สำหรับคอกาแฟที่ชอบชงกาแฟดื่มที่บ้านแบบชิล ๆ เราขอแนะนำเครื่องชงกาแฟ Espresso ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานและชงกาแฟได้หลากหลายประเภท โดยการสกัดเมล็ดกาแฟบดผ่านตัวกรอง เพื่อให้ได้กาแฟที่เข้มข้น ซึ่งมักถูกเรียกว่า Espresso Shot ที่สามารถนำไปประยุกต์ทำเป็นกาแฟประเภทอื่น ๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาโน มอคค่า หรือลาเต้
บทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟ Espresso เบื้องต้นเพื่อให้คุณได้รุ่นที่ตรงกับสไตล์การดื่มและเหมาะกับการใช้งานของตนเองมากที่สุด พร้อมคำแนะนำจากเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ และยังมี 10 อันดับ เครื่องชงกาแฟ Espresso จากแบรนด์ยอดนิยมที่ใช้งานง่าย แรงดันบาร์สูง โดยมีทั้งรุ่นที่เหมาะกับใช้งานที่บ้านและออฟฟิศแนะนำเพิ่มเติมด้วย
Top 5 เครื่องชงกาแฟ Espresso ยอดนิยม
De'Longhi
เครื่องชงยอดนิยม ใช้งานง่าย ปรับระดับไอน้ำได้ มีก้านตีฟองนม
คุณคมเรียนจบปริญญาตรีด้านนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังจากจบการศึกษาได้มีโอกาสทำธุรกิจหลากหลายทั้งด้านการออกแบบก่อสร้างบ้านและธุรกิจอาหาร จนได้มาค้นพบธุรกิจกาแฟและเริ่มมี Passion ในด้านนี้อย่างจริงจัง ในปี 2020 คุณคมได้เปิดร้านกาแฟเป็นของตนเองภายใต้ชื่อว่า Kate and Kim โดยเริ่มต้นจากการคั่วเมล็ดให้กับกลุ่มเพื่อน ๆ และภรรยาชิม จนขยับขยายกิจการไปถึงการขายส่งเมล็ดกาแฟให้กับคาเฟ่ต่าง ๆ ด้วยความชอบในเสน่ห์ของกาแฟที่มีกลิ่นและอัตลักษณ์แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ที่ปลูก จึงเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ สำหรับเป็น Lab ในการทดลองรสชาติใหม่ ๆ ของกาแฟ คมและภรรยาจบหลักสูตร Roasting, Sensory และ Green Bean จาก SCA (Specialty Coffee Association)
คุณพีทเป็นเจ้าของ Blackkat Café ร้านที่โดดเด่นด้านเครื่องดื่มและเบเกอรี่ โดยให้ความสำคัญกับวัตถุดิบคุณภาพและการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ผสมผสานรสชาติได้อย่างลงตัว ด้วยความหลงใหลในอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ทำให้คุณพีทใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ กระบวนการทำ ไปจนถึงการตกแต่งเมนูให้มีเอกลักษณ์ และพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรมจากมหาวิทยาลัยเนชั่น ยังส่งเสริมให้คุณพีทเข้าใจศาสตร์ของอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้ลูกค้า ตั้งแต่การพัฒนาเมนูตามฤดูกาล การอบเบเกอรี่สดใหม่ ไปจนถึงการจับคู่เครื่องดื่มกับขนมให้อร่อยลงตัว โดยนอกจากบริหารร้าน คุณพีทยังติดตามเทรนด์อาหาร ทดลองวัตถุดิบใหม่ ๆ และแบ่งปันความรู้ผ่านบทความด้านอาหาร เบเกอรี่ และการพัฒนาเมนูต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถนำไปต่อยอดได้อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
