10 ซอสปรุงรส ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2025 สูตรฝาเขียว ฝาเหลือง

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ซอสปรุงรสยี่ห้อนี้มีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคด้วยเช่นกัน โดยผลิตภัณฑ์นี้มีการหมักบ่มด้วยกรรมวิธีแบบธรรมชาตินานถึง 8 เดือน แถมยังปราศจากวัตถุกันเสีย สีสังเคราะห์และผงชูรสอีกด้วย จึงมีกลิ่นหอมและมีรสชาติที่เค็มปานกลาง รวมถึงยังเหมาะกับมือใหม่และผู้ที่ชอบทำอาหารทานเองง่าย ๆ ที่บ้าน อีกทั้งยังให้รสชาติที่อร่อยพอดีโดยไม่ต้องใส่เครื่องปรุงเพิ่ม แต่เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนประกอบของข้าวสาลี ผู้ที่แพ้กลูเตนควรหลีกเลี่ยงการบริโภคค่ะ

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดทำอาหาร หรือผู้ที่ชอบทำอาหารทานเองง่าย ๆ ที่บ้าน ขอแนะนำซอสปรุงรสสูตรเจที่ใช้ถั่วเหลืองคุณภาพผสมกับเกลือบริโภคไม่เสริมไอโอดีน ทำให้ได้ซอสสีน้ำตาลเข้มที่มีกลิ่นหอม พร้อมรสชาติที่เค็มกำลังดีและหวานเล็กน้อย โดยปราศจากผงชูรสและวัตถุกันเสีย ซึ่งยังเหมาะกับเมนูหมัก ตุ๋น นึ่ง ผัด น้ำซุป รวมถึงทำน้ำจิ้มได้อีกด้วย แต่ด้วยรสชาติที่เข้มข้นสูง จึงควรใช้ในปริมาณที่น้อย ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้รสชาติของอาหารเค็มเกินไปค่ะ

ยี่ห้อนี้เด่นในเรื่องของกลิ่นหอมและรสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใคร โดยซอสปรุงรสสูตรนี้ผ่านกรรมวิธีการหมักแบบธรรมชาติเป็นเวลา 90 วัน ทำให้ได้รสชาติที่เค็ม หวานและมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย รวมถึงยังให้รสชาติกลมกล่อมโดยไม่ต้องปรุงเพิ่มอีกเลย แถมมาในราคาที่ไม่แพง จึงเหมาะกับร้านอาหารที่ทำเมนูประเภทผัด อีกทั้งยังสามารถนำไปเหยาะบนไข่ดาว หรือไข่เจียวได้อีกด้วย แต่เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของถั่วเหลือง ผู้ที่แพ้ถั่วเหลืองควรหลีกเลี่ยงค่ะ

ซอสปรุงรสถั่วเหลืองสูตรนี้อยู่คู่ครัวไทยมาอย่างยาวนาน โดยเป็นสูตรฝาเขียวที่มีส่วนผสมของซอสถั่วเหลืองคุณภาพดีถึง 75% และยังใช้กระบวนการผลิตที่ทันสมัยด้วยการย่อยกรดอะมิโนต่าง ๆ ออกมาจากถั่วเหลือง ทำให้ซอสปรุงรสมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมและมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน อีกทั้งสามารถใช้ประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ผัด ต้ม เหยาะจิ้ม หรือจะนำไปหมักกับเนื้อสัตว์ต่าง ๆ รวมถึงผู้ที่รับประทานเจก็สามารถใช้ปรุงอาหารได้อีกด้วย

แค่ได้ยินชื่อแบรนด์ก็รู้แล้วว่าต้องดีต่อสุขภาพ โดยซอสปรุงรสสูตรนี้มีการลดปริมาณน้ำตาลและเกลือโซเดียมถึง 40% เมื่อลองเทียบกับซอสปรุงรสทั่วไปแล้ว ถือว่าช่วยลดปริมาณโซเดียมไปได้มากเลยทีเดียว อีกทั้งมีรสชาติกลมกล่อมที่ไม่เค็มมากจนเกินไป แถมยังสามารถปรุงในเมนูผัด เมนูหมัก หรือจะทำเป็นน้ำจิ้ม รวมถึงราดบนไข่ดาวก็ให้กลิ่นหอมที่น่าอร่อย ทั้งนี้ ในผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของเกลือโพแทสเซียมคลอไรด์ จึงไม่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคไตและหัวใจบริโภคค่ะ

• มีส่วนผสมหลักจากถั่วเหลือง ข้าวสาลี และมีการเติมสารให้ความหวานและสารปรุงรสอื่น ๆ
• มีปริมาณโซเดียมสูง 41% ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
  
• รสชาติเข้มข้น สามารถใช้ปรุงรสอาหารได้หลากหลาย เช่น จิ้มกับอาหาร หรือใช้ดองวัตถุดิบ
  
• ซอสมีปริมาณไนโตรเจนรวมอย่างน้อย 1.0% ซึ่งเป็นมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับซอสถั่วเหลืองที่มีคุณภาพดี
  

ซอสผัดสูตรน้ำมันงานี้เหมาะกับร้านอาหารที่ต้องการประหยัดเวลาในปรุงรส ซึ่งเป็นสูตรที่ให้รสชาติของอาหารออกมากลมกล่อม โดยผ่านการหมักตามวิธีธรรมชาติที่ผสมกับเกลือบริโภคไม่เสริมไอโอดีน น้ำมันงา พริกไทย เป็นต้น จึงทำให้ซอสมีรสชาติที่เข้มข้น และยังใช้ประกอบทำเมนูอาหารประเภทผัดได้อย่างหลากหลาย ส่วนรสชาตินั้นจะมีรสหวาน เค็ม หอมกลิ่นน้ำมันงา และยังมาในปริมาณที่คุ้มค่าอย่างมาก แต่ข้อเสียคือ ซอสสูตรนี้สามารถใช้ปรุงเฉพาะเมนูผัดเท่านั้นค่ะ

ยี่ห้อนี้ได้ผ่านการรับรองคุณภาพจาก Thailand Trust Mask โดยผลิตซอสปรุงรสที่มีกลิ่นหอมของถั่วเหลืองแท้ ๆ ผสมกับส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องปรุงรสชาติเพิ่ม จึงเหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งหัดทำอาหาร รวมถึงผู้ที่ไม่ชอบใช้เครื่องปรุง แถมยังให้รสชาติที่กลมกล่อมและทำได้ทุกเมนู ทั้งนี้ ในผลิตภัณฑ์มีการใส่โมโนโซเดียมกลูตาเมตและวัตถุกันเสียลงไป ซึ่งอยู่ในปริมาณที่น้อยเพื่อเพิ่มรสชาติและยืดอายุให้นานขึ้น แต่หลังจากเปิดใช้แล้วควรใช้ให้หมดภายใน 1 เดือนค่ะ

หากใครที่เป็นสายรักษาสุขภาพ ขอแนะนำซอสปรุงรสสูตรออร์แกนิคยี่ห้อนี้ เพราะสะอาดปลอดภัยตั้งแต่กระบวนการหมักด้วยกรรมวิธีแบบธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้วัตถุดิบคุณภาพดี เช่น ถั่วเหลือง น้ำตาลทรายแดง ข้าวหอมมะลิ และน้ำส้มสายชูที่เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคทั้งหมด โดยให้รสชาติที่อร่อย เค็มและหวานกำลังดี แถมไม่มีการแต่งกลิ่น สี วัตถุกันเสียและผงชูรส ที่สำคัญยังเหมาะกับผู้ที่แพ้กลูเตนอีกด้วย ทั้งนี้ หลังจากเปิดใช้แล้วควรเก็บในตู้เย็นเพื่อรักษารสชาติเอาไว้ค่ะ

ซอสปรุงรสส่วนใหญ่มักจะมีแป้ง หรือข้าวสาลีเป็นส่วนประกอบ จึงทำให้ผู้ที่แพ้กลูเตนไม่สามารถบริโภคได้ ดังนั้น เราขอแนะนำยี่ห้อนี้ที่ไม่มีส่วนผสมของข้าวสาลี โดยมีส่วนผสมของซอสถั่วเหลืองถึง 77% ซึ่งจะให้รสชาติเข้มข้น พร้อมช่วยชูรสชาติอาหารได้อย่างกลมกล่อม รวมถึงมีให้เลือก 2 ขนาด แถมยังเหมาะกับร้านอาหารที่ต้องการความคุ้มค่าในเรื่องของราคาและปริมาณ อีกทั้งยังทำอาหารได้หลายเมนู เช่น เมนูผัด หมัก และทำน้ำจิ้ม หรือจะใช้เหยาะเพื่อเพิ่มรสชาติให้มีมิติก็ได้ค่ะ