หากพูดถึงผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปแบบของเงินปันผล เชื่อว่าใครหลายคนคงกำลังมองหาผลตอบแทนในรูปแบบนี้อยู่อย่างแน่นอน แต่ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา หรือความรู้ความสามารถในการลงทุนด้วยตัวเอง ดังนั้น วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับอีกหนึ่งตัวช่วยในการลงทุนที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความสามารถ ซึ่งตัวช่วยที่ว่านี้ คือ กองทุนปันผล นั่นเองครับ
กองทุนปันผลนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก และถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นกองทุนปันผลเหมือนกัน แต่รูปแบบการลงทุน รูปแบบการจ่ายเงินปันผล ความเสี่ยงและเงื่อนไขต่าง ๆ ก็ล้วนแตกต่างกันออกไปตามนโยบายของแต่ละบริษัท ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาแบ่งปันวิธีการเลือกกองทุนปันผล พร้อมคำแนะนำจากนักวางแผนการเงินโดยเฉพาะ รวมถึงแนะนำ 10 กองทุนปันผลที่มีความโดดเด่น มีนโยบายการลงทุนและการจ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับทุกคนกันครับ
Top 5 กองทุนปันผลสูง
Kasikorn Asset Management
กลยุทธ์ลงทุนแบบเชิงรับ สร้างผลตอบแทนตามดัชนี NASDAQ-100
Krungsri Asset Management
นโยบายลงทุนแบบ Feeder Fund สร้างผลตอบแทนตามกองทุนหลัก
LAND AND HOUSES FUND Asset Management
สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ด้วยนโยบายปันผลสูงสุดปีละ 12 ครั้ง
KIATNAKIN PHATRA Asset Management
จุดเด่นที่เงินปันผล สร้างผลตอบแทนจากกลยุทธ์ลงทุนแบบ Passive
คุณปอยเรียนจบปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ จาก Assumption University และปริญญาโทจาก Northumbria University สาขา Design Management จากประเทศอังกฤษ หลังจากเริ่มทำงานคุณปอยเริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับการเงิน การวางแผนภาษี รวมไปถึงการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมและประกันชีวิต จึงเริ่มศึกษาหาประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงผ่านการเรียนคอร์สต่าง ๆ และเข้าอบรม รวมทั้งสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานเป็นนักวางแผนการเงินมืออาชีพอิสระมามากว่า 4 ปี ปัจจุบันคุณปอยมีใบอนุญาตเป็นผู้แนะนำการลงทุนในประเทศไทยและมีลูกค้าภายใต้การดูแลไม่ต่ำกว่า 50 คน สำหรับประเภทของแผนการเงินที่คุณปอยมีความชำนาญเป็นพิเศษ ได้แก่ แผนการออมเพื่อการเกษียณอายุ แผนการออมเพื่อการลดหย่อนภาษี แผนการออมเพื่อการศึกษาบุตรและแผนการเงินเพื่อการส่งต่อมรดก
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
ก่อนจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกองทุนปันผล เรามาทำความเข้าใจกับคำว่า เงินปันผล กันก่อนดีกว่าครับ เพราะเงินปันผลที่ได้จากหุ้น กับเงินปันผลที่ได้จากกองทุนปันผลนั้นไม่เหมือนกัน โดยทั่วไปแล้ว เงินปันผลที่ได้จากหุ้นจะเป็นกระแสเงินสดที่ถูกแบ่งออกมาจากกำไรสุทธิของบริษัท แล้วนำมาเฉลี่ยจ่ายให้กับนักลงทุนตามจำนวนหุ้นที่ซื้อไว้ แต่สำหรับเงินปันผลที่ได้จากกองทุนปันผลจะเป็นกระแสเงินสดจากกำไรสุทธิของกองทุน ซึ่งได้มาจากส่วนต่างราคาของสินทรัพย์ที่กองทุนทำการซื้อขาย (Capital Gain) และเงินปันผลที่ได้จากหุ้นที่กองทุนลงทุนไว้
โดยกองทุนปันผลนั้นก็เหมือนกับกองทุนทั่ว ๆ ไปที่เป็นการระดมเงินจากผู้ลงทุนจำนวนมาก แล้วนำไปจดทะเบียนให้เป็นกองทุนในฐานะนิติบุคคล โดยเงินที่ระดมมานั้นจะถูกบริหารโดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้จัดการกองทุน และให้เกิดผลตอบแทนในรูปแบบของผลกำไร
