ปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจในการปลูกพืชผักสวนครัวเองกันมากขี้น เพราะเมื่อได้เฝ้ามองพืชผลเหล่านั้นออกดอก ออกผล ก็จะทำให้รู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ ทั้งยังได้ทานผักที่มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยและความสดใหม่ อย่างไรก็ตาม การจะทำให้พืชผักเจริญเติบโตได้ดีนั้นจำเป็นจะต้องเตรียมการหลาย ๆ อย่าง ซึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ "ปุ๋ยผัก" ที่จะเป็นตัวช่วยให้พืชผักได้รับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตนั่นเอง
ปุ๋ยผักนั้นมีอยู่หลายรูปแบบให้เลือกใช้ทั้งแบบน้ำและแบบเม็ด ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกปุ๋ยผักให้เหมาะกับพืชผักสวนครัวโดยมาพร้อมคำแนะนำจากผู้จำหน่ายและเพาะเนื้อเยื่อต้นไม้ นอกจากนี้ เรายังได้รวบรวม 10 อันดับ ปุ๋ยผัก สูตรต่าง ๆ มาแนะนำกันอีกด้วย
Top 5 ปุ๋ยผัก ยอดนิยม
คุณแป๋มเริ่มปลูกต้นไม้เป็นงานอดิเรกมาตั้งแต่ปี 2019 จนสร้างรายได้ให้กับตนเองได้สูงกว่างานประจำ โดยต้นไม้ที่เลือกปลูกในช่วงแรกจะมีทั้งไม้ยืนต้น ไม้ดอกและไม้ใบเพื่อเป็นการสะสมความรู้และประสบการณ์ จนกระทั่งมีความชำนาญด้านการตอนกิ่ง ชำกิ่ง ทั้งต้นมะนาว เลม่อนและไม้ผลหลายชนิด ทำให้คุณแป๋มมีโอกาสได้เป็นผู้จัดการฟาร์มเลม่อนขนาดพื้นที่ 21 ไร่ รวมมากกว่า 500 ต้นในปีถัดมา ส่วนตัวแล้วคุณแป๋มชอบการปลูกไม้ที่โตไว เลี้ยงง่ายและทนต่อสภาพอากาศ ซึ่งต้นไม้ที่พลิกชีวิตและทำรายได้ให้มากเป็นอันดับ 1 คือ ตระกูลฟิโลเดนดรอน ที่ใช้วิธีเพาะเนื้อเยื่อเป็นเวลา 1 - 2 เดือน และทำการจำหน่ายเป็นต้นชำใส่กระถาง จากประสบการณ์ทั้งหมดนี้ทำให้คุณแป๋มมีความรู้ความเข้าใจในการปลูกต้นไม้ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับประเภทและลงลึกไปถึงมาตรฐานคุณภาพ แบรนด์ของวัสดุอุปกรณ์ ตลอดจนเรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคาที่ต้องคำนึงเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าในการปลูกต้นไม้นั้นเราต้องมีต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญ จึงยึดหลักนี้ในการเพาะปลูกและจำหน่ายต้นไม้จริงมาตลอด
คุณปูเป็นนักเขียนอิสระและแม่บ้าน โดยในยามว่างจะชอบศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก อ่านรีวิวสินค้าเพื่อคัดสรรผลิตภัณฑ์ดี ๆ มาใช้ในบ้าน รวมถึงในชีวิตประจำวันของลูกด้วย ในส่วนของงานอดิเรกนั้นคุณปูชอบงานถักเชือกมาคราเม่เป็นพิเศษ จนเกิดเป็นงานฝีมือหลากหลายชนิดสำหรับใช้ตกแต่งบ้านและสวน รวมถึงอุปกรณ์ของใช้ในบ้าน โดยทั้งทำขายด้วยตัวเองและเป็นผู้ออกแบบลวดลายเชือกถักสำหรับแขวนกระถางต้นไม้ให้กับบริษัทส่งออกและยังหลงใหลในงาน DIY ไม่ว่าจะเป็นงานเย็บ ปัก ถัก ร้อย จึงคอยศึกษาหาความรู้และเทคนิคเพื่อพัฒนาฝีมืออยู่เสมอ ปัจจุบันคุณปูได้ย้ายกลับมาอยู่บ้านเกิดที่จังหวัดเลยเพื่อพัฒนาเทือกสวนไร่นาของบรรพบุรุษด้วยการทำเกษตรวิถีใหม่ ปรับปรุงพื้นที่รอบบ้านให้มีบ่อเลี้ยงปลา หมักปุ๋ย ปลูกไม้ยืนต้นและผักสวนครัว เพื่อนำมาทานในครอบครัวพร้อมแบ่งปันเพื่อนบ้าน โดยส่วนตัวแล้วมีความชื่นชอบการปลูกต้นไม้ด้วย จึงต่อยอดด้วยการตกแต่งสวน ปรับภูมิทัศน์ให้ที่พักอาศัยมีความร่มรื่น สวยงามเพื่อใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้อย่างมีความสุข
