KBANK หรือที่เรารู้จักกันในนามธนาคารกสิกรไทยนั้น นอกจากจะเป็นผู้ให้บริการทางด้านธนาคารแล้ว ยังมีบริษัทในเครืออย่างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด ที่ให้บริการเกี่ยวกับการลงทุนประเภทกองทุนอีกด้วย โดยกองทุนกสิกรก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุนไม่แพ้กับธนาคารเลย โดยมีกองทุนหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อ ที่สำคัญทางกสิกรก็ยังแยกกองทุนต่าง ๆ ออกตามเป้าหมายที่มีความชัดเจน ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกกองทุนได้เหมาะสมกับจุดประสงค์ในการลงทุนและความเสี่ยงในการลงทุนที่รับได้ดียิ่งขึ้น
เนื่องจากบลจ.กสิกรไทย ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2535 จึงมีการออกแบบกองทุนหลากหลายแบบมาให้เลือกกันเลยค่ะ ซึ่งกองทุนแต่ละแบบก็จะมีข้อดีหรือข้อจำกัดที่ต่างกัน ดังนั้นวันนี้เราจึงจะนำข้อมูลวิธีการเลือกกองทุนกสิกรให้ได้ตรงใจมากพร้อมคำแนะนำจากนักวางแผนการเงินโดยเฉพาะ อีกทั้งยังได้รวบรวม 10 กองทุนกสิกรที่มีผลตอบแทนดีอย่างต่อเนื่องมาให้คุณเก็บไว้เป็นตัวเลือกในกรณีที่คุณสนใจจะซื้อหน่วยลงทุนจากกองทุนกสิกรในอนาคต
Top 5 กองทุนกสิกร
Kasikorn Asset Management
กระจายการลงทุนไปในตราสารทุนจากทั่วทุกภูมิภาคของโลก
Kasikorn Asset Management
คัดเลือกหุ้นจากบริษัทชั้นนำของอเมริกา เน้นผลตอบแทนระยะยาว
Kasikorn Asset Management
มุ่งเน้นผลตอบแทนระยะยาว ด้วยการลงทุนในเทรนด์แห่งอนาคต
Kasikorn Asset Management
ใช้ดัชนี SET 50 จากตลาดหุ้นไทยเป็นตัวกำหนดทิศทางลงทุน
คุณปอยเรียนจบปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ จาก Assumption University และปริญญาโทจาก Northumbria University สาขา Design Management จากประเทศอังกฤษ หลังจากเริ่มทำงานคุณปอยเริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับการเงิน การวางแผนภาษี รวมไปถึงการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมและประกันชีวิต จึงเริ่มศึกษาหาประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงผ่านการเรียนคอร์สต่าง ๆ และเข้าอบรม รวมทั้งสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานเป็นนักวางแผนการเงินมืออาชีพอิสระมามากว่า 4 ปี ปัจจุบันคุณปอยมีใบอนุญาตเป็นผู้แนะนำการลงทุนในประเทศไทยและมีลูกค้าภายใต้การดูแลไม่ต่ำกว่า 50 คน สำหรับประเภทของแผนการเงินที่คุณปอยมีความชำนาญเป็นพิเศษ ได้แก่ แผนการออมเพื่อการเกษียณอายุ แผนการออมเพื่อการลดหย่อนภาษี แผนการออมเพื่อการศึกษาบุตรและแผนการเงินเพื่อการส่งต่อมรดก
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
แม้ว่ากองทุนกสิกรจะมีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเภทจนทำให้ต้องใช้เวลาศึกษา แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับทั้งเป้าหมาย ความเสี่ยงหรือผลประโยชน์อื่น ๆ ที่จะได้รับจากการถือหน่วยลงทุนให้ชัดเจนก่อน เพื่อช่วยให้การวางแผนทางการเงินของคุณนั้นเป็นไปด้วยความราบรื่นนั่นเองค่ะ
การเลือกกองทุนกสิกรนั้นไม่ได้แบ่งกองทุนออกเป็นประเภทกองทุนที่เราคุ้นเคยกันดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังเน้นจัดกลุ่มกองทุนไปตามเป้าหมายการลงทุน เพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกพิจารณากองทุนได้อย่างตรงตามความต้องการมากขึ้น ซึ่งแต่ละเป้าหมายก็จะมีระยะเวลาในการถือหรือความเสี่ยงที่แตกต่างกัน
