ปัจจุบันกระแส "กาแฟดริป" กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ทำให้คอกาแฟหลาย ๆ คนได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีดริปกาแฟกันอย่างละเอียด อีกทั้งบางคนยังได้ลงทุนซื้อเครื่องมือดริปกาแฟมาติดบ้านเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "ดริปเปอร์" เพราะเป็นภาชนะสำหรับใส่ผงเมล็ดกาแฟและน้ำร้อนในขั้นตอนการดริป รวมทั้งบริเวณก้นดริปเปอร์จะมีรูเล็ก ๆ เพื่อเป็นทางให้กาแฟหยดลงในเหยือกหรือแก้วที่เตรียมไว้นั่นเอง
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปศึกษาวิธีการเลือกดริปเปอร์ว่ามีปัจจัยใดบ้างที่จะต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อ พร้อมคำแนะนำจากบาริสต้าโดยเฉพาะ อีกทั้งเรายังได้คัดเลือก 10 อันดับ ดริปเปอร์ จาก Kalita, HARIO, TIME MORE ฯลฯ ทั้งดริปเปอร์แบบสเตนเลส, แก้ว, เซรามิก และพลาสติก มาให้คอกาแฟเลือกกัน รับรองว่าคุณจะได้ดริปเปอร์คุณภาพดีไปไว้ใช้ชงกาแฟหอม ๆ ตอนเช้าแน่นอน
Top 5 ดริปเปอร์ ยอดนิยม
คุณกอล์ฟเป็นบาริสต้าและเจ้าของร้านกาแฟ Stay Coffee ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2018 จากจุดเริ่มต้นที่ทำงานประจำและเริ่มรู้สึกอิ่มตัว คุณกอล์ฟจึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิต ด้วยการหันมาเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องกาแฟอย่างจริงจัง ทั้งการลองผิดลองถูก ศึกษาค้นคว้า และลงมือทำด้วยตัวเองเป็นเวลาหลายปี จนเปิดร้านกาแฟของตัวเองได้สำเร็จ โดย Stay Coffee มีจุดเด่นในการคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพจากหลากหลายแหล่ง ทั้งกาแฟไทย กาแฟต่างประเทศ และกาแฟเกรดพิเศษ หมุนเวียนให้เลือกตลอดในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ คุณกอล์ฟยังชื่นชอบการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยการไปเยือนร้านกาแฟต่าง ๆ เพื่อชิม เรียนรู้ และนำแนวคิดดี ๆ มาปรับใช้ในการพัฒนาร้านตัวเอง รวมถึงมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้คนในวงการกาแฟอยู่เสมอ เพราะเชื่อว่ากาแฟที่ดีไม่ใช่แค่รสชาติที่กลมกล่อม แต่ต้องมอบความสุขและประสบการณ์ที่น่าจดจำในทุกแก้วที่เสิร์ฟด้วยใจ
คุณพีทเป็นเจ้าของ Blackkat Café ร้านที่โดดเด่นด้านเครื่องดื่มและเบเกอรี่ โดยให้ความสำคัญกับวัตถุดิบคุณภาพและการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ผสมผสานรสชาติได้อย่างลงตัว ด้วยความหลงใหลในอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ทำให้คุณพีทใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ กระบวนการทำ ไปจนถึงการตกแต่งเมนูให้มีเอกลักษณ์ และพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรมจากมหาวิทยาลัยเนชั่น ยังส่งเสริมให้คุณพีทเข้าใจศาสตร์ของอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้ลูกค้า ตั้งแต่การพัฒนาเมนูตามฤดูกาล การอบเบเกอรี่สดใหม่ ไปจนถึงการจับคู่เครื่องดื่มกับขนมให้อร่อยลงตัว โดยนอกจากบริหารร้าน คุณพีทยังติดตามเทรนด์อาหาร ทดลองวัตถุดิบใหม่ ๆ และแบ่งปันความรู้ผ่านบทความด้านอาหาร เบเกอรี่ และการพัฒนาเมนูต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถนำไปต่อยอดได้อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
