หากพูดถึงประเทศอินเดียแล้ว หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงเรื่องราวของความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศอินเดีย รวมไปถึงอาหารอินเดียที่มีรสชาติอร่อยเข้มข้นแบบเผ็ดร้อน จึงเป็นที่ถูกปากของคนไทยไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าขนมอินเดียก็เป็นอีกหนึ่งความอร่อยที่ขึ้นชื่อไม่แพ้อาหารเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติที่เต็มไปเครื่องเทศและธัญพืชอันเป็นเอกลักษณ์แบบฉบับอินเดียที่ไม่เหมือนใคร
โดยขนมอินเดียส่วนใหญ่นั้นมักจะมีการใช้ส่วนผสมของเครื่องเทศ, แป้งโฮลวีท, ถั่วธัญพืชต่าง ๆ และมันฝรั่ง จึงทำให้สามารถเป็นขนมที่ทานได้ในช่วงลดน้ำหนัก เพราะว่าพืชส่วนใหญ่ที่ใช้ในการทำขนมนั้นมีกากใยอาหารสูง จึงส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย เราจึงได้รวบรวม 10 ขนมอินเดียอร่อย ๆ จากหลากหลายยี่ห้อมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบจามุน, ปานีปูรี, ขนมเค้ก ฯลฯ พร้อมด้วยข้อมูลวิธีการเลือกขนมอินเดียสำหรับคนที่อยากลิ้มรสขนมอินเดียตามสไตล์ต้นตำรับค่ะ
Top 5 ขนมอินเดีย ยอดนิยม
Jalani
สัมผัสรสชาติแบบดั้งเดิม ผ่านน้ำซอสรสเข้มข้น เครื่องเทศหอมคลุ้ง
คุณนิวเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนประจำอำเภอในภาคอีสาน แต่มีความหลงใหลในการทำอาหารตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากเติบโตมาในครอบครัวที่เคยเปิดร้านอาหาร ทำให้มีความชำนาญด้านการเลือกวัตถุดิบ การใช้เครื่องปรุง และการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ลงตัว ด้วยความรักในอาหารและการแบ่งปันความรู้ คุณนิวจึงเริ่มเขียนบทความเกี่ยวกับเคล็ดลับการทำอาหาร เทคนิคการเลือกวัตถุดิบ และการใช้อุปกรณ์ครัวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการทำอาหารที่สะดวกและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพื่อให้ทุกคนสนุกกับการทำอาหารได้อย่างเต็มที่
สารบัญ
สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองทานขนมอินเดีย เรามีหลักวิธีการเลือกแบบง่าย ๆ มาฝากให้กับทุกคนที่ยังไม่เคยลองลิ้มรสและอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ได้รับรสตามแบบฉบับของขนมอินเดียอย่างถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนตามต้นตำรับค่ะ
แน่นอนว่าเรื่องเอกลักษณ์ของขนมแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งขนมหวานแบบไทย ๆ ขนมเค้กแบบฝรั่ง หรือแม้แต่ขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดนี้แค่ได้เห็นจากลักษณะหน้าตาและได้ชิมรสชาติไปแล้วก็สามารถบอกได้เลยว่าแต่ละแบบนั้นมีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์และความโดดเด่นในตัวที่ลอกเลียนแบบได้ยาก ขนมอินเดียเองก็เช่นเดียวกัน
