เครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator) เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นต่อการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการหายใจ และมีประโยชน์อย่างยิ่งในผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีเขียว ที่ต้องแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) เพราะตัวเครื่องมีกลไกการทำงานที่จะเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจนในระยะเวลาไม่นาน แล้วจ่ายให้ผู้ป่วยทางสายเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น รวมถึงช่วยให้ผู้ที่มีภาวะพร่องออกซิเจนรู้สึกสดชื่นและสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์แล้ว การจะตัดสินใจเลือกซื้อแต่ละครั้งย่อมต้องส่งผลโดยตรงถึงสุขภาพของผู้ใช้ ดังนั้น เพื่อให้คุณเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนได้ตรงตามอาการและมีความปลอดภัยต่อสุขภาพมากที่สุด เราจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ พร้อมกันนี้ยังนำเครื่องผลิตออกซิเจนจากแบรนด์ดังอย่าง Kingon, Kroeber, Yuwell, Devilbiss ฯลฯ มาจัดเป็น 10 เครื่องผลิตออกซิเจนคุณภาพ ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้จริงมากมาย ไว้เป็นข้อมูลให้ทุกคนได้ใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อด้วยค่ะ
Top 5 เครื่องผลิตออกซิเจน ยอดนิยม
คุณออมเป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์เขียนบทความด้านสุขภาพ อาหารเสริม และอุปกรณ์เพื่อสุขภาพมากว่า 4 ปี โดยทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ แพทย์ และเภสัชกร ทำให้มีโอกาสศึกษาข้อมูลเฉพาะทางเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอย่างลึกซึ้ง นอกจากความสนใจในเรื่องสุขภาพแล้ว คุณออมยังหลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ทั้งอาหาร การใช้ชีวิต และภาษาญี่ปุ่น โดยเคยเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดมิเอะเป็นเวลา 1 ปี ประสบการณ์นี้ทำให้เธอได้เรียนรู้แนวคิดด้านสุขภาพของชาวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่สมดุล วัฒนธรรมการดื่มชา หรือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทำให้คุณออมสนุกกับการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับโภชนาการและการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน โดยเชื่อว่าการเลือกกินที่ดีและการปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสมเป็นสิ่งที่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นอย่างยั่งยืน คุณออมจึงมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
สารบัญ
เครื่องผลิตออกซิเจน คือ เครื่องที่จะช่วยรักษาหรือพยุงอาการผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทุกคนจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบมากที่สุด ซึ่งเราได้รวบรวมแนวทางในการเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนที่สำคัญมาไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
เครื่องผลิตออกซิเจนในปัจจุบัน เรียกได้ว่าถูกคิดค้นและพัฒนารูปแบบการใช้งานให้ตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันมากขึ้น โดยมีทั้งแบบใช้งานในบ้านเป็นหลัก และแบบที่สามารถพกพาได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ที่ต้องเดินทาง โดยทั้ง 2 ประเภท มีข้อดีและลักษณะการทำงานที่ต่างกันดังนี้ค่ะ
เครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพาหรือแบบแท็งค์ (Portable Oxygen Concentrator) ถูกออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด มีน้ำหนักเบา เพื่อผู้ที่ต้องการออกซิเจนในปริมาณไม่มาก ผู้สูงอายุที่อยากไปทำกิจกรรมนอกบ้านหรือต้องออกนอกสถานที่ ส่วนใหญ่จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ และบางรุ่นก็สามารถเสียบปลั๊กเพื่อใช้พลังงานไฟฟ้าได้ด้วย โดยแบบพกพาสามารถแบ่งตามการทำงานได้ 2 แบบคือ แบบ Continuous Flow ที่คล้ายกับแบบไฟฟ้า ซึ่งนิยมใช้งานในรถเป็นหลัก และแบบ Pluse Dose ที่มีความซับซ้อนและมีราคาสูงกว่า เพราะจ่ายออกซิเจนตามชีพจรหรือจังหวะการหายใจของผู้ใช้โดยอัตโนมัติค่ะ
เครื่องผลิตออกซิเจนแบบใช้ไฟฟ้า (Electric Oxygen Concentrator) คือ เครื่องที่ต้องใช้ไฟฟ้า AC เพื่อเปิดระบบการทำงาน ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบของ Continuous Flow ซึ่งจะจ่ายออกซิเจนอย่างต่อเนื่องและคงที่ตามค่าที่ตั้งไว้ สำหรับเครื่องประเภทนี้มักจะมีขนาดใหญ่ และมีกระบอกน้ำให้ความชื้นความจุเยอะ เพื่อจะได้ไม่ต้องเติมบ่อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกซิเจนในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีข้อด้อยในเรื่องของค่าไฟฟ้าที่เพิ่มเข้ามา และข้อเสียที่จะไม่สามารถใช้งานเครื่องได้หากไม่มีไฟฟ้าค่ะ
อัตราการไหลของออกซิเจนหรือที่หลาย ๆ คนเข้าใจในแง่ของแรงลมที่ออกมานั้น ถือเป็นโหมดสำคัญของเครื่องและสามารถปรับระดับได้ตามความเหมาะสม โดยมีหน่วยวัดเป็นลิตรต่อนาที (L/min) แต่ด้วยเหตุผลเรื่องความเข้าใจและเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน หลายคนจึงนิยมย่อหน่วยเป็น LPM
โดยอัตราการไหลที่ 1 - 2 LPM จะเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ใช้กับผู้ที่หายใจไม่สะดวก มีปัญหาการนอนหลับหรือหายใจไม่อิ่ม อ่อนเพลียจากสภาพอากาศ และไม่ได้มีอาการรุนแรงมาก ส่วนขนาด 3 LPM จะเหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ หอบเหนื่อยต้องพ่นยา และถ้าเป็นขนาด 5 LPM ขึ้นไป จะเหมาะสำหรับผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องได้รับการติดตามอาการจากโรงพยาบาล แน่นอนว่าเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีวางจำหน่ายทั่วไป จะมีอัตราการไหลไม่เกิน 6 LPM เพราะหากเกินกว่านี้ จะเป็นการให้ออกซิเจนผู้ที่มีอาการโคม่าและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ค่ะ
อย่างไรก็ตาม คุณควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ก่อนการใช้งานเครื่องขนาด 3 LPM ขึ้นไป และหากใช้สาย Cannula เพื่อให้ออกซิเจนด้วยแล้วในทางการแพทย์จะกำหนดให้ใช้ได้ไม่เกิน 6 LPM เพราะหากเกินกว่านั้น อาจส่งผลให้โพรงจมูกอักเสบและอาจจะทำให้เลือดกำเดาไหลออกมาได้ นอกจากนี้ อัตราการไหลยังสอดคล้องกับความเข้มข้นของออกซิเจนด้วย เช่น ถ้าเครื่อง 5 ลิตร ความเข้มข้น 93% หมายถึง เครื่องสามารถผลิตออกซิเจนที่ความเข้มข้น 93% ได้คงที่ตั้งแต่ปริมาณ 1 - 5 ลิตร แต่ถ้าปรับเพิ่มระดับเป็น 6 ลิตรขึ้นไป เครื่องก็จะผลิตความเข้มข้นลดลงเป็น 80% และจะต่ำลงเรื่อย ๆ สวนทางกับปริมาณลิตรนั่นเองค่ะ
ข้อนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญมากที่สุดค่ะ เนื่องจากหลักการของการให้ออกซิเจนก็เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับออกซิเจนที่มีความเข้มข้นสูงกว่าความเข้มข้นปกติในบรรยากาศ ซึ่งถ้าต้องการใช้ในระดับทั่วไป ความเข้มข้นของออกซิเจนที่เครื่องทำได้ ควรมีค่าไม่น้อยกว่า 90% แต่หากเป็นผู้ที่มีภาวะขาดออกซิเจน ผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้น สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ควรให้ความเข้มข้นของออกซิเจนระหว่าง 88 - 92%