กาแฟเอสเปรสโซ (Espresso) คือ กาแฟที่สกัดออกมาจากเมล็ดกาแฟคั่วบดด้วยเครื่องชงกาแฟ มักจะมีปริมาตรหลังจากสกัดแล้วอยู่ที่ 30 มิลลิลิตร หรือมักจะเรียกกันว่า Espresso Shot โดยจะเป็นกาแฟดำที่มีความเข้มข้นสูง ส่วนอเมริกาโน (Americano) เป็นกาแฟดำที่มีการเติมน้ำเข้าไปในเอสเพรสโซเพื่อลดความเข้มข้นและทำให้รสชาติเจือจางลง จึงกล่าวได้ง่าย ๆ ว่ากาแฟเอสเปรสโซ คือ วัตถุดิบตั้งต้นของกาแฟเมนูต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า รวมไปถึงอเมริกาโนนั่นเอง
อเมริกาโนนั้นเป็นกาแฟดำสัญชาติอเมริกัน ส่วนเอสเปรสโซมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี จึงค่อนข้างได้รับความนิยมในแถบยุโรป แต่ในปัจจุบันก็เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นในหลาย ๆ ประเทศ รวมไปถึงประเทศไทย โดยเอสเปรสโซจะเหมาะกับคอกาแฟที่ชอบรสชาติที่เข้มข้นและให้สัมผัสที่หนักแน่นเป็นพิเศษ ในขณะที่อเมริกาโนจะเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟแบบใส ๆ ไม่มีบอดี้แบบกาแฟนม เน้นรสชาติแท้ ๆ ของกาแฟ
โดยหลัก ๆ แล้วเครื่องชงกาแฟ Espresso จะแบ่งได้เป็น 3 แบบคือ เครื่องชงกาแฟ Espresso แบบแมนวล เครื่องชงกาแฟ Espresso แบบกึ่งอัตโนมัติ และเครื่องชงกาแฟ Espresso แบบอัตโนมัติที่เป็นประเภทที่พบเห็นได้ตามร้านกาแฟหรือคาเฟ่มากที่สุด เพราะมีระดับราคาหลากหลายให้เลือก ฟังก์ชันการใช้งานเยอะ ปรับแต่งกาแฟได้และมีความเสถียรในการชงกาแฟมากที่สุด ในขณะที่แบบแมนวลไม่ใช้ไฟฟ้าจะต้องอาศัยทักษะและเทคนิคในการชงด้วย
การเลือกเครื่องชงกาแฟ Espresso นั้นมีรายละเอียดหลายอย่าง ดังนั้น ต่อไปเราจะมาอธิบายถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ใช้ในการเลือกเครื่องชงกาแฟ Espresso แบบอัตโนมัติ เพื่อให้ได้เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณ
แรงดันของเครื่องชงกาแฟจะมีผลต่อการสกัดกาแฟ ซึ่งจะเป็นแรงที่ไปกระทบกับผงของกาแฟบด ทำให้ผงกาแฟบดเกิดการละลายได้มากขึ้น หากแรงดันเหมาะสมก็จะทำให้ได้น้ำกาแฟที่ดี แต่ถ้าแรงดันไม่เสถียรก็จะส่งผลต่อรสชาติกาแฟ
ในการชงกาแฟ Espresso ให้อร่อยถูกใจคอกาแฟนั้นจะต้องมีการสกัดที่สมบูรณ์ กล่าวคือ กาแฟที่ได้จะต้องเข้มข้น ดังนั้น เครื่องที่ใช้ควรจะเป็นเครื่องชงที่มีแรงดันบาร์เหมาะสมและทำงานได้อย่างเสถียร เพื่อให้ดันกาแฟออกมาได้อย่างเข้มข้นและมีผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอ ซึ่งแรงดันบาร์ที่เหมาะสมที่สำหรับการสกัดกาแฟ Espresso คือ 8 - 10 บาร์ เพราะหากมีแรงดันบาร์ที่มากเกินไป น้ำกาแฟที่สกัดได้จะมีรสขม และทำให้ไม่สามารถคุมรสชาติของกาแฟได้
นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาระดับการสกัดของเครื่องชงกาแฟร่วมด้วย เนื่องจากระดับการสกัดมีผลต่อรสชาติของกาแฟเป็นอย่างมาก ถ้าสกัดได้ไม่ดี รสชาติของกาแฟก็อาจจะติดเปรี้ยว สำหรับวิธีการตรวจสอบคร่าว ๆ นั้นสามารถดูได้จากการไหลของกาแฟ หากกาแฟไหลเร็ว หมายความว่า กาแฟสกัดได้ไม่สมบรูณ์ หรือหากสกัดออกมาช้าเกินไป จะเป็นการสกัดที่โอเวอร์ รสชาติของกาแฟจะขมไหม้นั่นเอง
ผู้ใช้งานมือใหม่บางกลุ่มอาจจะเข้าใจว่า ค่าแรงดันที่สูงจะยิ่งสกัดได้ดี แต่อันที่จริงแล้วแรงดันที่มากเกินไปก็ไม่ได้แปลว่าจะได้กาแฟที่ดีเสมอไป เพราะอาจจะส่งผลให้น้ำกาแฟที่ได้มีรสขม ซึ่งปกติแล้วระดับแรงดันที่เหมาะสมที่สุดของเครื่องชงกาแฟ Espresso ที่สายกาแฟกล่าวกันไว้จะอยู่ที่ประมาณ 9 บาร์
