Top 5 กล้อง Mirrorless ยอดนิยม
Panasonic
ใช้ระบบเสียง OZO มีระบบป้องกันกล้องสั่น รองรับวิดีโอ 4K
คุณโอ๋เป็นช่างภาพและกราฟิกดีไซเนอร์ที่มีประสบการณ์จากการทำงานทั้งในญี่ปุ่นและไทย ปัจจุบันรับงานถ่ายภาพบุคคลและโปรดักส์ รวมถึงงานออกแบบเว็บไซต์และกราฟิกดีไซน์ให้กับสตูดิโอในญี่ปุ่น โดยหลังจากจบการศึกษาด้านกราฟิกดีไซน์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณโอ๋เดินทางไปศึกษาต่อด้านการถ่ายภาพโฆษณาที่โตเกียว และทำงานในวงการถ่ายภาพที่ญี่ปุ่นกว่า 6 ปี เริ่มจากตำแหน่งผู้ช่วยช่างภาพก่อนพัฒนาเป็นช่างภาพและนักออกแบบมืออาชีพ ด้วยประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ ทำให้คุณโอ๋จึงมีมุมมองที่หลากหลาย สามารถผสมผสานศิลปะการถ่ายภาพและดีไซน์เข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์
คุณตุ้ยเป็นทาสแมวที่มีประสบการณ์เลี้ยงแมวกว่า 5 ปี และปัจจุบันดูแลแมวถึง 13 ตัว ด้วยความรักและเอาใจใส่ ทำให้มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการดูแลแมว ทั้งลูกแมว แม่แมวหลังคลอด แมวป่วย และแมวหลังทำหมัน อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการเลือกอาหารแมว ขนมแมว และอุปกรณ์จำเป็น เพื่อให้เหมาะสมกับสุขภาพของแมวในแต่ละด้านอีกด้วย นอกเหนือจากความหลงใหลในโลกของแมว คุณตุ้ยยังเป็นนักถ่ายภาพที่รักการเก็บเกี่ยวโมเมนต์ผ่านเลนส์กล้อง โดยมีประสบการณ์ใช้งานทั้งกล้องมือถือ DSLR และ Mirrorless ในการถ่ายภาพแนว Landscape, Street และ Portrait ซึ่งได้ฝึกฝนพัฒนาทักษะการถ่ายภาพมาโดยตลอด โดยยังเคยรับงานถ่ายภาพงานบวชและงานแต่งงาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสามารถที่ทำให้เข้าใจเรื่ององค์ประกอบของภาพ การจัดแสง และการเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม จากความชื่นชอบทั้ง 2 ด้าน คุณตุ้ยจึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง อาหารเสริมแมว อุปกรณ์สำหรับแมว และกล้องถ่ายรูป เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ผ่านบทความที่อ่านง่าย ช่วยให้ผู้อ่านเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้อย่างคุ้มค่าและตรงกับความต้องการ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
ปัจจุบันกล้อง Mirrorless ส่วนใหญ่จะมีหน้าจอ LED ขนาดใหญ่ทำให้สะดวกในการเช็คความสว่าง สีของภาพ ลักษณะโบเก้ของภาพที่ถ่าย ช่างถ่ายภาพจึงปรับค่าต่าง ๆ เช่น ค่า Exposure หรือค่า White Balance ได้ถูกต้องตรงตามความต้องการง่ายขึ้น ช่วยลดความผิดพลาดและแม้ช่างภาพมือใหม่ก็สามารถใช้ได้อย่างไม่ขัดเขิน ในขณะเดียวกันกล้องสำหรับช่างถ่ายภาพระดับโปรก็มีออกมาให้เห็นในตลาดเป็นจำนวนมาก ที่เหลือก็แค่หากล้อง Mirrorless ที่เข้ากับตัวเองให้ได้สักตัวแค่นั้นเองค่ะ
ความแตกต่างของกล้อง Mirrorless และกล้อง DSLR นั้นจะมีคำอธิบายอยู่ในชื่อในตัวมันเองอยู่แล้ว แต่เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ นั้น สามารถอธิบายได้ว่ากล้อง DSLR คือกล้องที่มีการใช้ "กระจกสะท้อนภาพ" ไปยัง View Finder เพื่อให้เราเห็นภาพได้สมจริงที่สุด แต่ก็ทำให้ Body ของตัวกล้องมีขนาดใหญ่ ส่วนกล้อง Mirrorless นั้น เราจะไม่สามารถเห็นภาพจาก Viewfinder ได้โดยตรง เพราะกระจกในส่วนนี้ถูกตัดออกไปแล้ว แต่จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า "EVF หรือ Electronic Viewfinder" มาทดแทน ซึ่งให้ความละเอียดที่แตกต่างกันไปนั่นเอง
กล้อง Mirrorless ในปัจจุบันมีมากมายหลายรุ่น ผู้ใช้งานจึงควรเลือกกล้อง Mirrorless ที่เหมาะกับการใช้งานของตนเองมากที่สุด โดยขอแนะนำวิธีการเลือกดังนี้