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
ปุ๋ย (Fertilizer) เป็นวัสดุชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งจากธรรมชาติและสังเคราะห์ด้วยวิธีการทางวิทยาศาตร์ ในอดีตมนุษย์เริ่มต้นจากการใช้ปุ๋ยที่มาจากสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยคอก (Manure) ซึ่งได้จากมูลสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น มูลวัว, มูลไก่, มูลค้างคาว เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาให้เกิดเป็นปุ๋ยหมัก(Compost) ด้วยหลักการทางวิทยาศาตร์ โดยการนำเศษซากพืชซากสัตว์มาหมักรวมกันภายใต้สภาวะที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ความชื้น ออกซิเจน คาร์บอนและไนโตรเจน เพื่อให้จุลินทรีย์ทำการย่อยสลายจนเกิดเป็นธาตุอาหาร สำหรับนำไปใช้ในการปรับปรุงดิน (Soil Conditioner)
โดยปุ๋ยดังกล่าวจะถูกเรียกว่าปุ๋ยอินทรีย์ (Organic fertilizer) หรือปุ๋ยชีวภาพ (Biofertilizers) ซึ่งมีปริมาณของธาตุอาหารอยู่ครบ แต่มีน้อย จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยคราวละจำนวนมาก จึงจะเพียงพอต่อความต้องการของพืช จนต่อมาได้มีการคิดค้นปุ๋ยเคมี(Inorganic Fertilizer) เพื่อการเกษตรในระดับอุตสาหกรรม ซึ่งปุ๋ยเคมีจะมีความแม่นยำเกี่ยวกับปริมาณของสารอาหาร สามารถกำหนดธาตุอาหารได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งละลายน้ำได้รวดเร็ว ทำให้พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที
สำหรับคุณสมบัติสำคัญของปุ๋ย คือการปรับปรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นอาหารของพืช (Plant Food) ซึ่งประกอบด้วยสารอาหารหลักและสารอาหารรอง ที่จำเป็นต่อพืชพันธุ์ในปริมาณที่เหมาะสม ตามระยะเวลาการเติบโตของพืช เช่น ระยะแตกใบอ่อน ระยะออกดอกหรือระยะติดผลค่ะ
แน่นอนว่า ทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้คงต้องการปลูกพืชผักสวนครัวไว้ทำอาหารหรือปลูกเพื่อทำการเกษตรกันอย่างแน่นอน ดังนั้นความรู้ชุดนี้จะเป็นการอธิบายให้เห็นภาพ พร้อมแชร์ความรู้สูตรของปุ๋ยรวมทั้งประโยชน์ของสารอาหารจากปุ๋ยให้ด้วย
สำหรับมือใหม่ที่เริ่มปลูกพืชผักเราขออธิบายเบื้องต้นแบบง่าย ๆ ว่าปุ๋ยมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยอนินทรีย์ โดยมีทั้งแบบน้ำและแบบเม็ดให้เลือกใช้งาน แต่ในด้านราคาและประสิทธิภาพนั้นจะต่างกันค่อนข้างมาก อันดับแรกผู้ปลูกหรือเกษตรกรควรทราบก่อนว่าต้นไม้พืชพันธุ์ที่จะปลูกนั้นต้องการสารอาหารบำรุงส่วนใด เพื่อที่จะได้เลือกประเภทของปุ๋ยได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากที่สุดตามลักษณะการใช้งาน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
