ในปัจจุบัน "ชาเขียว" กลายเป็นเครื่องดื่มที่นิยมเป็นอย่างมากในไทย ด้วยเทรนด์การรักษาสุขภาพ ทำให้ผู้บริโภคมีความใส่ใจในการเลือกอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อร่างกาย และชาเขียวก็เป็นหนึ่งในทางเลือกนั้น เพราะชาเขียวมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เป็นต้น
ดังนั้นในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของชาเขียวแต่ละชนิดว่าอะไรที่ทำให้ชาเขียวแต่ละชนิดมีกลิ่น สี และรสชาติที่ไม่เหมือนกัน พร้อมปิดท้ายด้วย 10 ชาเขียวสำเร็จรูป ทั้งแบบซอง แบบผง และแบบขวดพร้อมดื่มจากแบรนด์คุณภาพทั้งไทยและต่างประเทศ มาให้ทุกคนได้เลือกสรรตามความชอบอีกด้วยค่ะ
Top 5 ชาเขียวสำเร็จรูป ยอดนิยม
Shizuoka
ผลิตจากยอดอ่อนใบชาคุณภาพดีที่สุด ในรูปแบบชาเขียวพร้อมดื่ม
อิชิตัน
ชาเขียวผสมจมูกข้าวญี่ปุ่น มีกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ รสหวานชื่นใจ
Pokka
ชาเขียวกลิ่นหอมละมุนเพื่อความสดชื่น คัดสรรจากใบชาคุณภาพดี
Kukurin
ชาเขียวกลิ่นหอมละมุนเพื่อความสดชื่น คัดสรรจากใบชาคุณภาพดี
คุณพีทเป็นเจ้าของ Blackkat Café ร้านที่โดดเด่นด้านเครื่องดื่มและเบเกอรี่ โดยให้ความสำคัญกับวัตถุดิบคุณภาพและการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ผสมผสานรสชาติได้อย่างลงตัว ด้วยความหลงใหลในอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ทำให้คุณพีทใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ กระบวนการทำ ไปจนถึงการตกแต่งเมนูให้มีเอกลักษณ์ และพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรมจากมหาวิทยาลัยเนชั่น ยังส่งเสริมให้คุณพีทเข้าใจศาสตร์ของอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้ลูกค้า ตั้งแต่การพัฒนาเมนูตามฤดูกาล การอบเบเกอรี่สดใหม่ ไปจนถึงการจับคู่เครื่องดื่มกับขนมให้อร่อยลงตัว โดยนอกจากบริหารร้าน คุณพีทยังติดตามเทรนด์อาหาร ทดลองวัตถุดิบใหม่ ๆ และแบ่งปันความรู้ผ่านบทความด้านอาหาร เบเกอรี่ และการพัฒนาเมนูต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถนำไปต่อยอดได้อีกด้วย
สารบัญ
ในใบชาเขียวมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย เช่น สารคาเทซิน (Catechin) ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นออกมารับรองแล้วว่ามีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระที่เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดมะเร็งได้หลายชนิด อย่างมะเร็งผิวหนัง, มะเร็งปอด, มะเร็งเต้านม, มะเร็งกระเพาะอาหาร, มะเร็งตับ, มะเร็งลำไส้, มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น อีกทั้งใบชาเขียวยังเต็มไปด้วยสารกลุ่มโพลิฟีนอล (Polyphenols) ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว และการเกิดร่องรอยเหี่ยวย่นหรือจุดด่างดำได้อีกด้วย
นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบว่าการดื่มชาเขียวเป็นประจำมีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลและระดับอินซูลินในเลือด รวมถึงลดคอเลสเตอรอลชนิด LDL ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลไม่ดีที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม วิธีการดื่มชาเขียวให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายนั้น ก็ต้องเป็นชาเขียวที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาลหรือครีมนมใด ๆ ค่ะ และผู้ที่มีปัญหาด้านการนอนหลับก็ไม่ควรดื่มชาเขียว เนื่องจากในชาเขียวนั้นมีสารคาเฟอีนที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท อาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับหรือความวิตกกังวลได้เช่นกัน
