10 เครื่องชงกาแฟ French Press ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมแบรนด์ดัง Bodum, Bialetti

เครื่องชงกาแฟ French Press ที่ครองใจคนทั้งโลกมาอย่างยาวนาน ด้วยรูปทรงคลาสสิกดั้งเดิม แต่ในขณะเดียวกันก็มีสีสันเป็นสีทองที่ดูเรียบหรู มาพร้อมกับตัวกรอง 2 ชั้น ที่ผู้ใช้ต่างก็ชื่นชมในเรื่องของประสิทธิภาพในการกรอง ช่วยคัดแยกผงหรือกากกาแฟออกจากน้ำกาแฟได้อย่างดี จึงไม่ต้องห่วงว่ารสชาติกาแฟจะผิดเพี้ยน พร้อมด้ามจับที่ผลิตจากวัสดุพรีเมียมทนทาน ดีไซน์มาให้จับได้อย่างถนัดมือ หลายคนยังถูกใจที่สามารถถอดแยกชิ้นส่วนออกมาล้างทำความสะอาดได้ง่าย และมีความทนทานใช้งานได้หลายปี

เครื่องชงกาแฟ French Press จากแบรนด์ระดับท็อปในเรื่องกาแฟของอิตาลี มีความโดดเด่นตรงที่ดีไซน์เรียบหรูแบบคลาสสิกดั้งเดิม แต่ก็มีประโยชน์ใช้สอยที่เต็มเปี่ยม ทั้งตัวกรองที่มีคุณภาพช่วยกรองอย่างละเอียดถึง 2 ชั้น อีกทั้งยังมีด้ามจับที่เป็นแบบกันความร้อน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้น มีความจุมากถึง 1000 ml ช่วยให้คุณสามารถชงกาแฟได้สูงถึง 8 แก้วต่อครั้ง กาแฟที่ได้จากการชงก็ไม่มีกากหรือผงของกาแฟ อีกทั้งยังมีรสชาติเข้มข้น

ความโดดเด่นของเครื่องชงกาแฟ French Press ยี่ห้อนี้อยู่ที่ขนาดและความจุ 1400 ml จึงทำให้สามารถชงกาแฟได้มากถึง 10 แก้วต่อ 1 ครั้ง อีกทั้งยังใช้วัสดุหลักเป็นสแตนเลสคุณภาพพรีเมียมที่นอกจากจะมีความทนทาน ไม่แตกหักได้ง่ายแล้ว ยังช่วยเก็บรักษาอุณหภูมิของกาแฟได้นานถึง 4 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว กลายเป็นเครื่องชงกาแฟ French Press ที่หลายคนนิยมพกพาไปออกแคมป์หรือปิคนิคกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีจำนวนชั้นกรองถึง 2 ชั้น ช่วยกรองกากกาแฟออกได้ละเอียด

เครื่องชงกาแฟ French Press ที่ฉีกแนวดีไซน์แบบดั้งเดิม ด้วยรูปทรงสวยเก๋ที่ดูเป็นโมเดิร์นแบบทรงกระบอก แบ่งออกเป็น 2 ชั้น วัสดุหลักด้านในเป็นแก้ว Borosilicate ที่ทนต่อความร้อน ส่วนด้านนอกเป็นซิลิโคนเพื่อช่วยให้คุณสามารถจับเครื่องชงกาแฟ French Press ได้โดยไม่ร้อนมือ นอกจากนี้ยังมีสเกลช่วยบอกระดับของน้ำเพื่อให้คุณสามารถชงกาแฟออกมาได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ตัวกรองแม้ว่าจะเป็นชั้นเดียวแต่ก็มีความละเอียดถึง 0.35 มิลลิเมตร ช่วยกรองกาแฟได้อย่างดี

ถ้าใครที่อยากมองหาเครื่องชงกาแฟ French Press เอาไว้ใช้งานนอกสถานที่จะต้องถูกใจยี่ห้อนี้แน่นอน เนื่องจากใช้วัสดุหลักเป็นสแตนเลสที่ไม่ต้องกลัวว่าจะตกแตก อีกทั้งยังช่วยเก็บรักษาอุณหภูมิของกาแฟให้คงที่ มีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถชงกาแฟได้ 3 แก้วต่อ 1 ครั้ง มีรูปทรงกระบอกที่ช่วยให้คุณสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกเหมือนกระติกน้ำทั่ว ๆ ไป ตัวฝาปิดของเครื่องชงกาแฟ French Press นี้ก็ยังผลิตจากซิลิโคนที่ช่วยกันการหกเลอะเทอะได้อย่างสนิท

