การมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเองถือเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน แต่ในการสร้างบ้านนั้นจำเป็นต้องใช้เงินที่มากพอสมควร โดยเฉพาะกับบ้านหลังใหญ่ทำเลดีย่อมมีราคาที่สูงมากขึ้นไปอีก ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้คนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองโดยที่ไม่ใช้เงินก้อนได้ก็คือ การกู้เงินกับธนาคารเพื่อขอสินเชื่อสร้างบ้านนั่นเอง
วันนี้เรามีวิธีการเลือกสินเชื่อสร้างบ้านเบื้องต้นมาแนะนำพร้อมคำแนะนำจาก Financial Planner เพื่อให้คุณเตรียมความพร้อมก่อนไปยื่นกู้กับธนาคาร พร้อมรวบรวม10 สินเชื่อสร้างบ้านจากหลากหลายธนาคารชั้นนำมาเป็นแนวทาง เพื่อให้ทุกคนสามารถเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ ทั้งเรื่องของอัตราดอกเบี้ย วงเงินกู้ และระยะเวลาการผ่อนก่อนการตัดสินใจค่ะ
Top 5 สินเชื่อสร้างบ้าน
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารที่ให้สินเชื่อเพื่อการสร้างบ้านสำหรับคนที่มีรายได้น้อย
ธนาคารออมสิน
เหมาะสำหรับคนที่ฝากเงินกับธนาคารออมสิน และผู้มีรายได้ประจำ
ธนาคารกรุงศรี
มีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรี
ธนาคารกรุงเทพ
ยิ่งกู้เยอะดอกเบี้ยยิ่งต่ำ เลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันไดหรือคงที่
คุณธัญญ่าเริ่มทำงานในสายงานด้านการเงินและการธนาคารตั้งแต่ปี 2014 ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริการประจำหน่วยงาน เป็นผู้คอยดูแลและให้บริการลูกค้าเกี่ยวกับการทำธุรกรรมด้านการเงิน อาทิ บริการด้านเงินฝาก ถอน โอนในและต่างประเทศ ระบบการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน วางแผนทางด้านการเงินและการลงทุน ประกันชีวิต ประกันควบการลงทุน กองทุนรวม หุ้น สินเชื่อ บริการทางการเงินดิจิทัลโดยให้บริการด้านการขาย การบริการประสานงาน และให้คำปรึกษาให้กับลูกค้าจนแล้วเสร็จ โดยได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในด้านนี้มาเป็นเวลาเกือบ 10 ปี ปัจจุบันคุณธัญญ่าดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ Financial Planner ของหน่วยงานธนาคารชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศไทย และยังคอยศึกษาหาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมด้านการเงินอยู่เรื่อย ๆ ผ่านการสัมมนาและการเข้าอบรบต่าง ๆ
คุณหยิมทำงานด้านธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี 2011 ในโครงการเชียงใหม่ บิสสิเนส พาร์ค (CBP) โดยรับผิดชอบเป็นผู้ดูแลการซื้อขายและให้เช่าที่ดินในโครงการทั้งหมดให้แก่องค์กรชั้นนำที่ตั้งอยู่ในโครงการ เช่น สำนักงานใหญ่ บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต ประจำภาคเหนือ, บมจ. ศรีตรัง โกลฟส์ (ไทยแลนด์), ธนาคารจีนแห่งประเทศไทย ตลอดจนสถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาในเชียงใหม่ (แห่งใหม่) ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง อีกทั้งยังเป็นผู้จัดตั้งทีมฝ่ายขายแก่โครงการอาคารพาณิชย์ที่ตั้งอยู่ในโครงการอีกด้วย นอกจากการสร้างกลยุทธ์ในประชาสัมพันธ์การขายและการตลาดแล้ว ยังคอยบริการประสานงาน ให้คำปรึกษาและแนะนำแนวทางการขอสินเชื่อให้แก่ลูกค้า อีกทั้งยังให้บริการจัดหาผู้เช่าที่มั่นคงให้แก่ลูกค้าและการขายต่อให้ได้มูลค่าสูงสุดสำหรับกลุ่มผู้ลงทุน จนโครงการฯ เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่และเขตภาคเหนือเป็นอย่างดี ปัจจุบันคุณหยิมดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดของโครงการเชียงใหม่ บิสสิเนส พาร์ค (CBP) และยังเป็นผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ของบริษัทในเครืออีกด้วย