โดยทั่วไปแล้วเครื่องชงกาแฟ Espresso จะมีความจุขั้นพื้นฐานของการใช้งานในบ้านจะอยู่ที่ประมาณ 500 - 1,000 ml ซึ่งสามารถชงกาแฟได้ประมาณ 5 - 10 แก้วอยู่แล้ว จึงอาจจะไม่จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องความจุมากนักหากต้องการซื้อไปใช้งานที่บ้าน เพราะถือเป็นความจุที่ครอบคลุมไปถึงครอบครัวขนาดใหญ่หรือบ้านที่ดื่มการแฟหลาย ๆ แก้วต่อวันได้
หากต้องการนำไปใช้งานในสำนักงานหรือออฟฟิศก็จะต้องพิจารณาความจุให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกด้วย ยิ่งมีผู้ใช้งานมากก็จะต้องเลือกเครื่องที่ความจุเยอะตามไปด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องคอยเติมน้ำใหม่บ่อย ๆ เพราะทุกครั้งที่ต้องเติมน้ำใหม่ก็จะเสียเวลาที่ตัวเครื่องจะต้องทำความร้อนใหม่ ส่งผลให้เครื่องทำงานช้านั่นเอง จึงแนะนำให้เลือกความจุ 1,000 ml หรือ 1 L ขึ้นไปจะเหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานในออฟฟิศ
ในกรณีที่เครื่องชงกาแฟ Espresso มีความจุเยอะ แต่มีผู้ใช้งานน้อย ผู้ใช้งานอาจใส่น้ำทิ้งไว้ในแทงก์สำหรับใช้ชงในครั้งต่อไปได้ แต่หากไม่ได้ใช้งานบ่อย แนะนำให้เทออก เมื่อต้องการชงค่อยเติมน้ำใหม่ เพื่อถนอมซีลยางและไม่ให้เกิดคราบตะกรันในแทงก์บรรจุน้ำ
หากเป็นเครื่องชงกาแฟ Espresso ที่ใช้งานในออฟฟิศหรือสำนักงานมักจะมีคอกาแฟที่หลากหลาย ทั้งคนที่ดื่มเอสเพรสโซ คาปูชิโน ลาเต้หรืออเมริกาโน รวมถึงครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนและชื่นชอบการดื่มกาแฟที่ต่างกัน ขอแนะนำให้มองหาเครื่องชงกาแฟรุ่นที่มีฟังก์ชันสตีมนมด้วยเพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์สตีมนมหรือที่ตีฟองนมไฟฟ้าแยกต่างหาก และเป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วย
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของก้านสตีมก็จะต่างกันไปตามระดับราคาของแต่ละรุ่นและแบรนด์ และคุณภาพของฟองนมนั้นสัมพันธ์กับความจุของเครื่องด้วย ซึ่งความจุที่น้อยเกินไปจะปล่อยไอน้ำออกมาได้เพียงเล็กน้อย เพราะมีแรงดันจ่ายน้อย อีกทั้งคุณภาพของฟองที่ดีไม่ได้เกิดจากอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความชำนาญของบาริสต้าด้วย
หากใช้งานรุ่นที่มีฟังก์ชันสตีมนมจะต้องคอยทำความสะอาดหัวสตีมเป็นอย่างดี โดยแนะนำให้ทำความสะอาดทันที ไม่ควรทิ้งไว้นาน เพื่อป้องกันไม่ให้นมแห้งและเข้าไปอุดตันในก้านสตีม หากเกิดจากการอุดตันจะทำให้ไอน้ำไม่ออกและสตีมนมไม่ได้
กำลังไฟของเครื่องชงกาแฟจะแปรผันตามขนาดความจุแท้งค์น้ำด้วย ยิ่งเครื่องความจุเยอะก็ควรจะมีกำลังไฟสูงขึ้นเพื่อให้เครื่องมีกำลังไฟเพียงพอ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเครื่องชงกาแฟ Espresso สำหรับการใช้งานที่บ้านมักจะเป็นรุ่นที่มีกำลังไฟฟ้าโดยเฉลี่ย 1,000 วัตต์ แต่หากเป็นเครื่องที่ใช้ในสำนักงานหรือออฟฟิศที่มีขนาดใหญ่ก็มักจะมีกำลังไฟเฉลี่ยตั้งแต่ 1,000 - 3,000 วัตต์ เนื่องจากการชงการแฟปริมาณมากในแต่ละวันจำเป็นต้องใช้พลังงานในการต้มน้ำสูง ซึ่งการเลือกรุ่นที่มีวัตต์สูงจะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าเพราะต้มน้ำได้ครั้งละมาก ๆ ทั้งนี้ หากเลือกรุ่นที่มีวัตต์ต่ำเกินไปก็อาจส่งผลต่อความเสถียรในการชงกาแฟได้ ทำให้กาแฟที่ได้มีรสชาติไม่คงที่ เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่เสถียร