ปัจจัยสำคัญแรก ๆ ที่กำหนดว่าคุณภาพของภาพถ่ายที่ได้จะดีหรือไม่ก็คือ ขนาดของเซ็นเซอร์ภาพ โดยทั่วไปเซ็นเซอร์จะมี 3 ชนิดใหญ่ ๆ คือ APS-C, Micro 4/3 และ Full-Frame แล้วเซ็นเซอร์ประเภทไหนเหมาะกับการใช้แบบใดไปดูกันค่ะ
หากคุณเพิ่งหันมาถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายรูป การเลือกกล้องที่มีน้ำหนักเบาและเลนส์ขนาดกะทัดรัด นอกจากจะช่วยในเรื่องราคาแล้ว ยังช่วยให้ไม่ต้องรู้สึกท้อเวลาต้องพกออกไปถ่ายภาพ เพิ่มโอกาสให้คุณได้พัฒนาฝีมือการถ่ายภาพไปด้วยในทางอ้อม หากคุณไม่อยากแบกสัมภาระที่มีน้ำหนักเยอะ เซ็นเซอร์แบบ APS-C และแบบ Micro 4/3 น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณค่ะ
โดยเซ็นเซอร์แบบ APS-C จะเหมาะกับคนที่ชอบถ่ายภาพแบบซูม ให้วัตถุที่เป็นเป้าหมายในการถ่ายภาพมีขนาดที่ใหญ่เมื่อมองในเฟรมภาพ ส่วนเซ็นเซอร์แบบ Micro 4/3 จะเหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ ที่มองเห็นวัตถุเป้าหมายจากแนวกว้าง หรือเหมาะกับคนที่ชอบถ่ายภาพแบบมีชัดลึกชัดตื้น(โบเก้)ค่ะ
APS-C ให้ความหน้าชัดหลังเบลอได้ยากกว่าแบบ Full Frame เหมาะกับงานถ่ายอีเวนท์ หรือภาพหมู่ ที่ต้องการให้โฟกัสชัดทั้งภาพ Micro 4/3 มีเซนเซอร์ขนาดเล็กกว่า Full frame ถึง ¼ ราคาถูกและน้ำหนักเบามากเหมาะกับการพกพาไปท่องเที่ยว ถ้าต้องการเปลี่ยนชนิดของเลนส์ก็สามารถพกพาไปเปลี่ยนได้ เนื่องจากเซนเซอร์ที่ยิ่งเล็กลง ภาพที่ได้ก็จะเป็นภาพที่ซูม จะเหมาะกับการภาพถ่ายชนิดถ่ายจากระยะไกล (Telephoto) เช่น ถ่ายนก เป็นต้น
ความใหญ่ของเซนเซอร์มีส่วนแปรผันกับระยะของเลนส์และกรอบภาพ ภาพที่ได้จากเลนส์จะถูกตัดทิ้งไปเมื่อเซนเซอร์ขนาดเล็กลง ยิ่งเซนเซอร์ใหญ่ก็ยิ่งสามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้มากขึ้น ความเร็วชัดเตอร์ที่เพิ่มขึ้น โทนสีละเอียดขึ้น รับแสงได้มากขึ้น ส่วนที่มืดก็จะละเอียดขึ้น Noise ก็จะเกิดได้ยากขึ้น
สำหรับช่างภาพระดับโปรแล้ว เราแนะนำให้เลือกเซ็นเซอร์ APS-C ขึ้นไป และแน่นอนว่า หากต้องการคุณภาพของภาพที่ดีที่สุดเท่าที่กล้องจะเสนอได้ เซ็นเซอร์แบบ Full-Frame ถึงเป็นคำตอบสุดท้ายของคุณค่ะ เซ็นเซอร์ประเภทนี้จะมีขนาดใหญ่ โอบรับแสงได้เยอะกว่า ยิ่งทำให้ได้รายละเอียดภาพที่สวยงามมากขึ้น และเป็นธรรมชาติ
ในกรณีที่ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกก็จะเห็นการไล่สีที่สมูธ มีความสมดุลระหว่างแสงและเงา และให้บรรยากาศของภาพที่สมจริง ส่วนระยะ Focal Length ต่อเลนส์ก็ยาวจึงทำให้โอกาสเกิดการบิดเบี้ยวของรูปน้อยลง อีกทั้งยังให้สีสัน ความชัดลึกชัดตื้นที่ได้อารมณ์ สามารถส่งความรู้สึกลงไปในภาพได้อย่างละเอียดอ่อนมากกว่าอีกด้วย
เนื่องจากเซนเซอร์ Full Frame ที่มีขนาดใหญ่ ทำให้กล้องมีน้ำหนักมาก และราคาแพงทั้งกล้องและเลนส์ที่นำมาใช้ร่วมกัน สำหรับช่างภาพมือใหม่ หรือระดับกลางที่ต้องการความสะดวกในการพกพา หรือเพื่อต้องการศึกษาการใช้งานของกล้องในเบื้องต้นและฝึกฝนการถ่ายภาพ เซนเซอร์ที่มีระดับเล็กลงมาก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม
ยิ่งกล้องที่ให้ความละเอียดมากคือ การบีบข้อมูลจำนวนที่มากขึ้นลงไปในเซนเซอร์ กล้องที่ให้ความละเอียดภาพน้อย เช่น SONY เมื่อถ่ายภาพในที่มืดและเพิ่ม ISO สูง จะให้ภาพที่เกิด Noise น้อยกว่ากล้องที่ให้ความละเอียดมากกว่า กล้องที่ให้ความละเอียดน้อยกว่าสามารถประมวลผลในที่มืดได้ดีกว่า
ช่างภาพมือใหม่ และระดับกลาง หากต้องการถ่ายภาพเพื่อรับชมในจอส่วนตัว หรืออัพโหลดลงบนอินเตอร์เนต ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ความละเอียดมาก เพราะความละเอียดมากทำให้ไฟล์ของภาพใหญ่ขึ้น การนำไปประมวลผลรูปต่อจำเป็นต้องใช้สเปคคอมพิวเตอร์ที่เยอะขึ้น แนะนำว่าให้เริ่มจาก 20 ล้านพิกเซล (หรือสามารถนำรูปไปพิมพ์ได้ขนาดประมาณ Postcard Size ได้สวยงามโดยไม่ผ่านการ Crop)
