การที่ทุกประเทศจะพัฒนาไปข้างหน้าได้นั้นสิ่งที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไปด้วยก็คือโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทำให้กิจการโครงสร้างพื้นฐานถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุนในปัจจุบัน เพราะเป็นกิจการที่ได้รับการผลักดันจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ถึงความมั่นคงของกิจการ ซึ่งหนึ่งในช่องทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนก็คือการลงทุนผ่าน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure Fund (IFF)
ในประเทศไทยมีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละกองทุนก็ล้วนมีเงื่อนไข มีลักษณะการดำเนินงานที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน ในบทความนี้เราจึงจะมาแบ่งปันถึงวิธีการเลือกกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถมองหากองทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง พร้อมคำแนะนำจากนักวางแผนการเงินโดยเฉพาะ และยังได้นำ 10 กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีความน่าสนใจมาฝากทุกคนกันด้วยครับ
Top 5 กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
Bualuang Fund
ลงทุนในกิจการระบบโทรคมนาคม ที่ตอบโจทย์ระบบสื่อสารสมัยใหม่
SCB ASSET MANAGEMENT
กองทุนที่มีผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
KRUNGTHAI ASSET MANAGEMENT
เติบโตไปกับธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง
Bualuang Fund
ลงทุนในระบบขนส่ง เพื่อสร้างรายได้จากโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส
คุณปอยเรียนจบปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ จาก Assumption University และปริญญาโทจาก Northumbria University สาขา Design Management จากประเทศอังกฤษ หลังจากเริ่มทำงานคุณปอยเริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับการเงิน การวางแผนภาษี รวมไปถึงการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมและประกันชีวิต จึงเริ่มศึกษาหาประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงผ่านการเรียนคอร์สต่าง ๆ และเข้าอบรม รวมทั้งสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานเป็นนักวางแผนการเงินมืออาชีพอิสระมามากว่า 4 ปี ปัจจุบันคุณปอยมีใบอนุญาตเป็นผู้แนะนำการลงทุนในประเทศไทยและมีลูกค้าภายใต้การดูแลไม่ต่ำกว่า 50 คน สำหรับประเภทของแผนการเงินที่คุณปอยมีความชำนาญเป็นพิเศษ ได้แก่ แผนการออมเพื่อการเกษียณอายุ แผนการออมเพื่อการลดหย่อนภาษี แผนการออมเพื่อการศึกษาบุตรและแผนการเงินเพื่อการส่งต่อมรดก
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานนั้นจัดว่าเป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งคล้าย ๆ กับกองทุนรวมประเภทอื่น ๆ ครับ เพียงแต่ว่ากองทุนนี้จะนำเงินไปลงทุนต่อในกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศ 10 ประเภท ได้แก่ ระบบขนส่งทางราง, ประปา, สนามบิน, โทรคมนาคม, ระบบบริหารจัดการน้ำ, ไฟฟ้า, ถนน, ท่าเรือน้ำลึก, พลังงานทางเลือก และระบบป้องกันภัยธรรมชาติ ซึ่งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีให้เลือกปัจจุบันก็มีทั้งแบบที่ลงทุนในประเทศ และแบบที่ลงทุนในต่างประเทศครับ
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานจัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อระดมเงินจากนักลงทุนไปลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งนอกจากจะเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐในการพัฒนาประเทศ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนจากกิจการโครงสร้างพื้นฐานได้ และเพราะเป็นกิจการที่มีประโยชน์ต่อสาธารณะ ทำให้มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วยครับ
ในการพิจารณาเลือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานนั้นค่อนข้างมีความซับซ้อนเมื่อเทียบกับกองทุนทั่วไป ดังนั้น ในหัวข้อนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเลือกกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยชี้ให้เห็นประเด็นที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนครับ
เนื่องจากว่ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานนั้นมีหลายประเภท นักลงทุนจึงควรทำความเข้าใจก่อนว่ากองทุนนั้นนำเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานกิจการใด ซึ่งกิจการที่ลงทุนจะมีผลต่อผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับด้วย เช่น รถไฟฟ้ากับโรงงานผลิตไฟฟ้าก็จะมีวิธีประเมินรายได้ที่แตกต่างกัน ส่วนผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับนั้นก็จะมีทั้งในรูปแบบของเงินปันผลและกำไรจากส่วนต่างของราคา
กิจการโครงสร้างพื้นฐานแต่ละประเภทจะมีแหล่งที่มาของรายได้ที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น กิจการบางประเภทคิดผลตอบแทนจากความพร้อมในการให้บริการ ไม่ใช่คิดจากปริมาณการให้บริการจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กิจการมีรายได้ที่แน่นอน กิจการลักษณะนี้เช่นกิจการโรงไฟฟ้าหรือน้ำประปา ในขณะที่กิจการบางประเภทคิดผลตอบแทนจากปริมาณการใช้บริการจริง อย่างเช่นรถไฟฟ้าหรือรถสาธารณะ ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านราคาน้ำมัน ปริมาณผู้ใช้และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานร่วมด้วย
สำหรับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานนั้นจัดว่าเป็นกองทุนรวมชนิดที่มีความเสี่ยงสูง-สูงมาก เนื่องจากว่าจะเป็นการลงทุนในโครงการใหญ่จึงไม่มีความคล่องตัวในการกระจายความเสี่ยงเหมือนกับกองทุนรวมหุ้น นอกจากนี้ นักลงทุนควรจะต้องศึกษาข้อมูลของกองทุนให้ดีก่อนลงทุนทุกครั้ง เพราะว่าบางกิจการอาจมีปัจจัยหลายด้านเข้ามากระทบ ตั้งแต่เรื่องภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และทิศทางของอุตสาหกรรมที่จะเปลี่ยนไปในอนาคต
เนื่องจากกิจการโครงสร้างพื้นฐานเป็นกิจการที่มีขนาดใหญ่ ทำให้มีระยะเวลาในการก่อสร้างหลายปี จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความเสี่ยงด้านการก่อสร้างล่าช้า หรือการก่อสร้างเสร็จไม่ทันกำหนดเวลา ซึ่งหากเกิดกรณีดังกล่าวจะส่งผลให้ต้นทุนของกิจการเพิ่มสูงขึ้น ผลตอบแทนในรูปกำไรที่ได้รับก็จะลดลง ดังนั้นก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง เราต้องพิจารณาก่อนว่ากิจการนี้ก่อสร้างเสร็จแล้วหรือยัง หรือกิจการนี้มีแนวโน้มก่อสร้างล่าช้าหรือไม่ ซึ่งนอกจากความเสี่ยงดังกล่าวแล้ว กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีนโยบายเน้นลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก จึงทำให้การลงทุนที่เกิดขึ้นไม่มีการกระจายความเสี่ยง
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กำหนดให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ต้องจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว ซึ่งเงินปันผลดังกล่าวจะได้รับการยกเว้นภาษี 10 ปี เพราะฉะนั้นกองทุนรวมประเภทนี้จึงได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีโดยที่ผู้ลงทุนจะไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากผลตอบแทนที่ได้รับจากเงินปันผล
ซึ่งถ้าเป็นกองทุนชนิดอื่น ๆ หากว่านักลงทุนได้รับเงินปันผลก็จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเลยทันที 10% และนอกจากเงินปันผล ผู้ลงทุนยังสามารถสร้างผลกำไรจากส่วนต่างราคากรณีขายหน่วยลงทุน (Capital Gain) โดยผลกำไรส่วนนี้จะถูกยกเว้นภาษี ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกกองทุน เราสามารถพิจารณาได้ว่ากองทุนมีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่เท่าไหร่ และมีการจ่ายปันผลมากกว่าขั้นต่ำหรือไม่ ซึ่งผลตอบแทนในส่วนนี้สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างกำไรของกิจการได้
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานจะมีรายการค่อนข้างมาก ซึ่งเราควรพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ เพราะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหมายถึงอัตราผลตอบแทนโดยรวมที่เราได้รับลดลง และในกรณีที่เราพบกองทุนที่น่าสนใจมากกว่าหนึ่งกองทุน เราสามารถพิจารณาเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่กองทุนเรียกเก็บ แล้วเลือกกองทุนที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าได้