ซึ่งผลกำไรจะถูกนำไปรวมกับ NAV หรือ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพื่อเพิ่มมูลค่าของกองทุนต่อไป แต่ถ้าเป็นกองทุนปันผล ตัวผลกำไรที่ว่านี้จะถูกเฉลี่ยแบ่งจ่ายออกมาเป็นงวด ๆ ในรูปแบบของกระแสเงินสดให้กับนักลงทุนแทน เช่น ถ้าปีนี้กองทุนประกาศจ่ายปันผลให้ 1 บาทต่อ 1 หน่วยลงทุน หากนักลงทุนมีหน่วยลงทุนอยู่ 1,000 หน่วย ก็จะได้รับเงินสด 1,000 บาทก่อนหักภาษี ณ ที่จ่ายในรอบการจ่ายปันผลนั่นเอง
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ถึงจะเป็นกองทุนปันผลเหมือนกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ ดังนั้น ในหัวข้อนี้เราจึงจะมาแบ่งปันวิธีการเลือกกองทุนปันผล เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจว่า คุณควรจะเลือกลงทุนในกองทุนไหน ถึงจะเหมาะกับความต้องการของตนเองมากที่สุด
กองทุนแต่ละประเภทมีระดับความเสี่ยงที่ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุน บางกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตลาดทุนเป็นหลักจะมีระดับความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง หรือบางกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตลาดเงินเป็นหลักก็จะมีระดับความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ซึ่งในกรณีนี้ กองทุนที่มีระดับความเสี่ยงสูงก็จะหมายถึงโอกาสในการทำกำไรและการขาดทุนของกองทุนที่สูงเช่นกัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน เราจำเป็นต้องสำรวจตัวเองก่อนว่า สามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งพอทราบระดับความเสี่ยงที่รับได้แล้วก็จะสามารถพิจารณาต่อได้ว่า กองทุนที่กำลังสนใจมีความเสี่ยงอยู่ในระดับที่เรารับได้หรือไม่นั่นเองครับ
ในการตัดสินใจลงทุนในกองทุนปันผล สิ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยคือ การศึกษารายละเอียดจากหนังสือชี้ชวน หรือ Fund Fact Sheet เพราะนอกจากจะบอกรอบนโยบายเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่ลงทุนแล้ว ในหนังสือชี้ชวนยังบอกถึงนโยบายการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นตัวที่จะบอกเราว่า กองทุนนี้จ่ายปันผลกี่ครั้ง และจ่ายเป็นร้อยละเท่าไรของกำไร นอกจากนี้ ยังมีการระบุค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่กองทุนเรียกเก็บ ผลการดำเนินงานย้อนหลัง รวมถึงความเสี่ยงของกองทุน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการพิจารณาเลือกซื้อกองทุนครับ
แน่นอนว่า การที่เราเลือกลงทุนในกองทุนปันผลก็เป็นเพราะต้องการเงินปันผลใช่ไหมละครับ ดังนั้น การดูผลการดำเนินงานย้อนหลังจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เพราะนอกจากจะบ่งบอกว่ากองทุนนี้มีความสามารถในการทำกำไรเท่าไรแล้ว ยังแสดงความผันผวนของอัตราการจ่ายเงินปันผลที่กองทุนจ่ายได้อีกด้วย
ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดูผลการดำเนินการย้อนหลัง ควรดูในช่วง 3 - 5 ปี เป็นอย่างน้อย แล้วนำไปเปรียบเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกันก่อนที่จะลงทุน ก็จะทำให้เลือกกองทุนเงินปันผลที่เหมาะกับตัวเราได้ดีที่สุด
การเปรียบเทียบผลตอบแทนกับความเสี่ยง หรือที่เราเรียกกันว่า Sharpe Ratio คือตัวช่วยที่ขาดไม่ได้ในการเลือกลงทุนเลยทีเดียว สมมุติว่าเราเจอกองทุนปันผลที่มีผลการดำเนินงานที่ใกล้เคียงกัน มีอัตราจ่ายเงินปันผลที่ไม่ได้ต่างกันมากนัก แล้วเราควรจะเลือกลงทุนในกองทุนไหน
สิ่งที่จะช่วยประกอบการพิจารณาของเราได้ก็คือตัว Sharpe Ratio (อัตราผลตอบแทนกับความเสี่ยง) ใน Fund Fact Sheet นี่แหละครับ ซึ่งกองทุนที่มี Sharp Ratio สูงกว่า ก็หมายความว่า ในระดับความเสี่ยง 1 หน่วยที่เท่ากัน กองทุนนั้นมีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งถ้าเสี่ยงเท่ากัน เราก็ควรจะเลือกลงทุนในกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่านั่นเองครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Kasikorn Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล K-USXNDQ-A(D) กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผล | ![]() | กลยุทธ์ลงทุนแบบเชิงรับ สร้างผลตอบแทนตามดัชนี NASDAQ-100 | |
