mybest
เครื่องชงกาแฟให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
mybest
เครื่องชงกาแฟให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
38 เครื่องชงกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 มีแบบใช้ที่บ้าน สำหรับร้านเล็ก ๆ

38 เครื่องชงกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 มีแบบใช้ที่บ้าน สำหรับร้านเล็ก ๆ

เครื่องชงกาแฟเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อสกัดรสชาติและกลิ่นของเมล็ดกาแฟสดโดยผ่านกระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้ได้กาแฟที่ดื่มได้ทันที โดยมีเครื่องชงหลายประเภทให้เลือก ซึ่งแต่ละประเภทจะมีวิธีการชงกาแฟที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในด้านแรงดันน้ำ อุณหภูมิ เวลาในการสกัด ความละเอียดของผงกาแฟ และรสชาติที่ได้


บทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟ สำหรับใช้งานที่บ้านและร้านกาแฟขนาดเล็ก พร้อมคำแนะนำจากคุณพิมพ์ สันธิราษฎร์ เจ้าของกิจการร้านกาแฟ และคุณชยกฤต คลังทอง Barista ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ ยังมี 38 เครื่องชงกาแฟจากยี่ห้อยอดนิยม ทั้งเครื่องชงกาแฟแคปซูล เครื่องชงกาแฟดริป เครื่องชงกาแฟ Espresso และเครื่องชงกาแฟ 2 หัว มาแนะนำเพิ่มเติมด้วย

อัปเดตล่าสุดเมื่อ 14/05/2025
พิมพ์ สันธิราษฎร์ (พิมพ์)
ผู้เชี่ยวชาญ
เจ้าของกิจการซ่อนกลิ่นคาเฟ่ จ.เชียงราย
พิมพ์ สันธิราษฎร์ (พิมพ์)

คุณพิมพ์เป็นเจ้าของกิจการซ่อนกลิ่นคาเฟ่ จ.เชียงราย จุดเริ่มต้นมาจากระหว่างที่คุณพิมพ์ศึกษาในระดับปริญญาตรี มีความคิดอยากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว จึงเริ่มต้นการทำงานเสริมในร้านกาแฟใกล้มหาวิทยาลัย เมื่อทำไปได้สักพัก จากความชื่นชอบในกลิ่นและรสชาติกาแฟ ความหลงใหลและรักในกาแฟก็เริ่มก่อตัวขึ้น คุณพิมจึงศึกษาเกี่ยวกับกาแฟอย่างลึกซึ้งและจริงจัง ทั้งเรื่องพันธุ์เมล็ดกาแฟ ระดับการคั่ว กระบวนการชงกาแฟ และเทคนิคการชง ถึงกระทั่งทดลองคิดค้นสูตรกาแฟของตนเอง และด้วยความรู้และประสบการณ์กว่า 7 ปีที่คลุกคลีอยู่กับกาแฟจึงนำมาสู่การเปิดกิจการคาเฟ่เป็นของตัวเอง ซึ่งเมนูแต่ละสูตรในร้าน ทั้งเมนูกาแฟ Mocktail และเครื่องดื่มอื่น ๆ คุณพิมพ์เป็นผู้คิดค้นขึ้นเองทั้งหมด โดยมีความตั้งใจอย่างต่อเนื่องที่จะแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องกาแฟกับคนรักกาแฟและพัฒนาเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟที่หลากหลาย

ประวัติของ พิมพ์ สันธิราษฎร์ (พิมพ์)
…อ่านต่อ
ชยกฤต คลังทอง (กอล์ฟ)
ผู้เชี่ยวชาญ
Barista
ชยกฤต คลังทอง (กอล์ฟ)

คุณกอล์ฟเป็นบาริสต้าและเจ้าของร้านกาแฟ Stay Coffee ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2018 จากจุดเริ่มต้นที่ทำงานประจำและเริ่มรู้สึกอิ่มตัว คุณกอล์ฟจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิต ด้วยการหันมาเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องกาแฟอย่างจริงจัง ทั้งการลองผิดลองถูก ศึกษาค้นคว้า และลงมือทำด้วยตัวเองเป็นเวลาหลายปี จนเปิดร้านกาแฟของตัวเองได้สำเร็จ โดย Stay Coffee มีจุดเด่นในการคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพจากหลากหลายแหล่ง ทั้งกาแฟไทย กาแฟต่างประเทศ และกาแฟเกรดพิเศษ หมุนเวียนให้เลือกตลอดในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ คุณกอล์ฟยังชื่นชอบการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยการไปเยือนร้านกาแฟต่าง ๆ เพื่อชิม เรียนรู้ และนำแนวคิดดี ๆ มาปรับใช้ในการพัฒนาร้านตัวเอง รวมถึงมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้คนในวงการกาแฟอยู่เสมอ เพราะเชื่อว่ากาแฟที่ดีไม่ใช่แค่รสชาติที่กลมกล่อม แต่ต้องมอบความสุขและประสบการณ์ที่น่าจดจำในทุกแก้วที่เสิร์ฟด้วยใจ