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Bualuang Fund JASIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน | ![]() | ลงทุนในกิจการระบบโทรคมนาคม ที่ตอบโจทย์ระบบสื่อสารสมัยใหม่ | |
2 | SCB ASSET MANAGEMENT DIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล | ![]() | กองทุนที่มีผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ | |
3 | KRUNGTHAI ASSET MANAGEMENT EGATIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | ![]() | เติบโตไปกับธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง | |
4 | Bualuang Fund BTSGIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท | ![]() | ลงทุนในระบบขนส่ง เพื่อสร้างรายได้จากโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส | |
5 | KASIKORN ASSET MANAGEMENT ABPIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ | ![]() | ลงทุนเพื่อรับผลตอบแทน จากผลการดำเนินงานของโรงงานไฟฟ้า | |
6 | MFC Asset Management plc. TFFIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย | ![]() | สร้างโอกาสรับรายได้อย่างสม่ำเสมอ ไปกับกิจการเส้นทางพิเศษ | |
7 | Bualuang Fund BRRGIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ | ![]() | รับผลตอบแทน จากผลประกอบการของกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวล | |
8 | KASIKORN ASSET MANAGEMENT KGIFRMF กองทุนเปิดเค โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ | ![]() | ลงทุนในกองทุนของต่างประเทศ เน้นลงทุนในหลายกิจการทั่วโลก | |
9 | SCB ASSET MANAGEMENT SCBGIF กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควีตี้ | ![]() | ลงทุนแบบ Feeder Fund เน้นสร้างผลตอบแทนในรูปสกุลเงินยูโร | |
10 | TISCO Asset Management TISCOGIF-R กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ ชนิดหน่วยลงทุน R | ![]() | สร้างโอกาสในการเติบโต ไปกับกิจการโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก |
JASIF คือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีรายได้สุทธิจากการลงทุนในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาถึง 8,600,219,168 บาท และนอกจากนี้ยังมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนที่สูงถึง 10.37% โดยกองทุนเน้นลงทุนในเส้นใยแก้วนำแสง ซึ่งเป็นพื้นฐานของระบบโทรคมนาคมสมัยใหม่ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การโทรผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP) เป็นต้น ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีอัพไซด์การเติบโตได้ดีในอนาคต กองทุนนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากครับ
กองทุนที่เน้นลงทุนในทรัพย์สินของกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม โดยรับผลตอบแทนจากรายได้สุทธิที่เกิดขึ้นจากตัวทรัพย์สินนั้น ซึ่งในปัจจุบันทรัพย์สินที่กองทุนลงทุนอยู่ ได้แก่ เสาโทรคมนาคม ใยแก้วนําแสง (FOC) ระบบบรอดแบนด์ ด้านผลการดำเนินงาน ในปีพ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา กองทุนมีการจ่ายเงินปันผล 4 ครั้ง ในอัตรา 0.261 บาท/หน่วย คิดเป็นจ่ายปันผลปีละ 1.044 บาท/หน่วย และจากที่ได้ตรวจดูย้อนหลังต่อไป พบว่ากองทุนมีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ปีละ 3 - 4 ครั้ง จึงสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอของกองทุน
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีนโยบายลงทุนในสิทธิรายได้ต่อความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือชุดที่ 1 ซึ่งเป็นโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่มีขนาดใหญ่และมีอายุการใช้งานในระยะยาว กองทุนถูกประเมินให้มีความเสี่ยงที่ระดับ 5 ซึ่งถือว่ามีความเสียงที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอื่นทั่วไป กองทุนมีการจ่ายเงินปันผลย้อนหลังเฉลี่ย 3 - 4 ครั้งต่อปี จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนรวมกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสามารถในการรับความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และต้องการผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