ถึงแม้ว่าการดริปกาแฟจะดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องพิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่การซื้ออุปกรณ์ไปจนถึงขั้นตอนการดริป แต่อันที่จริงแล้ววิธีการเลือกดริปเปอร์ไม่ยากอย่างที่คิด โดยมีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเพียงไม่กี่ข้อ และวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ด้านล่างแล้ว
ปัจจัยข้อแรกที่หลายคนมักมองข้ามก็คือรูปทรงของดริปเปอร์ เพราะดูผิวเผินอาจจะใช้ดริปกาแฟได้เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วรูปทรงที่แตกต่างกันก็จะส่งผลถึงรสชาติกาแฟที่ต่างกันไปด้วย ซึ่งดริปเปอร์ที่มีจำหน่ายในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้
ดริปเปอร์ทรงกรวย หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันในชื่อดริปเปอร์ V60 เป็นรูปทรงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะด้วยรูปทรงที่ถูกออกแบบให้ทำมุม 60 องศาเท่ากันทุก ๆ ด้าน จึงส่งผลให้รสชาติของกาแฟนุ่มละมุน และมีกลิ่นหอมพอดี นอกจากนี้ดริปเปอร์ทรงกรวยส่วนใหญ่จะมีลวดลายเป็นเกลียว ทำให้น้ำร้อนสามารถซึมผ่านผงกาแฟได้ดี แต่บริเวณก้นของดริปเปอร์ทรงกรวยจะมีรูให้กาแฟไหลผ่านเพียงรูเดียว ดังนั้นคุณจึงต้องควบคุมการรินน้ำร้อนไม่ให้เร็วหรือช้าเกินไป เพราะจะส่งผลให้รสชาติและกลิ่นของกาแฟเพี้ยนได้
ดริปเปอร์ทรงกรวยเป็นดริปเปอร์รูปทรงยอดนิยมที่ใครหลาย ๆ คนชื่นชอบ อย่างดริปเปอร์ V60 เป็นดริปเปอร์ที่เน้นเรื่องการใช้น้ำไหลผ่านมากกว่าการแช่ โดยปกติแล้ว ดริปเปอร์ทรงนี้จะเพิ่มความเร็วในการไหลของน้ำ และกาแฟก็จะเกิดแรงดันเยอะกว่า Dripper แบบ 3 รูหรือ 2 รู ข้อดีของการใช้ดริปเปอร์ทรงนี้คือ น้ำที่ไหลจะถูกทำให้ไหลเข้าหาศูนย์กลางและเกลียวที่อยู่ด้านในของดริปเปอร์จะเป็นตัวช่วยให้น้ำไหลผ่านกาแฟได้ราบรื่น ไม่เกิดสุญญากาศ รสชาติของกาแฟจะมีความสมดุลนุ่มละมุน มีกลิ่นหอมแบบพอดีครับ
ดริปเปอร์ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูเป็นรูปทรงที่มีรูระบายน้ำขนาดเล็ก และจะมี 2 แบบให้เลือกได้แก่ แบบ 1 รู และแบบ 3 รู ซึ่งจุดเด่นของการมีรูระบายน้ำลักษณะนี้คือ จะทำให้ตัวดริปเปอร์สามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่าดริปเปอร์รูปทรงอื่น ๆ รวมถึงบริเวณก้นดริปเปอร์ยังถูกบีบให้เป็นแนวเส้นตรง ซึ่งจะช่วยชะลอการไหลของน้ำ ทำให้ผงกาแฟแช่อยู่ในน้ำได้นานขึ้น ส่งผลให้รสชาติและกลิ่นของกาแฟถูกสกัดออกมาได้มากขึ้น ดังนั้นดริปเปอร์ทรงนี้จึงเหมาะกับคนที่ชื่นชอบดื่มกาแฟที่เข้มข้นกว่าปกตินั่นเอง
