เมล็ดกาแฟมาจากผลเชอร์รี่ของพืชในตระกูล Coffea ซึ่งนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มทั้งแบบร้อนและเย็น แต่ละสายพันธุ์ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งรสสัมผัส กลิ่นหอม และปริมาณคาเฟอีน เมื่อนำมาผ่านกระบวนการคั่วในระดับต่าง ๆ เมล็ดกาแฟที่ได้ก็จะมีมิติที่น่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังเลือกได้อีกว่าต้องการเมล็ดแบบ Single Origin หรือ Blend Coffee
บทความนี้เรามีวิธีการเลือกเมล็ดกาแฟ ให้ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่นิยมชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน และร้านกาแฟที่เน้นใช้เมล็ดกาแฟเป็นวัตถุดิบหลัก พร้อมคำแนะนำจากคุณพิมพ์ สันธิราษฎร์ เจ้าของกิจการซ่อนกลิ่นคาเฟ่ จ.เชียงราย และยังมี 10 เมล็ดกาแฟ จากแบรนด์ยอดนิยม ที่ผลิตจากแหล่งเพาะปลูกคุณภาพ มาแนะนำเพิ่มเติมด้วย
Top 5 เมล็ดกาแฟ ยอดนิยม
คุณพิมพ์เป็นเจ้าของกิจการซ่อนกลิ่นคาเฟ่ จ.เชียงราย จุดเริ่มต้นมาจากระหว่างที่คุณพิมพ์ศึกษาในระดับปริญญาตรี มีความคิดอยากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว จึงเริ่มต้นการทำงานเสริมในร้านกาแฟใกล้มหาวิทยาลัย เมื่อทำไปได้สักพัก จากความชื่นชอบในกลิ่นและรสชาติกาแฟ ความหลงใหลและรักในกาแฟก็เริ่มก่อตัวขึ้น คุณพิมจึงศึกษาเกี่ยวกับกาแฟอย่างลึกซึ้งและจริงจัง ทั้งเรื่องพันธุ์เมล็ดกาแฟ ระดับการคั่ว กระบวนการชงกาแฟ และเทคนิคการชง ถึงกระทั่งทดลองคิดค้นสูตรกาแฟของตนเอง และด้วยความรู้และประสบการณ์กว่า 7 ปีที่คลุกคลีอยู่กับกาแฟจึงนำมาสู่การเปิดกิจการคาเฟ่เป็นของตัวเอง ซึ่งเมนูแต่ละสูตรในร้าน ทั้งเมนูกาแฟ Mocktail และเครื่องดื่มอื่น ๆ คุณพิมพ์เป็นผู้คิดค้นขึ้นเองทั้งหมด โดยมีความตั้งใจอย่างต่อเนื่องที่จะแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องกาแฟกับคนรักกาแฟและพัฒนาเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟที่หลากหลาย
คุณพีทเป็นเจ้าของ Blackkat Café ร้านที่โดดเด่นด้านเครื่องดื่มและเบเกอรี่ โดยให้ความสำคัญกับวัตถุดิบคุณภาพและการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ที่ผสมผสานรสชาติได้อย่างลงตัว ด้วยความหลงใหลในอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ทำให้คุณพีทใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ กระบวนการทำ ไปจนถึงการตกแต่งเมนูให้มีเอกลักษณ์ และพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรมจากมหาวิทยาลัยเนชั่น ยังส่งเสริมให้คุณพีทเข้าใจศาสตร์ของอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้ลูกค้า ตั้งแต่การพัฒนาเมนูตามฤดูกาล การอบเบเกอรี่สดใหม่ ไปจนถึงการจับคู่เครื่องดื่มกับขนมให้อร่อยลงตัว โดยนอกจากบริหารร้าน คุณพีทยังติดตามเทรนด์อาหาร ทดลองวัตถุดิบใหม่ ๆ และแบ่งปันความรู้ผ่านบทความด้านอาหาร เบเกอรี่ และการพัฒนาเมนูต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถนำไปต่อยอดได้อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
เมล็ดกาแฟสดยังไม่ผ่านการแปรรูป ใช้คั่วและบดเองเพื่อรักษาความสด ส่วนกาแฟสำเร็จรูปผ่านการคั่ว บด และแปรรูปแล้ว จึงสะดวกและใช้งานง่าย แต่จะสูญเสียความสดและกลิ่นหอมไปบ้าง