ประวัติของ ชยกฤต คลังทอง (กอล์ฟ)
…อ่านต่อ
ธนกร พรวรรณพงศา (พีท)
บรรณาธิการ
นักเขียนประจำ mybest
ธนกร พรวรรณพงศา (พีท)

คุณพีทเป็นเจ้าของ Blackkat Café ร้านที่โดดเด่นด้านเครื่องดื่มและเบเกอรี่ โดยให้ความสำคัญกับวัตถุดิบคุณภาพและการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ผสมผสานรสชาติได้อย่างลงตัว ด้วยความหลงใหลในอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ทำให้คุณพีทใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ กระบวนการทำ ไปจนถึงการตกแต่งเมนูให้มีเอกลักษณ์ และพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรมจากมหาวิทยาลัยเนชั่น ยังส่งเสริมให้คุณพีทเข้าใจศาสตร์ของอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้ลูกค้า ตั้งแต่การพัฒนาเมนูตามฤดูกาล การอบเบเกอรี่สดใหม่ ไปจนถึงการจับคู่เครื่องดื่มกับขนมให้อร่อยลงตัว โดยนอกจากบริหารร้าน คุณพีทยังติดตามเทรนด์อาหาร ทดลองวัตถุดิบใหม่ ๆ และแบ่งปันความรู้ผ่านบทความด้านอาหาร เบเกอรี่ และการพัฒนาเมนูต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถนำไปต่อยอดได้อีกด้วย

ประวัติของ ธนกร พรวรรณพงศา (พีท)
…อ่านต่อ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ

สารบัญ

Why You Can Trust Us

มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้

นโยบายกองบรรณาธิการ

วิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟ

เครื่องชงกาแฟมีข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้ได้แบบที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยสามารถเลือกได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้

1

เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูล หากเน้นความสะดวกรวดเร็ว

เลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูล หากเน้นความสะดวกรวดเร็ว

เครื่องชงกาแฟแคปซูลช่วยให้การชงกาแฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น เพียงใส่แคปซูลที่บรรจุผงกาแฟอย่างมิดชิดลงไปในเครื่อง ระบบจะเจาะแคปซูลและดันน้ำร้อนผ่านผงกาแฟ ทำให้ได้กาแฟหอมกรุ่นภายในไม่กี่นาที โดยแคปซูลมีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ทั้งเอสเปรสโซ่ ลาเต้ และคาปูชิโน่ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อควรพิจารณา ดังนี้


  • ข้อดี คือ ใช้งานได้สะดวก เพียงใส่แคปซูลและกดปุ่มก็สามารถดื่มกาแฟหอมอร่อยได้ทันที ซึ่งแคปซูลจะได้รับการปิดผนึกด้วยระบบสุญญากาศ จึงช่วยรักษาความสดใหม่ของกาแฟและรักษาคุณภาพรสชาติให้อยู่ในระดับเดียวกันทุกครั้งที่ชง
  • ข้อควรพิจารณา คือ แคปซูลกาแฟมีราคาสูงกว่ากาแฟบดทั่วไป ทำให้ต้นทุนต่อแก้วสูงขึ้น โดยเฉพาะหากใช้เครื่องชงกาแฟเป็นประจำทุกวัน อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในการเลือกชนิดของกาแฟ เพราะต้องใช้แคปซูลที่รองรับกับเครื่องรุ่นนั้นเท่านั้น
2

เลือกเครื่องชงกาแฟดริป สำหรับมือใหม่หรือชอบรสกาแฟไม่เข้มข้นมาก

เลือกเครื่องชงกาแฟดริป สำหรับมือใหม่หรือชอบรสกาแฟไม่เข้มข้นมาก

เครื่องชงกาแฟดริปช่วยอำนวยความสะดวกในการชงกาแฟ ด้วยการให้น้ำร้อนไหลผ่านผงกาแฟบนตัวกรอง เพื่อดึงรสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอมออกมาอย่างนุ่มนวล โดยตัวเครื่องจะต้มน้ำให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม แล้วปล่อยให้น้ำร้อนไหลผ่านผงกาแฟ จึงได้กาแฟดำคุณภาพสูง โดยมีข้อดีและข้อควรพิจารณา ดังนี้