เรื่องความเป็นเอกลักษณ์ของขนมอินเดียนั้นเป็นที่พูดถึงในเรื่องของเครื่องเทศที่โดดเด่น รสชาติของขนมที่มีทั้งความหวานกลมกล่อมและความเผ็ดร้อนที่ยากจะเลียนแบบได้ ดังนั้น การเลือกขนมอินเดียควรต้องคำนึงถึงเอกลักษณ์ตามแบบฉบับต้นตำรับดั้งเดิม เพื่อที่จะได้เข้าถึงรสชาติที่แท้จริงแบบสไตล์อินเดีย
เอกลักษณ์ของขนมอินเดียตามสไตล์แบบดั้งเดิมนั้นจะมีความโดดเด่นในเรื่องของเครื่องเทศและการใช้ธัญพืชเป็นหลักในการทำขนม โดยส่วนผสมของเครื่องเทศนั้นมักจะประกอบไปด้วยหญ้าฝรั่น ใบกระวาน ทำให้ขนมอินเดียมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่โดดเด่นอยู่ในตัวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ในส่วนของธัญพืชที่ใช้นั้นจะใช้ถั่วพิสตาชิโอ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วเหลืองและขาว ถั่วชิกพี หรือถั่วอื่น ๆ เป็นส่วนผสมหลักในการทำขนม รวมไปถึงการใช้แป้งสาลี แป้งถั่วลูกไก่ แป้งธัญพืช เนย นม และชีสด้วย จึงทำให้ขนมอินเดียนั้นมีรสชาติที่หวานกลมกล่อม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วคนอินเดียมักจะดื่มน้ำชากับขนมหวานคู่กันเพื่อช่วยตัดความหวานเลี่ยน
แน่นอนว่าขนมอินเดียเองก็มีทั้งแบบคาวและแบบหวานเหมือนขนมประเทศอื่น ๆ แต่ถ้าเจาะลึกลงไปที่รสชาติแล้วอาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง โดยเฉพาะขนมหวานอินเดียดั้งเดิม เช่น กุหลาบจามุน, รัสกูล่า, Soan Papdi และอีกมากมาย ที่จะมีรสชาติหวานเป็นพิเศษ ชนิดที่กินเปล่า ๆ อาจจะรู้สึกแสบคอได้ ดังนั้น หากจะกินขนมอินเดียแบบหวาน เราแนะนำให้กินคู่กับการจิบน้ำชาอินเดียอุ่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดระดับความหวาน และเข้ากันกับขนมได้เป็นอย่างดีค่ะ
ขนมอินเดียมีมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งบางชื่อทุกคนอาจจะคุ้นเคยกันดี แต่ก็มีขนมอินเดียจำนวนไม่น้อยที่หลายคนไม่คุ้นชื่อหรือรูปร่างหน้าตา ดังนั้น ในหัวข้อนี้ เราจะมาแนะนำขนมอินเดียขึ้นชื่อ สูตรต้นตำรับแท้ ที่คุณห้ามพลาดและควรลิ้มลองค่ะ
เชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นชื่อของขนมอินเดียอย่าง "กุหลาบจามุน (Gulab Jamun)" กันมาบ้าง ซึ่งกุหลาบจามุนเป็นขนมหวานที่ขึ้นชื่อจากทางตอนใต้ของอินเดีย ที่เกิดจากการนำนมสด, แป้ง และเนย มาผสมเข้าด้วยกันและปั้นเป็นก้อนกลมพอดีคำ หลังจากนั้นนำลงไปทอดในน้ำมันจนสุกเป็นสีน้ำตาล ต่อมาก็นำไปแช่ในน้ำเชื่อมเดือด ๆ ที่มีส่วนผสมของลูกกระวานที่ผสมกลิ่นกุหลาบ หลังจากนั้นก็รอให้ก้อนนมดูดเอาน้ำเชื่อมเข้าไปในขนมประมาณ 2 ชั่วโมง ก็นำมากินได้ค่ะ ซึ่งรสชาติจะมีความหอมหวานของนมและกลิ่นกุหลาบ แนะนำให้กินร่วมกับชาอินเดียนะคะ เพื่อลดความหวานลงค่ะ