แน่นอนว่าปุ๋ยทุกชนิดล้วนให้คุณค่าสารอาหารแก่พืชผัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องเลือกประเภทให้มีความเหมาะสมสำหรับระยะการเติบโตของพืชด้วย รวมไปถึงความเหมาะสมในขั้นตอนการเตรียมวัสดุปลูกด้วย ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณเรียงลำดับการใช้ประเภทปุ๋ยให้เหมาะสม ดังนี้
สาเหตุที่ควรตรวจสอบถึงสมดุลของแร่ธาตุเหล่านี้ เนื่องจากว่าทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมนั้นล้วนแล้วแต่เป็นหัวใจหลักสำหรับการเจริญเติบโตของพืชผักนั่นเอง โดยแต่ละแร่ธาตุก็มีคุณสมบัติที่ส่งผลต่อพืชผักได้แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้
การเจริญเติบโตของพืชผักโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้อาหารประเภทไนโตรเจนและฟอสฟอรัสเป็นหลักเพื่อช่วยให้พืชผัก มีลำต้นอวบ มีใบเขียว รวมถึงเป็นการเพิ่มรากให้แขนงกระจายออกไปให้มากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันพืชผักที่เน้นใบเขียว ควรเน้นเป็นสูตรไนโตรเจน เช่น โหระพา ผักกาดหอม ผักคะน้า รวมไปถึงตระกูลผักสลัด เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเร่งการเจริญเติบโตให้มีใบเขียวเข้มดูน่ารับประทานแล้ว ควรใส่ปุ๋ยสูตร 16-11-14 , 46-0-0 , 21-0-0 ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถแจ้งทางร้านที่จำหน่ายได้ตามสูตรที่ระบุ ส่วนในด้านของยี่ห้อปุ๋ยนั้นควรให้ทางร้านแนะนำตามความเหมาะสม
ฟอสฟอรัสและแมกนีเซียม ธาตุอาหารสองตัวนี้จะมีการทำงานร่วมกัน ส่งเสริมกันในทุกระยะ เริ่มจากฟอสฟอรัสที่จะช่วยเรื่องกระตุ้นรากเพื่อลำเลียงอาหารเข้าสู่ลำต้น ส่วนแมกนีเซียมจะช่วยในเรื่องการสังเคราะห์แสง ทำให้ต้นและใบโตไวกว่าปกติ รวมทั้งยังส่งผลไปถึงความสมบูรณ์ของพืชผลที่จะเกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ฟอสฟอรัสยังมีหน้าที่ช่วยเสริมตาดอกให้ติดผลมากขึ้นอีกด้วย สำหรับพืชผักที่ให้ผลนั้น ได้แก่ พริก มะเขือเทศ มะนาว ฟักทอง เป็นต้น โดยควรเลือกใช้สูตรปุ๋ย 12-24-12 และ 8-24-24
คุณประโยชน์ของโพแทสเซียมเปรียบเหมือนภูมิคุ้มกันโรคในมนุษย์และเป็นตัวกระตุ้นสารอาหารทุกชนิดให้ขึ้นไปบำรุงส่วนต่าง ๆของพืชผัก แต่สำหรับพืชผักที่มีหัวใต้ดินแล้วโพแทสเซียมจะมีประโยชน์เพิ่มเติมไปกว่านั้นคือ การสังเคราะห์น้ำตาลและแป้ง ทำให้พืชผักที่มีหัวใต้ดิน เช่น มัน เผือก หรือหัวไชเท้า มีหัวใหญ่และมีน้ำหนักดี ทั้งนี้น้ำที่ใช้ในการเกษตรก็มีผลค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าเลือกได้ขอแนะนำให้ใช้น้ำฝนหรือน้ำฝนที่ถูกกักเก็บใว้ในบ่อพัก เพราะในน้ำฝนจะมีธาตุไนโตรเจนสูงและมีประโยชน์เทียบเท่ากับปุ๋ยยูเรีย โดยสูตรปุ๋ยโพแทสเซียมที่เหมาะสมก็คือ 0-0-60 เป็นต้น