  • ข้อดี คือ ใช้งานและดูแลรักษาง่าย อีกทั้งยังมีราคาย่อมเยา โดยสามารถชงกาแฟได้ในปริมาณมากในครั้งเดียว และยังให้รสชาติที่คงที่และมีมาตรฐานเดียวกันทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังปรับปริมาณผงกาแฟและน้ำได้ตามความต้องการ
  • ข้อควรพิจารณา คือ การดริปกาแฟใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะน้ำต้องไหลผ่านผงกาแฟอย่างช้า ๆ จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด อีกทั้งเครื่องยังไม่สามารถปรับแรงดันได้ ทำให้รสชาติกาแฟที่ได้อาจไม่เข้มข้นเท่าที่ต้องการ
3

เลือกเครื่องชงกาแฟ Espresso หากเน้นความพิถีพิถันและฟังก์ชันที่มากขึ้น

เลือกเครื่องชงกาแฟ Espresso หากเน้นความพิถีพิถันและฟังก์ชันที่มากขึ้น

สำหรับผู้ที่ชอบความพิถีพิถันในรสชาติกาแฟ และต้องการเครื่องชงกาแฟที่รองรับได้หลากหลายเมนู จะแนะนำเป็นเครื่องชงกาแฟ Espresso ซึ่งจะมีการแบ่งประเภทดังรายละเอียดต่อไปนี้


  • แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ ต้องการความสะดวกและคุณภาพสม่ำเสมอ โดยเครื่องจะทำงานได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการบดเมล็ดจนถึงสกัดกาแฟ และมีฟังก์ชันปรับระดับความเข้ม อุณหภูมิ และปริมาณน้ำ หรือมีระบบทำฟองนมอัตโนมัติ และจอสัมผัสในบางรุ่น ทำให้ใช้งานได้ง่าย แต่อาจมีราคาค่อนข้างสูง
  • แบบกึ่งอัตโนมัติหรือแบบก้านชง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมบางขั้นตอน เช่น การใส่ผงกาแฟและการเลือกช็อต โดยเครื่องจะสกัดให้อัตโนมัติ โดยมีฟังก์ชันเด่น คือ มีระบบที่ช่วยควบคุมแรงดันน้ำได้ดี มีระบบสตีมฟองนมแบบแมนนวล ให้ความรู้สึกแบบบาริสต้ามืออาชีพในราคาที่ย่อมเยากว่าแบบเต็มรูปแบบ
  • แบบแมนนวล เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์ในการชงกาแฟด้วยเครื่องชงอยู่แล้ว เพราะต้องควบคุมเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การบด การกดผงกาแฟในก้านชง (Tamping) ไปจนถึงการสกัดกาแฟด้วยแรงดันน้ำ โดยแนะนำระดับแรงดันบาร์ 15 - 20 บาร์ เพราะช่วยสร้างครีม่าซึ่งเป็นชั้นฟองกาแฟสีทองเนื้อสัมผัสนุ่มนวล ทำให้เพิ่มมิติให้กับกาแฟและแสดงถึงการสกัดที่มีคุณภาพได้
ชยกฤต คลังทอง (กอล์ฟ)
Barista
ชยกฤต คลังทอง (กอล์ฟ)

แรงดันบาร์ คือ แรงดันของน้ำที่ถูกบีบอัดขณะสกัดกาแฟซึ่งมีผลต่อรสชาติกาแฟ โดยต้องสัมพันธ์กับความละเอียดและปริมาณของเมล็ดกาแฟที่ใช้ด้วย หากแรงดันต่ำจะทำให้น้ำไหลผ่านผงกาแฟเร็วเกินไป ไม่สามารถสกัดสารต่าง ๆ ได้ครบถ้วน รสชาติกาแฟจึงอ่อนและไม่เข้มข้น ส่วนแรงดันที่สูงเกินไปจะทำให้น้ำไหลผ่านผงกาแฟได้ยาก ใช้เวลานานในการสกัด ส่งผลให้รสชาติกาแฟขมและขาดความสมดุล

4

เลือกเครื่องชงกาแฟ Espresso แบบ 2 หรือ 3 หัว กรณีใช้ในร้านกาแฟ

เลือกเครื่องชงกาแฟ Espresso แบบ 2 หรือ 3 หัว กรณีใช้ในร้านกาแฟ

กรณีต้องการเครื่องชงกาแฟเพื่อใช้ในกิจการร้านกาแฟ จะแนะนำให้เลือกเครื่องชงเอสเพรสโซแบบ 2 หรือ 3 หัว (Group Head) เพราะเหมาะสำหรับร้านกาแฟที่มีปริมาณลูกค้าต่อเนื่อง หรือช่วงเวลาที่ต้องชงหลายแก้วพร้อมกัน โดยเครื่องลักษณะนี้ถูกออกแบบมาเฉพาะเพื่อใช้งานในเชิงพาณิชย์ สามารถรองรับการชงกาแฟได้หลายช็อตพร้อมกัน อีกทั้งยังรองรับบาริสต้าได้หลายคน จึงช่วยลดเวลารอและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการได้เป็นอย่างดี