ดริปเปอร์ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูเป็นดริปเปอร์ทรงกรวยเหมือนกัน แต่ปลายจะถูกบีบให้แคบเป็นแนวตรง เรียกว่าเป็นดริปเปอร์ที่แรงดันในระดับกลางจะทำให้กาแฟไหลช้าขึ้นเกิดการแช่กาแฟที่นานมากขึ้น โดยแรกเริ่มดริปเปอร์ทรงนี้จะมีรูน้ำไหลเพียงแค่รูเดียวอยู่ตรงกลาง ซึ่งถูกออกแบบมาจากแนวคิดพื้นฐานคือการแช่และให้น้ำค่อย ๆ ซึมผ่านผงกาแฟเพื่อให้การสกัดในแต่ละครั้งออกมาอย่างคงที่
ต่อมาได้พัฒนาโดยการเพิ่มรูเป็น 3 รู ซึ่งทำให้สามารถควบคุมน้ำได้ในขณะชง ทำให้เราได้น้ำที่ผ่านออกมาสม่ำเสมอและไม่ก่อให้เกิดการแช่นานจนเกินไป ในส่วนของรสชาติของกาแฟที่ได้จากดริปเปอร์ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูนั้น ดริปเปอร์นี้จะเหมาะกับคนที่ชอบดื่มกาแฟที่มีรสชาติที่เข้มข้นกว่าปกติมากกว่านั่นเอง
ดริปเปอร์ทรงกระบอกหรือทรงตะกร้าเป็นรูปทรงที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าใดนัก เพราะลักษณะของดริปเปอร์ทรงนี้จะไม่ค่อยมีร่องน้ำ จึงทำให้สามารถเก็บน้ำได้น้อยกว่าดริปเปอร์อีก 2 แบบที่ได้กล่าวไปแล้ว อีกทั้งดริปเปอร์ทรงกระบอกยังมีฐานแบนและรูระบายน้ำถึง 3 รู ซึ่งส่งผลให้น้ำสามารถไหลผ่านผงกาแฟไปอย่างรวดเร็ว กระบวนการสกัดกาแฟที่เกิดขึ้นจึงเข้มข้นไม่มากนัก ดังนั้นดริปเปอร์ประเภทนี้จึงเหมาะกับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟที่มีรสและกลิ่นอ่อน ๆ และมีปริมาณคาเฟอีนค่อนข้างต่ำ
ดริปเปอร์ทรงกระบอกหรือทรงตระกร้า เป็นดริปเปอร์แบบก้นแบน ด้านบนจะเป็นทรงกรวยเช่นกันแต่ตรงก้นจะเป็นฐานแบนทรงกลม มีรู 3 รูเพื่อให้น้ำไหลผ่าน ข้อดีของดริปเปอร์ทรงนี้คือน้ำกาแฟจะไม่ถูกแช่ไว้นาน ลดปัญหากาแฟถูกสกัดมากไป เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟที่มีรสชาติอ่อน ๆ แต่ข้อแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ คือด้านในอาจไม่มีเกลียวหรือร่องน้ำที่ช่วยเรื่องการไหลผ่านของน้ำ ดังนั้นหากเลือกใช้ดริปเปอร์ทรงกระบอกหรือตระกร้านี้ กระดาษกรองที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับดริปเปอร์รุ่นนี้จึงสำคัญมาก ๆ ครับ
อุณหภูมิของน้ำที่ใช้ดริปกาแฟก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อปริมาณและรสชาติของกาแฟ ดังนั้นนอกจากจะควบคุมอุณหภูมิน้ำในขั้นตอนการดริปแล้ว คุณยังควรพิจารณาถึงวัสดุที่ใช้ทำดริปเปอร์อีกด้วย เพราะวัสดุแต่ละชนิดมีความสามารถในการนำความร้อนและการกักเก็บความร้อนที่แตกต่างกัน โดยในปัจจุบันวัสดุที่ได้รับความนิยมได้แก่ เซรามิก เพราะสามารถเก็บความร้อนได้ดี ทำให้การสกัดกาแฟเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ พลาสติก เพราะสามารถช่วยควบคุมอุณหภูมิให้เท่ากันทั้งดริปเปอร์ พกพาง่ายและมีราคาไม่แพง และสเตนเลสที่ดึงรสชาติกาแฟได้ครบทุกอณู แต่มีราคาสูง
