10 ตะไบเล็บ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ขัดเล็บเรียบ ตัดแต่งเล็บดี

ตะไบแบบโลหะเป็นตะไบที่มีความทนทาน อายุการใช้งานค่อนข้างนาน และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ สามารถใช้ปรับแต่งทรงเล็บและปรับความสั้นยาวได้ โดยที่ใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นวัสดุโลหะจึงมีความหยาบและคม ทำให้ต้องระมัดระวังในขณะใช้งาน นอกจากนี้ยังไม่เหมาะกับเล็บที่เปราะบาง เพราะถ้าหากลงน้ำหนักมากจนเกินไป อาจทำให้เล็บฉีกขาดและเกิดบาดแผลได้ค่ะ

สำหรับตะไบแบบแก้วนั้นเป็นตะไบที่มีความอ่อนโยนต่อเล็บ และค่อนข้างได้รับความนิยมในหมู่ของผู้ที่มีเล็บเปราะ บาง หรือฉีกขาดง่าย นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดแรงกระแทกและการเสียดสีหน้าเล็บขณะใช้งานอีกด้วย ในด้านประสิทธิภาพการใช้งาน นอกจากจะสามารถปรับความสั้น ยาว แต่งทรงเล็บได้แล้ว ยังสามารถตะไบเล็บเงาได้ในอันเดียว ซึ่งจะต่างจากตะไบประเภทอื่น แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงกว่าตะไบประเภทอื่นเช่นกันค่ะ

ตะไบแบบแผ่นขัดเป็นตะไบที่ทำจากเม็ดทรายอัดเป็นแท่งแข็ง มีหลายแบบที่สุด และมีความความหยาบ-ความละเอียดแตกต่างกัน โดยจะเป็นประเภทใช้แล้วทิ้ง เนื่องจากเสื่อมสภาพเร็ว มีอายุการใช้งานน้อย และราคาค่อนข้างย่อมเยา ในท้องตลาดที่นิยมใช้งานมากที่สุด สามารถแบ่งออกเป็น 3 แบบดังนี้

• ตะไบแบบไม้ (Wooden Nail File) ใช้งานง่าย มีความละเอียดสูง เหมาะกับตะไบทรงและขัดหน้าเล็บธรรมชาติ ไม่ทำลายหน้าเล็บ หลังจากตัดเล็บ สามารถใช้ตัวนี้ปรับแต่งทรงได้เลยค่ะ
• ตะไบแบบกระดาษทราย (Emery Board) มีความหยาบและความละเอียดในตัว ใช้ปรับหน้าเล็บ ทำความสะอาดหนังรอบเล็บได้ เหมาะกับงานถอดสีเจล ทาสี และต่อเล็บ
• ตะไบแบบขัดเงา หรือบล็อกขัดเงา (Shiner) มีความละเอียดมากที่สุด สามารถขัดหน้าเล็บให้เงา สวยงาม แลดูสุขภาพดี บางแบรนด์มีตะไบขัดหลายด้านในอันเดียว ไล่ความละเอียดปรับเล็บให้เรียบเนียนจนถึงขัดเงา

จุดสังเกตของตะไบแบบแผ่นขัด คือ จะมีตัวเลขระบุบนตะไบ ที่เรียกว่า กริต (Grit) ซึ่งเป็นการบอกความหยาบ-ความละเอียดของทรายขัด ถ้าตัวเลขยิ่งน้อยก็ยิ่งมีความหยาบมาก และถ้าตัวเลขยิ่งเยอะก็จะยิ่งมีความละเอียดสูง โดยมีหน่วยตั้งแต่ 80 - 2400 G ทั้งนี้ ถ้ามีตัวเลข 100/180 ก็จะหมายความว่า มีความหยาบ-ความละเอียดต่างกันในอันเดียว ด้านหนึ่ง 100 G อีกด้านหนึ่ง 180 G เป็นต้น