เครื่องชงกาแฟ Espresso ที่ดีสำหรับ Home-use จะต้องดูแลรักษาได้ง่ายด้วยเพื่อให้ใช้งานได้ยาวนาน โดยระบบการทำกาแฟควรถอดมาล้างได้ง่าย เช่น บางรุ่นสามารถถอดชิ้นส่วนออกมาทำความสะอาดได้ทั่วถึงไปจนถึงส่วนก๊อกที่น้ำไหลผ่าน หรือบางรุ่นสามารถถาดรองน้ำและที่บรรจุเมล็ดกาแฟมาล้างได้หมด
นอกจากนี้ หลาย ๆ รุ่นในปัจจุบันจะมาพร้อมกับฟังก์ชันทำความสะอาดอัตโนมัติ ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟได้ โดยบางรุ่นจะมาพร้อมกับระบบทำความสะอาดหัวชงแบบอัตโนมัติ (Auto Backflush) เป็นต้น แต่ถึงแม้จะมีฟังก์ชันดังกล่าวแล้ว ผู้ใช้งานควรหมั่นตรวจเช็กและทำความสะอาดด้วยตัวเองเป็นหลัก เนื่องจากในบางครั้งระบบทำความสะอาดอาจเข้าไม่ถึงบางจุดที่สำคัญ
การทำความสะอาดและบำรุงรักษาเครื่องชงกาแฟ Espresso ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานนั้น ควรทำความสะอาดหัวชงหลังใช้งานทุกครั้ง เช็ดด้วยผ้าสะอาด เปิดน้ำไล่กากกาแฟที่ค้างออกมา และหากใช้หัวสตีมนมก็ควรเช็ดทำความสะอาดมันที และหลังจากปิดเครื่อง ควรเปิดหัวสตีมเพื่อไล่แรงดันที่ค้างในถังต้มออกให้หมด
นอกจากนี้ การพิจารณาบริการหลังการขายและจุดให้บริการซ่อมใกล้บ้านก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและไม่เสียเวลาในการส่งซ่อม
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภท | วัสดุตัวเครื่อง | ขนาดตัวเครื่อง | น้ำหนัก | ความจุถังน้ำ | ความจุหม้อต้มกาแฟ | ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ | แรงดัน | อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่อง | เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน | กำลังไฟฟ้า | รับประกัน | ระบบหม้อต้มแบบคู่ | เปลี่ยนหัวชงได้ | มีท่อสำหรับสตีมนม | มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน | ก้านสตีมแบบไม่ร้อน | ระบบป้องกันแรงดันเกิน | |||||
1 | Duchess Duchess Coffee Machine CM1270W | ![]() | เครื่องชงกาแฟดีไซน์สวย เหมาะกับสำนักงาน หรือธุรกิจคาเฟ่ | Home-use | สเตนเลส | 29.7 x 51.7 x 41 ซม. | 37.9 kg | 2.5 ลิตร | 1.5 ลิตร | - | 9 บาร์ | ก้านชง, ท่อสตรีม | - | 1660 วัตต์ | 1 ปี | |||||||
2 | NESCAFE Nescafe Dolce Gusto | ![]() | เครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก ใช้งานง่าย ชงไม่นาน ปรับอุณหภูมิได้ | Home-use / แบบพกพา | - | 11 x 27 x 29 ซม. | 2 kg | 0.8 ลิตร | - | - | 15 บาร์ | แท่นสำหรับวางแก้วน้ำ, กระบอกใส่น้ำ | - | - | - | |||||||
3 | SKG SK-1208 | ![]() | น้ำหนักเบา มีระบบไอน้ำเพื่ออุ่นเครื่องดื่มและตั้งเวลาชงกาแฟได้ | Home-use | สเตนเลส, พลาสติก | 26 x 21 x 29 ซม. | 3.4 kg | 1.6 ลิตร | - | - | 20 บาร์ | ก้านชง, ช้อนตัก, ถ้วยกรอง, ท่อสตรีม, กดกาแฟ | - | 1050 วัตต์ | 1 ปี | |||||||
4 | De'Longhi De'Longhi Pump Espresso Dedica Set EC685 | ![]() | เครื่องชงยอดนิยม ใช้งานง่าย ปรับระดับไอน้ำได้ มีก้านตีฟองนม | Home-use / แบบพกพา | สเตนเลส | 14.9 x 30 x 30.3 ซม. | - | 1.1 ลิตร | - | - | 15 บาร์ | ฟิวเตอร์, ท่อสตรีม, ก้านชง | 40 วินาที | 1350 วัตต์ | - | |||||||