ปานีปูรี (Pani Puri) ก็เป็นเมนูขนมอินเดียอีกหนึ่งอย่างที่คนไทยหลายคนอยากลองชิม เนื่องจากมีวิธีการกินอันเป็นเอกลักษณ์และหน้าตาดูน่ากินกว่าขนมอินเดียชนิดอื่น ๆ ซึ่งชื่อของปานีปูรีนั้นเป็นคำรวมกันระหว่าง "ปานี" ที่แปลว่าน้ำ โดยในที่นี้หมายความว่าน้ำซอสปรุงรส ส่วน "ปูรี" เป็นแป้งทอดกรอบทรงกลม ที่ใช้ทานร่วมกับน้ำซอสปูรี ส่วนวิธีกินนั้นจะทำแป้งปูรีมากะเทาะรูตรงกลาง หลังจากนั้นใส่ไส้มันฝรั่งบดและเครื่องเทศต่าง ๆ ลงไป แล้วก็ตามด้วยการหยอดหรือจุ่มในน้ำซอส เพียงเท่านี้ก็พร้อมทานได้เลยค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Bikano ขนมอินเดีย Pani Puri | ![]() | Pani Puri พร้อมเสิร์ฟ มีแป้งทอดกรอบสำเร็จรูป ไม่ต้องทอดเอง | |
2 | Ghasitaram's ขนมอินเดีย Gulab Jamun | ![]() | แป้งนมทรงกลมทอด คลุกเคล้าด้วยน้ำกุหลาบ หอมหวานละมุน | |
3 | Jalani ขนมอินเดีย Jalani Pani Puri Magic Treat | ![]() | สัมผัสรสชาติแบบดั้งเดิม ผ่านน้ำซอสรสเข้มข้น เครื่องเทศหอมคลุ้ง | |
4 | Ghasitaram's ขนมอินเดีย Rosogulla | ![]() | ก้อนกลมพอดีคำ กลิ่นหอมหวานและนุ่มละมุน เนื้อนวลขาวน่ากิน | |
5 | Bikano ขนมอินเดีย Navratan Mixture | ![]() | รวมความอร่อยจากขนมยอดฮิตไว้ในซองเดียว คุ้มค่าคุ้มราคา | |
6 | Lijjat Papad ขนมอินเดีย Lijjat Papad ปาปาดัม | ![]() | ข้าวเกรียบอินเดียทำจากธัญพืชถั่วแขก นำไปทอดก็ได้ ย่างก็ดี | |
7 | Bikano ขนมอินเดีย Bikano Soan Papdi | ![]() | ขนมเค้กแห้งตามแบบฉบับอินเดีย หวานละมุน หอมกลิ่นเนยอินเดีย | |
8 | Bikaji ขนมอินเดีย Bikaji Bhujia | ![]() | ขนมขบเคี้ยวจากอินเดีย รสชาติเผ็ดจัดจ้าน กลิ่นเครื่องเทศถึงใจ | |
9 | Kurkure ขนมอินเดีย Masala Munch | ![]() | ขนมขบเคี้ยวคลุกผงมาซาลาสุดเผ็ดร้อน หอมกลิ่นเครื่องเทศ | |
10 | Bikaji ขนมอินเดีย Baat Cheet Papad | ![]() | ข้าวเกรียบสไตล์อินเดีย มี 2 รสชาติ อร่อยง่าย ๆ แค่นำไปย่าง |
ส่วนใหญ่แล้วขนมอินเดียอย่างปานีปูรี (Pani Puri) แบบสำเร็จรูปที่วางขายในท้องตลาดจะมาพร้อมกับแป้งก้อนกลมที่คุณจะต้องนำมาทอดเอง ซึ่งถ้าคนที่กลัวน้ำมันหรือพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย ก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะได้ลิ้มลองขนมชนิดนี้ แต่ปัญหานี้จะหมดไป ด้วยปานีปูรีจาก Bikano กล่องนี้ เพราะมาพร้อมกับแป้งทอดสำเร็จรูปมากถึง 30 ชิ้น ภายในกล่อง ทำให้คุณมีหน้าที่เพียงแค่นำผงซอสและน้ำซุปไปละลายน้ำเท่านั้นก็พร้อมทานนได้แล้วค่ะ
ขนมยอดฮิตอย่างกุหลาบจามุน (Gulab Jamun) ที่เมือพูดถึงขนมอินเดียก็ติดอันดับต้น ๆ ตลอด ซึ่งกุหลาบจามุนเกิดจากการนำไขมันนมผสมแป้ง มาคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ หลังจากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ จนแป้งภายนอกมีสีน้ำตาลเข้มอย่างที่เห็นในรูปภาพ หลังจากนั้นนำมาแช่ในน้ำเชื่อมผสมเครื่องเทศอินเดีย รวมไปถึงน้ำเชื่อมกุหลาบกลิ่นหอมหวาน ทำให้ขนมกุหลาบจามุนดูดน้ำเชื่อมเหล่านั้นเข้าไปจนเต็มก้อน รสชาติของขนมจึงมีความหวานเป็นพิเศษ เหมาะที่จะทานนกับน้ำชาร้อน ๆ ค่ะ