2 | Krungsri Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล KFGBRAND-D กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ ชนิดจ่ายเงินปันผล | ![]() | นโยบายลงทุนแบบ Feeder Fund สร้างผลตอบแทนตามกองทุนหลัก | |
3 | LAND AND HOUSES FUND Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล LHDIGITAL-D กองทุนเปิด แอล เอช ดิจิตอล อีโคโนมี ชนิดจ่ายเงินปันผล | ![]() | สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ด้วยนโยบายปันผลสูงสุดปีละ 12 ครั้ง | |
4 | KIATNAKIN PHATRA Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล KKP GHC กองทุนเปิดเคเคพี โกลบอล เฮลธ์แคร์ | ![]() | จุดเด่นที่เงินปันผล สร้างผลตอบแทนจากกลยุทธ์ลงทุนแบบ Passive | |
5 | SCB Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล SCBS&P500 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส ชนิดจ่ายเงินปันผล | ![]() | โดดเด่นด้วยผลการดำเนินงาน สร้างผลตอบแทนในระยะกลางถึงยาว | |
6 | Krungsri Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล KFGROWTH-D กองทุนเปิดกรุงศรีโกรทอิควิตี้ ชนิดจ่ายเงินปันผล | ![]() | กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active พร้อมรับกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง | |
7 | King Wai Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล KWI HCARE-D กองทุนเปิด เคดับบลิวไอ เฮลธ์แคร์ เอฟไอเอฟ ชนิดจ่ายเงินปันผล | ![]() | รองรับกระแสรักสุขภาพ เน้นลงทุนหมวดอุตสาหกรรม Healthcare | |
8 | Kasikorn Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล K-EUROPE กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน | ![]() | เพิ่มโอกาสการลงทุน เน้นหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในสหภาพยุโรป | |
9 | Krungthai Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล KTMUNG-D กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง ชนิดจ่ายเงินปันผล | ![]() | ลงทุนในกองทุนทั้งในและต่างประเทศ รับปันผลสูงสุด 4 ครั้งต่อปี | |
10 | BBL Asset Management กองทุนจ่ายเงินปันผล BCAP กองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน | ![]() | ลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี โดดเด่นด้วยนโยบายฟรีค่าธรรมเนียม |
กองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว โดยปัจจุบัน K-USXNDQ-A(D) ได้เข้าลงทุนในหน่วยลงทุนของ Invesco QQQ Trust, Series 1 (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่มีกลยุทธ์การลงทุนมุ่งสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องไปกับดัชนี NASDAQ-100 จุดที่น่าสนใจของกองทุนนี้นอกจากจำนวนเงินปันผลที่จ่ายให้ผู้ถือหน่วยในปีที่ผ่านมาที่รวมสูงถึง 2.70 บาทต่อหน่วยแล้ว กองทุนยังลดความเสี่ยงให้กับผู้ลงทุนด้วยนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75%
กองทุนที่โดดเด่นด้วยนโยบายจ่ายเงินปันผลสูงสุดถึง 12 ครั้งต่อปี มีนโยบายการลงทุนแบบ Feeder Fund โดยเข้าลงทุนในหน่วยลงทุนของ Morgan Stanley Investment Fund - Global Brands Fund (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว ซึ่งกองทุนหลักมีกลยุทย์บริหารจัดการลงทุนแบบ Active จุดที่น่าสนใจของ KFGBRAND-D ก็คือความสามารถในการดำเนินงาน ซึ่งเราสามารถดูได้จากผลตอบแทนในปีที่ผ่านมาที่ 21.60% และที่สำคัญไปกว่านั้น คือกองทุนมีการจ่ายเงินปันผลในปีที่ผ่านมาสูงถึง 1.7 บาทต่อหน่วย