5 | Nespresso Nespresso ATELIER | ![]() | ระบบตีฟองนมได้ทั้งแบบร้อนและเย็น ใช้ได้ทั้งนมวัวและนมธัญพืช | Home-use | - | 43.4 x 27.9 x 11.9 ซม. | 3.92 kg | 1 ลิตร | - | - | 19 บาร์ | ถังบรรจุน้ำ, ฐานรองแก้ว, แก้วมัค, ก้านปั่นฟองนม | - | 1.5 วัตต์ | 2 ปี | |||||||
6 | HAFELE HAFELE Capsule coffee | ![]() | เครื่องกาแฟคุณภาพดี ผลิตจาก BPA Free ที่ดีปลอดภัยต่อร่างกาย | Home-use | พลาสติก BPA Free | 30.4 x 11.5 x 20.5 ซม. | - | 0.7 ลิตร | - | - | 20 บาร์ | - | - | 1,400 วัตต์ | 1 ปี | |||||||
7 | Verasu Verasu Homemate HOM-264082 | ![]() | เครื่องกาแฟขนาดกะทัดรัด สามารถอุ่นกาแฟพร้อมดื่มได้ตลอดเวลา | Home-use | พลาสติก | 13.5 x 19 x 24 ซม. | - | 0.7 ลิตร | - | - | - | ฟิลเตอร์, โถแก้ว | - | 600 วัตต์ | 1 ปี | |||||||
8 | Xiaomi Xiaomi Capsule Coffee Machine N1 | ไม่มีสินค้า | ||||||||||||||||||||
9 | Verasu เครื่องชงกาแฟ |BUO-260617 | ![]() | บดเมล็ดได้ทั้งแบบหยาบและละเอียด มีโหมดอุ่นกาแฟ | Home-use | พลาสติก | 22.5 x 30 x 33 ซม. | 3.4 kg | 0.6 ลิตร | - | - | - | โถกาแฟ | - | 900 วัตต์ | 1 ปี | |||||||
10 | BUONO BUONO BUO-265021 | ไม่มีสินค้า |
เครื่องชงกาแฟที่มีดีไซน์สวยงาม ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสคุณภาพดี ตอบโจทย์คอกาแฟได้เป็นอย่างมาก สามารถรังสรรค์เมนูกาแฟได้หลากหลายเมนู จุดเด่นคือมีฟังก์ชัน Pre-Infusion Time ที่ช่วยดึงประสิทธิภาพในรสชาติของกาแฟได้ดี พร้อมทั้งยังสัมผัสถึงกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟได้อีกด้วย ก้านชงมีขนาด 58 มม. ใช้งานได้สะดวก และตัวคันโยกยังทำการควบคุมความเร็วการไหลของน้ำได้ดีอีกด้วย ตัวเครื่องสามารถชงกาแฟได้ต่อเนื่องมากถึง 20 แก้ว และชงได้สูงถึง 200 แก้วเลยทีเดียว เหมาะกับการติดตั้งในสำนักงาน ติดไว้กับครัวที่บ้าน หรือธุรกิจคาเฟ่ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาพักเครื่องเพื่อช่วยประหยัดไฟได้ รวมถึงยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
ประเภท | Home-use |
---|---|
วัสดุตัวเครื่อง | สเตนเลส |
ขนาดตัวเครื่อง | 29.7 x 51.7 x 41 ซม. |
น้ำหนัก | 37.9 kg |
ความจุถังน้ำ | 2.5 ลิตร |
ความจุหม้อต้มกาแฟ | 1.5 ลิตร |
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ | - |
แรงดัน | 9 บาร์ |
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่อง | ก้านชง, ท่อสตรีม |
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน | - |
กำลังไฟฟ้า | 1660 วัตต์ |
รับประกัน | 1 ปี |
ระบบหม้อต้มแบบคู่ | |
เปลี่ยนหัวชงได้ | |
มีท่อสำหรับสตีมนม | |
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน | |
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน | |
ระบบป้องกันแรงดันเกิน |
