“ทองคำ” นอกจากจะเป็นเครื่องประดับอันมีค่าแล้ว ยังเป็นสิ่งที่นักลงทุนมักซื้อเอาไว้เพื่อเก็งกำไรและเสริมความมั่นคงทางฐานะ โดยในปัจจุบันเราสามารถซื้อทองคำได้ในหลากหลายรูปแบบนอกเหนือไปจากทองคำแท่ง เช่น หุ้นทองคำและกองทุนทองคำ ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลายคนที่ต้องการเก็งกำไรในทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กองทุนทองคำ” เพราะมีความสะดวกในการซื้อขายและใช้เงินน้อยกว่าการซื้อทองคำจากร้านค้า
แต่สำหรับใครที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกองทุนทองคำ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกองทุนทองคำว่ามีจุดเด่นและความแตกต่างกับการซื้อทองคำแท่งอย่างไร รวมถึงวิธีการเลือกกองทุนทองคำเพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อกองทุนทองคำได้อย่างอุ่นใจ พร้อมคำแนะนำจากนักวางแผนการเงิน นอกจากนี้ เรายังมีกองทุนทองคำที่น่าสนใจถึง 10 กองทุนมาฝากกันอีกด้วยครับ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
Top 5 กองทุนทองคํา
SCB Asset Management
โดดเด่นด้วยผลการดำเนินงานย้อนหลัง เพิ่มโอกาสเข้าถึงที่มากกว่า
BBL Asset Management
นโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust
UOB Asset Management
เหมาะกับคนที่สามารถยอมรับความเสี่ยง โอกาสกำไรและขาดทุนสูง
TMB Asset Management Eastspring
กลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive มุ่งสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี
คุณปอยเรียนจบปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ จาก Assumption University และปริญญาโทจาก Northumbria University สาขา Design Management จากประเทศอังกฤษ หลังจากเริ่มทำงานคุณปอยเริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับการเงิน การวางแผนภาษี รวมไปถึงการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมและประกันชีวิต จึงเริ่มศึกษาหาประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงผ่านการเรียนคอร์สต่าง ๆ และเข้าอบรม รวมทั้งสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานเป็นนักวางแผนการเงินมืออาชีพอิสระมามากว่า 4 ปี ปัจจุบันคุณปอยมีใบอนุญาตเป็นผู้แนะนำการลงทุนในประเทศไทยและมีลูกค้าภายใต้การดูแลไม่ต่ำกว่า 50 คน สำหรับประเภทของแผนการเงินที่คุณปอยมีความชำนาญเป็นพิเศษ ได้แก่ แผนการออมเพื่อการเกษียณอายุ แผนการออมเพื่อการลดหย่อนภาษี แผนการออมเพื่อการศึกษาบุตรและแผนการเงินเพื่อการส่งต่อมรดก
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
เมื่อเราซื้อกองทุนทองคำ โบรกเกอร์จะนำเงินไปซื้อทองคำในกองทุนต่างประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกงและสิงคโปร์ ในสกุลเงินดอลลาร์หรือสกุลเงินของประเทศนั้น ๆ ทำให้เราซื้อขายทองคำได้ในราคาจริงที่ยังไม่มีอัตราแลกเปลี่ยนรวมอยู่ เพราะอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรามีผลกับราคาทองคำโดยตรง และหากทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์จะยิ่งสะดวกมากขึ้น เพราะเราสามารถซื้อขายทองได้ทุกที่ทุกเวลา มีความคล่องตัวสูงกว่า เหมาะกับการเก็งกำไรทองคำ
นอกจากนี้ การลงทุนในกองทุนทองคำนั้นถือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่า และมีความผันผวนที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้น เพราะทองคำมีมูลค่าอยู่ในตนเองไม่ผันผวนตามตลาดหุ้น การมีกองทุนทองคำไว้ในพอร์ตลงทุนประมาณ 10% - 15% จะช่วยกระจายความเสี่ยงในเวลาที่ตลาดหุ้นผันผวน ทำให้พอร์ตมีความเสถียรและสมดุลมากยิ่งขึ้น
