมป์แยกภายนอก หากนำไปใช้ในพื้นที่กว้างหรือระบบเสียงขนาดใหญ่ อาจให้พลังเสียงเบสได้ไม่เต็มศักยภาพเท่าที่ควร
สำหรับระบบเสียงระดับมืออาชีพ เช่น สตูดิโอคอนเสิร์ต เวทีแสดงสด โรงภาพยนตร์ หรือห้องอัดเสียง เหมาะกับ Subwoofer แบบ Passive เพราะเป็นประเภทที่ไม่มีแอมป์ขยายเสียงในตัว ทำให้เลือกใช้งานร่วมกับแอมป์ภายนอกที่มีกำลังขับและคุณภาพเสียงตามต้องการได้อย่างอิสระ ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งระบบเสียงได้อย่างละเอียดและยืดหยุ่น ไม่ว่าจะต้องการเสียงเบสที่ลึก แน่น หรือเน้นความแม่นยำในการตอบสนอง ก็สามารถควบคุมเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม Subwoofer ประเภทนี้ ผู้ใช้งานจำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคนิคและการตั้งค่าที่ซับซ้อน เพราะต้องอาศัยการคำนวณกำลังขับของแอมป์ให้เหมาะสมกับค่าความต้านทานของซับวูฟเฟอร์ เพื่อให้ได้พลังเสียงเบสที่สมดุล ป้องกันความเสียหายจากการจ่ายไฟสูงหรือต่ำเกินไป และทำให้ซับวูฟเฟอร์ทำงานร่วมกับลำโพงหลักได้อย่างกลมกลืนมากที่สุด
ขนาดดอกลำโพงและกำลังขับ Subwoofer มีผลโดยตรงต่อคุณภาพเสียงเบสและความสมดุลของระบบเสียงโดยรวม หากเลือกไม่เหมาะสม เสียงที่ได้อาจเกิดการสะท้อนหรือเบาจนขาดมิติได้ จึงควรพิจารณาให้สอดคล้องกับขนาดพื้นที่ใช้งาน ดังนี้
พื้นที่ขนาดกลาง - ใหญ่ เช่น ห้องดูหนังภายในบ้าน หรือโฮมเธียเตอร์ ควรเลือกดอกลำโพงประมาณ 10 - 12 นิ้ว และกำลังขับในช่วง 150 - 300 วัตต์ RMS เพื่อให้เสียงเบสกระจายได้ทั่วถึงและมีแรงสั่นสะเทือนที่สมจริงมากขึ้น
พื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ห้องประชุม เวทีแสดงสด หรือระบบเสียงระดับมืออาชีพ ควรเลือกซับวูฟเฟอร์ที่มีขนาดดอกลำโพง 15 นิ้วขึ้นไป และมีกำลังขับสูงกว่า 500 วัตต์ RMS เพื่อให้ได้พลังเสียงที่ลึก หนักแน่น และเติมเต็มพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง โดยไม่เกิดการบีบอัดหรือเสียงแตกเมื่อเปิดระดับเสียงสูง
ช่วงความถี่ตอบสนองเป็นค่าของเสียงที่ Subwoofer ถ่ายทอดออกมาได้ ซึ่งควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน เพื่อให้ได้เสียงเบสที่สมดุล ลึก และมีพลังมากที่สุด โดยพิจารณาได้ ดังนี้
ช่วงความถี่ 50 - 200 Hz เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปภายในบ้านหรือในรถยนต์ เพราะเป็นย่านเสียงเบสที่ช่วยเสริมมิติของเพลงและภาพยนตร์ให้มีน้ำหนักมากขึ้น โดยไม่รบกวนเสียงจากลำโพงหลัก อีกทั้งเสียงในช่วงนี้ยังให้ความรู้สึกแน่นและอบอุ่น ทำให้ฟังสบายโดยไม่เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรง
การเลือกรูปแบบตู้ Subwoofer ที่เหมาะสมกับการใช้งาน จะช่วยให้ลำโพงถ่ายทอดและกระจายเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปมีให้เลือก 2 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้
ตู้แบบเปิด เป็นตู้ลำโพงที่ออกแบบให้มีช่องระบายอากาศหรือพอร์ต (Port) อยู่ภายใน เพื่อช่วยเพิ่มแรงดันของอากาศในตู้และเสริมพลังเสียงเบสให้ดังกระหึ่ม ลึก และมีพลังมากกว่าตู้แบบปิด จึงเหมาะกับการดูหนัง ฟังเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ ร็อก หรือฮิปฮอป ที่ต้องการอรรถรสของเสียงเบสแบบเต็มประสิทธิภาพ
การเลือก Subwoofer ที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อหลากหลาย มีส่วนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ทำให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ และรองรับการอัปเกรดระบบเสียงในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น โดยพอร์ตการเชื่อมหลักที่ควรมองหามีดังนี้
