กีตาร์ Taylor คือแบรนด์กีตาร์ที่มีชื่อเสียงและมีโรงงานที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในการผลิตกีตาร์โปร่ง (Acoustic Guitar) และกีตาร์ไฟฟ้าแบบ Semi-Hollow เป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังใช้ไม้หลากหลายชนิดในการผลิต ซึ่งแม้จะใช้วัสดุต่างกัน แต่คุณภาพเสียงที่ได้ยังคงมีคุณภาพเยี่ยม ปัจจุบันกีตาร์ Taylor ยังมีหลายโมเดลให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Grand Concert, Grand Auditorium, Grand Symphony และอื่น ๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังมองหากีตาร์ Taylor ตัวใหม่ สำหรับฝึกซ้อมหรือเล่นเป็นงานอดิเรก วันนี้เราจะพาคุณไปดูข้อมูลเกี่ยวกับกีตาร์ Taylor ผ่านวิธีการเลือก และยิ่งไปกว่านั้น เรายังมาพร้อมกับ 10 กีตาร์ Taylor รุ่นที่กำลังฮอตฮิตในวงการคนรักกีตาร์ในตอนนี้ ทั้งหมดจะน่าสนใจแค่ไหน ไปติดตามกันเลย
Top 5 กีตาร์ Taylor ยอดนิยม
คุณเก้าเป็นนักเขียนที่มีความสนใจในด้านดนตรีและกีฬา ด้วยพื้นฐานจากการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประสบการณ์การทำงานในบริษัทเอเจนซี่โฆษณา ทำให้มีทักษะด้านการเล่าเรื่องและการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทรนด์ในวงการกีฬาและดนตรี ซึ่งความหลงใหลในดนตรีทำให้คุณเก้าชื่นชอบการฟังเพลงหลากหลายแนว ศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องเสียง หูฟัง และเครื่องดนตรีอยู่เสมอ อีกทั้งยังสนใจในวัฒนธรรมดนตรีของแต่ละยุค รวมถึงการวิเคราะห์แนวเพลงและศิลปินที่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมเพลงในปัจจุบัน ในด้านกีฬา คุณเก้าเป็นแฟนฟุตบอลตัวยงที่ติดตามทั้งลีกระดับโลกและในประเทศ โดยสนใจเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนาวงการกีฬา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ฝึกซ้อม สนีกเกอร์สำหรับนักกีฬา หรือเทคนิคการฝึกซ้อมของนักกีฬาระดับโลก จากความหลงใหลในกีฬาและดนตรี บทความของคุณเก้าจึงไม่เพียงแค่บอกเล่าข้อมูลเท่านั้น แต่ยังช่วยแนะนำวิธีเลือกซื้อสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้อ่านได้สินค้าที่ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด
สารบัญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
การเลือกกีตาร์ Taylor นั้นอาจจะคล้ายกับการเลือกกีตาร์ทั่วไปหลาย ๆ แบรนด์ที่คุณจะต้องโฟกัสที่ขนาด วัสดุ และเสียงที่ได้จากกีตาร์แต่ละตัว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกีตาร์ Taylor นั้นมีจุดเด่นที่แตกต่างออกไป ดังนั้นในการเลือกจึงต้องโฟกัสข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย และจะเป็นอะไรบ้างนั้น เรามาหาคำตอบกันเลย
กีตาร์ Taylor มีทั้งหมด 2 ประเภทหลัก ได้แก่ กีตาร์ Acoustic และ Electric โดยแต่ละประเภทนั้นยังแบ่งเป็นรุ่นได้อีกหลายรุ่น ทั้งนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับกีตาร์ทั้งสองประเภทก่อน เพื่อให้คุณเข้าใจภาพรวมของสินค้าแบรนด์นี้มากยิ่งขึ้น
