"โชยุ (醬油)" หรือซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น คือ หัวใจหลักของเครื่องปรุงรสที่ครัวญี่ปุ่นทุกบ้านต้องมี และไม่ว่าคุณจะไปรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่ไหนก็มักจะเห็นขวดโชยุตั้งรออยู่บนโต๊ะเสมอ แต่รู้หรือไม่ว่าโชยุที่ทุกคนมีภาพจำว่าเป็นซอสสีดำสำหรับเหยาะจิ้มกับซูชิหรืออาหารญี่ปุ่นทั่วไป กลับมีเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยความพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นกรรมวิธีการผลิตและการแบ่งแยกกลิ่น อีกทั้งโชยุยังมีหลากหลายรสชาติ ซึ่งถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้ปรุงรสในเมนูที่แตกต่างกันด้วย
ดังนั้น เพื่อไขความกระจ่างและช่วยให้ทุกคนรู้จักโชยุมากยิ่งขึ้น บทความนี้จึงได้รวบรวมวิธีการเลือกโชยุที่น่าสนใจมาฝาก อีกทั้งยังมี 10 โชยุ จากยี่ห้อดังทั้งญี่ปุ่นและไทย เช่น Kikkoman, Yamamori, ทาคูมิ อายิ และเด็กสมบูรณ์ ซึ่งแต่ละยี่ห้อต่างก็รสชาติเฉพาะตัวไว้เป็นไกด์ไลน์ให้ทุกคนเลือกซื้อโชยุที่เหมาะสมกับเมนูอาหารแต่ละแบบไปใช้ได้ จะมีสูตรไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
Top 5 โชยุ ยอดนิยม
คุณนิวเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนประจำอำเภอในภาคอีสาน แต่มีความหลงใหลในการทำอาหารตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากเติบโตมาในครอบครัวที่เคยเปิดร้านอาหาร ทำให้มีความชำนาญด้านการเลือกวัตถุดิบ การใช้เครื่องปรุง และการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ลงตัว ด้วยความรักในอาหารและการแบ่งปันความรู้ คุณนิวจึงเริ่มเขียนบทความเกี่ยวกับเคล็ดลับการทำอาหาร เทคนิคการเลือกวัตถุดิบ และการใช้อุปกรณ์ครัวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการทำอาหารที่สะดวกและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพื่อให้ทุกคนสนุกกับการทำอาหารได้อย่างเต็มที่
สารบัญ
ถึงแม้ในซูเปอร์มาร์เก็ตจะมีโชยุหลากหลายรูปแบบให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว แต่วิธีการเลือกโชยุในบทความนี้จะมาช่วยให้คุณหยิบขวดโชยุที่ตรงความต้องการออกมาจากชั้นวางสินค้าได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน
ประเภทของโชยุมีทั้งแบบดั้งเดิมที่แบ่งตามมาตรฐานสินค้าเกษตรแห่งประเทศญี่ปุ่น (JAS) และโชยุรูปแบบใหม่ที่ดัดแปลงให้รับประทานร่วมกับอาหารได้หลากหลายขึ้น ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกันในหลายมิติทั้งรสชาติ วิธีการผลิต สัดส่วนการหมัก ไปจนถึงส่วนประกอบเพิ่มเติมอื่น ๆ ดังนี้ค่ะ