กล้องที่ให้ความละเอียดมากสามารถขยายภาพได้มากกว่า รายละเอียดที่ได้จากภาพขนาดใหญ่สามารถ Crop ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ ประกอบกับการใช้เลนส์คุณภาพดี และอยู่ในสถานการณ์การถ่ายภาพที่สามารถควบคุมความสว่างของภาพได้ หรือสามารถใช้ขาตั้งกล้องได้ เช่น งานสตูดิโอ หรืองานโฆษณาที่มักมีการ ไดคัท หรือรีทัชรูปต้องการใช้ภาพที่มีความละเอียดสูง กล้องที่ให้ความละเอียดภาพสูงจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
สำหรับคนที่เน้นทำ Vlog หรือใช้กล้อง Mirrorless เพื่อถ่ายภาพเคลื่อนไหวหรือถ่าย Vlog เราไปดูกันว่า ต้องดูอะไรบ้าง
สำหรับคนที่เน้นทำ Vlog หรือใช้กล้อง Mirrorless เพื่อถ่ายภาพเคลื่อนไหว เราแนะนำให้เลือกกล้องที่มีความละเอียดอย่างน้อย Full HD ขึ้นไป เนื่องจากระบบ YouTube ในปัจจุบันสามารถอัพโหลดความละเอียดสูงสุดที่ Full HD จึงไม่มีความจำเป็นต้องถ่ายที่ความละเอียด 4K
นอกจากนี้ควรตรวจสอบจำนวนจุดโฟกัสของกล้อง พูดง่าย ๆ ว่าเจ้าจุดโฟกัสที่ปรากฏในเฟรมกล้อง ยิ่งจำนวนมากเท่าไรก็จะยิ่งทำให้เราเลือกปรับโฟกัสของภาพได้ละเอียดมากขึ้นเท่านั้น คนที่ไม่ได้ถ่ายภาพเคลื่อนไหวอาจจะเลือกกล้องที่มีจุดโฟกัสประมาณ 10 จุดก็น่าจะเพียงพอ แต่สำหรับคนที่ต้องการถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ก็ควรเลือกกล้องที่มีจุดโฟกัส 30-50 จุด แต่ถ้าคุณเป็นคนถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวเป็นหลักก็ต้องใช้แบบ 50-100 จุดขึ้นไป หรือมีระบบ Auto Focus ถึงจะเหมาะสม
จำนวนของจุดโฟกัสของกล้องนั้น บางคนอาจจะมองว่าไม่ได้มีผลต่อการถ่ายภาพทั่ว ๆ ไปสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากคนใช้งานเป็นระดับ Professional จำนวนจุดโฟกัสจะช่วยให้งานของเราง่ายขึ้นมาก ๆ เพราะการถ่ายภาพบางครั้งในงาน Studio เราจะสามารถ Monitor ภาพที่เราถ่ายมาได้เลยว่า Focus เข้าทุกภาพใช่ไหม
อย่างไรก็ตาม สำหรับงานนอกสถานที่ที่ต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลา เราจำเป็นจะต้องกดถ่ายเรื่อย ๆ แล้วมาเช็กภาพ ซึ่งหากเราพลาด ก็จะแก้ไขอะไรไม่ได้ แม้กระทั่งกับคนที่ทำงานสาย Video ไม่ว่าจะ YouTuber หรือ Content Creator ต่าง ๆ ก็มักจะใช้ Auto Focus อยู่เป็นประจำ จำนวนจุดโฟกัสที่เยอะขึ้นก็จะช่วยให้กล้องโฟกัสสิ่งที่เราทำในเฟรมกล้องได้รวดเร็วและเป็นธรรมชาติที่สุด
ความเร็วชัตเตอร์โดยทั่วไป (Mechanical Shutter) จะอยู่ที่ 1/2,000 – 1/4,000 วินาที แต่ถ้าเป็นกล้องที่มีชัตเตอร์แบบไฟฟ้า (Electronic Shutter) ความเร็วชัตเตอร์จะสามารถทำได้สูงถึง 1/16,000 วินาทีเลยทีเดียว ส่วนจำนวนภาพที่ถ่ายต่อเนื่องได้ ซึ่งถ้าเป็นคนที่ถ่ายภาพเคลื่อนไหวบ่อย ๆ อยากได้ภาพที่หยุดนิ่งไม่ไหวติง ควรเลือกสเปกที่มีค่าอยู่ที่ 10fps แต่ถ้าไม่ได้ถ่ายภาพเคลื่อนไหวเป็นหลักให้เลือกสเปกที่ระดับ 4fps ก็เพียงพอแล้วค่ะ
แต่หากเลือกระบบกันสั่นที่ตัวกล้องเลย ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปใช้เลนส์ขนาดเท่าใด ฟังก์ชันกันสั่นก็ยังคงทำงานได้เหมือนเดิม โดยเราแนะนำให้เลือกระบบกันสั่น 5 แกน (5-Axis) ไปเลย เพื่อให้ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้คมชัด ไม่มีปัญหาสั่นเบลอ เสมือนเป็นมืออาชีพทีเดียว
ISO กับความละเอียดของกล้องมีผลแปรผันกันโดยตรง หากต้องการถ่ายภาพในที่มืดใช้ ISO ที่สูงก็แนะนำให้ใช้กล้องที่มีความละเอียดไม่สูงมาก เพื่อให้ได้ภาพที่มี Noise น้อยลง
ค่า ISO สูงสุดของกล้องแต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน ถ้าชอบถ่ายภาพยามค่ำคืน หรือชอบถ่ายภาพเคลื่อนไหวควรเลือกสเปกไว้ที่ ISO 12,800 แต่ถ้าถ่ายทั่วไปก็ที่ ISO 6400 ก็ได้ค่ะ แต่การใช้ ISO มีข้อควรระวังว่าถ้าปรับค่าสูงมากเกินไปจะทำให้ภาพเกิด Noise หรือจุดรบกวนภาพ ทำให้ไฟล์ภาพดูหยาบไม่ชัดเจนได้