แต่สำหรับกรณีเจ็บป่วยแบบเฉียบพลัน ควรให้ออกซิเจนเพื่อรักษาระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ที่ความเข้มข้นระหว่าง 94 - 98% ซึ่งเครื่องผลิตออกซิเจนที่ดีควรให้ความเข้มข้นของออกซิเจนคงที่ตามที่ปรับไว้ อย่างไรก็ตาม การให้ออกซิเจนในผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษกลุ่ม Paraquat ซึ่งเป็นสารเคมีกำจัดวัชพืช หรือเคยได้รับยาในกลุ่ม Bleomycin ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งหลายชนิด รวมถึงผู้ป่วยเรื้อรังที่จำเป็นต้องกลับไปให้ออกซิเจนต่อเนื่องที่บ้าน จะต้องให้อย่างระมัดระวัง รวมถึงอยู่ภายใต้การประเมินและการติดตามอาการของทีมแพทย์ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ตามมาค่ะ
เรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ถือได้ว่าเป็นโจทย์สุดท้ายที่หลายคนนิยมใช้พิจารณา ก่อนจะตัดสินใจเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนเลยก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งตามปกติแล้ว ฟังก์ชันที่มักมีติดมากับเครื่องทั่วไปคือ หน้าจอแสดงสถานะออกซิเจน โดยส่วนใหญ่อาจบอกเพียงค่าความเข้มข้นของออกซิเจน และมาในรูปแบบหน้าจอ LCD โดยจะแสดงการทำงานแบบ Real Time แต่หากเป็นรุ่นที่มีราคาสูงขึ้น ก็อาจจะแสดงผลครอบคลุมตั้งระยะเวลาการใช้งาน สถานะการทำงาน สถานะแบตเตอรี่ ไปจนถึงยอดรวมเวลาการใช้งานต่อเนื่องกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ เครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับใช้งานในบ้านส่วนใหญ่ ก็ยังนิยมเพิ่มความสะดวกขึ้นอีกระดับด้วยระบบตั้งเวลาปิด (Timer) เพื่อหยุดการให้ออกซิเจนในขณะนอนหลับ, การควบคุมเครื่องแบบไร้สายระยะไกล ด้วยรีโมตคอนโทรล, หน้าจอระบบสัมผัส, โหมดพ่นยา (Nebulizer) เพื่อใช้ร่วมกับเครื่องพ่นยา และไฟแสดงสถานะหรือไฟแจ้งเตือนเมื่อพบปัญหา เช่น ความผิดปกติของกำลังไฟทั้งไฟเกินและไฟตก ความผิดปกติของค่าออกซิเจนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน หรือความดันลมผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ยิ่งมีฟังก์ชันที่หลากหลาย ก็จะยิ่งทำให้เครื่องราคาสูงตามไปด้วย ดังนั้น คุณจึงควรเลือกฟังก์ชันเท่าที่จำเป็น เพื่อให้อยู่ในจุดที่ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุดนั่นเองค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Yuwell เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น YU300 | ![]() | เครื่องเล็กพกพาง่าย สำหรับใช้ในบ้าน ในรถยนต์ พ่นยาได้ | |
2 | LONGFIAN เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น JAY-1 | ![]() | ขนาดพกพา ชาร์ตแบตใช้ได้ 1 ชม. มีแจ้งเตือนความผิดปกติ | |
3 | DEDAKJ เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น DDT-1A 6L | ![]() | เทคโนโลยีแยกก๊าซ แผ่นกรองระดับโมเลกุล ควบคุมไกล 20 เมตร | |
4 | Devilbiss เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น 525KS | ![]() | นำเข้าจากอเมริกา ใช้ไส้กรอง HEPA พร้อมเซนเซอร์วัดระดับ | |
5 | Santafell เครื่องผลิตออกซิเจน | ![]() | กรองออกซิเจน 8 ชั้น พร้อมฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี มาตรฐานฝรั่งเศส | |
6 | Yuwell เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น YE-8F 5AW | ![]() | ผ่านการกรองละเอียด ใช้ร่วมกับชุดพ่นยาได้ มีความปลอดภัยสูง | |