สำหรับคนที่รักสุขภาพการควบคุมอาหารเป็นเรื่องสำคัญ และหนึ่งในเมนูยอดฮิตคือสลัดนั่นเอง ซึ่งเราควรใส่ใจในคุณภาพของผักที่รับประทานทุกวัน สำหรับปุ๋ย AB นั่นเป็นปุ๋ยเคมีที่ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สามารถจางหายก่อนเก็บผลผลิตได้ภายใน 2 - 3 วัน โดยการใช้งานปุ๋ย AB นั้นเราจะแยกออกเป็น 2 Stock (A และ B) เพื่อแยกสารเคมีที่ต่างกัน
สำหรับเหตุผลที่ไม่นำสารเคมีมารวมกันก็เพราะเมื่อทำการผสมซ้ำซ้อน พืชผักจะได้รับค่าไนเตรทในปริมาณที่มากเกินไป และเมื่อรับประทานในปริมาณมากก็มีความเสี่ยงที่อาจทำให้ร่างกายได้รับสารก่อมะเร็งได้ในระยะยาว ในส่วนของสูตรปุ๋ย AB ที่ควรใช้จะแยกออกเป็น 2 ถัง ดังนี้
แน่นอนว่าการเลือกปุ๋ยที่เหมาะกับพืชโดยตรงย่อมส่งผลดี เพราะจะทำให้ผักได้รับแร่ธาตุที่เหมาะสมช่วยให้ผักมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ เนื่องจากได้รับสารอาหารไปดูแลอย่างตรงจุด โดยหลัก ๆ สามารถจำแนกปุ๋ยให้เหมาะสมกับพืชผักได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
ตามท้องตลาดได้มีการคิดค้นสูตรปุ๋ยที่มีความเฉพาะเจาะจงจากนักวิชาการเกษตร หรือเจ้าของสวนที่ทำการเพาะปลูกผักชนิดนั้นมาเป็นระยะเวลานาน จนได้เข้าใจลักษณะนิสัยของผักเป็นอย่างดี ทำให้สามารถคิดค้นสูตรปุ๋ยที่มีความเหมาะสมเป็นพิเศษ เช่น ปุ๋ยสำหรับเมล่อน, ปุ๋ยสำหรับพริก, ปุ๋ยสำหรับผักสลัด เป็นต้น ปุ๋ยสูตรบำรุงพิเศษนี้ ช่วยให้พืชมีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ ทั้งยังช่วยให้ผู้ปลูกสามารถเลือกซื้อได้ง่าย โดยไม่ต้องมีความรู้เรื่องธาตุอาหารเลยยังได้
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | INSAY ORGANIC ปุ๋ยผัก สำหรับผักใบเขียว | ![]() | น้ำหมัก สกัดจากธัญพืช เน้นบำรุงใบ แข็งแรง ใหญ่ ดก เขียวเข้ม | |
2 | Super Grow ปุ๋ยผัก ไฮโดรโปนิกส์ | ![]() | สำหรับผักใบเขียว ทั้งปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์และลงดิน ให้พืชงาม | |
3 | ช่องาม ปุ๋ยผัก สูตรเร่งผล | ![]() | ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดเม็ด ใช้สะดวก ธาตุอาหารเหมาะสม บำรุงผลให้โต | |
4 | ชาลีเฟรท ปุ๋ยผัก เร่งความหวานในไม้ผล | ![]() | บำรุงผล เพิ่มขนาด เร่งความหวาน สีเข้ม เพื่อผลผลิตที่สมบูรณ์ | |
5 | บูม 99 ปุ๋ยผัก ปุ๋ยเคมีบำรุงหัว | ![]() | บำรุงพืชให้หัวใหญ่ เร่งสะสมอาหาร ทนแล้งได้ ปราศจากสารพิษ | |
6 | กิฟฟารีน ปุ๋ยผัก Grow Max N-P-K | ![]() | มีสารอาหารพัฒนาราก สร้างหัวสมบูรณ์เต็มที่ ได้ผลผลิตเต็มหน่วย | |
7 | YARA ปุ๋ยผัก ยารามีร่า ขนาด 1 กิโลกรัม | ![]() | สูตรเสมอ ใช้ได้กับพืชผักทุกชนิด เร่งราก ดอก ใบ ไปพร้อมกัน | |
8 | Tarocat ปุ๋ยผัก Plant Food | ![]() | น้ำหมักชีวภาพ ออร์แกนิก สูตรรดโคนต้น เหมาะกับพืชทุกชนิด | |
9 | ทุ่งเศรษฐี ปุ๋ยผัก : ปุ๋ยเคมี ทุ่งเศรษฐี เบอร์ 12 | ![]() | ปุ๋ยผักชนิดเม็ด ประเภทอนินทรีย์หรือปุ๋ยผักเคมี ราคาย่อมเยา | |