เครื่องชงกาแฟ French Press ที่แม้ว่าวัสดุหลักจะมาจากแก้ว Borosilicate แต่ก็มีความทนทานมากขึ้นเพราะมีความหนาถึง 2 ชั้น นอกจากจะมีความทนทานแล้ว ยังช่วยรักษาอุณหภูมิของน้ำกาแฟให้ร้อนนานขึ้นด้วยเช่นกัน ปากของเครื่องชงกาแฟ French Press ยังมีมุมแหลมพอดีที่จะช่วยเทน้ำกาแฟออกจาก French Press ได้อย่างสะดวกไม่หกเลอะเทอะ ตัวกรองนั้นผลิตจากสแตนเลสที่มีคุณภาพและมีขั้นตอนการกรองถึง 2 ขั้น ช่วยแยกกากกาแฟออกจากน้ำกาแฟได้อย่างดียิ่งขึ้น

เป็นเครื่องชงกาแฟ French Press ที่มาแบบเป็นชุดเนื่องจากมีเมล็ดกาแฟจากทางแบรนด์แถมมาให้เพื่อชิมกันถึง 50 กรัม ดีไซน์ของเครื่องชงกาแฟ French Press นี้มาในรูปลักษณ์แบบดั้งเดิม วัสดุหลักเป็นแก้ว Borosilicate ในขณะเดียวกันก็มีโครง Stainless ช่วยเสริมด้านนอกให้ดูสวยงามและแข็งแรง ตัวกรองนั้นมีจำนวน 2 ชั้นซึ่งช่วยกรองกากหรือผงกาแฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีขนาดความจุของเครื่องชงกาแฟที่สามารถชงได้มากถึง  6 แก้วต่อ 1 ครั้ง

เครื่องชงกาแฟ French Press ที่ราคาไม่แรงมาก มีขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถชงกาแฟได้ 3 แก้วต่อ 1 ครั้ง เหมาะสำหรับคนที่ชงดื่มกาแฟคนเดียว ผลิตจากแก้ว Borosilicate ที่ทนต่ออุณหภูมิสูง ๆ ได้ และยังมีส่วนที่เป็นพลาสติกหุ้มด้านนอก ตัวกรองของเครื่องชงนั้นผลิตจากสแตนเลสและมีจำนวน 2 ชั้น ช่วยกรองกาแฟได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น หลายคนค้นพบว่าสามารถใช้งานได้อย่างพึงพอใจกับราคา พร้อมกันนี้ยังมีช้อนที่เอาไว้สำหรับตวงกาแฟแถมมาให้อีกด้วย 

ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู ที่มีรูปทรงคล้ายกับเหยือกกาแฟมากกว่าการเป็นเครื่องชงกาแฟ French Press แบบเดิม ๆ ทำให้เครื่องชงกาแฟ French Press รุ่นนี้กลายเป็นที่ฮือฮาทันทีที่วางจำหน่าย วัสดุหลักของเครื่องนั้นมาจากสเตนเลสที่นอกจากจะมีความทนทานแล้วยังช่วยรักษาอุณหภูมิของน้ำกาแฟให้ร้อนอยู่เสมอ ตัวกรองนั้นเป็นสแตนเลส 2 ชั้นที่มีความถี่และความละเอียดของตาข่าย ช่วยให้สามารถกรองกากกาแฟได้อย่างดี แต่มีราคาที่ค่อนข้างสูงจึงไม่เหมาะกับมือใหม่หัดชง

เครื่องชงกาแฟ French Press รุ่นนี้มีขนาดใหญ่ถึง 1 ลิตร จึงทำให้คุณสามารถชงดื่มได้ถึง 4 แก้วต่อ 1 ครั้ง วัสดุหลักนั้นผลิตจากแก้วทนความร้อนหรือ Borosilicate Glass พร้อมหูจับที่เป็นแก้วด้วยเช่นกัน ตัวฐานรองนั้นมียางซิลิโคนช่วยกันลื่นให้กับเครื่องชงกาแฟด้วย พร้อมกันนี้ยังมีราคาที่ถือว่าคุ้มค่ากับขนาดที่ได้ แต่ดีไซน์ของเครื่องชงกาแฟนั้นค่อนข้างจะเรียบ ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่มีที่จับยึดบนตัวเครื่อง จึงอาจจะทำให้เกิดการลวกมือในขณะใช้ได้