กีตาร์ Acoustic หรือที่คนไทยเรียกว่า กีตาร์โปร่ง เป็นกีตาร์ที่เคลื่อนย้ายง่าย และไม่ต้องเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า นิยมนำมาเล่นดนตรีคันทรี, โฟล์คซอง หรือการเล่นแนว Fingerstyle โดยแบรนด์ Taylor นั้นถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตกีตาร์โปร่งเลยก็ว่าได้ โดยความพิเศษของกีตาร์โปร่ง Taylor ก็คือ การผลิตที่ใช้ทั้งนวัตกรรมใหม่ ๆ และยังคงวิธีการแบบดั้งเดิมไว้ควบคู่กัน ทำให้กีตาร์โปร่งที่ผลิตได้นั้นมีรูปทรงที่สวยงาม และเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ จนทำให้มีนักดนตรีระดับโลก เช่น Tori Kelly, Jason Marz และ Shawn Mendes เลือกกีตาร์โปร่ง Taylor ไปขึ้นโชว์
กีตาร์ Electric หรือกีตาร์ไฟฟ้า มีเอกลักษณ์คือ เสียงที่ทำให้เข้าถึงอารมณ์ของดนตรีและผู้เล่นได้เป็นอย่างดี ช่วงแรก ๆ นิยมใช้เล่นดนตรีร็อคและบลูส์ แต่ปัจจุบันนักดนตรีต่างก็นำเสียงกีตาร์ไฟฟ้ามาประกอบกับแนวเพลงต่าง ๆ ทำให้การเล่นกีตาร์ไฟฟ้านั้นมีความหลากหลายยิ่งขึ้น และสำหรับกีตาร์ไฟฟ้า Taylor นั้นถือเป็นกีตาร์คุณภาพเยี่ยมอีกแบรนด์หนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากรวมไว้ซึ่งความลงตัวของความสามารถในการเล่น (Playability) โทนเสียง และการผลิตด้วยความประณีตไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเหมาะกับการเล่นแนวเพลง Acoustic เป็นพิเศษ ดังนั้นใครที่เป็นสายเพลง Acoustic ต้องไม่พลาด
อย่างที่เราได้เกริ่นไว้ในตอนแรกว่า กีตาร์ Taylor นั้นมีหลายรุ่นให้เลือก แต่บางรุ่นก็ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง และหากคุณเป็นอีกคนที่อยากได้กีตาร์รุ่นยอดนิยมไปไว้ในครอบครองต้องห้ามพลาดเลย
กีตาร์ Taylor มีให้เลือกทั้งหมดถึง 5 รูปทรงด้วยกัน ซึ่งแต่ละรูปทรงก็จะให้เสียงเป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำกัน โดยภาพรวมคือ กีตาร์ที่มีบอดี้เล็กช่วยให้ผู้เล่นควบคุมเสียงได้ง่ายกว่าและมีเสียง Upper - End ที่ก้องกังวาล ส่วนกีตาร์ที่มีบอดี้ใหญ่จะให้เสียงที่ก้องกว่า อีกทั้งยังให้เสียง Low - End ที่นุ่มลึกด้วย นอกจากนี้บางรุ่นอาจจะมีชายเว้า (Cutaway) เพื่อช่วยให้คุณจับโน้ตกีตาร์ได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม กีตาร์ Taylor แต่ละรูปทรงนั้นจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป เช่น Grand Concert Guitar Body, GT Acoustic Guitar Body, Grand Auditorium Guitar Body และ Grand Pacific Guitar Body เป็นต้น ดังนั้น การจะตัดสินใจว่าต้องการเลือกกีตาร์รูปทรงไหนจะขึ้นอยู่กับว่า คุณต้องการเสียงกีตาร์สไตล์ใดและมีบอดี้ขนาดไหนนั่นเอง
ฟีเจอร์ของกีตาร์ Taylor นั้นเปรียบเสมือนลูกเล่น และดีเทลที่น่าสนใจของกีตาร์จากแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ โดยดีเทลเหล่านี้เริ่มจากสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน เช่น รูปทรง ฟินิชของเนื้อไม้ คอกีตาร์ และที่วางแขน ไปจนถึงสิ่งที่อาจจะต้องใช้ความชำนาญในระดับหนึ่งจึงจะสามารถตรวจสอบได้ เช่น Bracing, พันธุ์ไม้, พิคอัพ และความพิเศษ (Specialty) ของกีตาร์แต่ละรุ่น