สำหรับใครที่ชอบความอบอวลของเครื่องเทศ และรสชาติที่เข้มข้นของเครื่องเทศตามแบบฉบับของคนอินเดียแล้วจะต้องลองทาน Pani Puri ดูค่ะ เพราะว่าขนมทานเล่นนี้ถือเป็นขนมประจำท้องถิ่นในอินเดียใต้ ทำให้เครื่องเทศที่อยู่ในซอสน้ำจิ้มเด่นมาก และโดยเฉพาะของยี่ห้อ Jalani ที่ยังคงรสชาติแบบออริจินอลไว้ได้ทีเดียว ด้วยสูตรของซอสน้ำจิ้มที่มีความกลมกล่อมของน้ำซอส กลิ่นหอมของเครื่องเทศที่เด่นชัดมาก ซึ่งถ้าใครไม่ชอบกระเทียมก็ต้องถูกใจแน่นอนค่ะ เพราะว่าในยี่ห้อนี้ไม่มีการใส่กระเทียมลงไปด้วย
นอกจาก Gulab Jamun แล้ว ยังมีขนมอินเดียอีกหนึ่งอย่างที่คุณต้องไม่พลาดที่จะลิ้มลองก็คือ รัสกูล่า (Rasgulla) โดยขนมชนิดนี้เป็นขนมหวานจากนมวัวที่จับตัวกันเป็นก้อนสีขาวเนียนละเอียดที่เกิดจากการหมักบ่ม จนมีลักษณะเป็น Cottage Cheese แต่รสชาติหลักก็ยังเป็นนมอยู่ หลังจากนั้นนำไปปั้นเป็นก้อนกลมและแช่ในน้ำเชื่อม ซึ่งก้อนนมก็จะทำการดูดน้ำเชื่อมเข้าไปภายใน จนเกิดเป็นผิวสัมผัสที่มีความนุ่มและกลิ่นหอมนม ส่วนรสชาติจะมีความหวานละมุนหอมกลิ่นชีสนิด ๆ ผสมกับรสชาติมันแบบ Creamy เล็กน้อยคล้ายกะทิค่ะ
ภายในขนมอินเดียซองนี้ อัดแน่นไปด้วยขนมอบกรอบต่าง ๆ ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่ง, ขนมแป้งถั่วชิกพี, คอนเฟล็ก ตบท้ายด้วยถั่วหลากหลายชนิด นำมาปรุงรสและคลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยเครื่องเทศอินเดีย จนเกิดเป็นรสชาติของขนมขบเคี้ยวสไตล์อินเดียแท้ ๆ ที่มีทั้งความเปรี้ยว, เค็ม, เผ็ด และหอมเครื่องเทศตลบอบอวลในปากชนิดที่ยากจะเลียนแบบ โดยมีให้เลือก 2 ขนาด ด้วยกัน คือ 250 กรัม และ 400 กรัม พร้อมราคาเบา ๆ ให้คุณได้ลิ้มลองค่ะ
ข้าวเกรียบอินเดียสไตล์คลาสสิกของ Lijjat Papad นั้นเป็นข้าวเกรียบที่ทำจากธัญพืช ใครที่กำลังควบคุมน้ำหนักแล้วกำลังหาของทานเล่นระหว่างมื้อที่ไม่ทำให้อ้วนล่ะก็ ขอแนะนำให้ลองข้าวเกรียบอินเดียของ Lijjat Papad ค่ะ ซึ่งธัญพืชที่ใช้ทำข้าวเกรียบก็คือ ถั่วแขก ที่มีคุณสมบัติในเรื่องของกากใยอาหารสูงและช่วยควบคุมน้ำหนักได้ โดยมีหน้าที่กระตุ้นการนำไขมันที่สะสมมาใช้ ทำให้เผาผลาญได้ดีขึ้น โดยการทานข้าวเกรียบนี้สามารถนำไปย่างหรือทอดเพื่อให้รสชาติดีขึ้นได้ด้วย หรือจะนำไปทานคู่กับน้ำจิ้มรสจัดก็ได้เช่นกัน
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จากยี่ห้อ Bikano ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ผลิตขนมหลากหลายประเภทมากมาย เพื่อให้หลายคนได้เข้าถึงรสชาติแบบฉบับอินเดียได้ง่ายขึ้น คราวนี้ขอแนะนำขนมเค้กแห้ง หน้าตาเป็นเหมือนก้อนเค้กสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ โรยหน้าด้วยธัญพืชจากถั่วนานาชนิดอย่าง อัลมอนด์ พิสตาชิโอ ตัวแป้งนั้นทำมาจากแป้งถั่วซิกพีกับเนยอินเดียผสมผสานกันอย่างลงตัว ส่วนรสชาตินั้นจะมีความหวานกลมกล่อม ละมุนลิ้นและมีความคล้ายกับสายไหมบ้านเราด้วย แต่ว่าจะมีกลิ่นของเนยอินเดียที่ค่อนข้างโดดเด่นมาก