การพิจารณาเลือกซื้อดริปเปอร์นั้น ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ลักษณะของการใช้งานมากกว่าคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำดริปเปอร์ เช่น ถ้าทำกาแฟอยู่ที่ร้าน บ้านหรือออฟฟิศ ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ดริปเปอร์ที่ทำจากเซรามิกและแก้ว ส่วนถ้านำไปใช้ชงกาแฟขณะเดินทางท่องเที่ยวหรือแคมป์ปิ้ง ให้เลือกใช้ดริปเปอร์ที่ผลิตจากพลาสติกทนความร้อนหรือสเตนเลสแทนด้วยเหตุผลในด้านน้ำหนักและไม่แตกหักง่าย การเลือกใช้ดริปเปอร์ที่ทำจากวัสดุต่างชนิดกันย่อมส่งผลต่อกลิ่นและรสชาติของกาแฟที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกประเภทวัสดุที่ใช้ทำดริปเปอร์จึงขึ้นอยู่กับความชอบและวัตถุประสงค์ในการใช้งานแต่ละคนด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าปริมาณกาแฟที่แต่ละคนดื่มต่อวันนั้นไม่เท่ากัน หรือในบางครั้งเราต้องดริปกาแฟสำหรับตัวเองและเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัวด้วย ซึ่งปริมาณผงกาแฟที่ใช้ในแต่ละครั้งก็จะแตกต่างกัน ดังนั้นคุณจึงควรเลือกซื้อดริปเปอร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับปริมาณกาแฟที่ต้องการ โดยดริปเปอร์ที่วางจำหน่ายอยู่ทั่วไปจะมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 1 - 2 แก้ว และขนาด 2 - 4 แก้ว ซึ่งถ้าหากซื้อมาผิดขนาดก็จะทำให้ใส่ผงกาแฟได้น้อยหรือมากจนเกินไป ซึ่งส่งผลต่อขั้นตอนการสกัด รวมถึงความสมดุลของรสชาติและความหอมกลมกล่อมของกาแฟอีกด้วย
เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องขนาดของดริปเปอร์ที่วางขายให้ดีก่อนพิจารณาตัดสินใจซื้อ โดยดริปเปอร์ขนาด 1 - 2 cup จะชงกาแฟได้ประมาณ 150 - 300 ml. ซึ่งเหมาะกับการทำกาแฟสำหรับดื่ม 1 คน ในขณะที่ดริปเปอร์ขนาด 2 - 4 cup จะชงกาแฟได้ประมาณ 300 - 600 ml. เหมาะกับการทำกาแฟดื่มสำหรับคนดื่ม 1 - 4 คน ซึ่งแต่ละขนาดจะใช้ปริมาณกาแฟที่แตกต่างกัน การเลือกดริปเปอร์ที่มีขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยให้เราทำกาแฟหรือดริปกาแฟได้ดีและง่ายขึ้นโดยไม่สิ้นเปลืองวัตถุดิบโดยใช่เหตุ อีกทั้งปัจจัยดังกล่าวยังมีผลต่อรสชาติของกาแฟที่ชงออกมาอีกด้วย
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | TIME MORE ดริปเปอร์ Ceramic Crystal Eye | ![]() | การออกแบบพิเศษช่วยให้น้ำกระจายได้ทั่วถึงและมีอุณหภูมิคงที่ | |
2 | Kalita ดริปเปอร์ Wave Dripper | ![]() | สเตนเลสกักเก็บความร้อนได้ดี รสชาติไม่เข้มเกินไป ดีไซน์วินเทจ | |
3 | Munieq ดริปเปอร์ Tetra Drip 01P | ![]() | สามารถพับใส่กระเป๋าได้ ขนาดกะทัดรัด พลาสติกทนความร้อนสูง | |
4 | Kalita ดริปเปอร์ Hasami | ![]() | ใช้เซรามิกเนื้อดีจากญี่ปุ่น ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูช่วยให้กาแฟเข้มข้น | |