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
สินเชื่อสร้างบ้าน คือสินเชื่อเพื่อต้องการหาระดมเงินสร้างบ้านในแบบที่ตรงตามความต้องการของเจ้าของบ้าน เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่ว่าง หรือที่ดินเปล่า รวมถึงผู้ที่ต้องการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่บนทำเลที่ดินที่เจ้าของบ้านเลือกเอง ข้อดี คือผู้ซื้อบ้านสามารถสร้างบ้านที่ตรงตามความต้องการของตนเอง สามารถเลือกวัสดุก่อสร้าง สุขภัณฑ์ การตกแต่งบ้าน สะดวกแก่การแก้ไขเพิ่มเติมแบบบ้านได้ทุกเมื่อ ตามงบประมาณการก่อสร้าง ค่าแรงงาน จนได้คุณภาพบ้านที่พึงพอใจบนที่ดินทำเลของตนเองหรือในบริเวณพื้นที่บ้านเดิม
สำหรับสินเชื่อซื้อบ้านทั่วไปนั้นเป็นสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ หรือบ้านมือสองสำเร็จรูป ซึ่งมีรูปแบบบ้านที่ชัดเจนแล้ว เหมาะกับผู้ที่ต้องการบ้านพร้อมเข้าอยู่อาศัย หรือผู้ที่กำลังพิจารณาการซื้อบ้านในโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ ข้อดี คือ ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบแบบบ้าน พื้นที่ใช้สอยในบ้าน ทำเลที่ตั้งของบ้าน กับงบประมาณที่ตนเองตั้งไว้ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดของบ้าน มาตราฐานของวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างและตกแต่ง หากพิจารณาซื้อจากโครงการบ้านจัดสรร ผู้ซื้อยังสามารถเข้าไปชมบ้านตัวอย่างก่อนตัดสินใจซื้อได้อีกด้วย จึงประหยัดเวลาในการควบคุมการก่อสร้างด้วยตนเองเมื่อเทียบกับบ้านสร้างเอง
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจจะกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านหรือสร้างบ้านนั้น ผู้กู้ควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจในระยะยาว เพราะเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลาในการผ่อนชำระค่อนข้างนาน ดังนั้น ปัจจัยต่าง ๆ นอกเหนือจากความต้องการทางการเงินแล้ว ควรคำนึงถึงสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ประกอบด้วย เพื่อที่เราจะได้อาศัยอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า 'บ้าน' ได้อย่างมีความสุข
การขอสินเชื่อสร้างบ้านถือเป็นการขอกู้ในระยะยาวและมีมูลค่าการกู้ยืมที่สูง การเลือกสินเชื่อจึงต้องเลือกและพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและสามารถควบคุมงบประมาณในการสร้างบ้านได้ โดยข้อมูลเบื้องต้นที่ทุกคนควรนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจมีดังนี้
การตัดสินใจเลือกสินเชื่อสร้างบ้าน ผู้กู้ควรคำนึงถึงอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการผ่อนชำระ และเงื่อนไขการชำระหนี้อย่างถี่ถ้วน ซึ่งแต่ละสถาบันการเงินจะมีเงื่อนไขแตกต่างกัน ซึ่งผู้กู้ควรนำมาพิจารณาร่วมกับรายได้ และการวางแผนชำระหนี้ของตนเอง โดยไม่ผลกระทบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต ซึ่งมีสูตรการคำนวณเบื้องต้นดังนี้