และสำหรับช่างภาพมือใหม่ที่ต้องการเทคนิคการถ่ายภาพตอนกลางคืนให้สวยงามและมีความคมชัด สามารถศึกษาเทคนิคเพิ่มเติมได้ที่ Central Inspirer
กล้อง + เลนส์ที่มีน้ำหนักมากแน่นอนว่าจะได้ภาพที่มีความละเอียดและคุณภาพที่สูงแต่ต้องแลกมากับการแบกขนย้าย สำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ที่ไม่เคยไป แนะนำว่าให้เลือกเลนส์ Fix ช่วง 35-50 mm ละลายหลังสวย ๆ ติดไปหนึ่งตัวก็เอาอยู่ค่ะ
เพราะตัวกล้องที่ว่าหนักแล้ว เมื่อรวมเลนส์หรือเคสใส่เข้าไปด้วยถ้าหนักเกิน 500 กรัม ส่งผลให้รู้สึกเมื่อยหรือเจ็บเวลาสะพายนาน ๆ ได้ ทางที่ดี ควรเลือกกล้อง Mirrorless ที่มีน้ำหนักเบาไม่เกิน 400 กรัม เผื่อต้องพกอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ไปด้วย จะได้ไม่รู้สึกราวกับแบกบ้าน หนักจนถ่ายรูปไม่สนุกนั่นเอง
จริง ๆ แล้วต้องบอกก่อนว่ากล้อง Mirrorless โดยส่วนใหญ่นั้นจะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบากว่ากล้องในสมัยก่อน แต่สิ่งที่ต้องแลกกับน้ำหนักที่เบาลงก็คือ ความแข็งแรงของ Body และประสิทธิภาพในการกันน้ำกันฝุ่นที่เราเรียกว่า Weather Seal อาจจะลดลงตามไปด้วย และอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้กล้องมีน้ำหนักมากขึ้นก็คือ ชิ้นเลนส์ โดยถ้าเราใช้เลนส์คุณภาพสูง ๆ มีขนาด Optics ที่ใหญ่ ก็จะทำให้กล้องมีน้ำหนักมากขึ้นตามกัน ดังนั้น การเลือกกล้องที่มีน้ำหนักสมดุลกับตัวเลนส์เพื่อ Ergonomic ในการใช้งานก็สำคัญไม่แพ้กัน
หน้าจอ Touch Screen มีประโยชน์มากกว่าที่คิดในกรณีที่ถ่ายสิ่งที่เคลื่อนไหวเราสามารถใช้นิ้วลากจุดโฟกัสบนจอได้เลย รวดเร็วแม่นยำกว่าใช้มือหมุนหาจุดโฟกัสเองค่ะ
ส่วนแบบ Vari-Angle ที่สามารถหมุนได้หลายทิศทางซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เลือกชนิดนี้ค่ะ จะได้ถ่ายภาพได้หลายรูปแบบมากกว่า ไม่ว่าภาพมุมต่ำ ภาพเซลฟี่ ก็ถ่ายได้โดยไม่ต้องเอี้ยวตัวหรือบิดมือให้เมื่อย อีกทั้งถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่ชินกับการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนมาตลอด แนะนำให้เลือกหน้าจอที่เป็นทัชสกรีนด้วย เพราะสามารถใช้งานได้คล้ายสมาร์ทโฟน ช่วยให้สะดวกในการถ่ายภาพมากขึ้นค่ะ
แน่นอนว่าในยุคนี้เป็นยุคของ Content Creator บางครั้งเราอาจจะต้องทำคอนเทนต์หรือถ่ายภาพด้วยตัวเอง การที่เรามีจอแสดงผลแบบ Flip หรือแบบพับนั้น จะช่วยให้เราสามารถ Monitor ผลลัพธ์ที่จะออกมาได้ก่อนที่เราจะกดชัตเตอร์ลงไป และยิ่งหากเราเลือกรุ่นที่มีหน้าจอคมชัด คุณภาพสูง ยิ่งทำให้เราเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจุดเล็ก ๆ นี้สามารถสร้างความแตกต่างให้กับคุณภาพงานของเราได้มากทีเดียว
ปัจจุบันกล้อง Mirrorless ส่วนใหญ่จะมีช่องมองภาพแบบใหม่ที่เรียกว่า ช่องมองภาพไฟฟ้าหรือที่เรียกว่า EVF (Electronic Viewfinder) ซึ่งกล้องที่มีอุปกรณ์นี้มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักมากกว่าช่องมองภาพแบบเดิม และราคาก็จะสูงกว่าเดิม เราแนะนำให้ลองคำนวณงบประมาณ ประเมินการใช้งานของตัวเองในการเลือกซื้อนะคะ
ข้อดีของการใช้ Viewfinder ในการถ่ายภาพคือ จะช่วยให้เราเห็นภาพตรงหน้าก่อนที่จะกดถ่ายได้ดี อีกทั้งยังเป็นการตัดขาดจากสภาพแวดล้อมรอบข้างที่รบกวนสมาธิของผู้ถ่ายออกไปได้ด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยให้เราสามารถจัดวาง Compose ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับกล้อง Mirrorless แล้ว กระจกส่วนนี้จะถูกตัดออกไป และเข้าแทนที่ด้วยเทคโนโลยีอย่าง EVF หรือ ช่องมองภาพแบบ Electronic ซึ่งมักจะมีอยู่ในกล้อง Mirrorless ราคาระดับกลางขึ้นไป