เมล็ดกาแฟสดและกาแฟสำเร็จรูปมีความแตกต่างหลัก ๆ ดังนี้
กระบวนการผลิต เมล็ดกาแฟสดต้องผ่านการคั่ว บด และชงสดใหม่ทุกครั้ง ในขณะที่กาแฟสำเร็จรูปมี 2 วิธีการผลิต ได้แก่ แบบพ่นแห้ง ที่พ่นน้ำกาแฟในอากาศร้อนจนเหลือเป็นผงสีดำ และแบบเยือกแข็ง ซึ่งแช่แข็งน้ำกาแฟแล้วระเหยน้ำออก เพื่อรักษากลิ่นและรสชาติของกาแฟ
รสชาติและกลิ่น เมล็ดกาแฟสดมีกลิ่นหอมและรสชาติซับซ้อนกว่า เนื่องจากรักษาคุณลักษณะธรรมชาติของเมล็ดกาแฟได้ดีกว่า ในขณะที่กาแฟสำเร็จรูปมักมีรสและกลิ่นที่อ่อนกว่า เนื่องจากผ่านกระบวนการผลิตที่ทำให้กลิ่นหอมและรสชาติของกาแฟลดลง
ความสดใหม่ กาแฟสดให้รสชาติที่สดใหม่และเข้มข้นกว่า เพราะไม่ได้ผ่านกระบวนการแปรรูปที่ยาวนานเหมือนกาแฟสำเร็จรูป
เมล็ดกาแฟมีข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้ได้แบบที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยสามารถเลือกได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้
การเลือกเมล็ดกาแฟให้ตรงตามสไตล์การดื่มจะช่วยให้สัมผัสรสชาติที่เข้ากับรสนิยมส่วนตัวได้อย่างลงตัว ซึ่งสามารถเลือกได้จากวิธีการดังต่อไปนี้
เมล็ดกาแฟอาราบิก้าจะมีรสชาติที่ซับซ้อนและกลมกล่อมจากความเปรี้ยวแหละหวานของผลไม้ ดอกไม้ และถั่ว ซึ่งจะมีคาเฟอีนต่ำกว่าสายพันธุ์โรบัสต้า ดื่มได้บ่อยโดยไม่กระทบต่อการนอนนัก
สำหรับผู้ที่ชอบรสชาติกาแฟแบบนุ่มนวลและต้องการคาเฟอีนที่ไม่สูงมาก เราจะแนะนำให้เลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้า ที่มีรสชาติซับซ้อน กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ โดยรสชาติจะมีความเปรี้ยวเล็กน้อย และมีความหวานของกลิ่นผลไม้ ดอกไม้ หรือถั่วได้อย่างลงตัว ทั้งยังมีปริมาณคาเฟอีนต่ำกว่าสายพันธุ์โรบัสต้า ทำให้กาแฟมีความนุ่มนวลและไม่ขมจนเกินไป จึงดื่มได้บ่อยโดยไม่กระทบต่อการพักผ่อนมากนัก
เมล็ดกาแฟโรบัสต้ามีคาเฟอีนสูงกว่าอาราบิก้าเกือบเท่าตัว จึงให้รสชาติขมเข้ม หนักแน่น และช่วยเพิ่มความกระฉับกระเฉงให้กับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
หากต้องการกาแฟรสชาติเข้มข้นและมีคาเฟอีนสูง แนะนำให้เลือกเมล็ดกาแฟโรบัสต้า ที่มีคาเฟอีนมากกว่าอาราบิก้าเกือบเท่าตัว โดยจะมีรสขมแน่นที่เหมาะสำหรับการทำกาแฟดำหรือเอสเปรสโซ ที่จะดึงรสชาติความเข้มของกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การนำโรบัสต้ามาผสมกับนม เช่น ลาเต้หรือคาปูชิโน่ จะยังคงรักษาความเข้มข้นได้ดี ทำให้ได้กาแฟนมที่มีรสนุ่มลึกและหนักแน่น ทั้งนี้ กลิ่นหอมของโรบัสต้าอาจไม่โดดเด่นหรือหอมสดชื่นเท่ากับอาราบิก้า
การพิจารณาระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟจะช่วยให้ค้นหารสชาติที่ตรงตามความชอบได้ เนื่องจากการคั่วในแต่ละระดับจะส่งผลต่อรสชาติ กลิ่น และลักษณะเฉพาะของกาแฟ ดังนี้
เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนผ่านการคั่วด้วยความร้อนต่ำประมาณ 190 – 210 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้ยังคงกลิ่นและรสชาติเดิมที่โดดเด่นเอาไว้ได้ และให้รสธรรมชาติมากกว่าการคั่วในระดับอื่น ๆ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสชาติธรรมชาติแบบไม่ผ่านการปรุงแต่ง เราจะแนะนำให้เลือกเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน เนื่องจากจะคงกลิ่นและรสชาติเดิมที่โดดเด่นของเมล็ดกาแฟในแต่ละแหล่งปลูกไว้ จึงได้รสเปรี้ยวสดชื่น มีโน้ตกลิ่นผลไม้ ดอกไม้ หรือสมุนไพรที่ซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ การคั่วระดับนี้ยังเหมาะกับการชงแบบ Pour Over, Aeropress หรือวิธีดริป ซึ่งจะช่วยดึงความเป็นธรรมชาติของกาแฟออกมาได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เมล็ดคั่วกลางผ่านการคั่วด้วยความร้อนในระดับปานกลาง จึงเกิดสมดุลระหว่างความเปรี้ยวและหวานของรสกาแฟ ทำให้ได้รสที่ไม่ขมจนเกินไป กลมกล่อมกำลังดี และมีกลิ่นหอมละมุนไม่เข้มมาก
เมล็ดกาแฟคั่วกลางเป็นตัวเลือกที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการรสชาติกลมกล่อม เนื่องจากเป็นเมล็ดที่ผ่านการคั่วด้วยความร้อนในระดับปานกลาง จึงจะได้เมล็ดสีน้ำตาลเข้มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย และมีผิวเงาบาง ๆ แต่ยังไม่มีน้ำมันปรากฏเด่นชัด จึงเกิดสมดุลระหว่างความเปรี้ยวและหวานของรสกาแฟ ทำให้ได้รสที่ไม่ขมจนเกินไป และมีกลิ่นหอมละมุนจากดอกไม้ ถั่ว คาราเมล หรือช็อกโกแลต นอกจากนี้ เมล็ดกาแฟคั่วกลางยังเป็นรสชาติที่ปรับเข้ากับเมนูได้อีกมากมาย เช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ อเมริกาโน่
คั่วกลางเข้มให้รสชาติเข้มข้นแบบมีรสขมนำ เพราะผ่านการคั่วจนมีน้ำมันซึมออกมามากกว่าคั่วอ่อนและคั่วกลางทั่วไป ส่วนคั่วเข้มจะไม่มีความเปรี้ยวหลงเหลือเลย ให้รสขมไหม้และกลิ่นควันเด่นชัด
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสขม มีความเข้มข้นจากการคั่ว เราจะแนะนำให้เลือกเมล็ดกาแฟคั่วกลางเข้มและคั่วเข้ม เนื่องจากเมล็ดกาแฟคั่วกลางเข้มจะผ่านการคั่วจนเริ่มมีน้ำมันซึมออกที่ผิวเล็กน้อย จึงให้รสชาติเข้มข้นแบบมีรสขมนำ และมีความเปรี้ยวลดลง ทั้งยังมีรสจากการคั่วที่ชัดเจนมากกว่าแบบคั่วกลาง เช่น รสแบบช็อกโกแลต ถั่ว และความเข้มแบบดิน
ส่วนเมล็ดกาแฟคั่วเข้มจะเป็นแบบที่มีสีเกือบดำจากการคั่วด้วยความร้อนสูง ซึ่งจะทำให้มีน้ำมันออกมาเคลือบผิวเมล็ดกาแฟมากกว่าระดับการคั่วอื่น ๆ จึงไร้ความเปรี้ยวแบบที่มีในเมล็ดกาแฟคั่วอ่อนและคั่วกลาง เหลือเพียงรสขมไหม้และกลิ่นควันเด่นชัด เหมาะสำหรับการชงเอสเพรสโซ กาแฟเวียดนาม หรือกาแฟที่ต้องการความเข้มข้นสูง
เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เราจะแนะนำให้เลือกระดับการบดของเมล็ดกาแฟที่ต้องการซื้อด้วย โดยเลือกให้เหมาะกับอุปกรณ์การชงที่มี ซึ่งจะรายละเอียดดังต่อไปนี้
ท้ังนี้ หากเลือกระดับการบดของเมล็ดกาแฟไม่ตรงกับอุปกรณ์การชง จะทำให้การสกัดกาแฟไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถดึงรสชาติที่ดีของเมล็ดกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่ หรือมีรสที่ขาดความสมดุล อาจขม ฝาด หรือจืดจนเกินไปได้
แหล่งเพาะปลูกต่างกันจะให้เอกลักษณ์ที่ต่างกัน เพราะอากาศ ดิน และปัจจัยทางธรรมชาติอื่น ๆ แตกต่างกัน เช่น เอธิโอเปียให้รสเปรี้ยวสดชื่นของเบอร์รี่และซิตรัส
เมล็ดกาแฟมีที่มาจากหลากหลายแหล่งเพาะปลูก ที่มีสภาพภูมิอากาศ ดิน ความสูงจากระดับน้ำทะเล และปัจจัยทางธรรมชาติอื่น ๆ แตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นกาแฟ อันส่งผลต่อกลิ่นหอม รสชาติ และความซับซ้อนของกาแฟเมล็ดนั้น ๆ โดยตรง ทำให้เอกลักษณ์ของเมนูกาแฟชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแหล่งเพาะปลูกเมล็ดกาแฟที่มีชื่อเสียงจะมีดังต่อไปนี้