อีกหนึ่งยี่ห้อที่มีความอร่อยไม่แพ้กัน Bikaji หรือเรียกอีกอย่างว่า ขนมขบเคี้ยวบูเยีย เป็นขนมมันฝรั่งอบกรอบแบบเส้นตามสไตล์ของอินเดียที่จะเน้นในเรื่องเครื่องเทศ กลิ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติที่เผ็ดร้อนแต่ยังมีความกลมกล่อม ทำให้ทานได้เรื่อย ๆ ด้วยรสชาติของเครื่องเทศที่โดดเด่นทำให้หลาย ๆ คนที่ชอบอาหารรสจัดจ้านชอบในรสชาติของขนมบูเยีย เพราะเครื่องเทศนั้นถึงใจ แต่อย่างไรก็ดีควรบริโภคแต่น้อยและแบ่งทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วยนะคะ เพราะมันฝรั่งทานในปริมาณก็อาจจะทำให้น้ำหนักเพิ่มได้
สำหรับขนมอินเดียซองนี้เป็นขนมขบเคี้ยวไว้ทานเล่นเป็นอาหารว่าง ซึ่งตัวขนมจะมีลักษณะเป็นแท่งเรียวยาวพื้นผิวขรุขระ ที่เกิดจากวัตถุดิบสองอย่างผสมกันคือแป้งข้าวเจ้าและแป้งข้าวโพด นำลงไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ จนสุกเป็นสีเหลืองทองและมีความกรอบน่ากิน ส่วนรสชาตินั้นจะเป็นผงปรุงรสมาซาล่าผสมกับเครื่องเทศอินเดียต่าง ๆ จึงมีทั้งความหอมเครื่องเทศ, รสเค็มจากผงปรุงรส และรสเผ็ดร้อนจากผงมาซาล่า ใครชอบกินเผ็ดต้องลองเลยค่ะ
ข้าวเกรียบ Papadam ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูขนมยอดฮิตติดบ้านของชาวอินเดีย โดยสำหรับ Papadam จาก Bikaji นี้ จะมาในลักษณะของแผ่นแป้งแบนสำเร็จรูป ซึ่งคุณต้องนำไปย่างกับไฟอ่อน ๆ จนแผ่นแป้งสุกดีทั้งสองด้าน ส่วนวิธีการกินนั้น จะกินเล่นเป็นอาหารว่างเหมือนขนมขบเคี้ยวทั่วไปก็ได้ หรือจะกินร่วมกับเมนูอาหารอินเดียอื่น ๆ ก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี โดยวัตถุดิบหลักที่นำมาทำ Papadam จะแตกต่างกันไปในแต่ละสูตร อย่างเช่นของ Bikaji จะมีให้เลือกทั้งที่ทำมาจากถั่วชิกพี ถั่วเหลือง และถั่วขาวค่ะ
หวังว่าทั้ง 10 อันดับ ขนมอินเดียนี้จะเป็นการเปิดประสบการณ์การลิ้มรสแบบแปลกใหม่สำหรับใครที่อยากลองสัมผัสกลิ่นเครื่องเทศ ธัญพืชตามแบบฉบับของอินเดีย อย่างไรก็ตามถ้าใครที่ไม่อยากพลาดรสชาติแบบดั้งเดิมก็อย่าลืมเลือกซื้อจากแหล่งที่นำเข้าจากประเทศอินเดียโดยตรงเพื่อได้รับรสชาติแบบไม่ผิดเพี้ยน และถึงแม้ว่าขนมอินเดียนั้นจะทำมาจากธัญพืชเป็นหลัก แต่ก็ไม่ควรที่จะบริโภคในปริมาณที่มากจนเกินไป ทานน้อยแต่พอดีเพื่อสุขภาพยั่งยืนกันนะคะ
อันดับที่ 1: Bikano|ขนมอินเดีย Pani Puri
อันดับที่ 2: Ghasitaram's|ขนมอินเดีย Gulab Jamun
อันดับที่ 3: Jalani|ขนมอินเดีย Jalani Pani Puri Magic Treat
อันดับที่ 4: Ghasitaram's|ขนมอินเดีย Rosogulla
อันดับที่ 5: Bikano|ขนมอินเดีย Navratan Mixture
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