10 | เรือใบไข่มุก ปุ๋ยผัก ปุ๋ยเคมีไข่มุกบลู | ![]() | คุณภาพดี ผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนกำกับอย่างถูกต้อง |
ปุ๋ยสำหรับผักใบเขียว INSAY ORGANIC มีส่วนผสมสำคัญด้วยสารสกัดจากถั่วชนิดต่าง ๆ จึงมีธาตุอาหารที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของผักกินใบ ไม่ว่าจะเป็นธาตุไนโตรเจน กรดอะมิโนโปรตีนและวิตามิน ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ช่วยส่งเสริมใบให้มีความแข็งแรง สมบูรณ์ พร้อมทั้งกระตุ้นระบบรากให้ดูดซึมสารอาหาร ไปเลี้ยงก้านใบและใบได้ดียิ่งขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำด้วยการผสมน้ำ ในอัตราส่วนอินเซส์ออร์แกนิค 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่า 5 - 10 ลิตร ใช้ฉีดพ่นใต้ใบหรือรดผักอาทิตย์ละ 1 ครั้ง จะช่วยให้ผักใบเขียวของคุณดูงอกงาม ใบใหญ่และเขียวเข้ม ทานอร่อยและปลอดภัยอีกด้วย
การปลูกผักใบเขียวทั้งในระบบไฮโดรโปนิกส์และปลูกลงดินแบบทั่วไป สามารถเลือกใช้ปุ๋ย AB Super GroW เพื่อนำมาบำรุงผักในแปลงปลูกของคุณได้ โดยปุ๋ยดังกล่าวนี้จะมีธาตุอาหารหลักสำคัญ และธาตุอาหารรองที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของผัก ซึ่งปุ๋ยสต๊อค A และ B นี้ ต้องนำมาละลายน้ำแล้วผสมรวมกัน ก่อนนำไปใช้กับพืชผัก ซึ่งหากปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์สามารถเทลงรางปลูกเพื่อให้พืชดูดซึมไปเลี้ยงลำต้นและใบได้เลย ส่วนการปลูกผักบนแปลงดินมักใช้วิธีการฉีดพ่นทางใบ เพื่อให้ผักได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน แตกยอด ผลิใบ อย่างสวยงามค่ะ
ปุ๋ยอินทรีย์ในรูปแบบเม็ด ยี่ห้อช่องาม เหมาะกับผู้ที่ปลูกผักสำหรับทานผล เช่น แตงกวา, ถั่วฝักยาว, ฟักทองหรือผลไม้ชนิดต่าง ๆ หากต้องการบำรุงพืชผักในแปลงให้ออกผลได้เต็มที่ ปุ๋ยสูตรเร่งผลตัวนี้สามารถช่วยบำรุงดินให้มีความร่วนซุย ปรับสภาพแวดล้อมของดินให้มีความเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของผัก พร้อมทั้งช่วยให้รากนำสารอาหารขึ้นไปบำรุงผลได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความสมดุลให้ผลโตมีความสมบูรณ์และรสชาติหวานอร่อย สำหรับวิธีการให้ปุ๋ยผักช่องาม ทำได้ด้วยการโรยบริเวณต้นทุก 15 วัน ปุ๋ยผักตัวนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผักปลอดสารเคมีค่ะ
ปุ๋ยตราชาลีเฟรท สูตร 0-0-50+18(S) ปุ๋ยเกรดดี มีคุณภาพ เหมาะกับสวนที่ปลูกพืชผักสำหรับทานผล เช่น แตงโม ฟักทอง เมล่อน ถั่วฝักยาว แตงกวา ฯลฯ โดยปุ๋ยสูตรนี้มีความพิเศษในการบำรุงผลให้มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเพิ่มสีสันให้ผลไม้ดูน่ารับประทาน รวมไปถึงการเพิ่มแป้งและน้ำตาล ทำให้ผลผลิตที่ได้มีรสชาติหวานอร่อย ส่วนวิธีการใส่ปุ๋ย ผู้ปลูกควรนำปุ๋ยไปละลายน้ำแล้วฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วัน จะช่วยให้พืชนำสารอาหารไปใช้ได้ทันที นอกจากนี้ปุ๋ยชาลีเฟรทมีคุณสมบัติในการละลายกับน้ำได้ดี ทั้งยังไม่ตกตะกอนจึงยังคงประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นค่ะ