Taste Notes ช่วยให้รสชาติตรงตามต้องการมากขึ้น เช่น ถ้าไม่ต้องการรสเปรี้ยว ควรเลือกที่ไม่มีโน้ตผลไม้ ซึ่งขึ้นอยู่กับประสบการณ์การรับรู้กลิ่นและรสของแต่ละคน และต้องใช้เวลาจดจำสัมผัสในแต่ละโน้ต
Taste Notes เป็นคำอธิบายกลิ่นและรสชาติของกาแฟพิเศษบนบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยให้ผู้ดื่มกาแฟเข้าใจโทนรสชาติต่าง ๆ ซึ่งอ้างอิงจาก Taster's Flavor Wheel ซึ่งพัฒนาโดย SCA และ World Coffee Research ให้เป็นมาตรฐานสากล เช่น ดอกไม้ เลมอน พีช แอปริคอต เกรปฟรุ๊ต ถั่วฮาเซลนัท อัลมอนด์ มิลค์ช็อกโกแลต ซึ่งจะช่วยให้เลือกรสชาติได้ตรงกับความตรงการได้มากขึ้น เช่น หากต้องการเมนูที่ไม่เปรี้ยวมาก ควรเลือกเมล็ดกาแฟที่ไม่มีโน้ตผลไม้ แต่หากต้องการกลิ่นดอกไม้ ให้มองหาเมล็ดกาแฟที่มีโน้ตดอกไม้เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม การชิมกาแฟและบอกถึงรสชาติจาก Taste Notes ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ เช่น หากไม่เคยสัมผัสรสชาติของเลมอนมาก่อน อาจไม่สามารถรับรู้กลิ่นและรสจากเมล็ดกาแฟที่มีโน้ตเลมอนได้ดีนัก จึงอาจต้องใช้เวลาในการลิ้มลองรสชาติเพื่อให้สัมผัสถึง Taste Notes ของเมล็ดกาแฟได้ดีขึ้น
เกรดพิเศษเป็นคุณภาพสูงสุดในปัจจุบัน ที่ผ่านการคัดกรองอย่างพิถีพิถัน ทั้งด้านสายพันธุ์ แหล่งที่มา และการผลิต ส่วนเกรดพรีเมียมอาจมีตำหนิเล็กน้อย แต่ยังให้คุณภาพที่ดีและใช้ชงได้ทั่วไป
เมล็ดกาแฟจะมีการคัดกรองเกรดเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันจะมีเกรดให้เลือกดังต่อไปนี้
เกรดพิเศษ (Specialty Grade) คือ เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพสูงสุดที่มาจากแหล่งเพาะปลูกที่เหมาะสมและเก็บเกี่ยวด้วยมือ ผ่านการคัดเลือกตามมาตรฐาน SCAA และตรวจสอบโดย Q Grader ให้รสตามธรรมชาติและมีกลิ่นหอมจากน้ำมันในเมล็ด
เกรดพรีเมียม (Premium Grade) คุณภาพรองจากเกรดพิเศษ มีข้อบกพร่องเล็กน้อย แต่ยังคงให้รสชาติและกลิ่นหอมที่ดี แม้ความซับซ้อนและความหวานอาจไม่โดดเด่นเท่าเกรดพิเศษ แต่ยังเหมาะสำหรับการชงดื่มทั่วไป
เกรดคอมเมอร์เชียล (Commercial Grade) จะมีตำหนิเล็กน้อย เช่น เมล็ดแตกหัก มีขนาดไม่สม่ำเสมอ อาจให้รสชาติเข้มข้น ขม และเปรี้ยวน้อย กลิ่นหอมไม่โดดเด่นเท่าเกรดที่สูงกว่า มักนิยมใช้ในร้านกาแฟทั่ว ๆ ไป เนื่องจากมีราคาย่อมเยา
เกรดล่าง (Lower Grade) เมล็ดกาแฟคุณภาพต่ำที่มีข้อบกพร่องและสิ่งเจือปนจำนวนมาก ทำให้มีรสขมและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งเมล็ดเหล่านี้มักถูกคั่วจนเข้มเพื่อปกปิดข้อบกพร่อง ทำให้มีรสขม ฝาด และมีกลิ่นควันไหม้ นิยมนำไปใช้ในการผลิตกาแฟสำเร็จรูป
ทั้งนี้ หากเป็นผู้ที่ดื่มกาแฟอย่างจริงจัง พิถีพิถันในการชงแต่ละเมนู เราจะแนะนำให้เลือกเมล็ดกาแฟที่มีเกรดพิเศษหรือเกรดพรีเมียม เพื่อให้ได้คุณภาพเมนูกาแฟที่ดี
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สายพันธุ์กาแฟ | ระดับความเข้มในการคั่ว | ปริมาณบรรจุ | แหล่งเพาะปลูก | Taste Notes | |||||