สำหรับโชยุที่พบได้มากที่สุดในท้องตลาดกว่า 80% คือโคอิคุจิ (こいくち) ซึ่งเป็นซอสถั่วเหลืองชนิดเข้มข้น (Dark Soy Sauce) ตามสูตรต้นตำรับที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะในแถบคันโต ได้จากการหมักถั่วเหลืองและข้าวสาลีในอัตราส่วน 3:4 และมีปริมาณเกลือประมาณ 16% ทำให้มีรสเค็มโดดติดลิ้น มีรสหวานปลาย สีน้ำตาลเข้มอมแดงและให้กลิ่นความเข้มของโชยุชัดเจน สามารถใช้ปรุงรสหรือเป็นซอสของอาหารได้หลากหลายประเภท และยังถือเป็นโชยุอเนกประสงค์ที่ทุกบ้านในญี่ปุ่นต้องมีติดครัวไว้อีกด้วย
อุสุคุจิ (うすくち) มีต้นกำเนิดและเป็นที่นิยมอย่างมากในภูมิภาคคันไซ มีสัดส่วนของถั่วเหลืองและข้าวสาลีใกล้เคียงกับโคอิคุจิ ซึ่งถึงแม้จะเป็นซอสถั่วเหลืองแบบอ่อน (Light Soy Sauce) แต่ก็อ่อนเฉพาะกลิ่น ความเข้มข้นและสีของโชยุเท่านั้น กลับกันคือมีรสเค็มมาก เพราะมีปริมาณเกลือมากกว่าโชยุทุกประเภทและมากกว่าโคอิคุจิถึง 2% ทำให้ไม่นิยมนำไปทำเป็นน้ำจิ้ม แต่จะใช้ปรุงรสน้ำซุปหรือผักต้ม หรือเพิ่มรสเค็มของอาหารโดยที่ต้องการคงความสวยงาม สีสันและกลิ่นของวัตถุดิบหรืออาหารนั้นไว้ค่ะ
ไซชิโคมิ (さいしこみ / 再仕込み) มีจุดเริ่มต้นที่จังหวัดยามากุจิ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในภูมิภาคโทไก จุดเด่นคือเป็นซอสถั่วเหลืองที่หมักซ้ำอีกรอบ (Double Fermented Soy Sauce) โดยต้องใช้ระยะเวลานานขึ้นจากเดิม 2 เท่า เพื่อให้ได้โชยุสีเข้มมากที่สุด ที่สำคัญคือรสชาติก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้นเท่าตัว มีรสเค็มผสมหวานและขม จึงทำให้เป็นโชยุที่มีราคาแพงหาซื้อได้ยาก ซึ่งไซชิโคมิเพียงหยดเดียวก็สามารถทำให้อาหารมีรสอูมามิขึ้นได้ในพริบตา ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมนำไปทำซอสสำหรับซาชิมิโดยเฉพาะค่ะ
ทามาริ (たまり) คือซอสถั่วเหลืองเข้มข้นพิเศษ (Concentrated Soy Sauce) ที่ใช้เวลาหมักยาวนานกว่าปกติ โดยจะเน้นหมักถั่วเหลืองและเกลือเป็นหลัก และใช้น้ำในระหว่างกระบวนการน้อยมาก ส่วนข้าวสาลีนั้นใช้น้อยยิ่งกว่าหรือบางแบรนด์อาจไม่ใช้ข้าวสาลีเลย จึงทำให้ผู้ที่แพ้กลูเตนสามารถรับประทานได้ด้วย สำหรับจุดเด่นของทามาริคือ กลิ่นรสของโชยุที่ลึกล้ำกว่าเดิม และค่อนข้างแตกต่างกับโชยุประเภทอื่น ไม่นิยมใช้ปรุงอาหาร แต่จะนิยมใช้ทาบนข้าวเกรียบญี่ปุ่น รับประทานกับซาชิมิ หรือผสมเป็นซอสเทอริยากิ เพราะทามาริจะให้สีน้ำตาลออกแดงเมื่อโดนความร้อน ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับอาหารได้นั่นเองค่ะ
นอกจากความแตกต่างในเรื่องกรรมวิธีและสัดส่วนของส่วนผสมแล้ว โชยุที่วางขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาดยังแบ่งรสชาติออกได้อีก 3 ประเภท แต่เนื่องจากสีของโชยุแต่ละชนิดค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกัน ทำให้หลาย ๆ แบรนด์เลือกที่จะใช้สีฉลากในการระบุรสชาติของโชยุแทน เพื่อเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคสามารถแยกรสและส่วนผสมของโชยุแต่ละสูตรได้ง่ายขึ้น เราจึงสรุปความแตกต่างของฉลากโชยุแต่ละสีได้ดังต่อไปนี้
สำหรับบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถตรวจสอบได้จากลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Kikkoman โชยุ Kikkoman แบบตั้งโต๊ะ | ![]() | ที่สุดแห่งคุณภาพ สูตรการหมักแบบดั้งเดิม ให้สีน้ำตาลแดงใส | |
2 | ตราเด็กสมบูรณ์ โชยุ ตราเด็กสมบูรณ์ | ![]() | หมักวัตถุดิบชั้นดีด้วยกรรมวิธีธรรมชาติ รสออกหวานและไม่เค็มจัด | |
3 | Kikkoman โชยุ Kikkoman สูตรเค็มน้อย Less Salt | ![]() | ลดเกลือ ลดเค็ม ทางเลือกสุขภาพ ผ่านมาตรฐานวีแกน EVU | |
4 | ทาคูมิ อายิ โชยุ ทาคูมิ อายิ ซอสโชยุญี่ปุ่น | ![]() | ใช้ถั่วเหลืองคุณภาพ ให้รสเค็มหวาน เติมเต็มทุกความอร่อย | |
5 | Shibanuma โชยุ Shibanuma | ![]() | ถั่วเหลืองหมักในน้ำซุปปลาโบนิโตะ หอมกลิ่นปลาแห้งโดดเด่น | |
6 | Kikkoman โชยุ Sushi & Sashimi Soy Sauce | ![]() | เอาใจคนรักซูชิและปลาดิบด้วยโชยุรสเข้มข้น อร่อยกลมกล่อม | |
7 | Morisoya โชยุ Morisoya โชยุออร์แกนิก | ![]() | ทำจากข้าวหอมมะลิ ไม่มีกลูเตน ปลอดภัย ได้รสเค็มตามธรรมชาติ | |
8 | yamamori โชยุ yamamori ซูชิโชยุ | ![]() | แบรนด์ญี่ปุ่นเก่าแก่ กลิ่นหอมเอกลักษณ์ ชูรสชาติซูชิและปลาดิบ | |
9 | Umami โชยุ ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น สูตรจิ้มและผัด | ![]() | เข้าถึงอรรถรสต้นฉบับ รสเค็มออกหวาน เหมาะเป็นน้ำจิ้มซาชิมิ | |
10 | ง่วนเชียง โชยุ อูมามิ ตราง่วนเชียง | ![]() | โชยุปรุงรส ทำได้ทั้งเมนูไทยและเทศ กลิ่นหอมโชยุ ไม่เค็มจัด |
หากพูดถึงแบรนด์โชยุยอดนิยมที่หลายคนไว้วางใจเลือกใช้ เพราะมีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ ต้องแบรนด์ Kikkoman เลยค่ะ เนื่องจากทางแบรนด์ได้คัดสรรส่วนผสมคุณภาพดีอย่างถั่วเหลือง ข้าวสาลี น้ำและเกลือ มาเข้ากระบวนการผลิตแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เพื่อดึงรสชาติและกลิ่นหอมออกมาให้ได้มากที่สุด โชยุจึงมีรสชาติกลมกล่อม หวาน เค็ม เปรี้ยว เข้ากันอย่างลงตัว
ไม่เพียงแค่รสชาติของโชยุเท่านั้น แต่บรรจุภัณฑ์ยังมีจุดเด่นอยู่ที่รูปทรงที่ออกแบบมาสไตล์ญี่ปุ่น ขนาดกะทัดรัด วางไว้บนโต๊ะได้ ตัวฝาก็ดีไซน์มาเป็นพิเศษให้เทโชยุออกได้ทั้งสองทาง สามารถใช้ประกอบอาหารได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะหมัก, ตุ๋น, นึ่ง หรือใช้เพิ่มความอร่อยให้กับน้ำซุป หรือใช้เป็นซอสจิ้มก็ได้ค่ะ