เป็นกองทุนกสิกรในกลุ่มที่เน้นสภาพคล่องเป็นหลัก โดยเป็นการลงทุนในระยะสั้นและมีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้นจึงมักจะเป็นกองทุนรวมตลาดเงินต่าง ๆ ซึ่งมักจะประกอบไปด้วยตราสารหนี้ทั้งจากภาครัฐอย่าง พันธบัตรรัฐบาล รวมไปถึงหุ้นกู้จากภาคเอกชน ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคารทั่วไปเล็กน้อย มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกองทุนในจำนวนที่ต่ำอีกด้วย ตัวอย่างกองทุนกสิกรในกลุ่มนี้ที่ได้รับความนิยมคือ K-CASH, K-SFPLUS และ K-TREASURY
กองทุนประเภท Liquidity ของกสิกรจะเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่องสูง เหมาะกับการพักเงินในระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี เนื่องจากมีผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากออมทรัพย์ทั่วไปเล็กน้อย แต่การนำเงินออกมาจะมีความล่าช้ากว่าการฝากออมทรัพย์ประมานนึงครับ
กองทุนกสิกรในกลุ่มที่มีเป้าหมายเน้นการสร้างผลตอบแทนในระยะเวลาที่มากกว่า 1 ปี ดังนั้นจึงมักจะเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ เพราะผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้ผลตอบแทนกลับมาในรูปแบบของดอกเบี้ยที่มีจำนวนและเวลาที่แน่นอน โดยตราสารหนี้เหล่านี้มีทั้งตราสารหนี้จากภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมทั้งยังมีทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต่ำไปจนถึงปานกลาง มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายกองทุนที่ต่ำเช่นกัน กองทุนกสิกรในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจคือ K-CBOND และ K-PLAN1
สำหรับกองทุนประเภท Stability จะเหมาะกับการพักเงินในระยะสั้นตั้งแต่ 1 - 3 ปีครับ เนื่องจากว่ากองทุนประเภทนี้จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งก็จะมีทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว สำหรับความเสี่ยงของกองทุนประเภทนี้สามารถตรวจสอบได้ผ่าน Fund Fact Sheet ของกองทุนนั้น ๆ ซึ่งหากเป็นกองที่ความเสี่ยงสูงก็จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยครับ
นิยามของกองทุนกสิกรในกลุ่มเป้าหมายนี้คือ การลงทุนแบบผันผวนต่ำในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ให้กองทุนสม่ำเสมอ ดังนั้นจึงมีการเพิ่มความท้าทายมากขึ้นด้วยการผสมการลงทุนทั้งในตราสารหนี้ ตราสารทุน และสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ อย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์หรือโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ความเสี่ยงของกองทุนกสิกรในกลุ่มนี้จะมีคละกันตั้งแต่ระดับ 5 จนถึง 8 ขึ้นอยู่กับความผันผวนของชนิดของสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ตราสารหนี้เป็นหลัก กองทุนกสิกรในกลุ่มนี้ที่มีความโดดเด่นคือ K-PROPI, K-GINCOME-A และ K-GPROP-A
กองทุนประเภท Income นั้นจะเป็นกองทุนผสมที่ลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั้งตราสารหนี้ ตราสารทุน และอื่น ๆ ซึ่งตัวที่เด่น ๆ ก็จะเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือกองทุน ETF สำหรับกองทุนประเภทนี้จะเน้นสร้างกระแสเงินสดให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดและสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางครับ
กองทุนกสิกรในกลุ่มเป้าหมาย Growth นั้นจะเหมาะกับผู้ที่สามารถถือหน่วยลงทุนได้ในระยะยาว จึงเหมาะกับคนที่ใช้เงินเย็นหรือเงินที่ไม่มีแผนหรือเหตุจำเป็นที่ต้องนำมาใช้ ดังนั้นจึงไม่ทำให้คุณต้องรีบถอนเงินลงทุนก้อนนี้ออกมา เนื่องจากกองทุนในกลุ่มนี้มักจะมีความผันผวนสูงที่ทำให้เกิดการขาดทุนในระยะสั้นได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นกองทุนรวมตราสารทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีทั้งแบบ Active Management และ Passive Management กองทุนกสิกรในกลุ่มนี้ที่ฮิตกันคือ K-VIETNAM, K-USXNDQ-A และ K-CHANGE-A
