น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งกำลังการบังคับพวงมาลัยจากคนขับไปยังล้อรถ มีคุณสมบัติช่วยหล่อลื่นและคงสภาพชิ้นส่วนกลไกภายในระบบพวงมาลัยให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนได้ดี ตลอดจนมีส่วนผสมพิเศษช่วยป้องกันความชื้น ช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วน และป้องกันน้ำมันเป็นฟองได้อีกด้วย
บทความนี้เรามีวิธีการเลือกน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ให้เหมาะกับรถยนต์แต่ละรุ่น พร้อมคำแนะนำจากคุณพยัต จิรสุวรรณพงศ์ วิศวกรไฟฟ้า, เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ และยังมี 10 น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ยี่ห้อยอดนิยม โดยมีให้เลือกทั้งสูตรใช้งานได้กับรถยนต์ทุกยี่ห้อ สูตรที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะรุ่น ช่วยลดการรั่วซึม การสึกหรอ รวมถึงช่วยให้เกียร์สะอาดมาแนะนำเพิ่มเติมด้วย
Top 5 น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ยอดนิยม
คุณเอ๊ะจบการศึกษาปริญญาตรีและโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันประกอบธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจต่อเนื่องมาจากครอบครัว คุณเอ๊ะจึงมีประสบการณ์ทั้งในวงการซ่อมรถยนต์และประกันภัยรถยนต์มากว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมสีตัวถังรถยนต์ ช่วงล่าง ล้อยาง เครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า ถุงลมนิรภัย รวมทั้งยานยานต์ไฟฟ้าก็กำลังติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากงานซ่อมรถยนต์มีหลากหลายรูปแบบ โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่ารถยนต์ที่ผลิตออกมาจากโรงงานได้ผ่านการคิดวิเคราะห์จากวิศวกรผู้ออกแบบอย่างดีแล้ว จึงไม่ควรที่ผู้ใช้หรือช่างซ่อมรถยนต์จะไปดัดแปลงเปลี่ยนสเปกที่แตกต่างไปจากเดิม ดังนั้นงานซ่อมหรือคำแนะนำของคุณเอ๊ะจะเป็นไปในลักษณะซ่อมหรือเปลี่ยนให้อยู่ในสเปกดั้งเดิมของโรงงานผลิตมากกว่าดัดแปลงรถยนต์ นอกจากนี้แนวคิดงานซ่อมของคุณเอ๊ะยังคำนึงถึงราคาค่าซ่อมที่สมเหตุสมผล คุณภาพอะไหล่ที่ได้มาตรฐาน และความปลอดภัยในการใช้งานรถยนต์ต่อไปด้วย
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
ในอดีตรถยนต์จะไม่มีระบบช่วยหมุนพวงมาลัย เวลาเลี้ยวแต่ละครั้งจะต้องใช้กำลังค่อนข้างมากในการหมุน ส่งผลให้การบังคับรถยนต์ขณะขับขี่ไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสร้างความลำบากอย่างมากขณะจอดรถหรือเลี้ยววงกว้าง ๆ อีกด้วย
ต่อมาวิศวกรรถยนต์ได้สร้างระบบช่วยผ่อนแรงในการหมุนพวงมาลัยขึ้นมา ซึ่งระบบนี้จะทำให้เราหมุนพวงมาลัยได้ง่ายขึ้น ทำให้การควบคุมเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ให้สะดวกมากขึ้น โดยระบบดังกล่าวคือระบบไฮดรอลิกที่ใช้น้ำมันแรงดันสูงไปดันระบบเลี้ยวพวงมาลัย ดังนั้น น้ำมันในระบบนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยน้ำมันที่ใช้นี้จะเรียกว่า "น้ำมันเพาเวอร์"