โชยุจากแบรนด์เครื่องปรุงของไทยที่หลายครัวเรือนและร้านค้าไว้วางใช้อย่าง ตราเด็กสมบูรณ์ ก็ได้ผลิตโชยุคุณภาพดีออกมาให้ได้ใช้รับประทานคู่กับเมนูซูชิ ปลาดิบ หรือใช้ปรุงอาหารต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน โดยโชยุสูตรนี้จะเลือกใช้ถั่วเหลืองและข้าวสาลี นำมาผ่านกรรมวิธีหมักตามธรรมชาติ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 6 เดือน จนได้ซอสโชยุเข้มข้นและมีกลิ่นหอมตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิม
ตัวบรรจุภัณฑ์มาในรูปแบบขวด เปิดใช้งานง่าย ทางแบรนด์แนะนำให้นำโชยุผสมกับวาซาบิเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้น หลายคนให้ความเห็นว่าโชยุมีรสชาติอมหวานเล็กน้อยและไม่เค็มมาก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบโชยุรสเค็มจัด แถมยังมีราคาเป็นมิตร และใช้ปรุงข้าวผัดได้อร่อยอีกด้วยค่ะ
สำหรับใครที่เป็นคนรักสุขภาพและต้องการลดปริมาณโซเดียมลง เราขอแนะนำโชยุจากแบรนด์โชยุอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่นอย่าง Kikkoman ที่ได้คิดค้นโชยุสูตรเค็มน้อย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับสายเฮลตี้มายิ่งขึ้น โดยจะเลือกใช้ถั่วเหลืองธรรมชาติ นำมาผสมกับข้าวสาลีและเกลือไม่เสริมไอโดดีน ซึ่งจะลดส่วนผสมของเกลือลงเหลือเพียง 8% ทำให้มีรสเค็มน้อยลง
แม้ว่าจะใช้ปริมาณเกลือน้อยลง แต่รสชาติของโชยุก็ยังเข้มข้นและมีกลิ่นหอม สามารถใช้ทำอาหารได้หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นเมนูผัด, นึ่ง, ต้ม, ตุ๋น หรือจะใช้ทำน้ำสลัดหรือปรุงน้ำซุปก็อร่อยเช่นกัน จากเสียงรีวิวชื่นชอบที่รสชาติไม่เค็มเกินไป เหมาะสำหรับใช้ทำเป็นน้ำจิ้มหรือน้ำราดนึ่งซีอิ๊วค่ะ
อีกหนึ่งแบรนด์โชยุที่เป็นแบรนด์ยอดฮิต การันตีคุณภาพด้วยยอดขายหลายพันชิ้นบนร้านค้าออนไลน์นั่นก็คือ โชยุ ทาคูมิ อายิ ซึ่งมีรสชาติที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอมของถั่วเหลืองชัดเจน เนื่องจากได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตและหมักด้วยวิธีแบบญี่ปุ่น จึงช่วยดึงรสชาติของโชยุออกมาได้เป็นอย่างดี โดยจะมีความหวาน เค็ม และหอมกว่าซอสทั่วไป ใช้ปรุงอาหารได้อร่อย
จากรีวิวของผู้ที่ใช้เป็นประจำและกลับมาซื้อซ้ำกล่าวว่า โชยุยี่ห้อนี้มีความหอม และรสชาติเค็มหวานกำลังดี สามารถใช้ปรุงได้ทั้งอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่น ช่วยให้รสชาติดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สูตรนี้มีส่วนผสมของถั่วเหลืองและข้าวสาลี และอาจมีส่วนผสมของนมและไข่ ผู้ที่มีอาการแพ้ควรหลีกเลี่ยงค่ะ
แบรนด์ Shibanuma เป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นที่มีความเก่าแก่และเป็นที่นิยมในหมู่คนญี่ปุ่นมานานกว่า 334 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1688 โดยโชยุจากแบรนด์นี้ จผ่านการคัดเลือกวัตถุดิบที่ใช้ผลิตอย่างพิถีพิถัน เช่น ถั่วเหลือง, สารสกัดจากปลาโบนิโตะ, สารสกัดจากสาหร่าย และเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ก่อนนำมาเข้ากระบวนการจนได้ซอสโชยุที่มีกลิ่นหอมของปลาแห้ง ช่วยชูรสชาติอาหารได้ดี