เงินค่าผ่อนบ้านต่อเดือน ไม่ควรมากกว่า 50% ของรายได้ต่อเดือน กรณีผ่อนหนี้บ้านเพียงอย่างเดียว และไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน กรณีผ่อนหนี้สินหลายวงเงิน เช่น หนี้สินผ่อนรถยนต์, บัตรเครดิตต่าง ๆ และเมื่อรวมกับยอดผ่อนหนี้สินทั้งหมดแล้ว ไม่ควรเกิน 50% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งสถาบันการเงินก็จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากเอกสารทางการเงินของผู้กู้ เพื่อพิจารณารายได้ ความมั่นคงทางอาชีพย้อนหลัง ภาระหนี้สิน รวมถึงการตรวจข้อมูลผู้กู้จากข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา
วงเงินกู้สินเชื่อบ้านสูงสุดอยู่ระหว่าง 80 - 100% ของราคาบ้าน ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงิน ดังนั้นหากต้องการได้รับพิจารณาวงเงินกู้ที่สูง คุณต้องวางแผนการชำระหนี้สินอื่น ๆ ให้น้อยที่สุด เพื่อให้สถาบันการเงินเชื่อมั่นว่า ผู้กู้มีกำลังการผ่อนชำระอย่างสม่ำเสมอจนสิ้นสุดสัญญากู้ยืม ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานได้ถึง 10 - 30 ปี ขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้
สำหรับผู้ซื้อบ้านที่ต้องการใช้เงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แนะนำว่าควรมีอายุไม่เกิน 40 ปี เพราะโดยทั่วไปสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะมีระยะเวลาผ่อนชำระอยู่ระหว่าง 20 - 35 ปี ดังนั้น ผู้กู้ที่มีอายุน้อย สามารถมีระยะเวลาผ่อนชำระยาวกว่า ทั้งยังมีระยะเวลาการประกอบอาชีพและหาเลี้ยงชีพได้อีกนานกว่า ผู้กู้ที่มีอายุมากซึ่งระยะเวลาในการประกอบอาชีพสั้นลง ทั้งนี้การพิจารณาความมั่งคงของผู้กู้ไม่ได้พิจารณาจากอายุเท่านั้น แต่ยังพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น หากผู้กู้อยู่ในวัยทำงานเริ่มต้นที่อายุ 25 ปี ระยะเวลาทำงานอย่างน้อย 1 ปี ประกอบอาชีพหรือทำงานในบริษัทที่ทำงานมีความมั่นคงมากน้อยเพียงใด มีเงินดาวน์พอประมาณจำนวนหนึ่งหรือไม่
ส่วนใหญ่ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อ 80% ของราคาบ้าน แต่บางธนาคารอาจจะปล่อย 100% แล้วแต่โปรโมชันของธนาคารและวิชาชีพของผู้กู้ สุดท้ายคือ ผู้กู้มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำที่แน่นอนจะสามารถผ่อนได้ถึงอายุ 60 ปี และสามารถอนุมัติสัญญากู้ยืมได้ยาวนานถึง 35 ปี ในกรณีที่ผู้กู้ยืมอยู่ในวัยกลางคน อายุระหว่าง 30 - 40 ปี ระยะเวลาการทำงานนานกว่า 10 ปี มีอัตราเงินเดือนที่สูงขึ้น และมีวินัยทางการเงินที่ดีซึ่งพิจารณาจากวินัยการผ่อนค่างวดรถยนต์ บัตรเครดิต ก็สามารถได้รับพิจารณาวงเงินที่สูงขึ้นด้วย ส่วนกลุ่มผู้กู้ที่เป็นเจ้าของธุรกิจ (สัญญากู้ยืมในนามบุคคล) ที่มีการเดินบัญชีธุรกิจคล่องตัว มีรายได้มากกว่ารายจ่ายอันแสดงถึงผลประกอบการที่ดี ทั้งยังมีวินัยทางการเงินผ่อนชำระหนี้สิน เงินกู้ยืมในธุรกิจอย่างตรงเวลา ก็จะสามารถมีระยะเวลาผ่อนชำระได้ถึง 65 ปี
ดังนั้น ช่วงอายุที่เหมาะสมกับการมีบ้านมากที่สุด คือ เมื่อผู้กู้มั่นใจแล้วว่าสถานะทางการเงินและอาชีพมั่นคง เพื่อให้มีความสามารถในการผ่อนชำระในระยะยาวจนถึงวัยก่อนเกษียณอายุ ดังนั้นหากผู้กู้มีความสามารถในการกู้ได้ก่อนอายุ 30 ปีได้ก็จะเป็นผลดี เพราะหากอายุในการการกู้น้อย เราจะมีระยะเวลาในการผ่อนชำระมากขึ้น อัตราการผ่อนชำระรายงวดก็จะไม่สูง และเมื่ออาชีพมีโอกาส ได้ปรับเงินเดือน ช่องทางเพิ่มรายได้มากขึ้น โอกาสในการปิดชำระเงินต้นก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน
ก่อนอื่น ขอแนะนำให้ผู้กู้มีการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่ง ทั้งในแบบระยะสั้น ระยะยาว ดอกเบี้ยเฉลี่ยรวมตลอดระยะเวลาของสัญญา อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่หรือขั้นบันได แต่จะมีข้อดีสำหรับผู้กู้บ้างกลุ่มที่อาจจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เนื่องจากองค์กรหรือหน่วยงานที่ประกอบอาชีพอยู่นั้น อาจจะมีการทำ MOU หรือ เป็นการทำข้อตกลงกันระหว่างสถาบันการเงินกับหน่วยงานทำให้ตัวผู้กู้ หรือในกรณีที่ผู้กู้ ครอบครัว หรือธุรกิจของผู้กู้มีสายสัมพันธ์ในการเป็นลูกค้าธนาคารมาจากรุ่นสู่รุ่นก็สามารถจะขอต่อรองดอกเบี้ยอัตราพิเศษกับทางธนาคารได้
1,400,000 (เงินต้น) x 3% (อัตราดอกเบี้ยต่อปี) x 4 (ระยะเวลา)
= ดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมด 168,000 บาทวงเงินกู้บ้านสามารถคำนวณได้โดยคำนึงถึง รายได้ของผู้ที่ยื่นกู้ 3 ปัจจัย ได้แก่ รายรับ รายจ่าย และประวัติการชำระหนี้ โดยพิจารณาจากรายละเอียดดังนี้
1. ประเมินรายรับ ส่วนมากสถาบันการเงินมักจะกำหนดอัตราการผ่อนชำระรายเดือนคร่าว ๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 40% ของรายรับในแต่ละเดือน เช่น หากมีรายรับเดือนละ 15,000 บาท ความสามารถในการผ่อนชำระสูงสุดต่อเดือนก็จะอยู่ที่ 6,000 บาท ซึ่งหากประเมินแล้วว่าบ้านหลังที่ต้องการกู้มีมูลค่าสูงเกินกว่าความสามารถที่จะชำระแต่ละงวดได้ ก็อาจทำให้การพิจารณาอนุมัติเป็นไปได้ยากขึ้น
2. ประเมินรายจ่าย (ภาระหนี้สิน) โดยปกติการกำหนดประมาณการสัดส่วนการชำระค่าผ่อนบ้านรายเดือนจะต้องไม่เกิน 40% นั้น เพราะต้องการให้อีก 60% เป็นรายได้ช่วยในการดำรงชีพ แต่ถ้าหากผู้ยื่นกู้มีรายจ่ายหรือภาระหนี้สินก็มีส่วนที่ทำจะให้วงเงินกู้ลดลง เช่น หากมีรายรับต่อเดือนละ 15,000 บาท แต่มีรายจ่ายภาระหนี้สินที่ต้องชำระเดือนละ 3,000 บาท ธนาคารจะทำการหักรายจ่ายแล้วประเมินรายรับที่เหลือ ทำให้รายรับของผู้กู้เหลือเพียง 12,000 บาท ซึ่งหมายถึงจะมีกำลังผ่อนชำระสูงสุดเพียง 40% ของ 12,000 คือ 4,800 บาท
3. ตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ปกติ นอกจากจะมีผลต่อการอนุมัติการขอสินเชื่อแล้วยังมีผลต่อวงเงินกู้อีกด้วย หากผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ไม่ปกติบ่อยครั้ง แต่ในปัจจุบันหากผู้กู้มีรายรับที่มั่นคง ก็อาจได้รับการผ่อนผันอนุมัติสินเชื่อให้ได้ แต่อาจได้วงเงินที่ต่ำลงกว่าปกติ
วิธีคำนวณวงเงินกู้บ้านสูงสุดของธนาคารเบื้องต้น โดยการนำความสามารถในการผ่อนชำระรายเดือนมาคูณกับ 150 ก็จะสามารถประมาณวงเงินกู้สูงสุดได้ (สูตรการคำนวณดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น หากผู้ยื่นกู้ต้องการทราบข้อมูลแบบละเอียดชัดเจน แนะนำให้ทำการติดต่อสอบถามสถาบันการเงินที่ท่านสนใจ)
ตัวอย่าง : ผู้กู้มีรายรับประจำ 20,000 บาท เท่ากับสามารถผ่อนชำระได้เดือนละ 8,000 บาท สามารถขอวงเงินกู้สูงสุดได้ที่ 8,000 x 150 = 1,200,000 บาท