1 | Pacamara House Blend | ![]() | เมล็ดกาแฟจาก 4 แหล่งปลูก คั่วอย่างดี หอมกลิ่นคาราเมล | อาราบิก้า | Medium Roast | 250 กรัม | บราซิล, อินโดนีเซีย, กัวเตมาลา, ไทย | Caramel Candy, Rich Milk Chocolate, Fully Creamy Body | |
2 | Starbucks Pike Place Roast | ![]() | ใช้กรรมวิธี Washed Process คั่วกลาง หอมกลิ่นช็อกโกแลต | อาราบิก้า | Medium Roast | 200 กรัม | ลาตินอเมริกา | Chocolate, Medium Roast | |
3 | Bluekoff A5 Dark Roast | ![]() | เมล็ดกาแฟระดับรางวัลจากดอยช้าง คั่วเข้ม หอมคาราเมล | อาราบิก้า | Dark Roasted | 250 กรัม | เชียงราย | Caramel Candy, Chocolate | |
4 | Gourmazia Ethiopia Yirgacheffe Coffee | ![]() | เป็นกาแฟออร์แกนิก กลิ่นหอมผลไม้ ปลูกในแหล่งคุณภาพดี | อาราบิก้า | Medium Roast | 250 กรัม | เยอร์กาเชฟ เอธิโอเปีย | Sweet Tangerine, Lemon Tea, Lime | |
5 | Café Amazon Selection Roasted Coffee Bean | ![]() | กาแฟอาราบิก้าแท้จากโครงการหลวง หอมเข้มข้นเต็มเมล็ด | อาราบิก้า | Dark Roasted | 250 กรัม | เชียงราย | ไม่ระบุ | |
6 | WorldWide Coffee เมล็ดกาแฟดอยช้าง Arabica100% | ![]() | กาแฟอาราบิก้าแท้จากดอยช้าง คั่วกลาง-เข้ม กลิ่นหอม นุ่ม ชุ่มคอ | อาราบิก้า | Medium - Dark Roast | 250 กรัม | ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย | ไม่ระบุ | |
7 | Boncafe Classic Espresso | ![]() | เมล็ดกาแฟอาราบิก้าผสมโรบัสต้า รสเข้มข้นสไตล์อิตาเลียน | อาราบิก้าและโรบัสต้า | Dark Roasted | 250 กรัม | ไทย | Aromatic, Rich, Truly Italian | |
8 | Roast Runner Doi Saket Coffee Beans | ![]() | กาแฟสายพันธุ์ Typica ใช้วิธี Anaerobic Washed Process | อาราบิก้า | Light Roast | 80, 200 กรัม | บ้านน้ำโค้ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ | Dried Fruits, Chestnuts, Sourdough | |
9 | โครงการหลวง Whole Bean Coffee | ![]() | เมล็ดกาแฟจากดอยสามหมื่น ผลิตอย่างยั่งยืน หอมติดจมูก | อาราบิก้า | Dark Roasted | 500 กรัม | เชียงใหม่ | ไม่ระบุ | |
10 | Minimex Coffee Beans Classic No.4 | ![]() | ระดับการคั่วกาแฟปานกลาง-เข้ม กลิ่นหอมละมุน รสกลมกล่อม | โรบัสต้า | Medium - Dark Roast | 250 กรัม | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ |
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Medium Roast |
ปริมาณบรรจุ | 250 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | บราซิล, อินโดนีเซีย, กัวเตมาลา, ไทย |
Taste Notes | Caramel Candy, Rich Milk Chocolate, Fully Creamy Body |
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Medium Roast |
ปริมาณบรรจุ | 200 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | ลาตินอเมริกา |
Taste Notes | Chocolate, Medium Roast |
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Dark Roasted |
ปริมาณบรรจุ | 250 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | เชียงราย |
Taste Notes | Caramel Candy, Chocolate |
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Medium Roast |
ปริมาณบรรจุ | 250 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | เยอร์กาเชฟ เอธิโอเปีย |