5 | TIME MORE ดริปเปอร์ Crystal Eye Glass | ![]() | ช่วยกระจายความร้อนได้ดี ลวดลายแก้วช่วยควบคุมการไหลของน้ำ | |
6 | HARIO ดริปเปอร์ Origami | ![]() | ลวดลาย Origami ช่วยควบคุมการไหลของน้ำ เนื้อหนาไม่แตกง่าย | |
7 | Kindness Care ดริปเปอร์ Stainless V60 | ![]() | ไม่เป็นสนิม ทนการกัดกร่อนได้สูง น้ำหนักเบา สามารถพกพาสะดวก | |
8 | HARIO ดริปเปอร์ V60 (PP) | ![]() | ดีไซน์สวย มีฐานรองและหูจับถนัดมือ ทนความร้อนสูง ราคาไม่แพง | |
9 | Kindness Care ดริปเปอร์ V60 | ![]() | ขนาดใหญ่พิเศษ ใช้แก้วเนื้อดี รักษาอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ | |
10 | WILD MAN ดริปเปอร์ Let's Run | ![]() | ดริปเปอร์เอาใจสาย Camping ใช้สเตนเลสคุณภาพดี พกพาสะดวก |
ถ้าหากพูดถึงดริปเปอร์ที่มีคุณภาพคุ้มค่ากับราคา หลายคนคงนึกถึงดริปเปอร์ Ceramic Crystal Eye จากแบรนด์ TIME MORE เพราะรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยควบคุมการไหลของน้ำให้ทั่วถึงมากขึ้น อีกทั้งยังไม่มีช่องว่างระหว่างกระดาษกรองกาแฟ คุณจึงไม่ต้องคอยใช้มือจับให้เสียอารมณ์ และเนื่องจากเซรามิกเป็นวัสดุที่ไม่สะสมความร้อน จึงทำให้อุณหภูมิของน้ำที่รินลงไปคงที่สม่ำเสมอ ไม่ถูกถ่ายเทเข้าไปในเนื้อเซรามิกนั่นเอง ดังนั้นกาแฟที่ได้จะมีความสมดุลของกลิ่นและรสชาติอย่างแน่นอน
หลายคนอาจนึกอยากดื่มกาแฟตอนบ่าย แต่ถ้าหากใช้ดริปเปอร์ทรงกรวยหรือคางหมูอาจทำให้กาแฟเข้มเกินไป เราขอแนะนำดริปเปอร์ Kalita Wave Dripper ค่ะ เพราะเป็นรูปทรงกระบอกที่มีรูระบายน้ำ 3 รู ทำให้กาแฟที่สกัดได้มีปริมาณคาเฟอีนต่ำกว่าการแฟที่ใช้ดริปเปอร์แบบอื่น ๆ อีกทั้งทางแบรนด์ยังใช้สเตนเลสในการทำดริปเปอร์รุ่นนี้ จึงทำให้สามารถกักเก็บความร้อนได้ดี ซึ่งส่งผลให้รสชาติของกาแฟกลมกล่อม ไม่ผิดเพี้ยนไป นอกจากนี้ยังมีดีไซน์วินเทจสุดคลาสสิก ใช้แล้วจะทำให้นึกถึงการชงกาแฟในสมัยก่อนเลยค่ะ
อีกหนึ่งดริปเปอร์ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจสาย Camping ต้องยกให้ดริปเปอร์แบรนด์ Munieq รุ่น Tetra Drip เลยค่ะ เพราะตัวดริปเปอร์ทำมาจากพลาสติก Polypropylene คุณภาพดี มีน้ำหนักเบา และทนความร้อนสูง คุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องพลาสติกละลายหรือสารพิษตกค้างเลยค่ะ อีกทั้งยังช่วยให้กาแฟที่ได้มีรสชาติหอมเข้มข้น ซึ่งจะช่วยให้การตั้งแคมป์ของคุณได้บรรยากาศมากขึ้น นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังออกแบบให้ดริปเปอร์สามารถพับให้แบนได้ ถือว่าสะดวกต่อการพกพาใส่กระเป๋าไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดมาก ๆ ค่ะ