Nescafe Dolce Gusto เป็นเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่คุณภาพเทียบเท่ากับเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่ ช่วยประหยัดพื้นที่และเวลาในการชงกาแฟได้ดี ใช้เวลาในการชงไม่นาน ตอบโจทย์ชั่วโมงเร่งรีบ สะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งาน เพียงใส่แคปซูลกาแฟแล้วกดปุ่มก็สามารถดื่มกาแฟได้ทันที โดยเครื่องชงกาแฟรุ่นนี้สามารถปรับอุณหภูมิได้ถึง 4 ระดับ มีโหมดประหยัดพลังงานหรือระบบเตือนให้ล้างทำความสะอาดด้วย
ประเภท | Home-use / แบบพกพา |
---|---|
วัสดุตัวเครื่อง | - |
ขนาดตัวเครื่อง | 11 x 27 x 29 ซม. |
น้ำหนัก | 2 kg |
ความจุถังน้ำ | 0.8 ลิตร |
ความจุหม้อต้มกาแฟ | - |
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ | - |
แรงดัน | 15 บาร์ |
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่อง | แท่นสำหรับวางแก้วน้ำ, กระบอกใส่น้ำ |
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน | - |
กำลังไฟฟ้า | - |
รับประกัน | - |
ระบบหม้อต้มแบบคู่ | |
เปลี่ยนหัวชงได้ | |
มีท่อสำหรับสตีมนม | |
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน | |
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน | |
ระบบป้องกันแรงดันเกิน |
ประเภท | Home-use |
---|---|
วัสดุตัวเครื่อง | สเตนเลส, พลาสติก |
ขนาดตัวเครื่อง | 26 x 21 x 29 ซม. |
น้ำหนัก | 3.4 kg |
ความจุถังน้ำ | 1.6 ลิตร |
ความจุหม้อต้มกาแฟ | - |
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ | - |
แรงดัน | 20 บาร์ |
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่อง | ก้านชง, ช้อนตัก, ถ้วยกรอง, ท่อสตรีม, กดกาแฟ |
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน | - |
กำลังไฟฟ้า | 1050 วัตต์ |
รับประกัน | 1 ปี |
ระบบหม้อต้มแบบคู่ | |
เปลี่ยนหัวชงได้ | |
มีท่อสำหรับสตีมนม | |
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน | |
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน | |
ระบบป้องกันแรงดันเกิน |
เครื่องชงกาแฟรุ่นนี้สามารถชงกาแฟได้ทั้งแบบผงและแบบ POD ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสเคลือบด้วยสีเมทาลิคที่มีความด้าน ดีไซน์สวยงาม มีความทนทาน จุดเด่นคือมีฟังก์ชันทำความร้อน Thermoblock สามารถควบคุมความร้อนและสามารถปรับระดับไอน้ำได้หรือฟองนมได้ ช่วยให้ดึงประสิทธิภาพของกาแฟได้ดี ทำให้กาแฟ Espresso มีความเข้มข้น มีกลิ่นหอม และรสชาติกลมกล่อม ทั้งนี้ยังมีหัวทำฟองนม สามารถทำเมนูกาแฟอื่น ๆ ได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีแรงดันถึง 15 บาร์ เทียบเท่ากับเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่ รวมถึงยังมีฟังก์ชัน Dual Safe System ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อการใช้งานและยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
ประเภท | Home-use / แบบพกพา |
---|---|
วัสดุตัวเครื่อง | สเตนเลส |
ขนาดตัวเครื่อง | 14.9 x 30 x 30.3 ซม. |
น้ำหนัก | - |
ความจุถังน้ำ | 1.1 ลิตร |
ความจุหม้อต้มกาแฟ | - |
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ | - |
แรงดัน | 15 บาร์ |
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่อง | ฟิวเตอร์, ท่อสตรีม, ก้านชง |