7 | Haier เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น HA105 | ![]() | ให้ออกซิเจนแบบละออง เสียงเบา ผลิตเร็ว มาตรฐานยุโรป | |
8 | Meizhiyang เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น ZY-2A | ![]() | พกพาง่าย มาพร้อมหูหิ้ว แผ่นกรอง 4 ชั้น ใช้พร้อมกัน 2 คนได้ | |
9 | Kroeber เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น Aeroplus E | ![]() | แผ่นกรองละเอียด แสตนด์บาย 24 ชม. มาตรฐานจากเยอรมนี | |
10 | Kingon เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น P2 | ![]() | ระบบเซนเซอร์ ให้ออกซิเจนตามจังหวะหายใจ นำขึ้นเครื่องบินได้ |
เครื่องผลิตออกซิเจนจาก Yuwell รุ่น YU300 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความกะทัดรัด ผ่านมาตรฐาน FDA และ CE โดยสามารถผลิตออกซิเจนออกมาได้เข้มข้นและมีประสิทธิภาพมากค่ะ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยหนัก สามารถใช้งานได้ทั้งในบ้านและในรถยนต์ และใช้ร่วมกับเครื่อง CPAP หรือเครื่องช่วยหายใจรักษานอนกรนได้
มีรีโมตควบคุมแบบอินฟราเรดระยะไกล เพื่อเพิ่มความสะดวก รวมถึงตั้งเวลาการทำงานได้ต่ำสุด 2 ชั่วโมง แต่หากไม่ตั้งเวลา ก็สามารถเปิดแบบต่อเนื่องได้นาน 480 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีระบบเเจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาทำความสะอาดไส้กรอง อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตแนะนำว่าควรถอดไส้กรองล้างทุก ๆ 2 อาทิตย์ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและความปลอดภัยของผู้ใช้ค่ะ
รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ทำงานโดยอาศัยหลักการ PSA (Pressure Swing Absorbtion) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการแยกก๊าซขั้นสูง ทำให้ออกซิเจนที่ได้มีความเข้มข้นสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องรับออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง ตัวเครื่องออกแบบมาให้มีมือจับเพื่อพกพาไปใช้นอกสถานที่ ทั้งยังมีจุดเด่นเรื่องการแจ้งเตือนไฟฟ้าขัดข้องและความดันผิดปกติ สามารถตั้งเวลาได้สูงสุด 10 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม หากไม่ใช้ไฟฟ้าโดยตรง สามารถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ต่อเนื่องได้ 30 - 60 นาที ทั้งนี้ แบตเตอรี่จะใช้เวลาชาร์ตประมาณ 6 ชั่วโมง ผู้ใช้จึงควรสำรองแบตเตอรี่ไว้ 1 ชุด แต่หากใช้รถยนต์ จะใช้ได้กับไฟรถ DC120V ในส่วนของการเปิดปิดเครื่องทุกครั้ง เครื่องจะใช้เวลาเซตระบบประมาณ 5 นาที และควรเปลี่ยนไส้กรองในเครื่องทุก ๆ 6 เดือนค่ะ
เครื่องรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีแยกก๊าซขั้นสูงอย่าง PSA (Pressure Swing Absorbtion) ให้การแยกออกซิเจนออกจากไนโตรเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมผ่านการกรองด้วยแผ่นกรองโมเลกุลคุณภาพสูงจากเยอรมนี เพื่อให้ได้ออกซิเจนบริสุทธิ์สูงสุด และมีจุดเด่นคือ การเลือกใช้หัวฉีดออกซิเจนที่ทำจากสเตนเลสสตีลชนิดพิเศษ เพื่อความปลอดภัยและการใช้งานที่ทนทานมากขึ้น
นอกจากนี้ ตัวเครื่องสามารถควบคุมได้ด้วยรีโมตระบบอินฟราเรด โดยใช้ได้ไกลถึง 20 เมตร ตั้งเวลาปิดได้สูงสุด 3 ชั่วโมง และทำงานต่อเนื่องนาน 48 ชั่วโมง คอมเพรสเซอร์มีระบบป้องกันความร้อน ทั้งนี้ หากกระแสไฟเกิน ตัวเครื่องจะปิดระบบในทันที เหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับผู้ที่หายใจไม่สะดวก โดยสามารถใช้พร้อมกัน 2 คนได้ค่ะ