ซึ่งแนะนำให้พิจารณากำลังไฟฟ้าและแรงดันบาร์เพิ่มเติมเพื่อรองรับการใช้งานหนัก โดยควรเลือกกำลังไฟฟ้าที่ 3,000 วัตต์ขึ้นไป และแรงดันบาร์ที่ 15 บาร์ขึ้นไป อีกทั้งยังควรเลือกระบบหม้อต้มแบบ Heat Exchange หรือ Dual Boiler เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำและทำสตรีมนมพร้อมกับชงกาแฟได้ นอกจากนี้ ตัวเครื่องควรทำจากสเตเลสคุณภาพดี เพื่อให้มีความทนทานและง่ายต่อการดูแลรักษาอีกด้วย

วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?

ค้นหาเครื่องชงกาแฟแต่ละประเภทได้ที่นี่

เครื่องชงกาแฟแคปซูล
1
Nespresso
Essenza Mini
5,500 บาท
2
Beno
BN3 Milk Touch
3,790 บาท
3
Xiaomi
Mi Capsule Coffee Machine N1 | S1301
3,990 บาท
ชุดดริปกาแฟ
1
Homemate
Homemate HOM-269421
890 บาท
2
Bestcoff
Bestcoff V60 Coffee Drip Set Wooden Handle
1,340 บาท
เครื่องชงกาแฟ Espresso
1
Duchess
Duchess Coffee Machine CM1270W
54,990 บาท
2
NESCAFE
Nescafe Dolce Gusto
4,990 บาท
เครื่องชงกาแฟ 2 หัว
1
Nuova
SIMONELLI Appia Life Compact 2GR
114,000 บาท
2
CONTI
CC100 2 GR
148,000 บาท
3
Rocket Espresso
Boxer
176,000 บาท

10 เครื่องชงกาแฟแคปซูล ยี่ห้อไหนดี

เครื่องชงกาแฟแคปซูลต่อไปนี้ ได้รับความนิยมและมาจากหลากหลายยี่ห้อที่มีคุณภาพ โดยยี่ห้อไหนจะตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด สามารถเลือกได้จากตารางและข้อมูลสินค้าดังต่อไปนี้

No.1

Nespresso
Essenza Mini

Essenza Mini 1
อ้างอิง:lazada.co.th
Essenza Mini 2
อ้างอิง:lazada.co.th
Essenza Mini 3
อ้างอิง:lazada.co.th
ราคาอ้างอิง
5,500 บาท
ราคาอ้างอิง
5,500 บาท

เครื่องน้ำหนักเบา แรงดันสูง 19 บาร์ ชงกาแฟได้ภายใน 30 วินาที

  • เครื่องชงกาแฟแคปซูลขนาดเล็ก แรงดัน 19 บาร์ ความจุถังน้ำขนาด 0.6 ลิตร
  • มีโปรแกรมสำหรับชงกาแฟอัตโนมัติ 2 รูปแบบ คือ Espresso และ Lungo
  • สามารถใช้งานร่วมกับแคปซูล Nespresso ชงกาแฟได้ภายใน 30 วินาที
  • มีระบบประหยัดพลังงานและระบบปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อไม่ใช้งาน
แบรนด์แคปซูลที่รองรับNespresso
ระดับแรงดันสูงสุด19 บาร์
ความจุแท็งก์น้ำสูงสุด0.6 ลิตร
กำลังไฟฟ้า1260 วัตต์
ความยาว32.5 ซม.
ความกว้าง11 ซม.
ความสูง20.5 ซม.
น้ำหนัก2.3 กก.
ระดับปรับฐานรองแก้ว
ระยะเวลารับประกัน2 ปี
ฟังก์ชันสตีม
ปรับระดับอุณหภูมิได้
ฟังก์ชันโปรแกรมอัตโนมัติ
ฟังก์ชันทำความสะอาดอัตโนมัติ
ฟังก์ชันปิดเครื่องอัตโนมัติ
No.2