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน | 40 วินาที |
กำลังไฟฟ้า | 1350 วัตต์ |
รับประกัน | - |
ระบบหม้อต้มแบบคู่ | |
เปลี่ยนหัวชงได้ | |
มีท่อสำหรับสตีมนม | |
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน | |
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน | |
ระบบป้องกันแรงดันเกิน |
อีกหนึ่งเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล โดยรุ่น ATELIER นี้นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา บรรจุน้ำได้ถึง 1 ลิตร และบรรจุแคปซูลได้ถึง 13 อัน มีแรงดันน้ำสูงถึง 19 บาร์ จุดเด่นของเครื่องกาแฟรุ่นนี้คือจะมีระบบตีฟองนมที่สามารถใช้งานกับนมวัวและนมธัญพืชได้ ขึ้นฟองเนียนสวยงาม อีกทั้งยังใช้ได้ทั้งอุณหภูมิแบบร้อนและเย็น มีระบบการใช้งานที่ง่าย เพียงสัมผัสปุ่มก็สามารถเลือกชนิดของกาแฟได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น เอสเปรชโซ, คาปูชิโน่, ลาเต้ และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีดีไซน์แบบเคลือบสเตนเลสที่มีความสวยแบบเรียบหรู ตัวเครื่องเล็กสามารถวางในห้องที่ทำงานได้อีกด้วย
ประเภท | Home-use |
---|---|
วัสดุตัวเครื่อง | - |
ขนาดตัวเครื่อง | 43.4 x 27.9 x 11.9 ซม. |
น้ำหนัก | 3.92 kg |
ความจุถังน้ำ | 1 ลิตร |
ความจุหม้อต้มกาแฟ | - |
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ | - |
แรงดัน | 19 บาร์ |
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่อง | ถังบรรจุน้ำ, ฐานรองแก้ว, แก้วมัค, ก้านปั่นฟองนม |
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน | - |
กำลังไฟฟ้า | 1.5 วัตต์ |
รับประกัน | 2 ปี |
ระบบหม้อต้มแบบคู่ | |
เปลี่ยนหัวชงได้ | |
มีท่อสำหรับสตีมนม | |
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน | |
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน | |
ระบบป้องกันแรงดันเกิน |
สำหรับคอกาแฟและเป็นสายสุขภาพ ขอแนะนำเครื่องชงกาแฟแคปซูลรุ่นนี้ที่ตัวเครื่องที่ผลิตจากพลาสติก BPA Free ที่มีความปลอดภัยต่อร่างกายและสุขภาพ มีปุ่มสัมผัส 3 ปุ่ม สามารถเลือกกาแฟที่แตกต่างกัน ได้แก่ Ristretto, Espresso และ Lungo สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวก ช่วยประหยัดเวลา พร้อมทั้งดื่มกาแฟรสชาติที่เข้มข้นกลมกล่อมอย่างดี ฟังก์ชันระบบเป็นแบบ LED มีโหมดประหยัดพลังงาน จะปิดทำงานอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งานใน 9 นาที อีกทั้งยังมีจุดเด่นที่กล่องถาดรองน้ำที่ปรับระดับความสูงเพื่อให้วางแก้วน้ำได้หลากหลายขนาด ทั้งนี้ตัวฐานเครื่องมีตัวดูดยึดเกาะได้ดี ทำงานได้เงียบและไม่สั่นสะเทือนระหว่างใช้งานอีกด้วย
ประเภท | Home-use |
---|---|
วัสดุตัวเครื่อง | พลาสติก BPA Free |
ขนาดตัวเครื่อง | 30.4 x 11.5 x 20.5 ซม. |
น้ำหนัก | - |
ความจุถังน้ำ | 0.7 ลิตร |
ความจุหม้อต้มกาแฟ | - |
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ | - |
แรงดัน | 20 บาร์ |
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่อง | - |
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน | - |
กำลังไฟฟ้า | 1,400 วัตต์ |
รับประกัน | 1 ปี |