นอกจากการประเมินความสามารถในข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว อาจมีปัจจัยส่วนอื่นที่ส่งผลต่อการพิจารณา เช่น รายการเดินบัญชี หรือจำนวนเงินสะสมของผู้ขอสินเชื่อ ความมั่นคงของรายรับเข้าบัญชีธนาคาร ตลอดจนความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาของรายได้หรืออาชีพของผู้ยื่นสินเชื่อ ดังนั้นหากผู้ขอกู้ที่ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว อาชีพอิสระที่ไม่ได้รับรายได้โดยการโอนเข้าบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้ขาดความน่าเชื่อถือและได้รับการพิจารณาวงเงินน้อยลง
แต่หากผู้กู้ในกลุ่มอาชีพอิสระสามารถยื่นหลักฐานผลประกอบการหรือที่มาของรายได้เพิ่มตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคารเพื่อให้ได้รับอนุมัติจำนวนวงเงินกู้ที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในการได้รับอนุมัติวงเงินกู้ คือ วินัยทางการเงินของผู้ขอกู้หรือประวัติการชำระหนี้สินเต็มจำนวนและตรงเวลาตลอดมา เครดิตสินเชื่อส่วนบุคคลในยุคปัจจุบันถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขอกู้สินเชื่อทุกประเภทรักษาไว้อย่างดีที่สุด
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สินเชื่อสร้างบ้าน โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2565 | ![]() | ธนาคารที่ให้สินเชื่อเพื่อการสร้างบ้านสำหรับคนที่มีรายได้น้อย | |
2 | ธนาคารออมสิน สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อเคหะ | ![]() | เหมาะสำหรับคนที่ฝากเงินกับธนาคารออมสิน และผู้มีรายได้ประจำ | |
3 | ธนาคารกรุงศรี สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อกรุงศรีเพื่อปลูกสร้างบ้าน | ![]() | มีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้บัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงศรี | |
4 | ธนาคารกรุงเทพ สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อบ้านบัวหลวง สำหรับลูกค้าทั่วไป | ![]() | ยิ่งกู้เยอะดอกเบี้ยยิ่งต่ำ เลือกผ่อนชำระได้ทั้งแบบขั้นบันไดหรือคงที่ | |
5 | ธนาคารทีทีบี สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อบ้านใหม่ - บ้านมือสอง | ![]() | ให้วงเงินขอสินเชื่อสร้างบ้านที่หลากหลาย สูงสุดถึง 50 ล้านบาท | |
6 | ธนาคารกรุงไทย สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อบ้าน ธนาคารกรุงไทย | ![]() | อัตราดอกเบี้ยต่ำ ยอดผ่อนชำระต่อเดือนน้อย ยาวนานถึง 40 ปี | |
7 | ธนาคารไทยพาณิชย์ สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อซื้อบ้านใหม่ | ![]() | มีบริการสมัครขอสินเชื่อแบบออนไลน์ และรู้ผลอนุมัติรวดเร็วทันใจ | |
8 | ธนาคารกสิกรไทย สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อบ้าน | ![]() | ดอกเบี้ยพิเศษสำหรับกู้ซื้อทรัพย์สินรอขายของธนาคาร รู้ผลไว | |
9 | ธนาคารยูโอบี สินเชื่อสร้างบ้าน UOB Home Loan | ![]() | ครอบคลุมทั้งการขอกู้เพื่อ บ้านใหม่ บ้านมือสอง และก่อสร้างบ้าน | |
10 | ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ สินเชื่อสร้างบ้าน โฮมโลน โดนใจ สินเชื่อบ้าน | ![]() | สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล |
ธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นหนึ่งในธนาคารที่คนนิยมขอกู้เงินเพื่อการสร้างบ้าน เพราะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ โดยเฉพาะโครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ซึ่งจะจัดขึ้นในแต่ละปี ซึ่งในปี 2022 นี้ จะมีกำหนดเวลาให้ยื่นคำขอกู้เงินและทำนิติกรรมการเงินต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2022 ไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2022 โดยให้วงเงินสูงสุด 3,000,000 บาท กับบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาท ต่อเดือน ทั้งพนักงานประจำและผู้มีอาชีพอิสระ