ตามปกติแล้วระบบนี้จะเป็นระบบปิด หมายความว่า น้ำมันเพาเวอร์จะไม่ทางพร่องหรือลดลงไปได้ หากไม่มีการรั่วซึม ทั้งนี้ หากน้ำมันผ่านการใช้งานไประยะหนึ่ง ผ่านความร้อน ผ่านแรงดัน จะทำให้คุณสมบัติของน้ำมันเปลี่ยนไป ส่งผลให้ระบบทำงานผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้นหากใช้รถยนต์ถึงระยะทางหรือระยะเวลาที่ผู้ผลิตน้ำมันแนะนำแล้ว ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเพาเวอร์เพื่อทำให้ระบบการทำงานของรถยนต์ทำงานได้อย่างปกติดี
หลายคนอาจมองว่าน้ำมันเพาเวอร์กับน้ำมันเกียร์สามารถใช้ทดแทนกันได้ แต่ความจริงแล้วน้ำมันเพาเวอร์และน้ำมันเกียร์ถูกใช้งานในคนละส่วน ดังนั้น เพื่อช่วยให้คุณเลือกซื้อน้ำมันเพาเวอร์ได้ถูกต้องและสอดคล้องกับรถยนต์ที่ใช้งานอยู่ เราได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่ควรเลือกพิจารณามาฝากกันแล้วครับ
ระบบช่วยหมุนพวงมาลัยที่ใช้ไฮดรอลิกนั้น หากเป็นรถยนต์ที่หมุนพวงมาลัยอยู่เป็นประจำ จะทำให้เกิดแรงดันและความร้อนในกระบอกสูบค่อนข้างสูง ส่งผลให้อะไหล่ในระบบ ปั๊มน้ำมันเพาเวอร์ กระบอกสูบ ซีล หรือท่อยางมีโอกาสเสียหาย ชำรุดทรุดโทรมได้ง่าย และเร็วกว่ารถยนต์ที่การใช้งานไม่ได้เลี้ยวบ่อยนัก เพราะฉะนั้นถ้ารถยนต์ต้องใช้งานระบบเลี้ยวค่อนข้างหนักเป็นประจำ ต้องเลือกใช้น้ำมันเพาเวอร์ที่มีคุณสมบัติระบายความร้อนได้ดี ทนแรงดันได้ดี ลดการสึกหรอยืดอายุการใช้งานของระบบเลี้ยว
นอกจากนี้ น้ำมันเพาเวอร์ก็สามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ คือ น้ำมันเพาเวอร์แบบเฉพาะรุ่น ซึ่งจะผ่านการคิดค้นสูตรและกระบวนการผลิตเป็นพิเศษให้เหมาะสำหรับรถยนต์ยี่ห้อนั้น ๆ โดยเฉพาะ เช่น HONDA, TOYOTA, NISSAN และอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่ทางแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์จะเป็นฝ่ายผลิตขึ้นมาเอง เพราะผ่านการคิดค้นจากทีมวิศวกรมาแล้วว่าให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดกับรถยนต์ยี่ห้อนั้น แบบที่สองคือน้ำมันเพาเวอร์ที่สามารถนำไปใช้งานกับรถยนต์พวงมาลัยแบบไฮดรอลิกได้ทุกยี่ห้อ แต่ถึงแม้จะเป็นน้ำมันเพาเวอร์ที่ผลิตมาให้ใช้ได้กับทุกรุ่นก็ไม่ต้องห่วงเรื่องประสิทธิภาพ เนื่องจากมีคุณสมบัติพื้นฐานครบครันและดีไม่แพ้กันกับแบบเฉพาะรุ่น
น้ำมันเพาเวอร์ในระบบช่วยเลี้ยวนอกจากจะช่วยผ่อนแรงให้เราแล้ว ยังมีหน้าที่ช่วยหล่อลื่นอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบ ไม่ว่าจะเป็นปั๊มน้ำมันเพาเวอร์ ท่อยาง หรือซีลต่าง ๆ เพื่อที่จะทำให้ยืดอายุอุปกรณ์ในระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ซึ่งนอกเหนือจากเลือกน้ำมันเพาเวอร์ เบอร์และมาตรฐานที่ถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์แล้ว ก็ต้องเลือกตามคุณภาพและตรวจสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ให้ดีอีกด้วย
น้ำมันเพาเวอร์แต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ต่างกัน เช่น สารกันความชื้น ทำให้ในระบบไม่เกิดการสึกหรอ นอกจากนี้รถยนต์บางรุ่นที่ใช้น้ำมันเพาเวอร์และน้ำมันเกียร์สเปกเดียวกัน น้ำมันเพาเวอร์บางยี่ห้อจะออกแบบมาเพื่อใช้เป็นน้ำมันเกียร์ด้วย โดยจะมีคุณสมบัติที่่สามารถใช้งานได้ดีแม้จะอยู่ในสภาพที่มีความร้อนสูงอย่างระบบเกียร์ ทำให้ระบบเกียร์ทำงานอย่างเป็นปกติ