Kalita เป็นแบรนด์อุปกรณ์ดริปกาแฟคุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่น โดยดริปเปอร์รุ่นนี้ทำมาจากเซรามิกของเมือง Hashima ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการทำเครื่องปั้นดินเผามากว่า 400 ปี ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่าดริปเปอร์รุ่นนี้มีความทนทานและสามารถทำให้ประสบการณ์การดริปกาแฟของคุณดียิ่งขึ้น เพราะเซรามิกเนื้อดีจะช่วยกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง ประกอบกับรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่จะทำให้กาแฟของคุณรสชาติเข้มข้น เหมาะกับการใช้สกัดกาแฟตอนเช้าเพื่อเพิ่มพลังก่อนไปทำงานอย่างมาก
คอกาแฟหลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกับแบรนด์ TIME MORE เพราะเป็นแบรนด์ผลิตอุปกรณ์ดริปกาแฟครบวงจร ซึ่งดริปเปอร์ที่เราได้คัดเลือกมานำเสนอในวันนี้ก็คือ รุ่น Crystal Eye Glass ที่ทำมาจากแก้ว Borosilicate ที่มีความแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย อีกทั้งยังสามารถขยายตัวได้ดีเมื่อโดนความร้อน จึงทำให้สามารถกระจายความร้อนได้ทั่วถึง ประกอบกับลวดลายของแก้วยังช่วยควบคุมให้น้ำไหลเวียนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้กาแฟที่มีรสชาติกลมกล่อมอย่างที่คุณต้องการแน่นอน
ดริปเปอร์ Orgamin จากแบรนด์ HAIRO ถูกออกแบบมาให้มีลวดลายคล้ายรอยพับทั่วทั้งดริปเปอร์ เพื่อให้คุณสามารถควบคุมการไหลของน้ำได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้น้ำร้อนที่รินลงไปไหลผ่านผงกาแฟได้อย่างทั่วถึง โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิตดริปเปอร์รุ่นนี้เป็นเซรามิกอย่างดี เนื้อหนา แข็งแรงทนทาน และล้างทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้เนื่องจากเซรมิกเป็นวัสดุที่ไม่ดูดซับความร้อน อุณหภูมิของน้ำจึงไม่สูญเสียเข้าไปในเนื้อเซรามิก และยังสามารถช่วยรักษาความร้อนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้อุณหภูมิของน้ำคงที่ตลอดขั้นตอนการสกัดกาแฟ
นอกจากแก้ว พลาสติก และเซรามิกแล้ว สเตนเลสก็เป็นวัสดุอีกประเภทที่นิยมนำมาใช้ผลิตดริปเปอร์ เพราะนอกจากจะทนความร้อนได้สูงถึง 800 - 1,000 องศาแล้ว ยังสามารถกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง ทำให้อุณหภูมิของน้ำที่รินลงไปในดริปเปอร์คงที่ตลอดขั้นตอนการดริป อีกทั้งสเตนเลสยังเป็นวัสดุที่ไม่เป็นสนิมง่าย และทนการกัดกร่อนได้ดี ดังนั้นถึงแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน ก็ไม่ทำให้เกิดสารพิษตกค้างและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนี้ดริปเปอร์รุ่นนี้ยังมีน้ำหนักเบา คุณจึงสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อีกด้วย