การลงทุนในทองคำด้วยการซื้อทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณนั้นมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เช่น ต้องเดินทางไปซื้อที่ร้าน และสามารถซื้อทองได้เฉพาะเวลาที่ร้านเปิดทำการเท่านั้น ซึ่งราคาทองจะถูกกำหนดตามขนาด ทั้งยังมีค่ากำเหน็จและค่าเสื่อมของทองที่ต้องจ่ายเพิ่มจากราคาทอง นอกจากนี้ ทองที่เก็บไว้ยังเสี่ยงต่อการถูกขโมย เพราะทองไม่ได้มีระบุไว้ในตัวเองว่าใครเป็นเจ้าของ
ในทางกลับกัน กองทุนทองคำนั้นจะมีความแตกต่างจากการลงทุนในทองคำแท่งหรือทองคำรูปพรรณ ตรงที่กองทุนทองคำนั้นนักลงทุนจะไม่มีสิทธิ์ในการแลกเปลี่ยนหน่วยลงทุนเป็นทองคำแท่งในอนาคตได้ แต่จะมีข้อดีตรงที่ใช้เงินจำนวนหลักร้อย-พันก็สามารถซื้อกองทุนทองคำได้ ทั้งยังสามารถซื้อขายกองทุนทองคำได้ทุกที่ทุกเวลาเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต และยังมีความปลอดภัยเนื่องจากไม่ต้องเก็บทองไว้กับตัวครับ
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเลือกกองทุนทองคำให้เหมาะสมกับตัวเองก็สามารถเลือกกองทุนทองคำประเภทต่าง ๆ จากธนาคารโดยตรวจสอบการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนทองคำนั้น ๆ หรือเลือกกองทุนทองคำที่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามคำแนะนำของเราได้ ดังต่อไปนี้
การตรวจสอบการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนทองคำจะทำให้เราสามารถคาดคะเนได้ว่า กองทุนทองคำนั้น ๆ จะสามารถทำให้เงินของเรางอกเงยในกองทุนทองคำได้ และเราจะได้รับผลตอบแทนจากกองทุนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกกองทุนทองคำเลยก็ว่าได้ สามารถตรวจสอบได้จากหนังสือชี้ชวนกองทุนหรือ Fund Fact Sheet ฉบับล่าสุดของกองทุนนั้น ๆ ในเว็บไซต์ธนาคารหรือเว็บไซต์ของ Morningstar Thailand ครับ
กองทุนทองคำนั้นนอกจากเรื่องของผลตอบแทนย้อนหลังแล้ว ก็จะมีกองทุนทองคำที่แบ่งเป็น กองทุนป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedge) และกองทุนที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Unhedge) เนื่องจากทองคำซื้อขายกันด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เวลาแลกกลับมาเป็นเงินไทยจะต้องโดนอัตราแลกเปลี่ยนด้วย โดยเมื่อเงินบาทอ่อน ราคาทองจะสูงขึ้น ถ้าเงินบาทแข็ง ราคาทองจะต่ำลง
สำหรับกองทุนทองที่ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินไว้ ก็จะได้รับผลกระทบตรงนี้มากกว่ากองที่ Hedge ไว้ ซึ่งการเลือกกองทุนทองคำนั้น ถ้าหากนักลงทุนคาดการณ์ว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงในอนาคต ก็ให้เลือกกองทุน Unhedge ซึ่งจะให้ผลตอบแทนสูงกว่า และถ้าหากว่าเราเป็นนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากค่าเงินตรงนี้ ให้เลือกกองทุนแบบ Hedge จะดีกว่าครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | SCB Asset Management SCBGOLD กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ ชนิดสะสมมูลค่า | ![]() | โดดเด่นด้วยผลการดำเนินงานย้อนหลัง เพิ่มโอกาสเข้าถึงที่มากกว่า | |
2 | BBL Asset Management BGOLD กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ | ![]() | นโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust | |
3 | UOB Asset Management UOBSG-N กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ชนิดไม่จ่ายเงินปันผล | ![]() | เหมาะกับคนที่สามารถยอมรับความเสี่ยง โอกาสกำไรและขาดทุนสูง | |
4 | TMB Asset Management Eastspring TMBGOLD กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ | ![]() | กลยุทธ์การลงทุนแบบ Passive มุ่งสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนี | |
5 | KRUNGSRI Asset Management KF-GOLD กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์ | ![]() | โดดเด่นด้วยนโยบายการคิดค่าธรรมเนียม ที่ฟรีทั้งการซื้อและขาย | |