วิธีการเลือกชาเขียวสำเร็จรูปนั้นมักจะดูที่ชนิดของใบชาเป็นหลัก แม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน แต่ด้วยวิธีการเพาะปลูกที่ต่างกัน และผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่เหมือนกัน ก็ล้วนสามารถส่งผลต่อรสชาติและความเข้มข้นของชาเขียวได้ค่ะ
ประเทศญี่ปุ่นเป็นแหล่งผลิตชาเขียวที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวเกรดพรีเมียมไปจนถึงชาเขียวทั่ว ๆ ไปก็ล้วนมีการเพาะปลูกกันอย่างกว้างขวาง ชาเขียวญี่ปุ่นที่เรารู้จักอาจมีชื่อเรียกอยู่หลายชื่อ แต่ประเภทหลัก ๆ ของชาเขียวนั้นสามารถแบ่งได้ดังต่อไปนี้ค่ะ
หากพูดถึงชาเขียวญี่ปุ่นที่คุณภาพดีที่สุด แน่นอนว่าต้องนึกถึงชาเขียวเกียวคุโระ ความพรีเมียมของชาเขียวชนิดนี้อยู่ที่กรรมวิธีการเก็บเกี่ยวและแปรรูปใบชา เพื่อให้ได้มาซึ่งชาเขียวที่มีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมที่สุดนั่นเอง คุณภาพของชาเขียวเกียวคุโระนั้นเริ่มตั้งแต่การดูแลเพาะปลูก โดยต้นชาเขียวจะถูกเลี้ยงดูในร่มด้วยการใช้ผ้าคลุมกันแสง เพื่อควบคุมปริมาณแสงแดดที่ตกกระทบใบชา การควบคุมปริมาณแสงนี้จะทำให้ใบชามีสาร L-Theanine (แอล-ธีอะนีน) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเรื่องการผ่อนคลายเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งชาก็จะมีรสชาติขมน้อยลง สามารถดื่มได้เรื่อย ๆ คล่องคอค่ะ
เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว ใบชาจะถูกนำไปนึ่ง นวด และทำให้แห้ง ลักษณะใบชาที่ได้จะมีสีเขียวเข้มสวยงามและม้วนเป็นเกลียว เมื่อผ่านการชงจะได้น้ำชาเขียวที่มีสีเขียวสดใสคล้ายกับยอดอ่อนใบชา รสชาติของชาเขียวเกียวคุโระจะมีความกลมกล่อม ติดหวาน แทบไม่หลงเหลือความฝาดเลยค่ะ และเนื่องจากเป็นใบชาที่เก็บเกี่ยวได้ในปริมาณน้อยในแต่ละฤดู ราคาของชาเขียวเกียวคุโระจึงสูงตามไปด้วยนั่นเอง
ชาเขียวมากกว่าครึ่งในตลาดชาเขียวญี่ปุ่นล้วนเป็นชาเขียวเซนฉะ เนื่องจากสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก ทำให้มีราคาไม่สูงเท่าไรนัก เซนฉะจึงเป็นชาเขียวที่นิยมดื่มกันโดยทั่วไป ด้านรสชาติก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการผลิตและวิธีการชง ต้นชาเขียวที่นำมาแปรรูปเป็นเซนฉะนั้นมีการเพาะปลูกให้โดนแสงแดดตามปกติ และเริ่มเก็บเกี่ยวในช่วงแรกหรือช่วงที่สองของปี
กรรมวิธีการผลิตใบชาเซนฉะจะมีความคล้ายคลึงกับการผลิตใบชาเกียวคุโระ นั่นคือใบชาจะถูกนำไปนึ่ง นวด และอบแห้ง หรือบางแหล่งก็อาจใช้วิธีการตากแห้ง รสชาติของชาเขียวเซนฉะจึงขึ้นอยู่กับวิธีการทำให้แห้งนี้เอง รวมถึงอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ชงชาเซนฉะก็มีส่วนทำให้ได้รสชาติแตกต่างกันออกไป สีของชาเขียวเซนฉะมีความเข้มกว่าชาเขียวเกียวคุโระ อีกทั้งยังมีความฝาดและความขมมากกว่า นอกจากนี้ เซนฉะยังนิยมนำไปใช้ประกอบการทำชาเขียวชนิดอื่น ๆ เช่น เกนไมฉะ (ชาผสมข้าวคั่ว) หรือโฮจิฉะ (ชาเขียวคั่วสีน้ำตาล) อีกด้วย