Beno
BN3 Milk Touch

ราคาอ้างอิง
3,790 บาท

ตั้งอุณหภูมิได้ 7 ระดับ ชงได้หลายเมนู มีโหมดตีฟองนมอัตโนมัติ

  • มีอแดปเตอร์ 3 แบบ ชงได้ทั้งกาแฟบด กาแฟแคปซูล Nespresso และ Dolce Gusto
  • เลือกปริมาณน้ำในการชงได้ 2 ระดับ ปรับแต่งรสชาติของกาแฟได้ตามต้องการ
  • มีระบบหม้อต้ม Thermoblock ช่วยให้ความร้อนสม่ำเสมอ ได้รสชาติกาแฟเข้มข้น
  • สามารถตั้งอุณหภูมิการชงได้ 7 ระดับ เพื่อชงกาแฟที่มีความเข้มมากหรือน้อยได้
แบรนด์แคปซูลที่รองรับNespresso, Dolce Gusto, Ground
ระดับแรงดันสูงสุด19 บาร์
ความจุแท็งก์น้ำสูงสุด1.4 ลิตร
กำลังไฟฟ้า1,450 - 1,850 วัตต์
ความยาว29 ซม.
ความกว้าง16 ซม.
ความสูง25.3 ซม.
น้ำหนัก3 กก.
ระดับปรับฐานรองแก้ว
ระยะเวลารับประกัน1 ปี
ฟังก์ชันสตีม
ปรับระดับอุณหภูมิได้
ฟังก์ชันโปรแกรมอัตโนมัติ
ฟังก์ชันทำความสะอาดอัตโนมัติ
ฟังก์ชันปิดเครื่องอัตโนมัติ
No.3

Xiaomi
Mi Capsule Coffee Machine N1S1301

Mi Capsule Coffee Machine N1 1
อ้างอิง:lazada.co.th
Mi Capsule Coffee Machine N1 2
อ้างอิง:lazada.co.th
Mi Capsule Coffee Machine N1 3
อ้างอิง:lazada.co.th
ราคาอ้างอิง
3,990 บาท

ชงกาแฟได้ 2 แบบ กะทัดรัด มีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติ

  • เครื่องชงกาแฟแคปซูลแรงดัน 20 บาร์ พร้อมความจุถังน้ำ 0.6 ลิตร
  • มีโหมดชงกาแฟ 2 แบบ คือ Espresso ปริมาณ 40 มล. และ Lungo ปริมาณ 110 มล.
  • สามารถใช้งานร่วมกับแคปซูล Nespresso และแคปซูลที่มีขนาดใกล้เคียงได้
  • ระบบปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อเครื่องไม่มีการใช้งานใน 10 นาที
แบรนด์แคปซูลที่รองรับ Nespresso หรือกาแฟแคปซูลรูปทรงเดียวกัน
ระดับแรงดันสูงสุด20 บาร์
ความจุแท็งก์น้ำสูงสุด0.6 ลิตร
กำลังไฟฟ้า1,150 วัตต์
ความยาว32 ซม.
ความกว้าง8.5 ซม.
ความสูง21.3 ซม.
น้ำหนัก2.4 กก.
ระดับปรับฐานรองแก้ว2 ระดับ
ระยะเวลารับประกัน1 ปี
ฟังก์ชันสตีม
ปรับระดับอุณหภูมิได้
ฟังก์ชันโปรแกรมอัตโนมัติ
ฟังก์ชันทำความสะอาดอัตโนมัติ
ฟังก์ชันปิดเครื่องอัตโนมัติ

10 ชุดดริปกาแฟ ยี่ห้อไหนดี

ชุดดริปกาแฟต่อไปนี้ ได้รับความนิยมและมาจากหลากหลายยี่ห้อที่มีคุณภาพ โดยยี่ห้อไหนจะตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด สามารถเลือกได้จากตารางและข้อมูลสินค้าดังต่อไปนี้

No.1

Homemate
Homemate HOM-269421

ราคาอ้างอิง
890 บาท

เครื่องชงกาแฟดริป ขนาดกะทัดรัด ชงได้ครั้งละ 3 - 5 ถ้วย

เครื่องดริปกาแฟจากแบรนด์ Homemate เป็นชุดชงกาแฟระบบไฟฟ้าที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสะดวกสบาย ประกอบด้วยโหลแก้วขนาด 600 มล. ฟิลเตอร์กรองทรงกรวย และแผ่นกรองตาข่ายแบบนุ่มที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง ตัวเครื่องทำจากพลาสติกและสเตนเลส ทำให้มีน้ำหนักเบาและสะดวกต่อการขนย้าย ด้วยกำลังไฟ 600 วัตต์ ช่วยต้มน้ำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถชงกาแฟได้ประมาณ 3 - 5 ถ้วยต่อครั้ง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเพลตอุ่นร้อน ฟังก์ชันป้องกันน้ำหยด และไฟแสดงสถานะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบจำกัดและต้องการชงกาแฟดริปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ประเภทเครื่องดริปไฟฟ้า (Electric Drip Machine)
อุปกรณ์ในชุดฟิลเตอร์กรอง / แผ่นกรองตาข่าย / โถต้มน้ำ / โหลแก้ว
รูปทรงดริปเปอร์ทรงกรวย (Cone-Shaped)
วัสดุดริปเปอร์พลาสติก
ขนาดชุดดริปกาแฟขนาดกลาง (2 - 4 cups)
ความจุ600 มล.
No.2