สำหรับกองทุนประเภท Growth จะเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง เพราะกองทุนประเภทนี้จะเน้นลงทุนในตราสารทุน ซึ่งก็จะมีทั้งที่ลงทุนในประเทศและนอกประเทศ สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนประเภทนี้ ผมอยากให้มองผลตอบแทนในระยาวตั้งแต่ 6 - 7 ปีขึ้นไป เพราะว่าหากลงทุนในระยะสั้นจะมีความผันผวนสูงและจะทำให้มีโอกาสขาดทุนได้นั่นเอง ซึ่งหากเป็นระยะยาวแล้วอาจจะเลือกลงทุนไปกองทุนแบบที่ลดหย่อนภาษีได้ไปเลยก็จะได้ผลประโยชน์ทางด้านภาษีด้วยครับ
กองทุนกสิกรในกลุ่มนี้จะเน้นการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นกว่าเดิมเป็นหลัก ดังนั้นจึงมักจะลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์หรือกลุ่มอุตสาหกรรมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้มากขึ้นกว่าการกระจายการลงทุนนั่นเอง แต่อย่างที่รู้กันว่าถ้าลงทุนแบบกระจุกตัวมากก็ยิ่งมีความเสี่ยงในการขาดทุนมากขึ้นด้วยเช่นกัน การลงทุนในกองทุนกลุ่มนี้จะมีทั้ง Commodities อย่างน้ำมันดิบ ทองคำ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสินค้าโภคภัณฑ์ รวมไปถึงธุรกิจเฉพาะกลุ่มเช่น ธุรกิจการเงินและการธนาคาร ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพ รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและการสื่อสาร
กองทุนประเภท Opportunity เป็นกองทุนที่จัดอยู่ในประเภทความเสี่ยงสูงมาก นักลงทุนจึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาและมีความรู้ความเข้าใจในสินทรัพย์ที่กองทุนเข้าไปลงทุนด้วยนะครับ แน่นอนว่า เมื่อความเสี่ยงสูงมากจึงมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนได้มากเช่นกัน ซึ่งหากนักลงทุนคนไหนสนใจกองทุนประเภทนี้ ก็แนะนำว่าให้กระจายลงทุนในกองทุนประเภทอื่นด้วยเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงครับ
ผลตอบแทนจากการถือหน่วยลงทุนในกองทุนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะเวลาที่คุณทำการขายหน่วยลงทุนเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นจากเงินปันผลที่ได้จากกองทุนด้วยเช่นกัน กองทุนกสิกรเองก็มีอยู่หลายกองที่มีการจ่ายเงินปันผลในระหว่างปี การเลือกกองทุนกสิกรที่มีการจ่ายเงินปันผลนั้นจะช่วยให้คุณมี Passive Income เกิดขึ้น เป็นการหารายได้เพิ่มขึ้นในอีกหนึ่งช่องทาง แต่เงินปันผลที่ได้จากกองทุนนั้นจะต้องนำมาหักภาษี ณ ที่จ่าย อีกทั้งยังทำให้มูลค่าหน่วยลงทุนนั้นมีการปรับลดลง ทำให้โอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างราคานั้นน้อยลงไปด้วย
กองทุนปันผลของกสิกรนั้นข้อดีเลยก็คือ จะทำให้นักลงทุนมีกระแสเงินสดที่นักลงทุนจะสามารถนำเงินที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือนำไปต่อยอดอื่นๆได้ แต่ว่าเงินปันผลนั้นจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายก่อน 10% ซึ่งหากเป็นการลงทุนระยะยาวแล้ว ผลตอบแทนที่ได้จะมีความแตกต่างกับกองทุนแบบไม่ปันผลค่อนข้างมาก เพราะว่ากองทุนที่ไม่ปันผลจะนำผลกำไรกลับไปทบกับเงินต้นของเรา เหมือนกันทฤษฎีการทบต้นของดอกเบี้ย (Compounding) ส่งผลให้ผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมีมูลค่าสูงมากขึ้นไปอีก และเงินก็จะเพิ่มพูนขึ้นไปเรื่อย ๆ นั่นเองครับ
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ ก็ควรเลือกกองทุนกสิกรที่เป็นแบบกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนเพื่อการออม (SSF) แม้ว่าทั้ง 2 กองทุนจะใช้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีเหมือนกัน แต่ก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