ชาเขียวมัทฉะ อาจกล่าวได้ว่าเป็นชาเขียวที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากมีรสชาติ กลิ่น สี และคุณสมบัติที่สามารถนำไปทำเมนูอาหารและเครื่องดื่มได้หลากหลายประเภท ความแตกต่างจากชาเขียวชนิดอื่นที่ทำให้ชาเขียวมัทฉะเป็นเอกลักษณ์นั่นก็คือ กระบวนการผลิต ที่กว่าจะได้ออกมาเป็นผงชาเขียวเนียนละเอียดอย่างที่เราเห็นกันค่ะ
โดยมัทฉะนั้นผลิตจากเท็นฉะ (Tencha) ซึ่งได้มาจากใบชาเขียวที่ปลูกในร่มเหมือนอย่างเกียวคุโระ แต่แทนที่จะนำไปผ่านกระบวนการผลิตเหมือนชาเขียวญี่ปุ่นชนิดอื่น ๆ เท็นฉะที่เก็บเกี่ยวแล้วจะถูกนำไปนึ่งและทำให้แห้ง จากนั้นก็บดใบชาให้ละเอียดด้วยครกหินญี่ปุ่นที่เรียกว่า อิชิอุสุ จนกระทั่งใบชาละเอียดได้เป็นผงมัทฉะ ซึ่งความพิถีพิถันนี้ยังรวมไปถึงขั้นตอนของการชงชาเขียวมัทฉะอีกด้วย
การชงมัทฉะนั้นต้องอาศัยอุปกรณ์ที่เรียกว่า ฉะเซ็น ซึ่งเป็นแปรงไม้ไผ่สำหรับชงชาเขียวมัทฉะโดยเฉพาะ ในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นก็มีพิธีชงชา "ซะโด" อันเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมที่แสดงการชงชามัทฉะอย่างพิถีพิถันเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญ หรืองานพิธีการต่าง ๆ ยิ่งชงได้อย่างเชี่ยวชาญ ชาก็จะยิ่งออกมารสชาติดีตามไปด้วย ชาเขียวมัทฉะเป็นชาเขียวที่มีรสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอมหวาน เมื่อผสมกับนมก็จะได้รสชาติที่นุ่มนวลลงตัว ลดความฝาดได้เป็นอย่างดี
ชาบันฉะสามารถหาดื่มได้ทั่วไปเนื่องจากมีราคาที่ถูก เพราะเป็นชาที่ได้จากการเก็บเกี่ยวใบชาในช่วงที่สามหรือสี่ซึ่งจะอยู่ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมจนถึงต้นเดือนสิงหาคม เป็นการเก็บชานอกฤดูกาลหรือใบชาที่เหลือก่อนที่ต้นชาจะแตกยอดใหม่ ทำให้ใบชามีขนาดใหญ่ เนื้อหยาบ และมักมีก้านใบติดมาด้วย จึงไม่ได้มาตรฐานที่จะนำมาทำเป็นชาเซนฉะ คุณภาพของบันฉะจึงเป็นรองเซนฉะลงมาอีกที
หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วใบชาจะถูกนำมานวดเล็กน้อย สีของน้ำชาที่ได้จากชาบันฉะจะมีสีเขียวอมเหลืองอ่อน ๆ ยังคงมีความฝาด รสชาติอ่อนทำให้ดื่มง่าย แต่กลิ่นจะไม่ค่อยหอมเมื่อเทียบกับชาเขียวประเภทอื่น ๆ ชาบันฉะจึงนิยมถูกนำไปคั่วเพื่อทำเป็นโฮจิฉะหรือเกนไมฉะเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติ
โฮจิฉะเป็นชาอีกประเภทที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ด้วยรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเกิดจากการนำบันฉะหรือเซนฉะที่เก็บเกี่ยวในช่วงสุดท้ายของการเก็บเกี่ยวมาเข้าสู่กระบวนการคั่วในอุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส แล้วจึงนำเข้ากระบวนการทำให้เย็นอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้กลิ่นหอม แต่ก็จะทำให้คาเทชิน (Catechin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และคาเฟอีนที่อยู่ในใบชาลดลง
แต่เนื่องจากคาเทชินและคาเฟอีนเป็นสาเหตุที่ทำให้ชามีรสขม เมื่อปริมาณของสารทั้งสองลดลงก็ทำให้โฮจิฉะมีรสชาตินุ่มละมุนดื่มง่าย มีความฝาดน้อย หอมกลิ่นคั่ว สามารถดื่มระหว่างวันหรือตอนเย็นได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้นอนไม่หลับ ในส่วนของใบชาจะมีสีน้ำตาลแดง และสีน้ำชาจะมีสีน้ำตาลอ่อน