อีกหนึ่งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกบริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด BTSGIF กองทุนรวมที่มีนโนยายลงทุนในรายได้สุทธิ ที่เกิดขึ้นจากรายได้ค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลัก สายหมอชิต - อ่อนนุช และ สายสนามกีฬาแห่งชาติ - สะพานตากสิน กองทุนมีผลการดำเนินงานไม่ค่อยดีนักในปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นจากปริมาณการเดินทางที่ลดลงจากมาตรการป้องกันโรคโควิด - 19 แต่เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มในอนาคต ที่ไม่ว่ายังไงบีทีเอสก็ถือเป็นช่องทางหลักในการเดินทาง ประกอบกับอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนที่ 5.82% จึงมองว่า BTSGIF เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองครับ
ABPIF เป็นกองทุนประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน หรือที่เราเรียกกันว่ากองทุนปิด ซึ่งมีนโยบายลงทุนในสิทธิ์การรับผลประโยชน์จากผลการดำเนินงานของบริษัทอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 จำกัด และบริษัทอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 2 จำกัด ซึ่งทั้งสองเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการโรงงานไฟฟ้า โดยกองทุนถูกประเมินให้มีความเสี่ยงที่ระดับ 8 คือระดับที่เสี่ยงที่สุด ซึ่งเมื่อพิจารณาจากมูลค่าหน่วยลงทุนย้อนหลังพบว่ามีความผันผวนของราคาที่ค่อนข้างมาก ดังนั้งกองทุนนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับสูงครับ
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน TFFIF ที่มีนโยบายลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถก่อให้เกิดรายได้แก่กองทุน โดยปัจจุบันกองทุนได้ลงทุนในสิทธิที่จะได้รับ 45% ของรายได้ค่าผ่านทางที่จัดเก็บได้จากเส้นทางพิเศษฉลองรัฐและบูรพาวิถี เป็นระยะเวลา 30 ปี ตามสัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้ (RTA) กองทุนมีจุดเด่นที่โอกาสในการเติบโตของรายได้ ซึ่งมีปัจจัยมาจากปริมาณการจราจรที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และนอกจากนั้นอัตราค่าบริการที่ถูกคิดจะมีการปรับไปตามอัตราเงินเฟ้อ ทำให้น่าสนใจมากสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนที่มีแนวโน้มเติบโต และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้อีกด้วย
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน BRRGIF กองทุนรวมที่ถูกบริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในสิทธิรายได้สุทธิที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท บุรีรัมย์พลังงาน จำกัด (BEC) และบริษัท บุรีรัมย์เพาเวอร์ จำกัด (BPC) และเพราะเน้นลงทุนใน 2 บริษัทเป็นหลัก จึงทำให้ไม่มีการกกระจายการลงทุน ส่งผลให้ถูกจัดให้มีความเสี่ยงที่ระดับ 7 คือเสี่ยงสูงมาก แต่เมื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผล และการสร้างรายได้ย้อนหลังของกองทุน พบว่ากองทุนมีการจ่ายเงินปันผลและสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอครับ
กองทุนเปิดเค โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่น่าสนใจมากครับ เพราะนอกจากจะมีนโยบายลงทุนผ่านการเข้าซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศอย่าง Morgan Stanley Investment Funds Global Infrastructure, Class Z (USD) ที่มีนโยบายกระจายการลงทุนผ่านหลักทรัพย์ของกิจการ และ REITs ที่เกี่ยวกับกิจการโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกแล้ว อีกหนึ่งความน่าสนใจคือกองทุนยังถูกจัดให้เป็นกองทุนประเภท RMF อีกด้วย เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และต้องการวางแผนเกษียณอายุไปในตัว กองทุนนี้นับว่าน่าสนใจมากครับ