Bestcoff
Bestcoff V60 Coffee Drip Set Wooden Handle

ราคาอ้างอิง
1,340 บาท

ชุดดริปสไตล์เรโทร วัสดุคุณภาพดี ฐานรองดริปเปอร์ทำจากไม้

ชุดดริปกาแฟรุ่นนี้จากแบรนด์ Bestcoff โดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์เรโทรที่มีเสน่ห์และใช้ไม้เป็นฐานรองดริปเปอร์ เพิ่มความมั่นคงในการยึดเกาะกับเหยือกแก้ว ป้องกันไม่ให้ดริปเปอร์เคลื่อนหลุดจากตำแหน่ง โดยดริปเปอร์ทำจากแก้วทนความร้อน รองรับอุณหภูมิตั้งแต่ -20 ถึง 180 องศาเซลเซียส ในขณะที่กาดริปกาแฟเคลือบด้วยเทฟลอน ตัวด้ามจับทำจากไม้ที่เป็นฉนวนกันความร้อน ทำให้จับได้อย่างสะดวกโดยไม่ร้อนมือ วัสดุมีความแข็งแรงและทนทาน เหยือกใส่กาแฟมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 400 และ 600 มล. เพื่อตอบโจทย์ปริมาณการใช้งานตามความต้องการอย่างลงตัว

ประเภทชุดดริปแบบหยด (Pour Over)
อุปกรณ์ในชุดดริปเปอร์ / เหยือก / กาน้ำ / แผ่นกรอง
รูปทรงดริปเปอร์ทรงกรวย (Cone-Shaped)
วัสดุดริปเปอร์แก้ว
ขนาดชุดดริปกาแฟขนาดกลาง (2 - 4 cups)
ความจุ400 มล.
No.3

Buono
Buono BUO-260617

ราคาอ้างอิง
3,350 บาท

เครื่องชงกาแฟพร้อมบด บดเมล็ดได้ทั้งหยาบและละเอียด

เครื่องชงกาแฟรุ่นนี้จาก Buono มีจุดเด่นที่การติดตั้งเครื่องบดเมล็ดกาแฟในตัว พร้อม 3 โหมดการทำงาน ได้แก่ ชงจากกาแฟที่บดแล้ว บดเมล็ดกาแฟแบบหยาบ หรือบดละเอียดก่อนชง แทงก์น้ำมีความจุ 0.6 ลิตร ซึ่งสามารถชงกาแฟได้ครั้งละประมาณ 1 - 4 ถ้วย หลังจากชงเสร็จ เครื่องจะเปลี่ยนเป็นโหมดอุ่นอัตโนมัติและตัดการทำงานภายใน 40 นาที โดยตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดและสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย จึงเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กที่มีสมาชิก 1 - 2 คน อย่างไรก็ตาม ควรระวังความร้อนและไอน้ำที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งานเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ประเภทเครื่องดริปไฟฟ้า (Electric Drip Machine)
อุปกรณ์ในชุดโถแก้ว / แทงก์น้ำ / ตะกร้าสำหรับบดและดริปเปอร์
รูปทรงดริปเปอร์ทรงตะกร้า (Basket-Shaped)
วัสดุดริปเปอร์พลาสติก
ขนาดชุดดริปกาแฟขนาดเล็ก (1 - 2 cups)
ความจุ600 มล.

10 เครื่องชงกาแฟ Espresso แบบอัตโนมัติ

เครื่องชงกาแฟ Espresso ต่อไปนี้ ได้รับความนิยมและมาจากหลากหลายยี่ห้อที่มีคุณภาพ โดยยี่ห้อไหนจะตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด สามารถเลือกได้จากตารางและข้อมูลสินค้าดังต่อไปนี้

No.1

Duchess
Duchess Coffee Machine CM1270W

ราคาอ้างอิง
54,990 บาท

เครื่องชงกาแฟดีไซน์สวย เหมาะกับสำนักงาน หรือธุรกิจคาเฟ่

เครื่องชงกาแฟที่มีดีไซน์สวยงาม ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสคุณภาพดี ตอบโจทย์คอกาแฟได้เป็นอย่างมาก สามารถรังสรรค์เมนูกาแฟได้หลากหลายเมนู จุดเด่นคือมีฟังก์ชัน Pre-Infusion Time ที่ช่วยดึงประสิทธิภาพในรสชาติของกาแฟได้ดี  พร้อมทั้งยังสัมผัสถึงกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟได้อีกด้วย ก้านชงมีขนาด 58 มม. ใช้งานได้สะดวก และตัวคันโยกยังทำการควบคุมความเร็วการไหลของน้ำได้ดีอีกด้วย ตัวเครื่องสามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องมากถึง 20 แก้ว และชงได้สูงถึง 200 แก้วเลยทีเดียว เหมาะกับการติดตั้งในสำนักงาน ติดไว้กับครัวที่บ้าน หรือธุรกิจคาเฟ่ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาพักเครื่องเพื่อช่วยประหยัดไฟได้ รวมถึงยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

