10 นมพร่องมันเนย ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 ไขมันต่ำ มีประโยชน์

สำหรับกลุ่มคนที่ภาวะอ้วนหรือไขมันในเลือดสูงจำเป็นต้องมีการควบคุมพลังงานและปริมาณไขมัน เพื่อไม่ให้ไขมันไปเพิ่มในร่างกายมากกว่าเดิม ดังนั้น จึงขอแนะนำให้เลือกดื่มนมพร่องมันเนยที่มีไขมันต่ำ เมื่อเทียบกับนมสูตรปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วนมพร่องมันเนยปริมาณ 240 มิลลิลิตร จะให้พลังงาน 120 กิโลแคลอรีและมีปริมาณไขมันเพียง 5 กรัม ส่วนนมสูตรปกติจะให้พลังงาน 150 กิโลแคลลอรีและมีปริมาณไขมันสูงถึง 8 กรัม

นมพร่องมันเนยจะประกอบด้วยไขมันที่เป็นประโยชน์หลายชนิด ซึ่งหากเมื่อเทียบกับการบริโภคไขมันจากแหล่งอื่น ๆ ในปริมาณ 5 กรัมเท่ากัน การบริโภคไขมันที่ได้จากนมจะมีอันตรายน้อยกว่า รวมถึงสามารถกำหนดปริมาณแคลอรีที่แน่นอนได้

โดยทั่วไปแล้วนมพร่องมันเนย 1 กล่อง (รสจืด) จะให้แคลเซียมประมาณ 240 - 250 มิลลิกรัมหรือประมาณ 27 - 30% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน ดังนั้นหากต้องการให้ได้รับแคลเซียมให้เพียงพอต่อวัน สามารถดื่มนมประมาณ 3 กล่องต่อวัน ซึ่งตามข้อแนะนำคือ ควรดื่มนมให้ได้อย่างน้อย 1 - 2 แก้วต่อวัน และเพิ่มการรับประทานอาการที่มีแคลเซียมจากแหล่งอื่นเพิ่มด้วย เช่น โยเกิร์ต ผักใบเขียว ปลาเล็ก เป็นต้น

สำหรับกลุ่มคนที่ภาวะอ้วนหรือไขมันในเลือดสูง ควรมีส่วนผสมวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน เช่น วิตามินดี คนทั่วไปจะสามารถสร้างวิตามินดีได้เอง โดยจะถูกกระตุ้นจากแสงแดดผ่านชั้นผิวหนัง แต่คนที่มีภาวะอ้วนมีโอกาสที่จะมีภาวะพร่องวิตามินดีสูง เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีชั้นไขมันปกคลุมในชั้นผิวหนังค่อนข้างมาก ทำให้ประสิทธิภาพในการสังเคราะห์วิตามินดีได้น้อย ส่งผลต่อภาวะกระดูกพรุนได้ รวมไปถึงวิตามินบี 12, 6, 9 ซึ่งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญของร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น 

ผู้ที่มีภาวะอ้วนหรือมีไขมันในเลือดสูง รวมถึงผู้ที่ต้องการควบคุมพลังงานและน้ำหนัก ควรเลือกผลิตภัณฑ์นมพร่องมันเนยที่ไม่มีการเติมน้ำตาล ต้องเป็นนมที่ไม่มีการเติมแต่งกลิ่นรสเพิ่มเติม เนื่องจากนมที่มีการแต่งเติมกลิ่นรส จะพ่วงมาด้วยปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ ควรเลือกนมที่เป็นรสจืดหรือรสธรรมชาติ สำหรับนมจืดหากตรวจสอบจากในฉลากโภชนาการจะมีการระบุปริมาณน้ำตาลอยู่ ซึ่งน้ำตาลที่ถูกระบุนั้นเป็นน้ำตาลแลคโตสที่เป็นส่วนผสมในนมอยู่แล้ว ไม่ใช่น้ำตาลปรุงแต่ง แต่น้ำตาลที่ควรระมัดระวัง คือ น้ำตาลเติม (Added Sugar) ซึ่งโดยปกติไม่ควรบริโภคเกิน 24 กรัมต่อวัน