ที่สำคัญคือ ใช้ไส้กรองละเอียดชนิด HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นแบคทีเรียขนาดอย่างน้อย 0.3 ไมครอนได้ ส่วนหน้าจอมีระบบแสดงสถานะของออกซิเจนพร้อมใช้งานและออกซิเจนต่ำกว่ามาตรฐาน มีสวิตซ์รีเซตเครื่องกรณีไฟดับ และเครื่องจะไม่ทำงานหากกระแสไฟตกเกินกว่า 10 % ของกระแสไฟที่จ่าย ทั้งนี้ ฟังก์ชันแจ้งเตือนปัญหาต่าง ๆ (Alarm) จะมีระดับเสียงแจ้งเตือนดัง 62 เดซิเบลค่ะ
อีกหนึ่งเครื่องผลิตออกซิเจนดีไซน์สะดุดตาแต่มาในราคาเป็นมิตรอย่างมาก โดยรุ่นนี้ให้ความเข้มข้นออกซิเจนสูงสุดที่ 95.5% ผ่านการกรองกว่า 8 ชั้น ตามด้วยระบบฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี ทั้งยังได้รับการรับรองตามมาตรฐานเครื่องมือแพทย์ฝรั่งเศส ให้ความดันออกสูงสุด 20 - 50 kPa สามารถใช้ร่วมกับชุดพ่นยาได้ และมีอัตราการพ่นละอองยาไม่ต่ำกว่า 15 ml ต่อนาที
ในส่วนของฟังก์ชันก็จัดเต็มเพื่อความสะดวกสุด ๆ ตั้งแต่รีโมตควบคุมการทำงานได้ไกล 5 เมตร, ระบบตั้งเวลาปิด, แจ้งเตือนเมื่อออกซิเจนตํ่าหรือเมื่อระบบมีความผิดพลาดต่าง ๆ ผ่านจอแสดงผล LCD ทั้งนี้ ตัวเครื่องสามารถทำงานต่อเนื่องได้ 48 ชั่วโมง และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกซิเจนทั่วไป ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการหนักค่ะ
เครื่องผลิตออกซิเจนดีไซน์สวย ขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวกรุ่นนี้ สามารถใช้ร่วมกับชุดพ่นยาได้ โดยให้อัตราการพ่นละอองยาไม่ต่ำกว่า 15 ml ต่อนาที สำหรับจุดเด่นคือ ระบบมีกลไกการลดความดัน 250 kPa ± 25 kPa ทำให้สามารถใช้ได้ที่ระดับความสูง 1,828 เมตรเหนือระดับนํ้าทะเล โดยระดับความเข้มข้นจะไม่ลดลง แต่หากสูงกว่านี้จะทำให้ประสิทธิภาพตํ่ากว่า 90%
ตัวเครื่องมีไฟแสดงสถานะออกซิเจนที่ชัดเจน สามารถตั้งเวลาปิดได้สูงสุด 2 ชั่วโมง และมีระบบแจ้งเตือนความขัดข้องต่าง ๆ นอกจากนี้ คอมเพรสเซอร์ยังมีระบบป้องกันความร้อน รวมทั้งมีระบบรักษาความปลอดภัยพิเศษ คือ หากระบบผิดพลาดหรือความร้อนสูงเกินไป ตัวเครื่องจะดับทันที สามารถใช้งานได้ทั้งในบ้านและในสถานพยาบาลเลยค่ะ
มาต่อกันที่เครื่องผลิตออกซิเจนจากไฮเออร์ ซึ่งรุ่นนี้ใช้ระบบการกรองพิเศษเพื่อแยกออกซิเจนออกจากไนโตรเจน จากนั้นผ่านการกรองมากถึง 8 ขั้นตอน เพื่อขจัดสิ่งเจือปนในอากาศ ให้ได้ออกซิเจนที่มีความบริสุทธิ์สูง และใช้ฟังก์ชันปล่อยออกซิเจนในรูปแบบละออง (Oxygen-Driven Atomization) โดยสามารถผลิตออกซิเจนได้ต่อเนื่องนาน 48 ชั่วโมง
สำหรับคอมเพรสเซอร์เป็นชนิดทองแดงบริสุทธิ์ไร้น้ำมัน มีอายุการทำงานที่ยาวนาน หน้าจอแจ้งเตือนการทำงานแบบเรียลไทม์ ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยรีโมตควบคุม ที่สำคัญคือ สามารถผลิตออกซิเจนได้เร็วและมีปริมาณมาก เพียงพอต่อการใช้งานพร้อมกัน 2 คน เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะขาดออกซิเจน ผู้สูงอายุ และหญิงตั้งครรภ์ค่ะ
เครื่องผลิตออกซิเจนขนาดเล็ก มีหูหิ้วเพื่อใช้พกพารุ่นนี้ ผ่านมาตรฐาน CE ของประเทศจีน สามารถจ่ายออกซิเจนได้นานต่อเนื่อง 48 ชั่วโมง ควบคุมระยะไกลได้ง่าย ๆ ด้วยรีโมตอินฟราเรด โดยระบบมีข้อดีเรื่องการใช้คอมเพรสเซอร์ชนิดไร้น้ำมัน ซึ่งช่วยลดการปนเปื้อน ทั้งยังผ่านแผ่นกรองมากถึง 4 ชั้น ทำให้ออกซิเจนที่กลั่นได้นั้นมีความบริสุทธิ์มากถึง 93 % และคงที่ตลอดช่วง 1 ลิตร