สำหรับกองทุนรวมของกสิกรนั้นมีทั้งแบบที่ลดหย่อนภาษีได้และลดหย่อนภาษีไม่ได้ สำหรับกองทุนที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ปัจจุบันก็มีทั้่งแบบ RMF และ SSF ซึ่งนักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี ก็อย่าลืมเลือกกองทุนที่ลงท้ายด้วย RMF หรือ SSF ด้วยนะครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
1 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค โกลบอล อิควิตี้ - K-GLOBE | ![]() | กระจายการลงทุนไปในตราสารทุนจากทั่วทุกภูมิภาคของโลก | |
2 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A ชนิดจ่ายเงินปันผล - K-USA-A(D) | ![]() | คัดเลือกหุ้นจากบริษัทชั้นนำของอเมริกา เน้นผลตอบแทนระยะยาว | |
3 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน ชนิดเพื่อการออม - K-CHANGE-SSF | ![]() | มุ่งเน้นผลตอบแทนระยะยาว ด้วยการลงทุนในเทรนด์แห่งอนาคต | |
4 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค เซ็ท 50 เพื่อการเลี้ยงชีพ - KS50RMF | ![]() | ใช้ดัชนี SET 50 จากตลาดหุ้นไทยเป็นตัวกำหนดทิศทางลงทุน | |
5 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม–A ชนิดสะสมมูลค่า - K-GINCOME-A(A) | ![]() | ลงทุนในตราสารที่มีการจ่ายผลตอบแทนสูง จากทั้งในและต่างประเทศ | |
6 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค อะกริคัลเจอร์ - K-AGRI | ![]() | เน้นสินค้าโภคภัณฑ์ในหมวดสินค้าเกษตรกรรม จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง | |
7 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น - K-SF | ![]() | โฟกัสทั้งตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ จากภาครัฐและภาคเอกชน | |
8 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นธุรกิจพลังงาน - K-ENERGY | ![]() | ลงทุนตามดัชนีหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค | |
9 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค แพลน 1 - K-PLAN1 | ![]() | กองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 20% | |
10 | Kasikorn Asset Management กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค บริหารเงิน - K-CASH | ![]() | กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ เน้นสภาพคล่องสูงและความเสี่ยงต่ำ |
กองทุนกสิกรกองนี้ได้รับการประเมิน 4 ดาวจาก Morningstar เป็นกองทุนที่มีลักษณะ Fund of Funds เลือกกระจายการลงทุนไปในหลาย ๆ กองทุนจากทั่วภูมิภาคของโลก และเน้นการลงทุนในตราสารทุนหรือหุ้นสามัญเป็นหลัก จากพอร์ตของกองทุนนี้พบว่ามีการลงทุนในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ตามมาด้วยโซนยุโรป ญี่ปุ่นและจีน เพราะมีการลงทุนในต่างประเทศจึงป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
กองทุนนี้มีการบริหารแบบ Active Management และมีเป้าหมายการลงทุนแบบ Growth มุ่งหวังโอกาสเติบโตในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถถือหน่วยลงทุนได้นานกว่า 5 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานว่าในระยะเวลาต่ำกว่า 1 ปีนั้นขาดทุน แต่เมื่อเทียบระยะเวลา 5 ปีขึ้นไป จะพบว่ากองทุนมีกำไร แม้ว่าจะไม่ควรขายเก็งกำไรในระยะสั้น แต่ทางกองทุนก็มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุน
กองทุนกสิกรตัวนี้เลือกลงทุนในกองทุน Feeder Fund ต่างประเทศอย่าง Morgan Stanley US Advantage Fund - I Shares ที่เน้นลงทุนในตลาดหุ้นประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหุ้นที่ทางกองทุนคัดเลือกนั้นจะมาจากบริษัทชั้นนำของประเทศอเมริกาที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด เพื่อทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถเก็บเกี่ยวกำไรจากมูลค่าหุ้นที่จะเพิ่มสูงขึ้นมาในอนาคตนั่นเอง
จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุนนั้นจะเริ่มมีกำไรเมื่อผ่านพ้นช่วงระยะเวลา 5 ปีเป็นต้นไป ดังนั้นจึงเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับคนที่สามารถถือหน่วยลงทุนได้นานกว่า 5 ปี แต่ในระหว่างที่คุณถือหน่วยลงทุนนั้นทางกองทุนก็มีผลตอบแทนให้ในรูปแบบของเงินปันผล โดยมีนโยบายจ่ายไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี ซึ่งจากประวัติของกองทุนก็พบว่ามีการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องเป็นประจำในแต่ละปี อีกทั้งยังมีการจ่ายมากกว่า 1 ครั้งต่อปี
เทรนด์การลงทุนของคนในยุคปัจจุบันไม่ได้มุ่งหวังแค่ผลกำไรอย่างเดียว แต่ยังมุ่งเน้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้กับสังคมจึงสอดคล้องกับแนวคิดการลงทุนของ Baillie Gifford Positive Change Fund - Class B accumulation (GBP) ซึ่งเป็นกองทุนแม่ที่ทางกสิกรเข้าซื้อหน่วยลงทุน โดยจะคัดเลือกหุ้น 25 - 50 หุ้น จากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่มี Positive Impact ต่อสังคมไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการศึกษา สิ่งแวดล้อม สุขภาพหรือคุณภาพชีวิตของผู้คน
หุ้นที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนจึงเป็นบริษัทที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาในเรื่องของผู้นำเทรนด์รักษ์โลกแห่งอนาคตไม่ว่าจะเป็น Tesla, Moderna, TSMC เนื่องจากเป็นกองทุน SSF จึงเหมาะสำหรับผู้ที่สามารถือหน่วยลงทุนได้นานกว่า 10 ปีขึ้นไป ซึ่งเหมาะกับลักษณะของกองทุนที่เน้นการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรในช่วงสั้น ๆ ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล แต่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษี
ถ้าพูดถึงตลาดหุ้นไทย ก็ต้องพูดถึงดัชนี SET 50 ซึ่งเป็นดัชนีสำคัญหลัก ๆ ที่แสดงความเคลื่อนไหวของหุ้นไทยลำดับต้น ๆ ที่มีมูลค่าสูงและมีการซื้อขายในปริมาณมาก กองทุนกสิกรกองนี้จึงเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของ SET 50 ในสัดส่วนที่สอดคล้องกับดัชนีดังกล่าว และมีกลยุทธ์บริหารกองทุนแบบ Passive Management ซึ่งเน้นให้ผลการดำเนินงานของกองทุนมีมูลค่าที่ใกล้เคียงกับดัชนี SET 50
กองทุนนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ความสนใจในตลาดหุ้นไทย แต่อาจจะไม่มีเวลามาคัดเลือกหุ้นเอง ซึ่งการลงทุนตาม SET 50 ก็มีความมั่นคงและเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล แต่เป็นกองทุนที่เป็นลักษณะ RMF หรือเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งต้องมีการซื้อหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี เพื่อเข้าเงื่อนไขในการหักลดหย่อนภาษี ซึ่งกองทุนนี้มีเงินลงทุนขั้นต่ำที่ 500 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่หลายคนสามารถซื้อได้
กองทุนกสิกรตัวนี้มีกองแม่คือ JPMorgan Investment Funds – Global Income Fund, Class I (mth) - USD (hedged) ซึ่งจะลงทุนแบบผสม กระจายไปยังตราสารหนี้ ตราสารทุน และหน่วยทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ทั่วโลก โดยพิจารณาคัดเลือกจากผลตอบแทนที่สูงไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของดอกเบี้ยหรือเงินปันผล เนื่องจากมีการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท จึงทำให้ความเสี่ยงน้อยลง