นอกจากนี้ กล้อง Mirrorless บางรุ่นบางแบรนด์ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันช่วยให้ส่งรูปไปยัง SNS ต่าง ๆ ได้โดยตรง หรือว่าใช้เป็นเหมือนรีโมทถ่ายภาพก็ได้ ดังนั้นนอกจากจะตรวจสอบว่ากล้องสามารถใช้ Wi-Fi หรือ Bluetooth ได้หรือไม่ แล้ว อย่าลืมตรวจสอบด้วยว่าสามารถใช้ฟังก์ชันอะไรที่เกี่ยวเนื่องกันได้บ้าง เพื่อจะได้ใช้กล้องได้อย่างสนุกสนานมากขึ้นค่ะ
การ Transfer Files แบบไร้สายถือเป็นจุดท้าทายให้กับบริษัทกล้องมานานมาก แต่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ ค่อนข้างโชคดีสำหรับคนถ่ายภาพ เพราะเทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานได้อย่างเห็นผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กล้องรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มักจะมีการ Built-in Wi-Fi และ Bluetooth มาให้ เพื่อให้เราสามารถส่งไฟล์ไปยังสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับการใช้งานต่าง ๆ ถ้าใครใช้งานในลักษณะแบบนี้บ่อย อย่าพลาดที่จะเลือกซื้อกล้องที่มี Wi-Fi หรือ Bluetooth
สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าชอบภาพช่วงไหน แนะนำให้เลือกเลนส์เสริมที่ใช้ได้ทุกช่วง เช่น 24-70mm F2.8 mm เพื่อนำมาศึกษาก่อน หารีวิวเลนส์ หรือรูปถ่ายตัวอย่างจากเลนส์ชนิดที่สนใจ หากถ่ายไปแล้วชอบถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ก็ค่อยไปเลือกว่าอยากถ่ายแบบ พอร์ทเทรตแบบ Tele หรือชอบแบบช่วง Normal Range 50 mm แล้ว F ต่ำ ๆ หรือชอบถ่ายวิวถ่ายอาคารงานสถาปัต สตรีท เก็บดีเทลเยอะ ๆ ก็ไปช่วง Wide หรือชอบถ่ายนิ่ง มาโคร ดอกไม้ นก เป็นต้น เลนส์ที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงค่ะ แต่ขอแค่เป็นเลนส์ที่เราหลงรักจริง ๆ จะทำให้เราสนุกกับการถ่ายรูปตลอดเวลา
แต่สำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าควรเลือกเลนส์ขนาดไหน แบบใด หรือต้องการใช้งานแค่ฟังก์ชันพื้นฐานทั่วไป เราขอแนะนำให้เลือกซื้อกล้องที่มาพร้อมเลนส์คิท (Kit) แทน เพราะส่วนมากทางแบรนด์จะจัดเป็นเซ็ตเลนส์ที่เข้ากันได้ดีกับการใช้งานกับกล้อง Mirrorless ตัวนั้น ๆ มาให้อยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีชุดเลนส์คิทเราขอแนะนำว่า กล้องตัวแรกควรเลือกเลนส์ซูมมาตรฐานสักตัว และถ้ายังพอมีงบอยู่ก็ให้เลือกเลนส์ฟิกส์ (Fix) ที่ให้ค่า F/ กว้างอีกสักตัวค่ะ อย่างไรก็ตามลองเลือกดูตามความถนัดในการถ่ายภาพและความชอบของคุณเองดูนะคะ
กล้อง Mirrorless เกือบทุกรุ่นนั้น จะสามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ในการใช้งานได้ โดยเลนส์แต่ละตัวจะมีระยะในการใช้งานและ Effect ของตัวเลนส์ที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงราคาด้วย อย่างเช่น
- เลนส์ Ultra Wide Angle หรือช่วง Focal Length 8mm - 12mm จะเหมาะสำหรับถ่ายภาพวิวหรือภาพสถาปัตยกรรม
- เลนส์ Medium Range อย่าง 35mm , 50mm เป็นเลนส์ที่นิยมใช้ในการถ่าย Street
- เลนส์สำหรับ Portrait อย่าง 85mm , 105mm
ความแตกต่างของช่วงราคานั้นจะไม่ส่งผลต่อระยะมากนัก แต่จะเป็นในเรื่องของคุณภาพของชิ้นเลนส์, ฟังก์ชันเสริมกันน้ำ กันฝุ่น, Autofocus แบบเงียบ ฯลฯ ซึ่งตัวที่เป็นตัวกำหนดราคาเลนส์เลยจริง ๆ แล้วคือ ค่า f/stop ยิ่งค่า f/stop ต่ำ กล้องก็ยิ่งรับแสงได้มาก ทำให้มิติภาพสูงและคุณภาพออกมาดี ระดับเลนส์ทั่ว ๆ ไปอย่าง f/2.8 , f/1.8 ราคาอาจจะอยู่ที่หลักพันไปจนถึงหมื่นต้นๆ แต่ว่าถ้าเป็น f/1.4 , f/1.2 เมื่อไหร่ ราคาจะกระโดดมาก ๆ โดยตกอยู่ที่สองหมื่นกลาง ๆ ไปจนถึงห้าหมื่นบาทได้เลย ฉะนั้น ให้ลองเลือกเลนส์ที่เหมาะกับระดับการใช้งานของตัวเอง