LFE ช่องนี้ออกแบบมาสำหรับระบบโฮมเธียเตอร์ที่รองรับเสียงรอบทิศทาง เช่น 5.1 หรือ 7.1 Channel โดยแยกสัญญาณเสียงเบสออกจากลำโพงหลัก เพื่อส่งตรงไปยัง Subwoofer ทำให้ได้เสียงเบสที่หนักแน่น ชัดเจน และสมจริงมากขึ้น
Optical (Toslink) เป็นการเชื่อมต่อผ่านสายไฟเบอร์ออปติกที่ส่งสัญญาณเสียงด้วยแสง จึงเหมาะสำหรับการเชื่อมต่อกับทีวี เครื่องเล่น Blu-ray เครื่องรับ AV หรือคอนโซลเกม ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ใสสะอาดและเสถียรยิ่งขึ้น
Coaxial Input เป็นการเชื่อมต่อผ่านสายสัญญาณทองแดงแบบดิจิทัล ซึ่งส่งสัญญาณเสียงในรูปแบบดิจิทัลเช่นเดียวกับ Optical แต่ใช้ระบบไฟฟ้าแทนการส่งด้วยแสง ทำให้ได้เสียงที่มีความละเอียดและอุณหภูมิเสียงอบอุ่นกว่าเล็กน้อย
Bluetooth / Wi-Fi Subwoofer รุ่นใหม่หลายรุ่นรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth หรือ Wi-Fi ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการติดตั้งและไม่ต้องเดินสายให้ยุ่งยาก จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความเรียบง่ายและดีไซน์ที่ไม่เกะกะ
| สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | จุดเด่น | รายละเอียด | |||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ประเภท | รูปแบบตู้ | ขนาดดอกลำโพง | กำลังขับ | ขนาดตัวเครื่อง | น้ำหนัก | ช่วงความถี่ตอบสนอง | พอร์ตการเชื่อมต่อ | การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | |||||
| 1 | Edifier ซับวูฟเฟอร์ รุ่น T5 |  | กำลังขับ 70 วัตต์ RMS วัสดุทนทาน ไม้ไม่บวมแม้อากาศชื้น | แบบ Active | ตู้แบบปิด | 8 นิ้ว | 70 วัตต์ RMS | 27.8 x 30 x 33.6 ซม. | 8.56 กก. | 38 - 200 Hz | RCA Line In, RCA Line Out | ||
| 2 | Bose Subwoofer รุ่น Bass Module 500 |  | สามารถเชื่อมต่อกับ Bose Soundbar 500 แบบไร้สายได้ | แบบ Active | ตู้แบบปิด | ไม่ระบุ | 100 วัตต์ RMS | 24.13 x 25.4 x 25.4 ซม. | 5.22 กก. | ไม่ระบุ | 3.5 mm | Bluetooth | |
| 3 | JBL Subbox รุ่น BassPro SL2 |  | แอมป์คลาส D กำลังขับ 125 วัตต์ RMS เสียงเบสกระชับ หนักแน่น | แบบ Active | ตู้แบบปิด | 8 นิ้ว | 125 วัตต์ RMS | 34.4 x 25 x 7.1 ซม. | 3.63 กก. | 35 - 120 Hz | Line Level, High Level Inputs | ||
| 4 | Klipsch ซับวูฟเฟอร์ 10"|R-100SW |  | ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ 10 นิ้ว ระบบตู้ Bass Reflex เสียงกระจายได้ดี | แบบ Active | ตู้แบบเปิด | 10 นิ้ว | 300 วัตต์ RMS | 36.8 x 31.8 x 41.7 ซม. | 10.9 กก. | 32 - 120 Hz | Line Level, LFE RCA Inputs | ||
| 5 | PLATINUM-X Subbox Bassbox|PX-SB101.35B |  | ดีไซน์ขนาดบาง ประหยัดพื้นที่ใช้สอย สายรีโมตคอนโทรลยาว | แบบ Passive | ตู้แบบปิด | 10 นิ้ว | 150 วัตต์ RMS | 35 x 26 x 6.5 ซม. | 4.5 กก. | 20 - 150 Hz | RCA Line Level Input | ||
| 6 | Sony Wireless Subwoofer |SA-SW3 |  | ไดรเวอร์ขนาด 160 มม. กำลังขับ 200 วัตต์ วงจรแม่เหล็ก Σ | แบบ Active | ตู้แบบเปิด | 6.3 นิ้ว | 200 วัตต์ RMS | 20.1 x 38.25 x 40.2 ซม. | 10.5 กก. | 28 - 200 Hz | ไม่ระบุ | Bluetooth | |
| 7 | Audioengine S6 Subwoofer Speaker |  | สามารถเชื่อมต่อผ่าน RCA และ AUX ตัวตู้แบบปิดทำจาก MDF | แบบ Active | ตู้แบบปิด | 6 นิ้ว | 210 วัตต์ RMS | 22.2 x 22.2 x 25.3 ซม. | 7 กก. | 33 - 132 Hz | Stereo RCA Input, 3.5 mm Mini Jack Input, USB-A Output | ||