กองทุนจาก บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ออกมาเพื่อตอบสนองต่อนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนแบบสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิตอลเป็นหลัก กองทุนมีค่าความเสี่ยงจากความผันผวนของผลการดำเนินงาน (SD) ที่ 18.94% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลังในปีที่ผ่านมาที่ 11.70% จุดที่น่าสนใจของกองทุนนี้คือนโยบายการจ่ายเงินปันผลทีสูงสุด 12 ครั้งต่อปี และในปีที่ผ่านมากองทุนจ่ายปันผลให้ผู้ลงทุนสูงถึง 1 บาทต่อหน่วย
KKP GHC เป็นกองทุนจ่ายเงินปันผลที่มีการบริหารจัดการลงทุนแบบ Passive Management ที่มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องไปกับผลการดำเนินงานของ Janus Henderson Global Life Sciences Fund (กองทุนหลัก) และแม้ว่า KKP GHC จะมีนโยบายจ่ายปันผลอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนครั้งที่ค่อนข้างน้อย แต่ถ้าหากเราพิจารณาการจ่ายเงินปันผลในปีที่ผ่านมา ที่สูงถึง 2.80 บาทต่อหน่วย ก็ถือว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจมากเหมือนกัน
ตอบโจทย์กับนักลงทุนที่คาดหวังสร้างผลตอบแทนในระยะกลางถึงระยะยาว และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้น SCBS&P500 เป็นกองทุนจาก บลจ.ไทยพาณิชย์ ที่มีนโยบายการลงทุนแบบ Feeder Fund โดยเข้าถือหน่วยลงทุนของ iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว จุดที่น่าสนใจมาก ๆ ของกองทุนนี้คือผลการดำเนินงานย้อนหลัง ซึ่งในปีที่ผ่านมากองทุนได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนถึง 1.2498 บาทต่อหน่วย และมีผลตอบแทนที่ 29.06%
ให้คุณได้รับกระแสเงินสดต่อเนื่องตลอดปี กับกองทุนเปิดกรุงศรีโกรทอิควิตี้ ชนิดจ่ายเงินปันผล (KFGROWTH-D) ที่มาพร้อมนโยบายจ่ายเงินปันผลสูงสุด 4 ครั้งต่อปี ด้วยกลยุทธ์บริหารจัดการลงทุนแบบ Active Management ที่มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนีชี้วัด ซึ่งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ที่ 16.87% และมีการจ่ายเงินปันผลให้นักลงทุนที่ 0.93 บาทต่อหน่วย
KWI HCARE-D เป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการมีกระแสเงินสดรับในระหว่างถือหน่วย ด้วยนโยบายจ่ายเงินปันผลที่สูงสุด 12 ครั้งต่อปี จุดที่น่าสนใจของกองทุนนี้คือนโยบายการลงทุนของกองทุนหลัก Manulife Global Fund – Healthcare Fund (Class AA) ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่ KWI HCARE-D เข้าไปถือหน่วย ด้วยกระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรง ประกอบกับกองทุนหลักเน้นลงทุนในธุรกิจประเภท Healthcare จึงมองว่ากองทุนน่าจะสามารถทำผลประกอบการได้ดีในปีนี้
กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนอื่นเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ซึ่งปันจุบันกองทุนได้เข้าถือหน่วยลงทุนของ Allianz Europe Equity Growth, Class AT-EUR (กองทุนหลัก) กองทุนต่างประเทศที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Active Management ในตราสารแห่งทุนและตราสารเทียบเท่าของบริษัทที่จดทะเบียนในสหภาพยุโรป กองทุนมีผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาที่ 30.73% และจ่ายปันผลให้นักลงทุนที่ 0.95 บาทต่อหน่วย
ด้วยนโยบายจ่ายเงินปันผลสูงสุด 4 ครั้งต่อปี และในรอบปีที่ผ่านมากองทุนได้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยที่ 0.33 บาทต่อหน่วย ทำให้กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง ชนิดจ่ายเงินปันผล (KTMUNG-D) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยกองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองทุน Property (กองทุนปลายทาง) ทั้งในและต่างประเทศ
กองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน เป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้มากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป กองทุนมีนโยบายลงทุนในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน ในหุ้นของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มเจริญเติบโตได้ในอนาคต จุดที่น่าสนใจของกองทุนนี้ นอกจากการจ่ายปันผลในรอบปีที่ผ่านมาซึ่งสูงถึง 0.6775 บาทต่อหน่วยแล้ว กองทุนยังโดดเด่นด้วยนโยบายไม่คิดค่าธรรมเนียมทั้งการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
สำหรับนักลงทุนมือใหม่อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า ข้อดี-ข้อเสียของกองทุนปันผลคืออะไร เราจะได้เงินตอบแทนทุก ๆ ช่วงเวลาเท่าไหร่ และมีความแตกต่างกับกองทุนไม่ปันผลอย่างไรบ้าง ในวันนี้ เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันครับ
จุดเด่นของกองทุนจ่ายเงินปันผลก็คือ สามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุนได้และนักลงทุนสามารถรับรู้กำไรจากปันผลได้เลยทันที ส่วนจุดด้อยก็จะเป็นในเรื่องที่นักลงทุนต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากหากต้องการกระแสเงินสดเพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงเงินลงทุนไม่สามารถทำงานให้งอกเงยได้เต็มที่เนื่องจากต้องปันผลออกมาให้กับนักลงทุนนั่นเองครับ
สำหรับรอบการจ่ายปันผลของกองทุนจ่ายเงินปันผลนั้นแต่ละกองทุนจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ซึ่งนักลงทุนสามารถดูรายละเอียดได้จากใน Fund Fact Sheet และควรที่จะดูประวัติการจ่ายปันผลย้อนหลังของแต่ละกองทุนด้วยนะครับ
กองทุนปันผลนั้นมีข้อดีเลยก็คือ จะทำให้นักลงทุนมีกระแสเงินสดที่นักลงทุนจะสามารถนำเงินที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือนำไปต่อยอดอื่น ๆ ได้ แต่ว่าเงินปันผลนั้นจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายก่อน 10% ซึ่งหากเป็นการลงทุนระยะยาวแล้ว ผลตอบแทนที่ได้จะมีความแตกต่างกับกองทุนแบบไม่ปันผลค่อนข้างมาก เพราะว่ากองทุนที่ไม่ปันผลจะนำผลกำไรกลับไปทบกับเงินต้นของเรา เหมือนกันทฤษฎีการทบต้นของดอกเบี้ย (Compounding) ส่งผลให้ผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมีมูลค่าสูงมากขึ้นไปอีก และเงินก็จะเพิ่มพูนขึ้นไปเรื่อย ๆ นั่นเองครับ
ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่ากองทุนจ่ายเงินปันผลเหมือนกัน แต่เงื่อนไขรวมทั้งนโยบายต่าง ๆ ก็ล้วนมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้น หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว ทุกคนคงจะมีความเข้าใจในกองทุนจ่ายเงินปันกันผลมากขึ้น และเราก็หวังว่าวิธีการเลือกที่นำมาแบ่งปันกันในวันนี้จะช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะสมและตอบโจทย์กับตัวเองได้นะครับ
อันดับที่ 1: Kasikorn Asset Management|กองทุนจ่ายเงินปันผล K-USXNDQ-A(D) กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผล
อันดับที่ 2: Krungsri Asset Management|กองทุนจ่ายเงินปันผล KFGBRAND-D กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ ชนิดจ่ายเงินปันผล
อันดับที่ 3: LAND AND HOUSES FUND Asset Management|กองทุนจ่ายเงินปันผล LHDIGITAL-D กองทุนเปิด แอล เอช ดิจิตอล อีโคโนมี ชนิดจ่ายเงินปันผล
อันดับที่ 4: KIATNAKIN PHATRA Asset Management|กองทุนจ่ายเงินปันผล KKP GHC กองทุนเปิดเคเคพี โกลบอล เฮลธ์แคร์
อันดับที่ 5: SCB Asset Management|กองทุนจ่ายเงินปันผล SCBS&P500 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส ชนิดจ่ายเงินปันผล
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