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ขนาดเซ็นเซอร์ | ความละเอียดภาพนิ่ง | ความละเอียดวิดีโอ | จอแสดงผล | ระบบกันสั่น | จุดโฟกัส (AF) | ความเร็วชัตเตอร์ | ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | ค่า ISO | น้ำหนัก | เมาท์เลนส์ | การเชื่อมต่อ | Touchscreen | Viewfinder | |||||
1 | SONY Camera|A6400 | ![]() | รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K เชื่อมต่อ Wi - Fi ได้ ขนาดกะทัดรัด | APS-C | 24.2 MP | 4K 30p | 3" LCD | ไม่ระบุ | 425 จุด | สูงสุด 1/4,000 | 11 FPS | 100 - 32,000 | 403 กรัม | Sony E-Mount | Wi-Fi, Bluetooth, USB 2.0, HDMI, Microphone 3.5 mm | |||
2 | Nikon Mirrorless Camera|Z30 | ![]() | ถ่ายวิดีโอโหมดสโลว์โมชันได้ มีซีลป้องกันฝุ่นและความชื้น | APS-C | 20.90 MP | 4K 30p, FHD 120p | 3" LCD Vari | E-VR | 209 จุด | สูงสุด 1/4,000 วินาที | 11 FPS | 100 - 51,200 | 350 กรัม | Nikon Z mount | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm | |||
3 | Fujifilm Mirrorless Digital|X-T5 | ![]() | โหมดภาพฟิล์ม 19 แบบ มีเทคโนโลยีปรับแต่งโทนสีที่แม่นยำ | Full-Frame | 40.2 MP | 6.2K 30p | 3" LCD | IBIS | 425 จุด | สูงสุด 1/180,000 วินาที | 20 FPS | 125 - 12,800 | 557 กรัม | Fujifilm X-Mount | Wi-Fi, Bluetooth, USB 3.2, Microphone 3.5 mm | |||
4 | Panasonic Lumix Mirrorless Digital Camera|G100D | ![]() | ใช้ระบบเสียง OZO มีระบบป้องกันกล้องสั่น รองรับวิดีโอ 4K | Micro 4/3 | 20.3 MP | 4K 30p | 3" OLED | HIS | 49 จุด | สูงสุด 1/8,000 วินาที | 10 FPS | 100 - 25,600 | 346 กรัม | Micro Four Thirds | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Microphone 3.5 mm | |||
5 | Fujifilm Mirrorless Camera|X-M5 | ![]() | มีโหมดการจำลองภาพยนตร์ ใช้ระบบลด Moire และสีเพี้ยน | APS-C | 26.1 MP | 6.2K 30p, 4K 60p | 3" LCD | DIS | 425 จุด | สูงสุด 1/4,000 วินาที | 20 FPS | 160 - 12,800 | 355 กรัม | Fujifilm X-Mount | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm | |||
6 | Nikon II Mirrorless Camera|Z50 | ![]() | ระบบโฟกัสอัตโนมัติ 9 ประเภท ปรับแต่งภาพได้ 31 รูปแบบ | APS-C | 24.2 MP | 4K 60p, FHD 120p | 3.2" LCD | Digital VR | 209 จุด | สูงสุด 1/16,000 วินาที | 30 FPS | 100 - 25,600 | 495 กรัม | Nikon Z-Mount | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm | |||
7 | Canon EOS V Mirrorless Camera|R50 | ![]() | รองรับการถ่ายวิดีโอแนวตั้ง ระบบโฟกัสแม่นยำและรวดเร็ว | APS-C | 24.2 MP | 4K 60p | 3" LCD | LIS | 651 จุด | 1/4,000 วินาที | 12 FPS | 100 - 32,000 | 551 กรัม | Canon RF-Mount | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm | |||
8 | Leica Mirrorless Digital Camera|SL2-S 10881 | ![]() | เซนเซอร์ Full Frame มีระบบกันสั่นในตัว รองรับวิดีโอ 4K | Full-Frame | 24.6 MP | 4K 60p | 3.2" LCD | IBIS | 225 จุด | สูงสุด 1/16,000 วินาที | 25 FPS | 50 - 100,000 | 931 กรัม | Leica L-Mount | Wi-Fi, Bluetooth, USB 3.2 Gen 1, HDMI, Microphone 3.5 mm | |||
9 | Canon Mirrorless Camera|EOS R10 | ![]() | ขนาดกะทัดรัด จอทัชสกรีนหมุนได้รอบทิศทาง ใช้งานง่าย | APS-C | 24.2 MP | 4K 60p, FHD 120p | 3" LCD | OIS | 651 จุด | สูงสุด 1/4,000 วินาที | 23 FPS | 100 - 32,000 | 429 กรัม | Canon RF mount | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm | |||
10 | Olympus Mark III Mirrorless Camera|OM-D E-M5 | ![]() | รองรับการถ่ายวิดีโอ Cinema 4K โฟกัสภาพวัตถุได้แม่นยำ | Micro 4/3 | 20.4 MP | 4K 30p | 3" LCD | IBIS | 121 จุด | สูงสุด 1/32,000 วินาที | 30 FPS | 200 - 25,600 | 414 กรัม | Micro Four Thirds | Wi-Fi, Bluetooth, USB 2.0, HDMI, Microphone 3.5 mm |