6 | KASIKORN Asset Management K-GOLD-A(D) กองทุนเปิดเค โกลด์-A ชนิดจ่ายเงินปันผล | ![]() | เพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน โดดเด่นด้วยนโยบายป้องกันความเสี่ยง | |
7 | PHILLIP Asset Management PGOLD กองทุนเปิด ฟิลลิป ทองคำ | ![]() | ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีที่ 10.47% เน้นการลงทุนแบบ Feeder Fund | |
8 | UOB Asset Management UOBSG-D กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ชนิดจ่ายเงินปันผล | ![]() | โดดเด่นด้วยนโยบายจ่ายปันผล เพิ่มโอกาสด้วยการไม่มีขั้นต่ำซื้อ | |
9 | KRUNGTHAI Asset Management KT-GOLD กองทุนเปิดเคแทม โกลด์ ฟันด์ | ![]() | ลงทุนในกองทุนอื่น พร้อมสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีที่ 9.29% | |
10 | MFC Asset Management I-GOLD กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล โกลด์ ฟันด์ | ![]() | นโยบายสร้างผลตอบแทนที่ล้อกับการลงทุนทองคำในต่างประเทศ |
SCBGOLD กองทุนทองคำจาก บลจ.ไทยพาณิชย์ เป็นกองทุนที่มีความโดดเด่นด้วยผลการดำนเนินงานย้อนหลังที่น่าสนใจ ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยในรอบ 3 ปีของกองทุนที่สามารถทำได้สูงถึง 12.31% พร้อมเพิ่มความมั่นคงของกองทุนด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 5,000 ล้านบาท ลดภาระของผู้ลงทุนด้วยค่าธรรมเนียมซื้อและขายหน่วยลงทุนไม่เกินร้อยละ 0.535 และยังเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของผู้ลงทุนด้วยมูลค่าขั้นต่ำการซื้อและขายที่ 1 บาทเท่านั้น
กองทุนทองคำที่มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนอื่นในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ซึ่งปัจจุบัน BGOLD มีการเข้าลงทุนในหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust (กองทุนหลัก) โดยมีเป้าหมายการลงทุนในการสร้างผลตอบแทนให้ล้อไปกับผลตอบแทนของราคาทองคำ ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนเฉลี่ยในรอบ 3 ปี กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ที่ 11.73%
UOBAM เป็นกองทุนทองคำจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีนโยบายการลงทุนหลักในต่างประเทศในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV กองทุนถูกประเมินให้มีระดับความเสี่ยงกองทุนที่ 8 ซึ่งถือเป็นระดับที่เสี่ยงสูงมาก ดังนั้นกองทุนจึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวม และสามารถยอมรับความผันผวนที่สูงของราคาทองคำ ซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นจนได้กำไร หรือลดลงจนขาดทุนมากก็ได้
กองทุนทองคำจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทยธนชาต TMBGOLD กองทุนที่มีกลยุทธ์ในการลงทุนในรูปแบบเชิงรับ (Passive Investment Strategy) โดยมุ่งหวังการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง โดยปัจจุบันกองทุนได้เข้าซื้อหน่วยลงทุนของ SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของต่างประเทศ นิวยอร์ก ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์
อีกหนึ่งกองทุนทองคำที่น่าสนใจ KF-GOLD กองทุนที่มีนโยบายการลงทุนโดยมุ่งหวังผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของกองทุนหลัก ซึ่งปัจจุบันกองทุนหลักที่ KF-GOLD เข้าไปลงทุนคือ SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก จุดที่โดดเด่นของกองทุนนี้คือนโยบายการเก็บค่าธรรมเนียมที่ไม่มีการคิดทั้งค่าธรรมเนียมการซื้อและการขาย และรวมทั้งค่าธรรมเนียมในการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนทั้งเข้าและออกอีกด้วย