หากใครที่เป็นผู้ฝากเงินประเภทเผื่อเรียกของธนาคารออมสินสามารถยื่นขอสินเชื่อสร้างบ้านกำธนาคารได้เลย หากต้องการกู้เพื่อที่อยู่อาศัย กู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน กู้เพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิต เพื่อประกันสินเชื่อ หรือเป็นค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยให้กับบ้าน ธนาคารออมสินสามารถให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 110% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์เลยทีเดียว แต่ผู้ขอกู้ต้องมีรายได้ที่มั่นคงเป็นประจำ
สำหรับใครที่รับเงินเดือนผ่านทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา การขอสินเชื่อสร้างบ้านกับธนาคารกรุงศรีถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษคือ ส่วนลดอัตราดอกเบี้ยในปีแรก 0.25% จากอัตราดอกเบี้ยปกติ ในส่วนของวงเงินให้กู้นั้น ธนาคารให้กู้สูงสุดที่ 100% ของค่าจ้างปลูกสร้าง (กรณีมีที่ดินเป็นของตัวเอง) หรือ 90% ของราคาประเมินรวมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เริ่มต้นที่ 2.70% ถึง 3.35% โดยขึ้นอยู่กับวงเงินที่ขอสินเชื่อและแผนการผ่อนชำระ
ธนาคารกรุงเทพถือเป็นหนึ่งธนาคารที่ให้บริการด้านการเงินที่มีผลิตภัณฑ์ประเภทสินเชื่อสร้างบ้านหรือคอนโดมิเนียม ที่มีทางเลือกในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่หลากหลาย โดยมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับบุคคลทั่วไปให้เลือกทั้งแบบขั้นบันได เช่น วงเงินกู้ 1 - 5 ล้านบาท ปีแรกเริ่มต้นที่ 3.50% แต่ถ้าหากวงเงินกู้มากกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป ปีแรกเริ่มต้นที่ 3.00% หรือจะเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ในช่วง 3 ปีแรก จะมีอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 4.45% สำหรับวงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท เป็นต้น
ธนาคารทีทีบีเป็นธนาคารที่ให้วงเงินสำหรับขอสินเชื่อสร้างบ้านที่หลากหลาย โดยสามารถขอกู้ได้ตั้งแต่ 500,000 ไปจนถึงสูงสุดที่ 50,000,000 บาท และมีเจ้าหน้าที่ธนาคารพร้อมให้บริการถึงที่ นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับคนที่สมัครผลิตภัณฑ์เสริม ทั้ง 3 ประเภท คือ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านสไมล์โฮม/สไมล์โฮมพลัส (MRTA) บริการหักบัญชีอัตโนมัติผ่านบัญชีออมทรัพย์ทีทีบีเพื่อผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน และบัตรเดบิตทีทีบี จะได้รับดอกเบี้ยพิเศษ เฉลี่ย 3 ปีแรก 2.75% ต่อปี อีกด้วย
สินเชื้อส้รางบ้านจากธนาคารกรุงไทย สามารถให้วงเงินกูสูงสุดwไม่เกิน 110% ต่อหลักประกัน โดยมีเงื่อนไขดังนี้ ที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่าน้อยกว่า 10 ล้านบาท สูงสุดไม่เกิน 110% และที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10 ล้านบาท สูงสุดไม่เกิน 100% พร้อมกับสามารถเลือกอัตราดอกเบี้ยได้ทั้งแบบคงที่และลอยตัว และยังสามารถผ่อนบ้านได้ต่ำสุดอยู่ที่ล้านละ 3,000 บาท/เดือน ในช่วง 1 ปีแรก นอกจากนี้หากทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อเพิ่มด้วย จะได้รับอัตราดอกเบี้ยในปีแรกต่ำสุดเริ่มต้นที่ 0.56%