ขนาดเซ็นเซอร์ | APS-C |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 24.2 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 4K 30p |
จอแสดงผล | 3" LCD |
ระบบกันสั่น | ไม่ระบุ |
จุดโฟกัส (AF) | 425 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | สูงสุด 1/4,000 |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 11 FPS |
ค่า ISO | 100 - 32,000 |
น้ำหนัก | 403 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Sony E-Mount |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB 2.0, HDMI, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
ขนาดเซ็นเซอร์ | APS-C |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 20.90 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 4K 30p, FHD 120p |
จอแสดงผล | 3" LCD Vari |
ระบบกันสั่น | E-VR |
จุดโฟกัส (AF) | 209 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | สูงสุด 1/4,000 วินาที |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 11 FPS |
ค่า ISO | 100 - 51,200 |
น้ำหนัก | 350 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Nikon Z mount |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
ขนาดเซ็นเซอร์ | Full-Frame |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 40.2 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 6.2K 30p |
จอแสดงผล | 3" LCD |
ระบบกันสั่น | IBIS |
จุดโฟกัส (AF) | 425 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | สูงสุด 1/180,000 วินาที |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 20 FPS |
ค่า ISO | 125 - 12,800 |
น้ำหนัก | 557 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Fujifilm X-Mount |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB 3.2, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
ขนาดเซ็นเซอร์ | Micro 4/3 |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 20.3 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 4K 30p |
จอแสดงผล | 3" OLED |
ระบบกันสั่น | HIS |
จุดโฟกัส (AF) | 49 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | สูงสุด 1/8,000 วินาที |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 10 FPS |
ค่า ISO | 100 - 25,600 |
น้ำหนัก | 346 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Micro Four Thirds |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
ขนาดเซ็นเซอร์ | APS-C |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 26.1 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 6.2K 30p, 4K 60p |
จอแสดงผล | 3" LCD |
ระบบกันสั่น | DIS |
จุดโฟกัส (AF) | 425 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | สูงสุด 1/4,000 วินาที |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 20 FPS |
ค่า ISO | 160 - 12,800 |
น้ำหนัก | 355 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Fujifilm X-Mount |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
ขนาดเซ็นเซอร์ | APS-C |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 24.2 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 4K 60p, FHD 120p |
จอแสดงผล | 3.2" LCD |
ระบบกันสั่น | Digital VR |
จุดโฟกัส (AF) | 209 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | สูงสุด 1/16,000 วินาที |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 30 FPS |