น้ำมันเพาเวอร์มีหน้าที่ส่งแรงหมุนจากพวงมาลัยไปยังล้อรถให้เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คนขับต้องการ ดังนั้นเมื่อผ่านการใช้งานไปเป็นเวลานานน้ำมันจะเริ่มสกปรก เกิดเป็นคราบอุดตัน หรือเกิดเป็นฟองเดือด หากปล่อยไว้นานจะทำให้พวงมาลัยบังคับทิศทางได้ยากขึ้น อีกทั้งน้ำมันเพาเวอร์จะค่อย ๆ เสื่อมสภาพไปตามระยะการใช้งานและเกิดการรั่วซึมในอัตราที่สิ้นเปลืองผิดปกติ ผู้ผลิตน้ำมันเพาเวอร์บางยี่ห้อจึงคิดค้นสารป้องกันการเกิดฟองในระบบ ทำให้ลดอาการสะดุดของการหมุนพวงมาลัย นอกจากนี้ ยังมีน้ำมันเพาเวอร์บางยี่ห้อสามารถลดการรั่วซึมได้ กล่าวคือ น้ำมันเพาเวอร์นี้จะไม่ทำลายท่อยางและซีลต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสรั่วซึมลง
แม้ว่าน้ำมันเพาเวอร์ที่มีให้เลือกซื้อกันในท้องตลาด จะบอกว่าใช้ได้ทั้งระบบพวงมาลัยเพาเวอร์และระบบเกียร์ แต่วิธีการเลือกซื้อมาเปลี่ยนจะต้องตรวจสอบดูให้ดี เพราะรถยนต์บางรุ่นก็ใช้น้ำมันเพาเวอร์และน้ำมันเกียร์เหมือนกันได้ ในขณะที่รถยนต์บางรุ่นนั้นจะใช้น้ำมันเพาเวอร์และน้ำมันเกียร์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากเกียร์เป็นระบบขับเคลื่อนที่มีความซับซ้อนกว่าระบบพวงมาลัยเพาเวอร์มาก จึงต้องมีความระมัดระวังในการเลือกน้ำมันมาเปลี่ยนมากกว่า กล่าวคือ ห้ามเอาน้ำมันเพาเวอร์ใส่ระบบเกียร์เด็ดขาด แต่กลับกันหากไม่ทางเลือกหรือฉุกเฉิน สามารถนำน้ำมันเกียร์มาใส่ระบบน้ำมันเพาเวอร์ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกซื้อน้ำมันเพาเวอร์เราต้องตรวจสอบว่ารถยนต์ที่เราใช้งานอยู่นั้นแนะนำให้ใช้น้ำมันเพาเวอร์มาตรฐานใด เราก็ควรเลือกให้ถูกต้องเพื่อที่จะทำให้ระบบพวงมาลัยของรถยนต์ของเราทำงานได้มีประสิทธิภาพตามที่ควรจะเป็น
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ปริมาณบรรจุ | เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | ต่อต้านการเกิดสนิม | ป้องกันการเกิดฟอง | ลดอัตราการสึกหรอ | |||||
1 | TOYOTA น้ำมันเพาเวอร์ | ![]() | ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดสำหรับระบบพวงมาลัยโตโยต้าโดยเฉพาะ | 1 ลิตร | |||||
2 | MITSUBISHI POWER STEERING FLUID | ![]() | ช่วยยืดอายุการใช้งานของ Pump Power ให้เสื่อมสภาพช้าลง | 1 ลิตร | |||||
3 | HONDA น้ำมันพวงมาลัย เพาเวอร์ PSF-II | ![]() | ลดแรงเสียดทานของชิ้นส่วน ระบายความร้อนได้ดี ไม่เกิดฟอง | 1 ลิตร | |||||
4 | ISUZU น้ำมันเพาเวอร์ รุ่น Automat ATF DEX III | ![]() | สามารถยืดอายุการสึกหรอของชิ้นส่วน ทำให้ระบบเกียร์สะอาด | 1 ลิตร | |||||
5 | NISSAN น้ำมันเพาเวอร์ สำหรับ NISSAN | ![]() | เหมาะกับรถยนต์ในซีรีส์ NAVARA และ TERRA ลดการเกิดฟอง | 0.5 ลิตร | |||||
6 | Shell SPIRAX S3 ATF MD3 Power Steering Fluid | ![]() | คุณภาพตรงตามมาตรฐาน หล่อลื่นได้ดีแม้สภาวะอุณหภูมิต่ำ | 1 ลิตร | |||||
7 | ACDelco น้ำมันเกียร์ออโต้ พาวเวอร์ ATF DEXRON III | ![]() | ทนความร้อนได้ดีเยี่ยม ปกป้องชิ้นส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ | 1 ลิตร | |||||
8 | FORD น้ำมันเกียร์ออโต้ น้ำมันพวงมาลัย MERCON LV | ![]() | ส่วนผสมบริสุทธิ์ลดการสึกหรอ ให้กลไกพวงมาลัยทำงานได้ดี | 0.946 ลิตร | |||||