| 8 | ALPINE Subbox|PWE-7700E-EL |  | บาง 7 นิ้วและหนา 73 มม. เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่จำกัด | แบบ Active | ตู้แบบปิด | 7 นิ้ว | 150 วัตต์ RMS | 25.5 x 19 x 7.4 ซม. | 4 กก. | 10 - 150 Hz | High Level Input, Low Level Input | ||
| 9 | Audio Pro Powered Subwoofer Speaker|SW-5 |  | ดอกลำโพง 8 นิ้ว ปรับค่า Crossover ได้ระหว่าง 50 - 130 Hz | แบบ Active | ตู้แบบปิด | 8 นิ้ว | 150 วัตต์ RMS | 27.5 x 27.5 x 29 ซม. | 9.4 กก. | 35 - 130 Hz | RCA Input | ||
| 10 | Fosi Audio ซับวูฟเฟอร์แอคทีฟ|SW10 |  | เทคโนโลยี DRC ควบคุมระดับเสียง ปรับระดับสัญญาณอัตโนมัติ | แบบ Active | ตู้แบบปิด | 10 นิ้ว | 200 วัตต์ RMS | 36 x 36 x 40 ซม. | 14 กก. | 30 - 120 Hz | RCA Input | ||
ดอกลำโพงขนาด 8 นิ้วแบบ Long Stroke พร้อมกำลังขับ 70 วัตต์ RMS ให้เสียงเบสลงลึกถึง 38 Hz
ผลิตจากแผ่น MDF เคลือบลายไม้ ลดแรงสั่นสะเทือนและคงรูปแม้ในสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน RCA Input มีปุ่ม Volume, Crossover และ Phase 0 - 180° เพื่อปรับเสียงเบส
เหมาะสำหรับการดูหนัง ฟังเพลงแนวเบส เช่น Rock และ EDM หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมส์
| ประเภท | แบบ Active | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | 8 นิ้ว | 
| กำลังขับ | 70 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 27.8 x 30 x 33.6 ซม. | 
| น้ำหนัก | 8.56 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | 38 - 200 Hz | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | RCA Line In, RCA Line Out | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | 
ทรงลูกบาศก์ขนาด 25 ซม. เพิ่มความสะดวกในการจัดวาง ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องขนาดใหญ่
เชื่อมต่อกับ Bose Soundbar 500 ผ่านการเชื่อมต่อไร้สาย เพื่อให้ได้เสียงเบสที่มีคุณภาพมากขึ้น
กำลังขับ 100 วัตต์ RMS ให้รายละเอียดเสียงชัดเจนและเสียงเบสชัด เพิ่มประสบการณ์การฟังที่ดี
| ประเภท | แบบ Active | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | ไม่ระบุ | 
| กำลังขับ | 100 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 24.13 x 25.4 x 25.4 ซม. | 
| น้ำหนัก | 5.22 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | ไม่ระบุ | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | 3.5 mm | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | Bluetooth | 
ดอกลำโพง 8 นิ้ว แอมป์คลาส D กำลังขับ 125 วัตต์ RMS ให้เสียงเบสที่กระชับในช่วงความถี่ 35 - 120 Hz
ปรับ Bass Boost ตั้งแต่ 0 ถึง +9dB ที่ 70 Hz และมีปุ่มปรับ Phase เพื่อให้เสียงเบสสัมพันธ์กับลำโพง
ไม่มีช่องต่อ RCA และไม่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย ซึ่งอาจจำกัดการใช้งานกับระบบเสียงบางประเภท
| ประเภท | แบบ Active | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | 8 นิ้ว | 
| กำลังขับ | 125 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 34.4 x 25 x 7.1 ซม. | 
| น้ำหนัก | 3.63 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | 35 - 120 Hz | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | Line Level, High Level Inputs | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | 
ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ขนาด 10 นิ้ว โครงสร้างตู้แบบ Bass Reflex ให้เสียงเบสหนักแน่นและชัดเจน
ช่วงการตอบสนองความถี่ +/-3dB ตั้งแต่ 32 - 120Hz ซึ่งช่วยให้เสียงเบสกระจายไปทั่วห้อง
วัสดุทำจากไม้ MDF ที่ช่วยลดการสั่นสะเทือน ออกแบบให้ดูเรียบหรู สำหรับจัดวางในบ้าน
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Line-Level และ LFE RCA jacks เชื่อมต่อกับชุดโฮมเธียเตอร์ได้ง่าย
| ประเภท | แบบ Active | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบเปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | 10 นิ้ว | 
| กำลังขับ | 300 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 36.8 x 31.8 x 41.7 ซม. | 
| น้ำหนัก | 10.9 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | 32 - 120 Hz | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | Line Level, LFE RCA Inputs | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | 
| ประเภท | แบบ Passive | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | 10 นิ้ว | 
| กำลังขับ | 150 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 35 x 26 x 6.5 ซม. | 
| น้ำหนัก | 4.5 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | 20 - 150 Hz | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | RCA Line Level Input | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | 
ไดรเวอร์ขนาด 160 มม. กำลังขับรวม 200 วัตต์ และวงจรแม่เหล็ก Σ เพื่อลดความผิดเพี้ยนของเสียง
ตู้แบบ Bass Reflex เพิ่มแรงสะท้อนให้มีมวลเสียงมากขึ้น โดยไม่ทำให้เสียงเบสฟุ้งหรือกลบเสียงหลัก
รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth จับคู่กับ Soundbar ได้อัตโนมัติ ไม่ต้องเดินสายเพิ่ม
| ประเภท | แบบ Active | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบเปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | 6.3 นิ้ว | 
| กำลังขับ | 200 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 20.1 x 38.25 x 40.2 ซม. | 
| น้ำหนัก | 10.5 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | 28 - 200 Hz | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | ไม่ระบุ | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | Bluetooth | 
กำลังขับสูงสุด 210 วัตต์ ช่วงความถี่ตอบสนองตั้งแต่ 33 - 132 Hz ทำให้เสียงเบสมีความลึก
รองรับการเชื่อมต่อผ่าน RCA และ AUX สามารถใช้งานกับอุปกรณ์เสียงต่าง ๆ ได้สะดวก
ทำจากไม้ MDF หนา 15 มม. เป็นตู้ปิดสนิท เพื่อลดการสั่นสะเทือนและเพิ่มคุณภาพเสียงเบส
มีระบบป้องกันการจำกัดกระแสเอาท์พุตและความร้อนเกิน ช่วยยืดอายุอุปกรณ์ ใช้งานได้นาน
| ประเภท | แบบ Active | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | 6 นิ้ว | 
| กำลังขับ | 210 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 22.2 x 22.2 x 25.3 ซม. | 
| น้ำหนัก | 7 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | 33 - 132 Hz | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | Stereo RCA Input, 3.5 mm Mini Jack Input, USB-A Output | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | 
กำลังขับ 150 วัตต์ RMS จึงให้เสียงเบสที่กระชับและชัดเจน ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลง
ขนาดเพียง 7 นิ้วและความหนา 73 มม. ติดตั้งได้ง่ายในพื้นที่จำกัด เช่น ใต้เบาะรถยนต์