ค่า ISO | 100 - 25,600 |
น้ำหนัก | 495 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Nikon Z-Mount |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
ขนาดเซ็นเซอร์ | APS-C |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 24.2 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 4K 60p |
จอแสดงผล | 3" LCD |
ระบบกันสั่น | LIS |
จุดโฟกัส (AF) | 651 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | 1/4,000 วินาที |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 12 FPS |
ค่า ISO | 100 - 32,000 |
น้ำหนัก | 551 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Canon RF-Mount |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
ขนาดเซ็นเซอร์ | Full-Frame |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 24.6 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 4K 60p |
จอแสดงผล | 3.2" LCD |
ระบบกันสั่น | IBIS |
จุดโฟกัส (AF) | 225 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | สูงสุด 1/16,000 วินาที |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 25 FPS |
ค่า ISO | 50 - 100,000 |
น้ำหนัก | 931 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Leica L-Mount |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB 3.2 Gen 1, HDMI, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
เซ็นเซอร์ APS - C ความละเอียดภาพ 24.2 MP และมีค่า ISO สูงสุดที่ 32,000
ระบบ Dual Pixel CMOS AF II โฟกัส 651 จุด ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 23 FPS
ใช้ชิปประมวลผลภาพ DIGIC X ถ่ายภาพได้รวดเร็วและให้ภาพที่มีความละเอียดสูง
หน้าจอ LCD แบบทัชสกรีน ขนาด 3 นิ้ว และเป็น Vari - Angle หมุนได้รอบทิศทาง
ขนาดเซ็นเซอร์ | APS-C |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 24.2 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 4K 60p, FHD 120p |
จอแสดงผล | 3" LCD |
ระบบกันสั่น | OIS |
จุดโฟกัส (AF) | 651 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | สูงสุด 1/4,000 วินาที |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 23 FPS |
ค่า ISO | 100 - 32,000 |
น้ำหนัก | 429 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Canon RF mount |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB-C, Micro HDMI, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
ขนาดเซ็นเซอร์ | Micro 4/3 |
---|---|
ความละเอียดภาพนิ่ง | 20.4 MP |
ความละเอียดวิดีโอ | 4K 30p |
จอแสดงผล | 3" LCD |
ระบบกันสั่น | IBIS |
จุดโฟกัส (AF) | 121 จุด |
ความเร็วชัตเตอร์ | สูงสุด 1/32,000 วินาที |
ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง | 30 FPS |
ค่า ISO | 200 - 25,600 |
น้ำหนัก | 414 กรัม |
เมาท์เลนส์ | Micro Four Thirds |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi, Bluetooth, USB 2.0, HDMI, Microphone 3.5 mm |
Touchscreen | |
Viewfinder |
เรายังมีบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกล้อง Mirrorless อีกหลายแบรนด์ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีวิธีการเลือกซื้อที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความด้านล่างนี้
อันดับที่ 1: SONY|Camera|A6400
อันดับที่ 2: Nikon|Mirrorless Camera|Z30
อันดับที่ 3: Fujifilm|Mirrorless Digital|X-T5
อันดับที่ 4: Panasonic |Lumix Mirrorless Digital Camera|G100D
อันดับที่ 5: Fujifilm|Mirrorless Camera|X-M5
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