เกนไมฉะเป็นชาที่มีจุดเด่นในเรื่องของกลิ่นที่หอมกลิ่นข้าวคั่ว ซึ่งเกิดจากการนำบันฉะมาเบลนด์เข้ากับข้าวกล้องพันธุ์ดีที่คั่วในอุณหภูมิที่พอเหมาะจนเมล็ดขาวพอง แล้วจึงนำไปตากแห้งก่อนจะนำมาอบกับใบชาบันฉะในอัตราส่วน 1:1 ทำให้สีของน้ำชาที่ได้ไม่ติดน้ำตาลเหมือนสีข้าวคั่ว และไม่เป็นสีเขียวเกินไปเหมือนสีของใบชา แต่สีที่ได้จะออกเป็นสีเหลืองทอง คนญี่ปุ่นจึงเรียกเกนไมฉะว่า ชาสีทอง
ชาประเภทนี้เกิดขึ้นเพราะสมัยก่อนชามีราคาแพง คนญี่ปุ่นจึงได้นำเอาใบชามาคั่วกับข้าวกล้องเพื่อทำให้ราคาชาถูกลงและเข้าถึงคนได้ทุกชนชั้น ก่อนจะกลายมาเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมจนถึงปัจจุบัน รสชาติของเกนไมฉะจะมีความหวาน หอมกลิ่นข้าวคั่ว เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีคาเฟอีนน้อย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่เผยว่าการดื่มเกนไมฉะจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจได้ด้วย
ชาเขียวสำเร็จรูปที่วางขายกันโดยทั่วไปนั้นมีทั้งแบบพร้อมดื่ม หรือก็คือชาเขียวแบบขวดที่ผ่านการแต่งกลิ่น สี และรสชาติมาแล้ว รวมถึงชาเขียวแบบใบชาแห้งที่มาในรูปแบบถุงชาและผงชา ซึ่งเราสามารถกะปริมาณและชงรสชาติได้ตามใจชอบ
ชาเขียวสำเร็จรูปแบบขวดพร้อมดื่มมีข้อดีตรงที่สะดวกสบายในการพกพา หาซื้อได้ง่าย และยังมีตัวเลือกซื้อมากมายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป แม้แต่ชาเขียวญี่ปุ่นคุณภาพอันดับต้น ๆ อย่างชาเขียวเกียวคุโระก็มีแบบขวดวางจำหน่ายให้ได้ลิ้มลอง รสชาติของชาเขียวพร้อมดื่มส่วนมากมักจะผ่านการปรุงแต่งกลิ่น รสชาติ หรือปรับส่วนผสมบางอย่างมาแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อให้รู้สึกว่าดื่มได้ง่ายกว่าปกติ และมีรสชาติที่ลงตัวอยู่แล้วโดยไม่จำเป็นต้องเติมอะไรเพิ่ม เพียงแต่ต้องระวังเรื่องน้ำตาลกันด้วยนะคะ เพราะชาเขียวพร้อมดื่มที่วางขายในไทยมักจะมีส่วนประกอบของน้ำตาล แต่ก็มีหลายแบรนด์ที่ไม่ใส่น้ำตาลออกจำหน่ายเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากคนที่ใส่ใจในสุขภาพก็ควรเลือกชาเขียวพร้อมดื่มสำเร็จรูปที่ปราศจากน้ำตาลกันนะคะ
หากใครที่ต้องการหลีกเลี่ยงปริมาณน้ำตาลในชาเขียวแบบขวดพร้อมดื่ม หรือชอบดื่มชาร้อนมากกว่าแต่ก็ยังต้องการความสะดวก การซื้อชาเขียวแบบผงก็อาจจะตอบโจทย์คุณ เพราะนอกจากจะสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลได้ตามความต้องการหรือความเหมาะสมแล้ว ยังไม่ต้องหาที่กรองใบชาให้ยุ่งยาก เพียงแค่ตักผงชาใส่น้ำร้อนแล้วคนให้ละลาย คุณก็จะได้ชาเขียวแก้วโปรดที่ต้องการ แต่การเก็บรักษาชาเขียวแบบผงนั้นจะต้องระวังเรื่องของความชื้นเป็นพิเศษเพราะจะส่งผลให้คุณภาพของชาลดลง
เนื่องจากในปัจจุบันผู้บริโภคเรื่องหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ทำให้บรรดาผู้ผลิตเองก็ได้วางจำหน่ายสินค้าที่มีทางเลือกให้แก่ผู้ซื้อมากขึ้น รวมถึงชาเขียวสำเร็จรูปเองที่แม้จะเป็นชาประเภทเดียวกันแต่ก็มีการแบ่งออกเป็นสามสูตรเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม นั่นคือสูตรปกติหรือสูตรมีน้ำตาล สูตรน้ำตาลน้อย และสูตรไม่มีน้ำตาล ทำให้ผู้บริโภคที่ต้องการหลีกเลี่ยงในเรื่องปริมาณน้ำตาลมีตัวเลือกในการซื้อมากขึ้น ดังนั้นคุณจึงสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชาเขียวสำเร็จรูปได้ตามความต้องการเลยค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Shizuoka ชาเขียวสำเร็จรูป น้ำชาเขียวเกียวคุโระ | ![]() | ผลิตจากยอดอ่อนใบชาคุณภาพดีที่สุด ในรูปแบบชาเขียวพร้อมดื่ม | |