ช่วงความถี่ตอบสนองกว้างตั้งแต่ 10 - 150 Hz รองรับการสร้างเสียงเบสที่ลึกและมีน้ำหนัก
ตัวเครื่องผลิตจากโลหะหล่อขึ้นรูป มีความแข็งแรงและทนทาน ให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน
| ประเภท | แบบ Active | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | 7 นิ้ว | 
| กำลังขับ | 150 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 25.5 x 19 x 7.4 ซม. | 
| น้ำหนัก | 4 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | 10 - 150 Hz | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | High Level Input, Low Level Input | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | 
แอมป์ดิจิทัล Class D กำลังขับ 150 วัตต์ RMS พร้อม DSP ควบคุมเสียงเบสในช่วง 35 - 130 Hz
ปรับค่า Crossover ได้ระหว่าง 50 - 130 Hz และ Phase ตั้งแต่ 0 - 180 องศา ให้เสียงเบสสัมพันธ์กับลำโพง
เป็น Bass Reflex ดอกลำโพงแบบ Long Throw ขนาด 8 นิ้ว ให้เสียงที่ชัดเจนแม้พื้นที่จำกัด
มีพอร์ต RCA สำหรับเชื่อมต่อกับระบบเสียงอื่น ๆ ใช้งานร่วมกับลำโพงสเตอริโอหรือตัวรับ AV ได้
| ประเภท | แบบ Active | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | 8 นิ้ว | 
| กำลังขับ | 150 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 27.5 x 27.5 x 29 ซม. | 
| น้ำหนัก | 9.4 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | 35 - 130 Hz | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | RCA Input | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | 
| ประเภท | แบบ Active | 
|---|---|
| รูปแบบตู้ | ตู้แบบปิด | 
| ขนาดดอกลำโพง | 10 นิ้ว | 
| กำลังขับ | 200 วัตต์ RMS | 
| ขนาดตัวเครื่อง | 36 x 36 x 40 ซม. | 
| น้ำหนัก | 14 กก. | 
| ช่วงความถี่ตอบสนอง | 30 - 120 Hz | 
| พอร์ตการเชื่อมต่อ | RCA Input | 
| การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รองรับ | 
เรายังมีบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับลำโพงประเภทต่าง ๆ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีวิธีการเลือกซื้อที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความด้านล่างนี้
อันดับที่ 1: Edifier|ซับวูฟเฟอร์ รุ่น T5
อันดับที่ 2: Bose | Subwoofer รุ่น Bass Module 500
อันดับที่ 3: JBL|Subbox รุ่น BassPro SL2
อันดับที่ 4: Klipsch |ซับวูฟเฟอร์ 10"|R-100SW
อันดับที่ 5: PLATINUM-X |Subbox Bassbox|PX-SB101.35B
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

เครื่องดื่ม

วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง

สวนและอุปกรณ์ในสวน

ความงาม, ของใช้ส่วนตัว

โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที

ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้า

กล้อง

เครื่องสำอาง, สกินแคร์

สุขภาพ

อาหาร

เครื่องใช้ในครัว

แฟชั่น

รองเท้า

นาฬิกา, เครื่องประดับ

แม่และเด็ก

เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน

งานอดิเรก

กิจกรรมกลางแจ้ง

DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน

กีฬา

สัตว์เลี้ยง

หนังสือ

เกม

รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม

ของขวัญ, ของฝาก

ท่องเที่ยว

สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม

เครือข่ายมือถือ

การลงทุน

เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน

ดนตรี, เครื่องเสียง

แอปพลิเคชัน, โปรแกรม

บริการ