สินเชื่อบ้านใหม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ สามารถให้วงเงินกู้สูงสุดที่ 100% ต่อหลักประกัน พร้อมมีแผนในการเลือกดอกเบี้ยและรูปแบบการผ่อนชำระที่สามารถตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์ สามารถเลือกผ่อนได้ทั้งแบบดอกเบี้ยคงที่และดอกเบี้ยลอยตัว เพื่อให้ผู้กู้สามารถวางแผนการเงินได้ตรงตามความต้องการ มีบริการช่วยวางแผนการขอสินเชื่อและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายให้กับผู้กู้ นอกจากนี้ยังมีบริการสมัครขอสินเชื่อในรูปแบบออนไลน์ และรู้ผลอนุมัติรวดเร็วทันใจ
สินเชื่อสร้างบ้านของธนาคารกสิกรไทยจะมีความพิเศษในเรื่องของการรู้ผลอนุมัติไวเร็วสุดอยู่ที่ 3 วัน หากยื่นเอกสารครบ โดยมีสิทธิพิเศษในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยมากมายให้เลือกตามความเหมาะสม เช่น หากผู้กู้มีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป จะได้อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.90% ในช่วง 3 ปีแรก และสำหรับกู้ซื้อทรัพย์สินรอการขายของธนาคารกสิกรไทยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้น 0% เดือนที่ 1-6 ในปีแรก หรือ 3.39% ในช่วง 3 ปีแรก เป็นต้น
ธนาคารยูโอบีมีสินเชื่อสำหรับสร้างบ้านที่ให้วงเงินการขอกู้ตั้งแต่ต่ำสุดที่ 500,000 บาท และสูงสุด 50,000,000 บาท และมีอัตราดอกเบี้ยให้เลือกหลากหลายขึ้นอยู่กับโครงการบ้านที่ขอกู้ เช่น สินเชื่อบ้านใหม่สำหรับโครงการบริษัทมหาชน ปีแรกเริ่มต้น 3.35% สินเชื่อบ้านใหม่สำหรับโครงการที่ธนาคารสนับสนุน ปีแรกเริ่มต้น 3.40% และสินเชื่อบ้านทั่วไป/บ้านมือสอง/ก่อสร้างบ้าน ปีแรกเริ่มต้น 3.55% เรียกได้ว่าครอบคลุมทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง และก่อสร้างบ้าน
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นธนาคารที่ให้สินเชื่อสร้างบ้านสำหรับคนที่ต้องการซื้อบ้านในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีเงื่อนไขดังนี้ ที่พักอาศัยแบบแนวราบต้องมีราคาไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท และที่พักอาศัยแบบแนวสูงต้องมีราคาไม่น้อยกว่า 2.50 ล้านบาท สามารถเลือกผ่อนชำระต่อเดือนขั้นต่ำ ล้านละ 3,500 บาท ในกรณีที่เลือกอัตราดอกเบี้ยคงที่ นอกจากนี้หากผู้กู้เลือกทำประกัน MRTA/MLTA ผ่านธนาคาร จะได้รับอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.90% ใน 2 ปีแรก
เอกสารบางรายการผู้ขอกู้อาจต้องเตรียมทั้งเอกสารตัวจริงเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อและสำเนาเอกสารเพื่อส่งพิจารณา โดยเจ้าหน้าที่สินเชื่อของแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงินจะแจ้งให้ผู้ขอกู้ได้ทราบตั้งแต่เริ่มดำเนินการซึ่งอาจจะมีเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมจากนี้
1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
4. หนังสือรับรองเงินเดือน หรือสลิปเงินเดือน
5. สำเนาเดินบัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน (บัญชีที่เงินเดือนเข้า)
6. เอกสารคู่สมรส (กรณีสมรส อาจจะต้องใช้เอกสารแบบเดียวกับข้างต้นของคู่สมรสด้วย)