ซึ่งหากคุณเป็นอีกคนที่ให้ความสำคัญเรื่องดีเทล เราขอแนะนำให้คุณเลือกกีตาร์จากฟีเจอร์ที่คุณให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และคุณจะได้ทราบว่ามีรุ่นใดบ้างที่มีฟีเจอร์ดังกล่าว พร้อมกับเปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละรุ่นไปพร้อม ๆ กัน หลังจากนั้นจะสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า รุ่นใดเหมาะกับคุณที่สุด
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น 814ce | ![]() | ดีไซน์มาตรฐาน เล่นดนตรีได้หลายแนว เหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ | |
2 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น 614ce | ![]() | เสียงใสชัดเจน ขนาดพอดี เหมาะกับการเล่นแบบเต็มวง | |
3 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น 314ce | ![]() | เหมาะสำหรับนักกีตาร์มืออาชีพ ใช้สำหรับเล่นคอนเสิร์ตได้ | |
4 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น Baby Taylor (BT1) | ![]() | คุณภาพคุ้มราคา ไซซ์เล็กพกพาสะดวก เหมาะสำหรับเด็ก | |
5 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น Academy 12 | ![]() | กีตาร์โปร่งดีไซน์เรียบง่าย เหมาะกับการเล่น Fingerstyle | |
6 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น GS Mini Rosewood | ![]() | โดดเด่นด้วยเสียงอันชัดเจน ดีไซน์ฉลาด ไซซ์เล็กลงเล่นง่ายขึ้น | |
7 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น T5z Standard, Tobacco Sunburst | ![]() | กีตาร์ไฟฟ้าสำหรับเล่นดนตรี Acoustic เล่นง่าย ดีไซน์สวย | |
8 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น 210ce | ![]() | สีสันสวยงาม เสียงคมชัดเจน ใช้ฝึกหัดหรือเล่นคอนเสิร์ตได้ | |
9 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น Academy 10 | ![]() | เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด และผู้ที่กำลังฝึกเล่นกีตาร์ | |
10 | TAYLOR กีตาร์ Taylor รุ่น Big Baby Taylor (BBT) | ![]() | ดีดและจับคอร์ดง่าย พร้อมให้เสียงที่ชัดเจน สำหรับใช้ฝักหัด |
กีตาร์ Taylor รุ่น 814ce เป็นกีตาร์ Grand Auditorium รูปทรงที่แบรนด์ออกแบบให้เหมาะกับการเล่นดนตรีสไตล์ Acoustic ทุกประเภท ซึ่งถือเป็นรูปทรงยอดนิยมของแบรนด์เลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม รูปทรงนี้ได้รับการผลิตครั้งแรกในปี ค.ศ. 1994 หลังจากนั้นก็ได้รับการพัฒนามาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน ทังยังใช้ไม้ Indian Rosewood ในการประกอบบอดี้ ทำให้ได้สีไม้ธรรมชาติที่สวยงามและเสียงที่ไพเราะ นอกจากนี้รุ่นนี้ยังใช้พิคอัพรุ่น Expression System® 2 ทำให้ช่องเสียงที่ได้กว้างยิ่งขึ้นและเล่นได้หลากหลายแนวตามที่ต้องการ เหมาะกับทั้งมือใหม่และนักดนตรีมืออาชีพทุกคนค่ะ