กองทุนที่มีความโดดเด่นด้านนโยบายการป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่มากกว่า 90% ของเงินลงทุนในต่างประเทศ K-GOLD-A(D) เพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนด้วยเงินทุนของโครงการที่มากกว่า 35,000 ล้านบาท มาพร้อมกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี ด้านผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี กองทุนสามารถทำได้ที่ 5.32% จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำแท่ง และนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล
กองทุนเปิด ฟิลลิป ทองคำ PGOLD เป็นกองทุนที่บริหารจัดการโดย บลจ. ฟิลลิป ที่มีนโยบายการลงทุนไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ในหน่วยลงทุนของกองทุนอื่นเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) และสัดส่วนที่เหลือจะถูกนำไปลงทุนในเงินฝาก หรือตราสารหนี้ภายในประเทศ ซึ่งต้องมีอายุสัญญาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ด้านความเสี่ยงกองทุนถูกจัดให้มีระดับความเสี่ยงที่ 8 คือเสี่ยงสูงมาก ส่วนทางด้านผลการดำเนินงานย้อนหลัง เฉลี่ยในรอบ 3 ปีกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ที่ 10.47%
กองทุนเปิด UOBSG-D เป็นกองทุนทองคำที่มีความน่าสนใจตรงนโยบายจ่ายเงินปันผล โดยกองทุนจะกำหนดให้มีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ลงทุนไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี ด้านผลตอบแทนย้อนหลังกองทุนสามารถทำได้เฉลี่ยในรอบ 3 ปี ที่ 11.06% เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงหน่วยลงทุนของผู้ลงทุนด้วยมูลค่าขั้นต่ำในการซื้อที่ไม่มีกำหนด และนอกจากนี้ยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
กองทุนทรัพย์สินทางเลือก KT-GOLD เป็นกองทุนรวมประเภท Feeder Fund หรือกองทุนที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนอื่นเพียงกองทุนเดียวเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV มาพร้อมกับนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 25% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยในรอบ 3 ปีที่ 9.29% และไม่มีมูลค่าขั้นต่ำในการซื้อและการขายหน่วยลงทุน
I-GOLD เป็นกองทุนทองคำจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ที่เหมาะกับนักลงทุนผู้ที่คาดหวังการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการลงทุนทองคำในต่างประเทศ และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำได้ในระดับสูง ด้านผลการดำเนินงานของกองทุน เฉลี่ยในรอบ 3 ปี กองทุนมีผลตอบแทนที่ 9.86% และค่าความผันผวนของกองทุนที่ 14.28%
คงได้เห็นแล้วว่าการลงทุนในทองคำนั้นถือเป็นทางเลือกการลงทุนในทรัพย์สินที่ช่วยกระจายความเสี่ยงจากหุ้นหรือกองทุนที่ผันผวนตามเศรษฐกิจได้ หากใครสนใจการลงทุนในกองทุนทองคำเราขอแนะนำให้ใช้เงินเก็บนอกเหนือจากเงินสำรองฉุกเฉินมาใช้ในการลงทุน และควรศึกษากองทุนที่สนใจเพิ่มเติมเป็นพิเศษ โดยให้ความสำคัญในเรื่องของความเสี่ยงมาก่อนผลตอบแทนเพื่อลดโอกาสในการขาดทุน และสำหรับวัยเกษียณ เราขอแนะนำให้เลือกกองทุนแบบจ่ายปันผลเพื่อจะได้มีเงินใช้ระหว่างออมครับ
อันดับที่ 1: SCB Asset Management|SCBGOLD กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ ชนิดสะสมมูลค่า
อันดับที่ 2: BBL Asset Management|BGOLD กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์
อันดับที่ 3: UOB Asset Management|UOBSG-N กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ชนิดไม่จ่ายเงินปันผล
อันดับที่ 4: TMB Asset Management Eastspring|TMBGOLD กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์
อันดับที่ 5: KRUNGSRI Asset Management|KF-GOLD กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