2 | อิชิตัน ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียวพร้อมดื่ม รสข้าวญี่ปุ่น | ![]() | ชาเขียวผสมจมูกข้าวญี่ปุ่น มีกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ รสหวานชื่นใจ | |
3 | Pokka ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียวญี่ปุ่น เซนฉะ | ![]() | ชาเขียวกลิ่นหอมละมุนเพื่อความสดชื่น คัดสรรจากใบชาคุณภาพดี | |
4 | Kukurin ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียวคั่ว โฮจิฉะ หวานน้อย | ![]() | ชาเขียวกลิ่นหอมละมุนเพื่อความสดชื่น คัดสรรจากใบชาคุณภาพดี | |
5 | Boncafe ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียว นิชิโอะ มัทฉะ กรีนที เบส | ![]() | ชาเขียวญี่ปุ่นจากนิชิโอะ รสชาติหอมกลมกล่อมแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม | |
6 | Ito En ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียวญี่ปุ่นปรุงสำเร็จชนิดผง | ![]() | ชาเขียวญี่ปุ่น 3 รสชาติในรูปแบบผงสำหรับชง ยิ่งผสมนมยิ่งอร่อย | |
7 | Pandateas Pandateas Hojicha | ![]() | ผงชาบดละเอียด กลิ่นหอมแบบชาคั่ว ไม่ผสมแป้งและน้ำตาล | |
8 | MakotoEn ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียวผสมข้าวคั่วและผงมัทชะจากเมืองอูจิ | ![]() | ชาเขียวผสมข้าวคั่ว กลิ่นหอมผ่อนคลาย ส่งตรงจากแหล่งผลิตขึ้นชื่อ | |
9 | Dilmah ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียว เซนฉะ | ![]() | ชาเขียวสำเร็จรูปในรูปแบบถุงชาสำหรับชงร้อน รสชาติกลมกล่อม | |
10 | Twinings ชาเขียวสำเร็จรูป ชา ทไวนิงส์ Pure Green Tea ชนิดซอง แพ็ค 25 ซอง | ![]() | ชาเขียวแท้แบรนด์ดังจากอังกฤษ หอมกรุ่นรสชาติกลมกล่อม |
ชาเขียวญี่ปุ่นจากเมืองชิซึโอกะที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะปลูกชาเขียวที่ใหญ่และมีคุณภาพดีที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยความพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวใบชา ซึ่งคัดเอาเฉพาะยอดอ่อนใบชาที่ถูกปลูกในร่มและแตกใบในช่วงแรกของปี นำมาผ่านกระบวนการผลิตจนได้น้ำชาสกัดจากชาเขียวเกียวคุโระที่ให้รสชาติเยี่ยมที่สุด สำหรับชาเขียวพร้อมดื่มจากชิซึโอกะขวดนี้มีให้เลือกถึง 3 รสชาติด้วยกัน คือ ชาเขียวเกียวคุโระแบบไม่ผสมน้ำตาล ชาเขียวเกียวคุโระผสมมัทฉะ และชาเขียวเกียวคุโระแบบโฮจิฉะ
ความพิเศษอีกอย่างของชาตัวนี้คือถูกรังสรรและพัฒนาสูตรร่วมกับ Shizuoka Tea Master ทำให้ได้ชาเขียวระดับพรีเมียมที่ไม่ต้องบินไกลไปกินถึงญี่ปุ่น ทางด้านตัวแพ็กเกจจะเป็นแบบขวดทำให้สะดวกต่อการพกพาไว้ดื่มระหว่างวันเพิ่มเติมความสดชื่น เหมาะกับใครที่มีไลฟ์สไตล์ยุ่งหรือไม่มีเวลา
ชาเขียวพร้อมดื่มของแบรนด์อิชิตันขวดนี้สกัดจากยอดอ่อนใบชาเขียวออร์แกนิกที่ไม่มีการใช้สารเคมีในการเพาะปลูก เพื่อคงรสชาติของชาเขียวในแบบธรรมชาติที่มีความหอมกลมกล่อม สำหรับชาเขียวรสข้าวญี่ปุ่นนั้น มีส่วนผสมจากจมูกข้าวญี่ปุ่นที่อุดมไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็นอย่าง GABA ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและระบบประสาท ทำให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย
ตัวบรรจุภัณฑ์ก็สะดวกต่อการดื่มในวันที่ยุ่งหรือเร่งรีบ เพราะเป็นแบบขวดในปริมาณ 500 มล. นอกจากนี้ทางอิชิตันก็ได้ออกแบบแพ็กเกจให้ด้วยการดีไซน์ให้ปากขวดมีความกว้างมากขึ้น ขยายความหอมและความสดชื่นได้มากขึ้น