เหมาะสำหรับนำไปปรุงอาหารได้ทุกรูปแบบ เช่น เป็นน้ำจิ้มหรือเครื่องปรุงรสให้กับเมนูผัดหรือหมัก รวมถึงใช้ปรุงน้ำซุปได้อีกด้วย หลายคนให้ความเห็นว่าตัวโชยุมีกลิ่นหอมของปลาโอชัดเจน รับประทานคู่กับปลาดิบแล้วอร่อย แถมขวดยังเป็นพลาสติกใช้งานง่าย ไม่ตกแตกอีกด้วยค่ะ
คนไหนที่ชอบรับประทานซาชิมิและซูชิ น่าจะถูกใจโชยุจาก Kikkoman ขวดนี้อย่างแน่นอน เพราะทางแบรนด์ได้คิดค้นสูตรพิเศษ เพื่อที่จะได้โชยุออกมาเหมาะกับการรับประทานคู่กับปลาดิบมากที่สุด โดยจะเลือกใช้ถั่วเหลืองคุณภาพดีมาผสมผสานเข้ากับปลาแห้ง มิริน และสาหร่ายคอมบุ จนได้โชยุที่มีรสเข้มข้นและเค็ม แต่ยังคงความกลมกล่อมเอาไว้อย่างพอดี
เมื่อรับประทานคู่กับปลาดิบ เช่น แซลมอน, ทูนา แล้วจะยิ่งช่วยชูรสชาติของปลาให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานถึง 3 ปี จากความคิดเห็นของหลายคนต่างเห็นพ้องกันว่าเป็นโชยุที่เหมาะกับการรับประทานคู่กับเนื้อปลาจริง แต่ตัวบรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้ว จึงต้องระมัดระวังในการเก็บ ไม่ให้ตกแตกค่ะ
ใครที่ต้องการโชยุที่ได้รสจากธรรมชาติ และผ่านการผลิตที่ได้รับรองมาตรฐานความสดใหม่และสะอาด เราขอแนะนำโชยุ Morisoya ขวดนี้ ที่เป็นโชยุแบบออร์แกนิก ที่ทางแบรนด์ได้คัดสรรเอาแต่วัตถุดิบออร์แกนิกและไม่ผ่านการตัดต่อพันธุกรรมมาใช้ในการผลิต ไม่ว่าจะเป็น ถั่วเหลือง, ข้าวหอมมะลิ หรือน้ำตาลออร์แกนิก จึงมั่นใจได้ว่าเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วไม่มีสารเคมีเจือปน
ที่สำคัญ โชยุสูตรนี้ยังได้มีการใช้ข้าวหอมมะลิเป็นส่วนผสมหลักแทนการใช้ข้าวสาลี ดังนั้น คนที่มีอาการแพ้กลูเตนจึงสามารถรับประทานได้ นอกจากนี้ ยังไม่มีการใส่วัตถุกันเสียหรือผงชูรสอีกด้วย รีวิวของผู้ที่ใช้จริงหลายคนกล่าวว่ารสโชยุเป็นธรรมชาติมาก จะใช้ผสมอาหารหรือเป็นซอสจิ้มก็อร่อยค่ะ
โชยุสูตรกลมกล่อมของแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น yamamori ซึ่งได้รับการยอมรับด้านความอร่อยจากภัตตาคารและร้านอาหารญี่ปุ่นมากว่า 60 ปี โดยจะใช้ส่วนผสมคุณภาพดี เช่น ถั่วเหลือง, มิริน, น้ำตาล นำมาผสมผสานกันจนได้โชยุรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นถั่วเหลืองหมัก ช่วยชูรสชาติของซูชิและซาชิมิได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังปราศจากการใส่ผงชูรสอีกด้วย
ในส่วนของรสชาติหลายคนให้ความเห็นว่ามีความเข้มข้นมาก เมื่อรับประทานคู่กับปลาดิบแล้วได้รสชาติที่ลงตัว ไม่เค็มจนเกินไป และสำหรับใครที่ต้องการโชยุขนาดกะทัดรัดสำหรับพกพาหรือใช้งานที่บ้าน ก็ยังมีขนาด 220 มล. ให้ได้ซื้อกันอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สูตรนี้มีส่วนผสมของถั่วเหลือง คนที่แพ้ควรหลีกเลี่ยงค่ะ