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนด้วยเงินสกุลยูโรในหน่วยลงทุน (Feeder Fund) ของกองทุน DWS Invest Global Infrastructure ซึ่งเป็นกองทุนต่างประเทศที่เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานจา่กทั่วโลก และถึงแม้ว่ากองทุนจะไม่ได้มีนโยบายจ่ายเงินปันผล แต่เมื่อพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา พบว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 29.45% ซึ่งถือเป็นระดับที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่กำลังมองหากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานครับ
เริ่มที่อันดับ 10 กันเลยครับ TISCCOGIF-R เป็นกองทุนที่มีนโยบายนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศ ในปัจจุบันบริษัทจัดการได้ลงทุนใน กองทุน Lazard Global Listed Infrastructure Equity และ กองทุน First Sentier Global Listed Infrastructure ซึ่งทั้งสองมีนโยบายเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่ประกอบกิจการโครงสร้างพื้นฐานจากทั่วโลก แต่ก็ด้วยที่มีนโบายลงทุนในหลักทรัพย์เป็นหลัก จึงมีระดับความเสี่ยงกองทุนที่ระดับ 6 คือเสี่ยงสูง ดังนั้นจึงเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความผันผวนของราคาได้ในระดับหนึ่งครับ
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับกองทุนประเภทนี้ จึงมีคำถามหรือข้อสงสัยต่าง ๆ อยู่ ในวันนี้ เราจึงมีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันครับ
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานจัดว่าเป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งถ้าหากเป็นนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ก็มีโอกาสขาดทุนได้สูงครับ เนื่องจากว่ากองทุนประเภทนี้จะมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์บ้านเมืองค่อนข้างมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดมีการประท้วงเกิดขึ้นและส่งผลกระทบให้การก่อนสร้างของรถไฟฟ้าล่าช้า ก็จะส่งผลต่อรายได้ของกองทุนด้วยนั่นเอง
ถ้าเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทั่วไปที่ไม่ใช่กองทุนชนิด RMF หรือ SSF ก็จะได้สิทธิประโยชน์ในส่วนของเงินปันผลอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานชนิด SSF หรือ RMF ผู้ลงทุนก็จะสามารถนำเงินลงทุนส่วนนี้ไปหักลดหย่อนภาษีรายได้ส่วนบุคคลได้นั่นเองครับ
สำหรับคนที่สนใจอยากจะลงทุนในกองทุนประเภทนี้ ก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดของกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนจะลงทุน ปัจจัยความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูว่าผลตอบแทนของกองทุนขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไร นโยบาย เงินปันผล ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงควรสอบถามข้อมูลจากตัวแทนขายก่อนตัดสินใจลงทุนกันด้วยนะครับ
แม้จะเป็นการลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แม้จะเป็นกิจการที่ได้รับการผลักดันจากภาครัฐ แต่ทุกคนคงเห็นแล้วใช่ไหมครับว่า ขึ้นชื่อว่าการลงทุน ต่อให้จะดูเหมือนปลอดภัยขนาดไหน แต่ยังไงก็ต้องมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง อย่าลืมพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ด้วยความละเอียดรอบคอบ ศึกษาให้มั่นใจว่าเราเข้าใจในหลักเกณฑ์ของกองทุนนั้น ๆ และเมื่อเข้าใจดีแล้ว กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ครับ
อันดับที่ 1: Bualuang Fund|JASIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน
อันดับที่ 2: SCB ASSET MANAGEMENT|DIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล
อันดับที่ 3: KRUNGTHAI ASSET MANAGEMENT|EGATIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
อันดับที่ 4: Bualuang Fund|BTSGIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท
อันดับที่ 5: KASIKORN ASSET MANAGEMENT|ABPIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