ส่วนการขอสินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน ทางสถาบันการเงินอาจจะต้องเตรียมเอกสารเพื่อประเมินมูลค่าการก่อสร้างบ้าน ได้แก่
1. แบบบ้าน หรือแปลนบ้าน เนื่องจากการกู้เพื่อสร้างบ้านจะไม่สามารถประเมินมูลค่าเงินที่จะก่อสร้างได้จากที่ดินเปล่า ดังนั้นจึงจะต้องใช้แบบบ้านหรือแปลนบ้านในการประเมินราคาการพิจารณาสินเชื่อให้กับผู้กู้ ส่วนใหญ่ก่อนที่จะทำการขอสินเชื่อ ผู้ขอกู้จะมีการตกลงกับสถาปนิกหรือวิศวกรให้ออกแบบบ้าน โดยจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2% ของมูลค่ารวมบ้านหรือขึ้นอยู่กับผู้รับงานนั้น ๆ
2. ผู้รับเหมา หรือ สัญญาว่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง เป็นส่วนหนึ่งในการประเมินงบประมาณค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้าน เนื่องจากการสร้างบ้านจะต้องมีทุนในการจ้างผู้รับเหมาให้สร้างบ้าน ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะรวมอยู่กับสินเชื่อในการกู้เงิน ดังนั้น ก่อนที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อก็จะต้องมั่นใจว่า เมื่ออนุมัติวงเงินสินเชื่อไปแล้ว เม็ดเงินจะถูกนำไปใช้จ่ายในการสร้างบ้านจริง โดยดูจากสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาหรือเงินที่ต้องนำไปชำระกับผู้รับเหมานั่นเอง
3. โฉนดที่ดิน ผู้ขอกู้อาจจะถือครองกรรมสิทธิ์บนที่ดิน หรือหากผู้ขอกู้ไม่ได้เป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์สามารถขอให้ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินยื่นขออนุมัติกู้ร่วมได้ ซึ่งผู้ขอกู้สามารถสอบถามคุณสมบัติของบุคคลที่สามารถดำเนินการขอกู้ร่วมได้จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร
4. ใบอนุญาตการก่อสร้าง การก่อสร้างบ้านจะต้องมีเรื่องขอกฏหมายส่วนต่าง ๆ มาเกี่ยวข้องตั้งแต่เริ่มต้นการถมที่ดินไปจนถึงการปลูกสร้าง ดังนั้นการจะสร้างสิ่งก่อสร้างใด ๆ ก็ตามจะต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น เพื่อติดต่อขอใบอนุญาตและเป็นหลักประกันว่าการสร้างบ้านของผู้กู้นั้นจะไม่ประสบปัญหาใด ๆ ย้อนหลัง และไม่มีผลต่อการให้สินเชื่อเพื่อก่อสร้างบ้าน
เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจมีการชะลอตัวประกอบกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้ราคาของสินค้าและบริการต่าง ๆ สูงขึ้นตาม ดังนั้นหากใครก็ตามที่มีแผนในการสร้างบ้านและสนใจที่จะขอสินเชื่อสร้างบ้านกับธนาคาร ควรพิจารณาในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยและความสามารถในการผ่อนชำระให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ผ่อนต่อไม่ไหวจนอาจถึงขั้นเสียเครดิตทางการเงินในอนาคต
อันดับที่ 1: ธนาคารอาคารสงเคราะห์|สินเชื่อสร้างบ้าน โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2565
อันดับที่ 2: ธนาคารออมสิน|สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อเคหะ
อันดับที่ 3: ธนาคารกรุงศรี|สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อกรุงศรีเพื่อปลูกสร้างบ้าน
อันดับที่ 4: ธนาคารกรุงเทพ|สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อบ้านบัวหลวง สำหรับลูกค้าทั่วไป
อันดับที่ 5: ธนาคารทีทีบี|สินเชื่อสร้างบ้าน สินเชื่อบ้านใหม่ - บ้านมือสอง
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