ประเภทHome-use
วัสดุตัวเครื่องสเตนเลส
ขนาดตัวเครื่อง29.7 x 51.7 x 41 ซม.
น้ำหนัก37.9 kg
ความจุถังน้ำ2.5 ลิตร
ความจุหม้อต้มกาแฟ1.5 ลิตร
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ-
แรงดัน9 บาร์
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่องก้านชง, ท่อสตรีม
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน-
กำลังไฟฟ้า1660 วัตต์
รับประกัน1 ปี
ระบบหม้อต้มแบบคู่
เปลี่ยนหัวชงได้
มีท่อสำหรับสตีมนม
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน
ระบบป้องกันแรงดันเกิน
No.2

NESCAFE
Nescafe Dolce Gusto

ราคาอ้างอิง
4,990 บาท

เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก ใช้งานง่าย ชงไม่นาน ปรับอุณหภูมิได้

Nescafe Dolce Gusto เป็นเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่คุณภาพเทียบเท่ากับเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่ ช่วยประหยัดพื้นที่และเวลาในการชงกาแฟได้ดี ใช้เวลาในการชงไม่นาน ตอบโจทย์ชั่วโมงเร่งรีบ สะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งาน เพียงใส่แคปซูลกาแฟแล้วกดปุ่มก็สามารถดื่มกาแฟได้ทันที โดยเครื่องชงกาแฟรุ่นนี้สามารถปรับอุณหภูมิได้ถึง 4 ระดับ มีโหมดประหยัดพลังงานหรือระบบเตือนให้ล้างทำความสะอาดด้วย

ประเภทHome-use / แบบพกพา
วัสดุตัวเครื่อง-
ขนาดตัวเครื่อง11 x 27 x 29 ซม.
น้ำหนัก2 kg
ความจุถังน้ำ0.8 ลิตร
ความจุหม้อต้มกาแฟ-
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ-
แรงดัน15 บาร์
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่องแท่นสำหรับวางแก้วน้ำ, กระบอกใส่น้ำ
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน-
กำลังไฟฟ้า-
รับประกัน-
ระบบหม้อต้มแบบคู่
เปลี่ยนหัวชงได้
มีท่อสำหรับสตีมนม
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน
ระบบป้องกันแรงดันเกิน
No.3

SKG
SK-1208

ราคาอ้างอิง
5,990 บาท

น้ำหนักเบา มีระบบไอน้ำเพื่ออุ่นเครื่องดื่มและตั้งเวลาชงกาแฟได้

  • แรงดันน้ำสูง 20 บาร์ จุน้ำได้ 1.6 ลิตร เพียงพอต่อการใช้ในคาเฟ่ขนาดเล็ก
  • กำลังไฟ 1050 วัตต์ เหมาะสำหรับงานใช้กับเมล็ดกาแฟคั่วบดโดยเฉพาะ
  • มีระบบไอน้ำช่วยตีฟองนม ทำให้สามารถชงกาแฟที่ต้องการฟองนมได้ด้วย
  • เครื่องเล็ก น้ำหนักเเบา ขนย้ายได้ง่าย นำไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก
ประเภทHome-use
วัสดุตัวเครื่องสเตนเลส, พลาสติก
ขนาดตัวเครื่อง26 x 21 x 29 ซม.
น้ำหนัก3.4 kg
ความจุถังน้ำ1.6 ลิตร
ความจุหม้อต้มกาแฟ-
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ-
แรงดัน20 บาร์
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่องก้านชง, ช้อนตัก, ถ้วยกรอง, ท่อสตรีม, กดกาแฟ
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน-
กำลังไฟฟ้า1050 วัตต์
รับประกัน1 ปี
ระบบหม้อต้มแบบคู่
เปลี่ยนหัวชงได้
มีท่อสำหรับสตีมนม
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน
ระบบป้องกันแรงดันเกิน

8 เครื่องชงกาแฟ 2 หัว ยี่ห้อไหนดี

เครื่องชงกาแฟ 2 หัว ต่อไปนี้ ได้รับความนิยมและมาจากหลากหลายยี่ห้อที่มีคุณภาพ โดยยี่ห้อไหนจะตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด สามารถเลือกได้จากตารางและข้อมูลสินค้าดังต่อไปนี้