Pokka เป็นแบรนด์ที่ผลิตและวางจำหน่ายชามากว่า 10 ปี และได้รับความนิยมทั้งในญี่ปุ่นและไทย คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ดื่มชาเซนฉะคุณภาพพรีเมียม ซึ่งใบชาถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถันและผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐานจนออกมาเป็นชาเขียวพร้อมดื่มขวดนี้ โดยในหนึ่งขวดประกอบไปด้วยชาสกัดสด 31%, น้ำ 68% และผงมัทฉะ 0.6% นอกจากนี้ยังเป็นชาปราศจากน้ำตาลและยัง 0 กิโลแคลอรี่อีกด้วย
ปริมาณบรรจุในหนึ่งขวดมีขนาด 500 มล. โดยมีปริมาณคาเฟอีน 9.85 มก.ต่อ 100 มล. อีกทั้งยังได้สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice) ทำให้คุณสามารถดื่มชาเขียวขวดนี้ได้ตลอดเพื่อเพิ่มความสดชื่นได้อย่างสบายใจ
ชาโฮจิฮะของคุคุรินได้ผลิตและวางจำหน่ายมาแล้วถึง 7 ปี ด้วยคุณภาพระดับพรีเมียมของชาซึ่งผลิตจากใบชาคุณภาพจากไร่ชาออร์แกนิก 100% ผ่านกระบวนการที่พิถีพิถันจนออกมาเป็นชารสชาติต้นตำรับแบบเกียวโต ด้วยเทคนิคการคั่วไฟอ่อนที่ได้รับการสอนจากผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น ทำให้ชาโฮจิฉะขวดนี้มีหอมกลิ่นคั่วอันเป็นเอกลักษณ์ และมีรสชาติหวานอ่อน กลมกล่อมแต่เข้มข้นค่ะ
นอกจากนั้นชาตัวนี้ก็ยังมีระดับคาเฟอีนที่ต่ำ และไม่มีการแต่งสีหรือกลิ่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ทำให้คุณเพลิดเพลินกับชาโฮจิฉะขวดนี้ได้ทุกที่ทุกเวลาทั้งยังดีต่อสุขภาพ โดยในหนึ่งขวดจะมีปริมาณ 500 มล. ยิ่งแช่เย็น ๆ ยิ่งอร่อยสดชื่นเลยค่ะ
ผงชาเขียวแท้เกรดพรีเมียมของ Boncafe มีต้นกำเนิดจากเมืองนิชิโอะที่อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดไอจิ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของชาเขียวมัทฉะ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเพาะปลูกต้นชา เมืองนิชิโอะจึงเป็นอีกแหล่งผลิตชาเขียวชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่น และมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานทำให้รับรองได้ว่า ใบชาที่ได้จากการเก็บเกี่ยวนั้นถูกคัดมาเฉพาะยอดชาอ่อน 3 ใบแรกบนต้นชา ซึ่งถูกคลุมไว้ไม่ให้โดนแสงแดดเพื่อให้ได้ชาเขียวสีเข้มและรักษาคุณประโยชน์ของใบชาให้ได้มากที่สุด
ผงชาเขียวตัวนี้สามารถทำได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น รวมทั้งเมนูของหวานต่าง ๆ โดยยังคงรสชาติขมแบบกลมกล่อมและความหอมของชาเขียวแท้ ๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดื่มชาเขียวเข้ม ๆ และอยากได้ชาที่ชงง่ายไม่ยุ่งยาก แต่อาจจะต้องระวังไม่ให้ผงชาถูกความชื้นเพื่อรักษาคุณภาพนะคะ
ชาเขียวผงจากแบรนด์ Ito En สกัดจากใบชาคุณภาพดีทำให้ได้ผงชาเขียวเข้มข้น ที่สามารถละลายได้ไม่ว่าจะชงกับน้ำร้อนหรือน้ำเย็น อีกทั้งยังเหมาะนำไปทำเมนูของหวานชนิดต่าง ๆ เช่น ไอศกรีม เค้ก เป็นต้น ซึ่งชาเขียวรูปแบบผงนี้มีมาให้เลือก 3 รสชาติด้วยกัน ได้แก่ รสเรียวคุฉะ ที่เป็นชาเขียวรสออริจินัลผสมผงมัทฉะเพิ่มความหอม, รสมัทฉะ อิริ โคอิฉะ หรือก็คือผงชาเขียวมัทฉะที่ผ่านการชงแบบเข้ม (โคอิฉะ) จึงได้ผงชาเขียวที่มีความเข้มข้นมากกว่ารสออริจินัล และรสโฮจิฉะ หรือชาเขียวคั่วสีน้ำตาลที่มีกลิ่นหอมคั่วเป็นเอกลักษณ์