ระบบหม้อต้มแบบคู่ | |
เปลี่ยนหัวชงได้ | |
มีท่อสำหรับสตีมนม | |
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน | |
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน | |
ระบบป้องกันแรงดันเกิน |
เครื่องชงกาแฟขนาดกะทัดรัด เหมาะกับคอกาแฟสไตล์มินิมอลเป็นอย่างดี จุดเด่นของเครื่องกาแฟรุ่นนี้จะมีโถเก็บกาแฟที่สามารถอุ่นกาแฟได้ตลอดเวลา ช่วยให้พร้อมดื่มได้ทันที และยังสามารถชงได้มากถึง 6 แก้วต่อครั้ง ตัวโถแก้วมีขีดบอกระดับปริมาณกาแฟและยังออกแบบให้มีด้ามจับที่เหมาะกับสรีระของมือ ช่วยให้ใช้งานได้สะดวก ทั้งนี้ยังมีฟังก์ชันสวิตช์ในการปิด-เปิด และไฟที่แสดงการทำงานขณะชงหรืออุ่นกาแฟ ภายในเครื่องมีตัวกรอง ช่วยให้ดื่มกาแฟ Espresso ได้โดยไม่มีเศษผงกาแฟรบกวน นอกจากนี้ตัวฟิลเตอร์กรองสามารถถอดล้างและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ช่วยประหยัดค่ากระดาษกรองได้อีกด้วย
ประเภท | Home-use |
---|---|
วัสดุตัวเครื่อง | พลาสติก |
ขนาดตัวเครื่อง | 13.5 x 19 x 24 ซม. |
น้ำหนัก | - |
ความจุถังน้ำ | 0.7 ลิตร |
ความจุหม้อต้มกาแฟ | - |
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ | - |
แรงดัน | - |
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่อง | ฟิลเตอร์, โถแก้ว |
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน | - |
กำลังไฟฟ้า | 600 วัตต์ |
รับประกัน | 1 ปี |
ระบบหม้อต้มแบบคู่ | |
เปลี่ยนหัวชงได้ | |
มีท่อสำหรับสตีมนม | |
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน | |
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน | |
ระบบป้องกันแรงดันเกิน |
เครื่องชงกาแฟพร้อมเครื่องบดกาแฟ BUONO รุ่นนี้ มีโหมดในการบดเมล็ดกาแฟ 2 โหมด ได้แก่ บดหยาบและบดละเอียด เพื่อให้ได้ความเข้มของกาแฟ Espresso ได้ตามต้องการ มีจุดเด่นที่มีระบบสลับการทำงานเพื่อให้โถอุ่นกาแฟทำงานหลังจากเสร็จสิ้นการชงและตัดการทำงานอัตโนมัติหลังอุ่น 40 นาที สามารถชงกาแฟได้มากถึงครั้งละ 4 แก้ว ต่อกาแฟประมาณ 36 กรัม ตัวเครื่องการทำความร้อนได้ไว ทำกาแฟได้ง่ายและรวดเร็ว ตอบโจทย์ในชั่วโมงเร่งรีบ เหมาะกับห้องทำงาน สำนักงาน หรือในบ้านเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีน้ำหนักเบา ทำความสะอาดได้สะดวก
ประเภท | Home-use |
---|---|
วัสดุตัวเครื่อง | พลาสติก |
ขนาดตัวเครื่อง | 22.5 x 30 x 33 ซม. |
น้ำหนัก | 3.4 kg |
ความจุถังน้ำ | 0.6 ลิตร |
ความจุหม้อต้มกาแฟ | - |
ความจุหม้อต้มสำหรับไอน้ำ | - |
แรงดัน | - |
อุปกรณ์ที่มาพร้อมเครื่อง | โถกาแฟ |
เครื่องพร้อมใช้งานในเวลาไม่เกิน | - |
กำลังไฟฟ้า | 900 วัตต์ |
รับประกัน | 1 ปี |
ระบบหม้อต้มแบบคู่ | |
เปลี่ยนหัวชงได้ | |
มีท่อสำหรับสตีมนม | |
มีที่อุ่นถ้วยกาแฟด้านบน | |
ก้านสตีมแบบไม่ร้อน | |
ระบบป้องกันแรงดันเกิน |
อันดับที่ 1: Duchess|Duchess Coffee Machine CM1270W
อันดับที่ 2: NESCAFE|Nescafe Dolce Gusto
อันดับที่ 3: SKG|SK-1208
อันดับที่ 4: De'Longhi |De'Longhi Pump Espresso Dedica Set EC685
อันดับที่ 5: Nespresso|Nespresso ATELIER
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