หากคุณปลูกพืชหัวไม่ว่าจะเป็น แครอท มันเทศ มันสำปะหลัง แล้วกำลังต้องการปุ๋ยสำหรับเร่งการเจริญเติบโตของหัวโดยเฉพาะ ขอแนะนำปุ๋ยน้ำ บูม 99 โดยปุ๋ยตัวนี้มีข้อดีทั้งในแง่ของธาตุอาหารที่มีครบถ้วน ช่วยแก้ปัญหาดินเสื่อม เพิ่มจุลินทรีย์ พร้อมทั้งมีโมเลกุลขนาดเล็ก จึงทำให้พืชสามารถดูดซึมแร่ธาตุไปใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ยังเสริมสร้างให้พืชมีความแข็งแรง ต้านทานศัตรูพืชได้ดียิ่งขึ้น เมื่อต้องการใช้งานให้ผสมปุ๋ยบูม 99 ในอัตราส่วน 20 cc ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วนำไปฉีดพ่นทางใบในช่วงที่พืชโตเต็มที่ จะช่วยเพิ่มขนาดและน้ำหนักของผลผลิตให้มากขึ้นกว่าปกติค่ะ
ปุ๋ยเกล็ด กิฟฟารีน โกรแม็กซ์ สูตร 3-53-17 เหมาะสำหรับการบำรุงพืชในช่วงที่กำลังจะออกผลหรือสร้างหัวใต้ดิน หากผู้ปลูกใส่ปุ๋ยสูตรนี้จะช่วยให้พืชมีการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม ด้วยกระบวนการหยุดการสร้างใบและลำต้น เพื่อนำสารอาหารไปเร่งผลผลิตในส่วนหัว ให้เกิดการขยายและเติบโตเต็มที่ ปุ๋ยแบรนด์ Giffarine ได้สร้างประสบการณ์ที่ดีจนเกิดความเชื่อมั่นในบรรดาเจ้าของสวนที่เคยใช้งาน ดังนั้นจึงเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการปุ๋ยเคมีในการบำรุงพืช ไม่ว่าจะเป็น หัวหอม มันเทศ แครอท ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ได้อีกด้วยค่ะ
ปุ๋ยเคมียารามีร่า สูตรเสมอ ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักทั้งไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ในปริมาณที่เท่ากัน โดยสูตรเดียวนี้สามารถใช้บำรุงต้นพืชได้ทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงราก บำรุงใบ รวมไปถึงดอกและผลด้วย จึงเป็นที่นิยมของเกษตรกรโดยส่วนมาก ในปุ๋ย YARA ยังช่วยกระตุ้นให้พืชมีความแข็งแรง สามารถต้านทานต่อโรคและแมลงได้ดี อีกทั้งในยารามีร่ายังมีโพแทสเซียม ซึ่งช่วยเสริมสร้างให้พืชทนกับความแห้งแล้งได้มากขึ้น ดังนั้นปุ๋ยสูตรนี้จึงเหมาะกับสวนผักทุกชนิด นอกจากนี้ยังเป็นปุ๋ยที่อยู่คู่กับเกษตรกรไทยมาถึง 40 ปีแล้วค่ะ
หากสวนที่บ้านของคุณมีพืชผักหลากหลายชนิด เราขอแนะนำปุ๋ยหมักชีวภาพ (Organic Fertilizer) ยี่ห้อทาโร่แคท ซึ่งเป็นปุ๋ยที่ได้มาจากการหมักเศษพืชผักและสมุนไพร ด้วยกรรมวิธีเฉพาะของผู้ผลิต ความโดดเด่นของปุ๋ยตัวนี้คือไม่มีส่วนผสมของมูลสัตว์ ไม่มีกลิ่นเหม็น จึงไม่ส่งกลิ่นรบกวนผู้ใช้งานและเพื่อนบ้านเหมือนน้ำหมักโดยทั่วไป รวมทั้งเป็นปุ๋ยออร์แกนิกจึงมีความปลอดภัยในการใช้งาน พร้อมให้คุณทานผักได้อย่างสบายใจ สำหรับปุ๋ย Tarocat สามารถใช้กับพืชได้ทุกชนิด เป็นอาหารที่ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี บำรุงราก ฟื้นฟูต้น โดยเหมาะทั้งผักใบ ผักดอกและพืชกินหัวค่ะ