รูปทรง Grand Auditorium ของรุ่นนี้เป็นรูปทรงมาตรฐานของกีตาร์ Taylor โดยเนื้อไม้ที่ใช้ผลิตนั้นเป็นไม้ Maple เป็นหลัก ความพิเศษของไม้ชนิดนี้คือ ให้เสียงที่นุ่มลึก ชัดเจน ไม่สั่น และตอบสนองต่อการดีดเร็ว จึงไม่ต้องออกแรงดีดเยอะ ส่วนช่วงบนหรือ Top Woods เป็นไม้ และ Sitka Spruce ที่โดนเด่นในเรื่องของช่องเสียงที่กว้างและให้เสียงที่หลากหลายด้วย ผนวกกับการใช้พิคอัพแบบ Expression System® 2 พิคอัพเฉพาะของแบรนด์ยิ่งทำให้เสียงที่ได้มีความไดนามิกสูง เหมาะกับผู้ที่มองหากีตาร์ที่ดีดง่าย และให้เสียงที่ชัดเจนค่ะ
รุ่น 314ce จาก Taylor เป็นรุ่นที่ใช้ Bracing หรือไม้ด้านหน้าชนิด V-Class ซึ่งถือเป็นชนิดล่าสุดของแบรนด์ และมีส่วนช่วยให้เสียงของกีตาร์รุ่นนี้มีความชัดเจนและคงที่ยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเล่นได้หลากหลายแบบ พร้อมกับให้นักดนตรีออกแบบเสียงใหม่ ๆ ได้ ทำให้รุ่นนี้เหมาะกับการใช้แต่งเพลง ฝึกซ้อม บันทึกเสียง และเล่นคอนเสิร์ตเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ V-Class ยังช่วยเพิ่มความทนทานให้กับรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือ รุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เข้ามาช่วยเสริมให้การเล่นสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าคุณภาพคุ้มราคาสุด ๆ เลยค่ะ
สำหรับใครที่อยากจะเป็นเจ้าของกีตาร์ Taylor ที่คุณภาพได้มาตรฐานและมีราคาไม่สูงจนเกินไป เราขอแนะนำกีตาร์รุ่น Baby Taylor (BT1) เลยค่ะ เพราะรุ่นนี้มีราคาที่ประมาณหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งถือว่าไม่สูงนักหากเทียบกับรุ่นอื่น จึงเหมาะกับผู้เล่นมือใหม่ และเด็กเล็กที่ต้องการฝึกฝน โดยรุ่นนี้มีรูปทรงที่เรียกว่า Baby ที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นทั่วไปของแบรนด์ ทำให้พกพาได้อย่างสะดวก ในส่วนของคุณภาพนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียวค่ะ เพราะแม้แต่นักร้องชื่อดังอย่าง Taylor Swift ยังเคยใช้รุ่นนี้ในการแสดงและแต่งเพลงมาแล้ว
ชายเว้า (Cutaway) จะมีส่วนช่วยให้คุณจับหรือวางกีตาร์บนขาของคุณได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่ถูกใจรูปทรงของ Cutaway มากนัก ดังนั้นกีตาร์ Taylor จึงได้ออกแบบฟีเจอร์ที่เรียกว่า Non - Cutaway ออกมา ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยเล่นโน้ตสูง ๆ หรือคนที่ชื่นชอบกีตาร์ที่มีรูปทรงเรียบง่าย จึงทำให้รุ่น Academy 12 นี้เหมาะกับผู้ที่มองหากีตาร์ดีไซน์เรียบ ๆ สำหรับเล่นแบบไม่เชื่อมต่อกับไฟฟ้า (No Electronics) นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังมีบอดี้ที่เล็กกว่ารุ่นทั่วไป จึงเหมาะกับการเล่นแบบ Fingerstyle เป็นอย่างยิ่งค่ะ
รุ่น GS Mini เป็นเสมือนการย่อขนาดรูปทรง Grand Symphony (GS) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปทรงที่ได้รับความนิยมของ Taylor โดยพื้นฐานแล้วรูปทรง GS นั้นจะมีเสียงทุ้มและชัดเจน ซึ่งการนำมาย่อให้เล็กลงไม่ได้ส่งผลใด ๆ ต่อเสียงของรุ่นนี้เลย แต่ยังมีข้อดีเพิ่มขึ้นหลายอย่าง เช่น ง่ายต่อผู้เล่นมือใหม่ในการฝึกซ้อม หรือพกพาสะดวกทำให้เหมาะกับนักดนตรีที่ชอบการเดินทางทุกคนค่ะ และด้วยความชาญฉลาดในการออกแบบนี้เองที่ทำให้รุ่นนี้ได้รับรางวัลในการออกแบบมาแล้ว ใครที่กำลังมองหากีตาร์แสนอเนกประสงค์ รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ไม่ควรพลาดค่ะ