มาต่อกันที่โชยุจากแบรนด์ Umami ที่ผลิตด้วยกรรมวิธีการหมักจากธรรมชาติ ซึ่งจะใช้ถั่วเหลืองและข้าวสาลีคุณภาพดี หมักจนได้ที่ นำมาผสมเข้ากับเครื่องปรุงรสชนิดต่าง ๆ จนได้เป็นโชยุที่มีความเข้มข้นตามแบบของต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ ตัวโชยุจะมีสีน้ำตาลแดงอมเข้มและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ไม่เค็มจนเกินไป เหมาะสำหรับใช้จิ้มซูชิหรือซาชิมิ เพราะจะช่วยดึงรสชาติของปลาสดออกมาได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปใช้ปรุงรสเป็นซอสเทริยากิ ใช้ทำเมนูยากิโซบะ หรือใช้ปรุงน้ำซุป ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถใช้ทำเมนูนึ่งซีอิ๊วแบบไทย ๆ ได้อีกด้วย ในส่วนของอายุการเก็บรักษานั้นจะอยู่ได้นานถึง 8 เดือน และควรเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น เสียงรีวิวชื่นชอบที่โชยุไม่เค็มจัดและมีรสออกหวานเล็กน้อยค่ะ
หากคุณกำลังต้องการโชยุสำหรับใช้ในการปรุงรสอาหารเมนูต่าง ๆ ทั้งไทย เกาหลี ญี่ปุ่น รวมถึงอาหารฝรั่ง โชยุจากง่วนเชียงสไตล์ญี่ปุ่นขวดนี้ น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีค่ะ เพราะนอกจากจะผลิตจากวัตถุดิบที่คัดสรรคุณภาพมาเป็นอย่างดี จนได้โชยุที่มีความกลมกล่อมช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารได้แล้ว ยังมีกลิ่นหอมของถั่วเหลืองที่ชัดเจนอีกด้วย
สูตรนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ทำไข่ออนเซน, อาหารทะเลดองโชยุ เช่น ปูดอง, แซลมอนดอง หรือจะใช้เหยาะไข่ดาวก็ได้เช่นกัน ขวดบรรจุมาขนาดกะทัดรัด 120 มล. สามารถพกพาไปใช้นอกสถานที่หรือจะวางบนโต๊ะกินข้าวก็ได้ ความคิดเห็นของชาวเน็ตต่างพอใจในราคาที่ไม่สูงมากและรสชาติไม่เค็มเกินค่ะ
อย่างที่ได้กล่าวไปตั้งแต่ตอนต้นว่า โชยุเป็นเครื่องปรุงรสชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้ในวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น แถมยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน, โซเดียม, ไขมัน, แร่ธาตุ, กรดอะมิโนที่จำเป็น และวิตามินบี 2 ดังนั้น หลังจากที่ทุกคนได้แนวทางการเลือกโชยุประเภทต่าง ๆ ให้เข้ากับอาหารกันไปแล้ว ก็อย่าลืมลองไปเลือกซื้อโชยุมาช่วยเติมเต็มรสชาติความอร่อยให้กับเมนูอาหารญี่ปุ่นกันดูนะคะ
อันดับที่ 1: Kikkoman|โชยุ Kikkoman แบบตั้งโต๊ะ
อันดับที่ 2: ตราเด็กสมบูรณ์|โชยุ ตราเด็กสมบูรณ์
อันดับที่ 3: Kikkoman|โชยุ Kikkoman สูตรเค็มน้อย Less Salt
อันดับที่ 4: ทาคูมิ อายิ|โชยุ ทาคูมิ อายิ ซอสโชยุญี่ปุ่น
อันดับที่ 5: Shibanuma|โชยุ Shibanuma
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