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เหมาะกับผู้ที่อยากลิ้มรสของชาจริง ๆ และต้องการประหยัดเวลาในการชง เพราะสะดวกและชงง่ายเพียงแค่ตักผงชาเขียวใส่น้ำร้อนแล้วคนให้เข้ากัน หรือหากอยากดื่มเป็นเครื่องดื่มเย็นก็เพียงแค่เติมน้ำแข็ง เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ดื่มด่ำไปกับชาเขียวระดับพรีเมียมได้แล้วค่ะ
ผงชาโฮจิฉะตัวนี้เป็นผงใบชาบดละเอียดโดยที่ไม่มีการแต่งกลิ่นหรือแต่งสี ไม่มีการใช้แป้งผสม และไม่มีน้ำตาล ทำให้สามารถปรับระดับความเข้มและความหวานได้ตามความชื่นชอบ ผลิตด้วยการนำใบชาแท้ 100% ไปผ่านกระบวนการคั่วด้วยไฟแรง 200 องศาเซลเซียส ทำให้ชามีความหอม รสชาติเข้มข้น แต่ยังคงความนุ่มนวล ไม่มีรสขมและสัมผัสฝาดลิ้น มีปริมาณคาเฟอีนน้อย บรรจุภัณฑ์เป็นถุงซิปล็อก ทำให้ง่ายในการเก็บรักษา แต่หลังจากเปิดถุงแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็นและป้องกันไม่ให้อากาศเข้าออก เพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติของโฮจิฉะ
ชาเขียวสำเร็จรูปสำหรับชงของแบรนด์ MakotoEn ชนิดนี้ ทำมาจากยอดอ่อนใบชาที่ได้จากการเก็บเกี่ยวในไร่ชาขึ้นชื่อในเมืองอูจิ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกใบชาคุณภาพดีไม่แพ้เมืองชาเขียวชื่อดังอย่างเมืองชิซึโอกะ ส่วนของข้าวคั่วที่นำมาผสมกับชาเขียวนั้น ผ่านกระบวนการผลิตด้วยการนำข้าวไปนึ่งแล้วจึงเอามาคั่วกับใบชาจนออกสีน้ำตาลอ่อน เพื่อให้ได้กลิ่นคั่วหอมและรสชาติของข้าวคั่วที่ปนเปไปกับความหอมของชาเขียวอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของผงมัทฉะที่สามารถช่วยเพิ่มความกลมกล่อมได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนประกอบของชาเขียวตัวนี้มีข้าวคั่ว 68%, ใบชาเขียว 29% และผงชาเขียว 3% มีอายุการเก็บรักษานานถึง 15 เดือน โดยควรเก็บรักษาในที่แห้งและหลีกเลี่ยงแสงแดด ปริมาณบรรจุในหนึ่งถุงจะได้ปริมาณ 200 กรัมค่ะ
Dilmah เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องดื่มจากศรีลังกาที่โดดเด่นในด้านผลิตภัณฑ์ประเภทชา โดยเฉพาะใบชาแห้งสำเร็จรูปที่มีเสียงจากผู้บริโภคส่วนหนึ่งว่าให้รสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อม แม้จะใช้ใบชาในปริมาณน้อยกว่าปกติก็สามารถดื่มด่ำกับรสชาติและความหอมของชาได้ สำหรับชาเขียวกล่องนี้ของแบรนด์ Dilmah เป็นชาเขียวญี่ปุ่นชนิดเซนฉะ ซึ่งเป็นชาเขียวคุณภาพดีในราคาปานกลางที่ทุกคนเข้าถึงได้
บรรจุภัณฑ์ของตัวชาจะถูกบรรจุในถุงชาขนาด 1.5 กรัม โดยในหนึ่งกล่องจะมีถุงชาทั้งหมด 20 ซอง สามารถชงได้หลายแบบ ไม่ว่าจะดื่มแบบชาร้อนก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย หรือชงแบบเย็นก็ได้ความสดชื่นไปอีกแบบ เหมาะที่จะเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มระหว่างวัน
หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินชื่อ Twinings ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มประเภทชาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชาดำ, ชาขาว, ชาเหลือง, ชาผู่เอ๋อร์ หรือชาเขียวก็มีวางจำหน่ายในหลากหลายรสชาติ และสำหรับชาเขียวแท้ (Pure Green Tea) กล่องนี้นั้น ทางแบรนด์ก็เลือกใช้ใบชาเขียวชนิดเซนฉะมาเป็นตัวชูโรง เนื่องจากกระบวนการผลิตของเซนฉะจะทำให้ได้ชาเขียวที่มีรสฝาดและรสอูมามิผสมกันอย่างลงตัว ใครที่ต้องการสัมผัสรสชาติชาเขียวแท้ ๆ แบรนด์ Twinings ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ
ตัวแพ็กเกจจะเป็นกล่องบรรจุซองถุงชาขนาด 2 กรัม ทั้งหมด 25 ซอง วิธีการชงก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่นำซองถุงชาแช่ในน้ำร้อนอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 - 3 นาที ส่วนการเก็บรักษาก็ไม่ยุ่งยากเพราะตัวผลิตภัณฑ์ซีลแบบแยกซองมา แต่ควรระวังไม่ให้โดนแสงแดดและความชื้นค่ะ
หลังจากที่คุณเลือกชาที่ตรงใจและตรงความต้องการได้แล้ว การเลือกเวลาดื่มชาก็จะทำให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากชา เพราะการดื่มชาในช่วงเวลาที่แตกต่างกันก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ไม่เหมือนกันค่ะ
● การดื่มชาเขียวเวลาเช้า จะช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกายได้ดี แต่ไม่ควรดื่มตอนท้องว่างเพราะคาเฟอีนในน้ำชาจะทำให้ร่างกายขับน้ำออก และอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้สมองเบลอ ดังนั้นควรดื่มชาหลังรับประทานมื้อเช้าแล้ว
● การดื่มชาขณะรับประทานอาหาร หรือการดื่มชาทันทีหลังจบมื้ออาหารมีผลเสียมากกว่าผลดี นั่นคือจะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะในน้ำชาจะมีสารที่ทำการยับยั้งการดูดซึมสารอาหาร หากต้องการดื่มชาควรเว้นระยะเวลาหลังมื้ออาหารประมาณ 1 ชั่วโมง
● การดื่มชาเวลากลางวัน ช่วงเวลากลางวันหรือยามบ่ายเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการดื่มชามากที่สุด เพราะจะช่วยเติมความสดชื่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดีหลังจากเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ
● การดื่มชาเวลาเย็นหรือก่อนเข้านอน อาจส่งผลในเรื่องของการนอน ทำให้นอนไม่หลับหรือประสิทธิภาพการนอนลดลง เพราะในน้ำชามีคาเฟอีน ดังนั้นหากต้องการดื่มชาเขียวก่อนนอน ควรดื่มก่อนเวลาเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง และควรเป็นชาเขียวที่มีคาเฟอีนต่ำ
จะเห็นได้ว่าการดื่มชาเขียวในช่วงเวลากลางวันและหลังมื้ออาหารจะทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากชา และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วยค่ะ
ชาเขียวมีคุณประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ทั้งช่วยลดการเกิดเซลล์มะเร็ง ลดการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่อีกด้วย ยิ่งเป็นชาเขียวจากธรรมชาติที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีก็จะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างเต็มเปี่ยม ในขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ได้ดื่มด่ำกับรสชาติกลมกล่อมของชาเขียวที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ก็ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมหรือประมาณ 1 - 2 ครั้งต่อวัน และไม่ควรดื่มติดต่อกันทุกวัน เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ
อันดับที่ 1: Shizuoka|ชาเขียวสำเร็จรูป น้ำชาเขียวเกียวคุโระ
อันดับที่ 2: อิชิตัน|ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียวพร้อมดื่ม รสข้าวญี่ปุ่น
อันดับที่ 3: Pokka|ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียวญี่ปุ่น เซนฉะ
อันดับที่ 4: Kukurin|ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียวคั่ว โฮจิฉะ หวานน้อย
อันดับที่ 5: Boncafe|ชาเขียวสำเร็จรูป ชาเขียว นิชิโอะ มัทฉะ กรีนที เบส
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