เพราะเป็นกองทุนต่างประเทศ จึงมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ผลการดำเนินงานของกองทุนในช่วง 1 - 3 ปีนั้นยังติดลบ แต่เนื่องจากนโบายของกองทุนจะเน้นสร้างผลตอบแทนในช่วง 5 ปีเป็นต้นไป จึงเหมาะสำหรับคนที่สามารถถือหน่วยลงทุนได้ในระยะยาว และเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยจากกองทุนอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน ก็พบว่าผลการดำเนินงานของกองนี้ยังมีมูลค่าที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย
สำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้สูงและมองหาผลตอบแทนแบบก้าวกระโดด กองทุนกสิกรกองนี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ โดยมีกองทุนหลักในต่างประเทศอย่าง Invesco DB Agriculture Fund ซึ่งจะเลือกลงทุนในฟิวเจอร์สสินค้าโภคภัณฑ์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เมื่อราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นในอนาคตก็จะทำการขาย ซึ่งส่วนต่างที่เกิดขึ้นจากราคาซื้อและขายก็คือกำไรจากการเก็งราคานั่นเอง
กองทุนดังกล่าวมีนโยบายบริหารกองทุนแบบ Passive Management ตามดัชนีหลักอย่าง DBIQ Diversified Agriculture Total Return และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% กองทุนนี้มีความเสี่ยงสูงมากเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์นั้นมีความผันผวนอยู่สม่ำเสมอ แต่ถ้าจับจังหวะได้ถูกต้องก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนมากกว่ากองทุนประเภทอื่น มีนโยบายจ่ายปันผลไม่เกิน 2 ครั้งต่อปี
กองทุนกสิกรกองนี้จะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก โดยตราสารหนี้ที่กสิกรเลือกลงทุนจะมาจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมีทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 50% กองทุนจะสร้างผลตอบแทนจากดอกเบี้ย ในพอร์ตการลงทุนของกองทุนจะพบว่าสัดส่วนการลงทุนจะอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังมาก ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดการผิดชำระหนี้หรือดอกเบี้ย
กองทุนนี้จะมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และยังไม่มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผล ดังนั้นผลตอบแทนที่ได้จากกองทุนนั้นอาจจะไม่ได้สูงหรือมีผลตอบแทนแบบก้าวกระโดด แต่ก็ยังถือว่าสูงกว่าเงินฝากธนาคารทั่ว ๆ ไป ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับเป็นแหล่งพักเงินในระยะสั้นระยะเวลา 1 เดือนขึ้นไป ในกรณีที่ตลาดหุ้นหรือตลาดอื่น ๆ มีความผันผวนสูง เพื่อช่วยรักษามูลค่าเงินลงทุนของคุณให้คงที่ให้ได้มากที่สุด
ใครที่มองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้นกว่าการลงทุนทั่วไป ก็น่าจะสนใจกองทุนกสิกรตัวนี้ โดยจะเลือกลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคอย่างเช่น บริษัทในเครือปตท.และกัลฟ์ มีกลยุทธ์การบริหารกองทุนแบบ Passive Management มีเป้าหมายลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่มีความใกล้เคียงกับดัชนีธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค (SET Energy & Utilities Sector Index)
เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีความกระจุกตัวอยู่ในธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคที่มีความผันผวนสูง ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย จึงไม่เหมาะกับคนที่คาดหวังว่าเงินต้นในการลงทุนของคุณจะไม่ลดลง กองทุนนี้ยังมีการลงทุนในต่างประเทศโดยจะไม่เกิน 20% ผลการดำเนินงานของกองทุนในรอบ 1 ปี 3 ปี 5 ปี รวมไปถึงตั้งแต่จัดตั้งนั้นเป็นบวก แต่ทางกองทุนก็ยังแนะนำให้ถือหน่วยลงทุนตั้งแต่ 5 ปีเป็นต้นไป