No.1

Nuova
SIMONELLI Appia Life Compact 2GR

ราคาอ้างอิง
114,000 บาท

หัวชง Pre-Infusion 4 โปรแกรม สกัดกาแฟ SIS ทำจากสเตนเลส

  • ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด ผลิตจากสเตนเลส ทนทานต่อความร้อน
  • มาพร้อมหัวชงระบบ Pre-infusion และก้านสตีมนมที่ใช้งานได้อย่างคล่องตัว 
  • วัสดุก้านชงเป็นทองเหลืองชุบโครเมียม พร้อมหม้อต้มขนาด 7.5 ลิตร สามารถชงกาแฟได้ 200 ถ้วย
  • มีคุณสมบัติเด่นในการรักษาอุณหภูมิภายในให้คงที่ และช่วยทำให้ประหยัดพลังงาน
ขนาด554 x 545 x 498 mm
น้ำหนัก52 กก.
กำลังไฟ2900 วัตต์
วัสดุตัวเครื่องสเตนเลสสตีล
วัสดุก้านชงทองเหลืองชุบโครเมียม
ระบบการสกัดกาแฟ SIS ซอฟอินฟิวชั่น
ระดับแรงดัน15 บาร์
ขนาดบอยเลอร์ 7.5 ลิตร
ปริมาณถ้วยกาแฟ200 ถ้วย / ชม.
การรับประกันสินค้า1 ปี
No.2

CONTI
CC100 2 GR

CC100 2 GR 1
อ้างอิง:shopee.co.th
CC100 2 GR 2
อ้างอิง:shopee.co.th
CC100 2 GR 3
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
148,000 บาท

ดีไซน์สวย ทันสมัย ฟังก์ชันครบ มีระบบควบคุมอุณหภูมิแบบ PID

  • เครื่องชงกาแฟมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนัก 58 กก.
  • หม้อต้มทองแดงความจุ 11 ลิตร กระจายความร้อนได้ดี ทำให้ได้กาแฟที่ Crema สวยงามและรสเข้มข้น
  • ระบบควบคุมอุณหภูมิแบบ PID ช่วยควบคุมอุณหภูมิของน้ำเพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่คงที่
  • แรงดันปั๊มของเครื่อง 1 เฟส / 230 สามารถปรับแรงดันได้ เพื่อให้การชงกาแฟเป็นไปตามต้องการ
ขนาด704 x 512 x 500 mm
น้ำหนัก58 กก.
กำลังไฟ3600 วัตต์
วัสดุตัวเครื่องสเตนเลส
วัสดุก้านชงสเตนเลส
ระบบการสกัดกาแฟPID
ระดับแรงดันไม่ระบุ
ขนาดบอยเลอร์11 ลิตร
ปริมาณถ้วยกาแฟ80 ถ้วย / ชม.
การรับประกันสินค้า1 ปี
No.3

Rocket Espresso
Boxer

ราคาอ้างอิง
176,000 บาท

หม้อต้มเทอร์โมไซฟ่อน ดีไซน์สวย ก้านสตีมนมกันความร้อน

  • เครื่องชงกาแฟจากประเทศอิตาลี มีการประกอบแบบแฮนด์เมด มีดีไซน์สวยเรียบ
  • ตัวเครื่องเลือกใช้วัสดุสเตนเลส พร้อมก้านสตีมนมกันความร้อนได้
  • ควบคุมการทำงานด้วยระบบไมโครโปรเซสเซอร์ ควบคุมอุณหภูมิน้ำร้อนด้วยหม้อต้ม Thermosyphon
  • ขนาดความจุหม้อต้มอยู่ที่ 13.2 ลิตร สามารถชงเอสเพรสโซโดยเฉลี่ยได้ถึง 120 แก้วต่อชั่วโมง
ขนาด630 x 490 x 471 mm
น้ำหนัก80 กก.
กำลังไฟ4300 วัตต์
วัสดุตัวเครื่องสเตนเลส
วัสดุก้านชงสเตนเลส
ระบบการสกัดกาแฟไม่ระบุ
ระดับแรงดันไม่ระบุ
ขนาดบอยเลอร์13.2 ลิตร
ปริมาณถ้วยกาแฟ120 ถ้วย / ชม.
การรับประกันสินค้า1 ปี

ยอดนิยม
อันดับยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับ เครื่องชงกาแฟ

เครื่องบดกาแฟ

10 ผลิตภัณฑ์

ใหม่ล่าสุด
อันดับยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับ เครื่องชงกาแฟ

ค้นหาตามหมวดหมู่

mybest

ให้เราเป็นตัวช่วยในทุกการเลือกเพื่อให้ทุกคนได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
พร้อมคำแนะนำในการเลือกสินค้าจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ

Copyright mybest All Rights Reserved.