ที่สำคัญคือ สามารถใช้พร้อมกันได้ 2 คน เหมาะสำหรับผู้สูง หญิงตั้งครรภ์ คนที่ทำงานหนักและมีอาการหายใจไม่อิ่ม รวมถึงเด็กที่มีอาการสมาธิสั้นจากภาวะการขาดออกซิเจนอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับภาษาที่แสดงผลในปัจจุบันมีเพียงภาษาจีนเท่านั้น ทำให้ผู้ใช้จำเป็นจะต้องฝึกใช้ร่วมกับใช้คู่มือภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษในช่วงแรก ๆ ก่อนค่ะ
สำหรับรุ่นนี้เป็นเครื่องผลิตออกซิเจนประสิทธิภาพสูงสัญชาติเยอรมนี ที่มีความพิเศษกว่าเครื่องขนาดเดียวกันตรงที่เครื่องจะสแตนบายด์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ออกซิเจนมีความเข้มข้นพร้อมใช้ตลอดเวลา รวมถึงมีจอแสดงแรงดันขณะเปิดตัวเครื่อง และไส้กรองยังเป็นชนิดละเอียด HEPA ซึ่งสามารถกรองเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียขนาดอย่างน้อย 0.3 ไมครอนได้ค่ะ
ส่วนหน้าจอมีฟังก์ชันแสดงยอดรวมชั่วโมงใช้งาน เพื่อเตือนให้เปลี่ยนไส้กรองตามกำหนด และหากเครื่องมีความผิดปกติ ตัวระบบก็จะแจ้งเตือนอัจฉริยะ โดยแสดงเป็น Error Code ให้สามารถแก้ไขปัญหาตามคู่มือได้ตรงจุดและทันเวลา เพื่อไม่ให้กระทบกับการให้ออกซิเจนต่อเนื่อง และที่สำคัญที่สุดคือ มี Firesafe ซึ่งเป็นระบบป้องกันไม่ให้ไฟลุกไปที่สาย Cannula หากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดอีกด้วย
เครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นนี้ได้รับการรีวิวว่า มีประสิทธิภาพสูงและเบาที่สุดในโลกค่ะ โดยโดดเด่นด้วยระบบเซนเซอร์จับจังหวะการหายใจ ให้เครื่องควบคุมอัตราการไหล ผ่านแผ่นกรองโมเลกุลประสิทธิภาพสูง 3 ชั้น ให้ออกซิเจนออกมาในปริมาณที่สอดคล้องกับการหายใจของผู้ใช้ แถมยังมีไฟกะพริบตามจังหวะที่จ่ายออกซิเจน และไฟพร้อมเสียงดังแจ้งเตือนเมื่อไม่พบการหายใจด้วย
ทั้งยังมีปุ่มปิดเสียงการแจ้งเตือนชั่วคราว และมีหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ขนาด 2.8 นิ้ว ซึ่งแสดงผลได้ละเอียดและครอบคลุมมากที่สุด ใช้แบตเตอรี่ขนาด 6800 mAh ซึ่งใช้งานได้สูงสุด 4 ชั่วโมง เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้นอกสถานที่ ทั้งนี้ก่อนการใช้งานควรเปิดให้เครื่องวอร์มอัพก่อนประมาณ 2 นาที และใช้เวลาในการชาร์ตแบต 2.30 ชั่วโมงค่ะ
แม้ว่าเครื่องผลิตออกซิเจนจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง ในการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการหายใจ รวมถึงช่วยประคองอาการของผู้ป่วยโควิดระดับเริ่มต้นได้ดี แต่การใช้ให้ตรงกับอาการก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาเน้นย้ำกันอยู่เสมอ เพราะหากใช้เครื่องที่น้อยกว่าอาการ ก็จะทำให้คุณไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเลย กลับกันถ้าใช้เกินกว่าอาการ ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียตามมาคือเกิดภาวะออกซิเจนเป็นพิษ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้น นอกจากจะเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนที่ตรงความต้องการแล้ว ก็จะต้องใช้งานให้ถูกวิธี อ่านคู่มือและศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดกันด้วยนะคะ
อันดับที่ 1: Yuwell|เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น YU300
อันดับที่ 2: LONGFIAN|เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น JAY-1
อันดับที่ 3: DEDAKJ|เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น DDT-1A 6L
อันดับที่ 4: Devilbiss|เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น 525KS
อันดับที่ 5: Santafell|เครื่องผลิตออกซิเจน
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