9 | บางจาก น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ATF DEX3 | ![]() | ใช้งานได้ทั้งกับรถยนต์ฝั่งญี่ปุ่นและฝั่งยุโรป ยืดอายุการใช้งาน | 1 ลิตร | |||||
10 | AMSOIL Multi-Vehicle Synthetic Power Steering Fluid | ![]() | คงสภาพการทำงานแม้อุณหภูมิติดลบ หรืออุณหภูมิความร้อนสูง | 0.5 ลิตร |
ปริมาณบรรจุ | 1 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
ปริมาณบรรจุ | 1 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
ปริมาณบรรจุ | 1 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
ปริมาณบรรจุ | 1 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
ปริมาณบรรจุ | 0.5 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
ปริมาณบรรจุ | 1 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
ปริมาณบรรจุ | 1 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
ปริมาณบรรจุ | 0.946 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
ตอบโจทย์ทั้งสำหรับรถกระบะ, รถเก๋งซีดาน, รถ SUV ตลอดจนรถบรรทุกที่ใช้งานหนัก
ปริมาณบรรจุ | 1 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
ปริมาณบรรจุ | 0.5 ลิตร |
---|---|
เหมาะสำหรับรถทุกประเภท | |
ต่อต้านการเกิดสนิม | |
ป้องกันการเกิดฟอง | |
ลดอัตราการสึกหรอ |
วิธีการตรวจสอบน้ำมันเพาเวอร์สามารถทำได้ทั้งขณะเครื่องยนต์เย็นและขณะเครื่องยนต์ร้อน เพราะกระปุกน้ำมันเพาเวอร์ส่วนใหญ่นั้นจะโปร่งแสง กล่าวคือสามารถมองทะลุเข้าไปจนเห็นระดับน้ำมันเพาเวอร์ได้
การตรวจสอบระดับน้ำมันเพาเวอร์ขณะเครื่องยนต์เย็น จะตรวจสอบได้จากน้ำมันเพาเวอร์ในกระปุกมีระดับพอดีกับขีดหรือสัญลักษณ์สำหรับเครื่องยนต์เย็น (ส่วนใหญ่จะเป็นขีดล่าง) และการตรวจสอบน้ำมันเพาเวอร์ขณะเครื่องยนต์ร้อนใช้วิธีเดียวกันแต่ให้ใช้ขีดหรือสัญลักษณ์สำหรับเครื่องยนต์ร้อน
ยิ่งไปกว่านั้น เรายังสามารถซื้อหาน้ำมันเพาเวอร์มาเปลี่ยนถ่ายเองได้ ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ยากจนเกินไปนัก ปัจจุบันสามารถหาวิธีการเปลี่ยนถ่ายของรถยนต์รุ่นแต่ละรุ่นได้ตาม YouTube แต่สิ่งที่จะต้องคำนึงคือการใช้น้ำมันเพาเวอร์ที่ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำ โดยสามารถตรวจสอบได้จากฝากระปุกน้ำมันเพาเวอร์หรือตรวจสอบจากคู่มือรถว่ารถยนต์รุ่นนี้จะต้องใช้น้ำมันเพาเวอร์ แบบใด มาตรฐานใด
นอกจากนี้ หากเป็นการเปลี่ยนถ่ายด้วยตัวเอง หลังจากเปลี่ยนแล้วให้สังเกตุการใช้งานว่ามีสิ่งใดผิกปกติหรือไม่ และหมั่นสังเกตระดับน้ำมันเพาเวอร์หลังจากเปลี่ยนไปแล้วสักพัก หากน้ำมันพร่องลงไปควรเติมให้ได้ระดับ
เรายังมีบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาเครื่องยนต์อีกหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีวิธีการเลือกซื้อที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความด้านล่างนี้
อันดับที่ 1: TOYOTA|น้ำมันเพาเวอร์
อันดับที่ 2: MITSUBISHI |POWER STEERING FLUID
อันดับที่ 3: HONDA|น้ำมันพวงมาลัย เพาเวอร์ PSF-II
อันดับที่ 4: ISUZU|น้ำมันเพาเวอร์ รุ่น Automat ATF DEX III
อันดับที่ 5: NISSAN|น้ำมันเพาเวอร์ สำหรับ NISSAN
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