หากคุณกำลังมองหาปุ๋ยผักประเภทอนินทรีย์หรือปุ๋ยผักเคมีในราคาย่อมเยาอยู่ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับปุ๋ยผักจากแบรนด์หวีทอง ซึ่งปุ๋ยจากแบรนด์นี้มาในรูปแบบของเม็ด จึงทำให้คุณสามารถโรยไว้บริเวณหน้าดิน เพื่อรอให้ธาตุอาหารที่อยู่ในปุ๋ยละลายลงไปในระหว่างที่คุณทำการรดน้ำพืชผักสวนครัวได้เลย พืชที่ทางแบรนด์แนะนำว่าเหมาะสมกับปุ๋ยดังกล่าว เช่น แครอท มันฝรั่ง ผักกาดหอม สับปะรด ถั่วลันเตา มะเขือ พืชผักตระกูลกะหล่ำ รวมไปถึงไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้ผลด้วย
ปุ๋ยผักประเภทอนินทรีย์สูตร 16-16-16 จากแบรนด์เรือใบไข่มุกตัวนี้ ผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนกำกับอย่างถูกต้อง จึงสามารถให้ความไว้วางใจได้ในเรื่องของคุณภาพที่ดี มีความคุ้มค่าคุ้มราคา และมีความสามารถในการช่วยเสริมสร้างอัตราการเจริญเติบโตให้กับพืชผักได้ดี ส่งผลให้ลำต้นมีความอวบ สีสันสวยชัดเจน น่ารับประทานมากยิ่งกว่าเดิม ทำให้ปุ๋ยผักนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่นอกจากจะเหมาะให้ผู้บริโภคทั่วไปได้ใช้กับผักสวนครัวของตนเองแล้ว ยังเหมาะกับกลุ่มเกษตรกรที่เน้นการปลูกพืชผักขายอีกด้วย
อย่างที่ทุกคนทราบกันเป็นอย่างดีว่า ผักที่เราซื้อมารับประทานนั้นอาจจะมีการปนเปื้อนของสารเคมีที่ทางเกษตรกรฉีดกำจัดศัตรูพืช หากคุณสามารถปลูกผักไว้รับประทานเองได้ นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อครัวเรือนของคุณเป็นอย่างมาก ซึ่งวิธีปลูกผักให้งอกงามนั้นไม่ยากอย่างที่คุณคิดเลย
เพียงแค่คุณเตรียมดินที่เหมาะสมกับพืชผักสวนครัวที่ต้องการปลูก หลังจากนั้นใส่ปุ๋ยผักประเภทอินทรีย์เพื่อเพิ่มสารอาหารให้แก่ดินก่อน หลังจากนั้นจึงนำพันธุ์ของพืชที่ต้องการปลูกลงแปลงหรือภาชนะ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณนำปุ๋ยผักประเภทอนินทรีย์หรือปุ๋ยผักเคมีโรยไว้บริเวณหน้าดินเพื่อให้สารอาหารซึมไหลลงไปในขณะที่คุณทำการรดน้ำ ที่สำคัญ อย่าลืมที่จะดูสภาพภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมว่าเหมาะสำหรับพืชที่เราต้องการปลูกหรือไม่ด้วย
ถ้าหากผักที่เราเฝ้าทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการปลูก ได้เติบโตขึ้นมาเป็นผักที่ดี มีคุณภาพ และอร่อย จนเราสามารถนำผักเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ได้อย่างที่ใจต้องการล่ะก็ คงจะถือเป็นความภูมิใจเล็ก ๆ ที่นำมาเก็บเป็นความทรงจำที่ดีตราบนานเท่านาน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเจริญเติบโตของผักก็คือสารอาหาร และสารอาหารก็ได้มาจากปุ๋ย เพราะฉะนั้นคุณควรเลือกปุ๋ยผักให้ตอบโจทย์การปลูกพืชผักของตนเองด้วย
อันดับที่ 1: INSAY ORGANIC|ปุ๋ยผัก สำหรับผักใบเขียว
อันดับที่ 2: Super Grow|ปุ๋ยผัก ไฮโดรโปนิกส์
อันดับที่ 3: ช่องาม|ปุ๋ยผัก สูตรเร่งผล
อันดับที่ 4: ชาลีเฟรท|ปุ๋ยผัก เร่งความหวานในไม้ผล
อันดับที่ 5: บูม 99 |ปุ๋ยผัก ปุ๋ยเคมีบำรุงหัว
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