อีกหนึ่งดริปเปอร์ที่คุณภาพคุ้มค่ากับราคาก็คือ ดริปเปอร์ HAIRO V60 (PP) จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำมาจากพลาสติก Acrylonitrile-styrene Resin ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนสูง มาพร้อมกับฐานรองดริปเปอร์ขนาดพอดีกับแก้วกาแฟทั่วไป ทำให้กาแฟที่สกัดได้ไหลลงบริเวณกลางแก้วพอดี อีกทั้งยังมีหูจับช่วยให้ถนัดมือเวลาดริปกาแฟมากยิ่งขึ้น และยังช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนของน้ำในดริปเปอร์ลวกมืออีกด้วย นอกจากนี้ดริปเปอร์รุ่นนี้ยังมีขนาดสำหรับกาแฟ 1 - 2 แก้ว ซึ่งถือว่าเหมาะกับคนที่ต้องการดริปเปอร์เอาไว้ใช้ส่วนตัวเป็นอย่างมาก
ปกติแล้วดริปเปอร์กาแฟจะมี 2 ขนาดคือ 1 - 2 แก้ว และ 2 - 4 แก้ว แต่สำหรับใครที่ต้องการดริปเปอร์ขนาดใหญ่พิเศษ เราขอแนะนำดริปเปอร์ Kindness Care V60 เพราะสามารถใช้สกัดกาแฟได้ปริมาณมากกว่าแบบอื่น ๆ กล่าวคือ ไม่ว่าคุณจะต้องการดริปกาแฟเพียงแก้วเดียวหรือ 4 แก้ว ดริปเปอร์รุ่นนี้ก็สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน โดยตัวดริปเปอร์ทำมาจากแก้วเนื้อดี สามารถขยายตัวและกระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อนำไปใช้สกัดกาแฟแล้ว จะได้กาแฟที่มีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อม
Camping เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แบรนด์ WILD MAN จึงได้ออกแบบดริปเปอร์แบบพับได้ เพื่อให้ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการออกทริปท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยรุ่นนี้ใช้สเตนเลสคุณภาพ food grade ไม่เป็นสนิม น้ำหนักเบาทำให้พกพาสะดวก และที่สำคัญคือ สามารถทนทานความร้อนได้สูง ดังนั้นดริปเปอร์รุ่นนี้จะช่วยควบคุมอุณหภูมิของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยทรงกรวยทำมุม 60 องศา จึงทำให้น้ำไหลผ่านผงกาแฟได้อย่างทั่วถึง ถือว่าเป็นดริปเปอร์ที่เหมาะสำหรับนำมาดริปกาแฟหอม ๆ ตอนเช้าอีกรุ่นหนึ่งเลยค่ะ
คนที่ต้องการหาดริปเปอร์มาเพื่อทำเมนูกาแฟใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง แต่ยังมีข้อสงสัยในการใช้งานอยู่ ในวันนี้ เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกัน
การดริปกาแฟสำหรับมือใหม่นั้น ทริคง่าย ๆ ที่จำเป็นต้องจำไว้ก็คือ ห้ามให้น้ำขาด เพราะจะทำให้ผงกาแฟเฝื่อน ฝาดและขม อีกทั้งไม่ควรเทน้ำให้โดนฟิลเตอร์ตรง ๆ เพราะจะทำให้กลิ่นของฟิลเตอร์ติดมาที่กาแฟ พยายามเทน้ำให้ทั่วสม่ำเสมอ โดยเริ่มจากตรงกลางแล้วหมุนออกมาด้านนอก เพราะถ้าเราเทน้ำเน้นไปที่ตรงไหน กาแฟส่วนนั้นจะถูกสกัดออกมามาก จึงต้องเทให้เท่า ๆ กัน และไม่พยายามให้น้ำขังหรือผงกาแฟเป็นโคลนจากการบดที่ละเอียดมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้รสชาติเปลี่ยนและเพี้ยนไปด้วย
อันดับที่ 1: TIME MORE|ดริปเปอร์ Ceramic Crystal Eye
อันดับที่ 2: Kalita|ดริปเปอร์ Wave Dripper
อันดับที่ 3: Munieq|ดริปเปอร์ Tetra Drip 01P
อันดับที่ 4: Kalita|ดริปเปอร์ Hasami
อันดับที่ 5: TIME MORE|ดริปเปอร์ Crystal Eye Glass
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