รุ่น T5z Standard เป็นกีตาร์ไฟฟ้าจาก Taylor ความพิเศษของรุ่นนี้อยู่ที่สี Tabacco Sunburst พร้อมกับเคลื่อบด้วยความมันวาวของตัวบอดี้ ทำให้กีตาร์มีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้น รุ่นนี้ยังสามารถเล่นได้ทั้งโน้ตสูงหรือดนตรีแนวซอฟต์ ๆ เพราะแบรนด์ได้ออกแบบและพัฒนาพิคอัพของรุ่นนี้จนทำให้เสียงนั้นมีคุณภาพเยี่ยม นอกจากนี้ ส่วนขนาดคอกีตาร์และจำนวนเฟรตส์ของรุ่นก็พอเหมาะให้คุณเล่นได้สบายยิ่งขึ้น ใครที่อยากได้กีตาร์ไฟฟ้าสำหรับการเล่นดนตรี Acoustic จาก Taylor รุ่นนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยค่ะ
รูปทรงของรุ่น 210ce มีชื่อเรียกว่า Dreadnought ซึ่งถือเป็นรูปทรงคลาสสิกที่สอดแทรกความทันสมัย จึงทำให้มีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ มาพร้อมกับ Venetian Cutaway ที่เสริมให้รูปร่างของรุ่นนี้สมบูรณ์แบบ และช่วยให้ง่ายต่อการเล่นอีกด้วย นอกจากนี้ไม้ที่ใช้ในการผลิตอย่าง Sitka Spruce และ Layered Rosewood ยังให้สีที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากระบบเสียงที่คมชัดและคุณภาพสูง ทำให้รุ่นนี้สามารถใช้เป็นกีตาร์ฝึกซ้อม สำหรับบันทึกเสียงในสตูดิโอ และเล่นบนคอนเสิร์ตก็ได้ค่ะ
ถือเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่อยากฝึกเล่นกีตาร์เลยก็ว่าได้ สำหรับรุ่น Academy 10 จาก Taylor เนื่องจากคอกีตาร์ของรุ่นนี้ออกแบบและพัฒนาโดยแบรนด์เอง ทำให้ปรับสาย จับคอร์ด และเปลี่ยนคอร์ดได้ง่าย อีกทั้งยังมีรูปทรง Dreadnought และมีที่พักแขนให้ทั้งความสบาย และช่วยให้เล่นได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยเสริมให้กับผู้ที่กำลังฝึกหัดไม่เมื่อยแม้จะฝึกเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้เป็นกีตาร์โปร่งที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับกระแสไฟฟ้าได้ ทำให้การเล่นอาจจะค่อนข้างจำกัดค่ะ
หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นกีตาร์แนว Acoustic และกำลังมองหากีตาร์ที่เหมาะกับการช่วยพัฒนาฝีมือในการเล่นของคุณ เราขอแนะนำรุ่น Big Baby Taylor เลยค่ะ เพราะรุ่นนี้ได้รับการออกแบบให้ซัพพอร์ตการเล่นของคุณได้เป็นอย่างดี และให้คุณเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่ติดขัด ยิ่งไปกว่านั้นคือ เสียงของรุ่นนี้ยังมีความไพเราะและชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฝึกทุกคนแยกเสียงของแต่ละโน้ตได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญคือ สีของรุ่นนี้เป็นสีน้ำตาลจากไม้ Walnut และ Sitka Spruce ช่วยให้ดูสวยสะดุดตาเป็นอย่างยิ่งค่ะ
อันดับที่ 1: TAYLOR|กีตาร์ Taylor รุ่น 814ce
อันดับที่ 2: TAYLOR|กีตาร์ Taylor รุ่น 614ce
อันดับที่ 3: TAYLOR|กีตาร์ Taylor รุ่น 314ce
อันดับที่ 4: TAYLOR|กีตาร์ Taylor รุ่น Baby Taylor (BT1)
อันดับที่ 5: TAYLOR|กีตาร์ Taylor รุ่น Academy 12
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