Taste Notes | Sweet Tangerine, Lemon Tea, Lime |
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Dark Roasted |
ปริมาณบรรจุ | 250 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | เชียงราย |
Taste Notes | ไม่ระบุ |
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Medium - Dark Roast |
ปริมาณบรรจุ | 250 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย |
Taste Notes | ไม่ระบุ |
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้าและโรบัสต้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Dark Roasted |
ปริมาณบรรจุ | 250 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | ไทย |
Taste Notes | Aromatic, Rich, Truly Italian |
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Light Roast |
ปริมาณบรรจุ | 80, 200 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | บ้านน้ำโค้ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ |
Taste Notes | Dried Fruits, Chestnuts, Sourdough |
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Dark Roasted |
ปริมาณบรรจุ | 500 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | เชียงใหม่ |
Taste Notes | ไม่ระบุ |
สายพันธุ์กาแฟ | โรบัสต้า |
---|---|
ระดับความเข้มในการคั่ว | Medium - Dark Roast |
ปริมาณบรรจุ | 250 กรัม |
แหล่งเพาะปลูก | ไม่ระบุ |
Taste Notes | ไม่ระบุ |
แนะนำให้เก็บเมล็ดกาแฟในภาชนะปิดสนิท เช่น กระป๋องหรือถุงเก็บที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันการสัมผัสกับอากาศและความชื้น โดยควรเก็บในที่เย็น แห้ง และห่างจากแสงแดด และควรเก็บในปริมาณที่พอใช้ เนื่องจากหากเป็นเมล็ดกาแฟที่บดแล้วจะสูญเสียความสดเร็วกว่า ดังนั้น ให้บดตามปริมาณที่ต้องการและใช้งานทันทีเพื่อความสดใหม่
แนะนำให้บดเมล็ดกาแฟก่อนชง เนื่องจากเมื่อบดแล้วเมล็ดกาแฟจะสัมผัสกับอากาศมากขึ้น ทำให้สูญเสียกลิ่นและรสชาติอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะน้ำมันหอมระเหยที่จะระเหยออกไปได้ง่าย ซึ่งการบดก่อนชงช่วยให้ได้รสชาติสดใหม่และหอมกรุ่นมากที่สุด
การคั่วกาแฟนานหรือเข้มเกินไปอาจทำให้รสชาติและกลิ่นที่ละเอียดอ่อนถูกแทนที่ด้วยรสขมและกลิ่นควัน ทำให้กาแฟขาดความสดชื่น และรสชาติที่ควรจะหวานและหอมดอกไม้อาจหายไป นอกจากนี้ การคั่วเข้มเกินไปยังเพิ่มความเป็นกรด ซึ่งอาจทำให้ผู้ดื่มกาแฟรู้สึกไม่สบายท้องได้
เมล็ดกาแฟจะสูญเสียคุณภาพหลังการคั่ว โดยกลิ่นและรสชาติจะเริ่มเสื่อมลงเมื่อสัมผัสกับอากาศและความชื้น จึงควรใช้เมล็ดกาแฟภายใน 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือนเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด และเก็บในภาชนะปิดสนิทในที่มืด แต่หากเป็นเมล็ดกาแฟที่บดแล้วควรใช้ทันทีหรือใช้ภายใน 1 สัปดาห์ เนื่องจากจะสูญเสียคุณภาพไวกว่าเมล็ดกาแฟปกติ
อันดับที่ 1: Pacamara|House Blend
อันดับที่ 2: Starbucks|Pike Place Roast
อันดับที่ 3: Bluekoff|A5 Dark Roast
อันดับที่ 4: Gourmazia|Ethiopia Yirgacheffe Coffee
อันดับที่ 5: Café Amazon|Selection Roasted Coffee Bean
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