กองทุนกสิกรตัวนี้จะอยู่ในกลุ่ม Stability ที่จะเน้นความมั่นคงเป็นหลัก เพื่อช่วยให้คุณมีความเสี่ยงที่สูญเสียเงินต้นในการลงทุนให้น้อยที่สุด เลือกลงทุนในตราสารแห่งหนี้ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน มีการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยต่างประเทศจะลงทุนไม่เกิน 20% พร้อมป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้ไม่ต่ำกว่า 90% พอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ที่กระทรวงการคลังและทรู คอร์ปอเรชั่น
เพราะมีความเสี่ยงต่ำและไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ดังนั้นจึงอาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่หวือหวาเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถถือหน่วยลงทุนตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไป แม้ว่าจะมีความผันผวนต่ำ แต่ผู้ลงทุนก็ยังควรต้องคอยติดตามการขึ้นลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาด เนื่องจากอาจจะทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุนนั้นติดลบได้ด้วยเช่นกัน เพราะต้องปรับลดตามอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว
สำหรับมือใหม่หัดลงทุนหรือคนที่ไม่อยากเสี่ยงในการลงทุนเลย ก็ควรพิจารณากองทุนกสิกรตัวนี้เป็นหลัก โดยเป็นกองทุนรวมตลาดเงินภายในประเทศ เลือกลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน รวมไปถึงพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย จะมีการลงทุนในประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ ดังนั้นจึงไม่มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย
เพราะความเสี่ยงต่ำระดับ 1 จึงให้ผลตอบแทนไม่มาก มักจะมีมูลค่าใกล้เคียงกับดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป แต่ก็สร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนว่าจะมีโอกาสเกิดการขาดทุนน้อย ซึ่งเห็นได้จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นบวกในทุกช่วงเวลา อีกทั้งยังมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ใครที่ต้องการมองหาแหล่งพักเงินในช่วงที่สินทรัพย์ประเภทอื่นมีความผันผวนเรื่องราคาก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
สำหรับคนที่มีความคิดอยากจะลงกองทุนกสิกร แต่ยังมีข้อสงสัยและคำถามบางอย่างอยู่ ในวันนี้ เรามีคำแนะนำและคำตอบเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ
กองทุนกสิกรนั้นมีให้เลือกลงทุนกันมากมายกันเลยทีเดียวค่ะ เพราะเป็นกองทุนจากสถาบันทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ จึงทำให้แต่ละกองทุนนั้นผ่านการออกแบบโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการลงทุนโดยเฉพาะ ที่สำคัญการลงทุนในกองทุนกสิกรในปัจจุบันก็ทำได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ผ่านแอปพลิเคชันของกสิกรเอง ก็ช่วยให้คุณสามารถซื้อหรือขายหน่วยลงทุนในกองทุนได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาหน่วยลงทุนในรายวันกันอย่างทันใจได้อีกด้วย
อันดับที่ 1: Kasikorn Asset Management|กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค โกลบอล อิควิตี้ - K-GLOBE
อันดับที่ 2: Kasikorn Asset Management|กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน-A ชนิดจ่ายเงินปันผล - K-USA-A(D)
อันดับที่ 3: Kasikorn Asset Management|กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน ชนิดเพื่อการออม - K-CHANGE-SSF
อันดับที่ 4: Kasikorn Asset Management|กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค เซ็ท 50 เพื่อการเลี้ยงชีพ - KS50RMF
อันดับที่ 5: Kasikorn Asset Management |กองทุนกสิกร กองทุนเปิดเค โกลบอล อินคัม–A ชนิดสะสมมูลค่า - K-GINCOME-A(A)
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