ผู้ที่ตั้งครรภ์มีความต้องการแคลเซียม ไม่ต่ำกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรืออาจจะมากกว่าที่แนะนำได้ แต่ไม่ควรต่ำกว่าค่าที่แนะนำ ทั้งนี้หากได้รับแคลเซียมต่ำกว่านี้จะให้เกิดอาการกระดูกบาง ซึ่งเกิดจากการสลายตัวของแคลเซียมในกระดูกของแม่ ที่ได้ส่งผ่านให้กับทารกในครรภ์ ถ้าหากแคลเซียมไม่เพียงพอจะมีผลต่อการเจริญของทารกในครรภ์และความแข็งแรงของคุณแม่ เนื่องจากแคลเซียมเป็นสารที่สำคัญสำหรับการเสริมสร้างกระดูกให้กับทารกและสร้างความแข็งแรงให้กับคุณแม่

ส่วนใหญ่แล้วนมพร่องมันเนยสำหรับคนท้อง จะมีแคลเซียมประมาณ 500 มิลลิกรัมต่อกล่อง ซึ่งหากดื่มนมพร่องมันเนย 2 กล่องก็เพียงพอต่อความต้องการของคนท้องทุก ๆ ไตรมาสแล้ว อีกทั้งคุณแม่อาจจะต้องเสริมการกินอาหารที่มีแหล่งอาหารอุดมแคลเซียมเพิ่มเติม เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากขึ้น

นมพร่องมันเนยทั่วไปมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับหญิงตั้งครรภ์อยู่แล้ว แต่มีปริมาณไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงมีนมที่เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะ โดยแนะนำให้มองหานมที่มีส่วนผสม ดังต่อไปนี้

・โฟเลต หรือวิตามินบี 9 มีบทบาทในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง รวมถึงเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างเซลล์สมอง ระบบประสาท และไขสันหลังของทารก
・ธาตุเหล็ก มีความสำคัญต่อการกระตุ้นการสร้างน้ำนมและมีส่วนช่วยให้เม็ดเลือดแดงแข็งแรงและน้ำนมมีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาร่างกายและสมองของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์อีกด้วย
・วิตามินดี เป็นวิตามินที่ช่วยดูดซึมแคลเซียม เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงให้แก่ทารกและคุณแม่
・วิตามินบีรวม โดยเฉพาะวิตามินบี 1, 2, 6 และ 12 มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาของสมอง ระบบประสาท ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและบำรุงการไหลเวียนของเลือดให้ได้รับสารอาหารและออกซิเจนที่เพียงพอ
・โอเมก้า 3 และ DHA เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้  มีส่วนช่วยเรื่องพัฒนาการของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะสมอง ดวงตาและระบบประสาท

ในกรณีที่ผู้สูงอายุได้รับปริมาณน้ำตาลและคอลเลสเตอรอลมากเกินไป จนส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถขจัดหรือนำไปใช้ได้หมด อาจก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้ ซึ่งปริมาณน้ำตาลที่ผู้สูงอายุควรได้รับคือ ไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน 

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำตาลในนมจืดไม่ส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวมากนัก แต่ถ้าหากเป็นนมที่มีรสชาติ เช่น นมรสหวาน รวมถึงนมที่เติมแต่งรสชาติอื่น ๆ อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้ เนื่องจากมีการปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาลปริมาณมาก จึงขอแนะนำให้เลือกนมรสจืด ซึ่งจะพบเฉพาะน้ำตาลแลกโตสที่เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่ร่างกายสามารถย่อยได้ และส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดน้อย ดังนั้นการเลือกรับประทานนมรสจืดจะดีต่อสุขภาพมากที่สุด

ส่วนคอเลสเตอรอลนั้นพบอยู่ในนมค่อนข้างน้อย และถ้าหากเป็นนมพร่องมันเนยที่มีการสกัดไขมันออกไปอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องปริมาณคอเลสเตอรอลในนมมากนัก