แคลเซียมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสร้างความหนาแน่นของมวลกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทั้งยังป้องกันโรคกระดูกเสื่อมหรือโรคกระดูกพรุน ซึ่งโดยทั่วไปสามารถรับแคลเซียมได้จากการรับประทานอาหาร แต่ในปัจจุบันที่ผู้คนมักใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ รับประทานอาหารไม่เหมาะสม จึงทำให้พบกับปัญหาที่ขาดแคลเซียม อาหารเสริมแคลเซียมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยดูแลร่างกายได้
บทความนี้เรามีวิธีการเลือกอาหารเสริมแคลเซียมที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และเด็ก พร้อมคำแนะนำจาก ภก.เมฆา วีระวานิช เภสัชกร และยังมี 10 อาหารเสริมแคลเซียมจากยี่ห้อยอดนิยม ทั้งแคลเซียมคาร์บอเนต แคลเซียมแอลทรีโอเนต อีกทั้งยังมีการเสริมวิตามินดี เพื่อเสริมประสิทธิภาพการดูดซึมแคลเซียมมาแนะนำเพิ่มเติมด้วย
Top 5 แคลเซียม
เภสัชกรหมอกเป็นเภสัชกรปฏิบัติการและครีเอเตอร์ด้านสุขภาพ ผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับยา อาหารเสริม และการดูแลสุขภาพผ่านช่อง "เภหมอกทอล์คเรื่องยา" บน TikTok โดยมุ่งหวังให้คนไทยเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้เกี่ยวกับยาและสุขภาพ ผ่านการอธิบายที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง ด้วยความหลงใหลในสายงานเภสัชกรรม เภสัชกรหมอกมีประสบการณ์เข้าร่วมกิจกรรมและการแข่งขันที่เกี่ยวข้องกับยาและสุขภาพตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ทำให้มีทักษะในการสื่อสารความรู้ทางวิชาการให้ง่ายต่อการเข้าใจ โดยปัจจุบันยังคงพัฒนาเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้ยาอย่างถูกต้อง การเลือกผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เหมาะสม ตลอดจนเทคนิคการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เพื่อให้ผู้คนดูแลตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เภสัชกรหมอกยังเชื่อว่า "ความรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้องสามารถช่วยให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น" จึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ให้ทั้งสาระ ความถูกต้อง และความเข้าใจง่าย เพื่อให้ข้อมูลทางสุขภาพเข้าถึงคนทุกกลุ่ม และช่วยลดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาและอาหารเสริมที่พบได้บ่อยในสังคม
คุณออมเป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์เขียนบทความด้านสุขภาพ อาหารเสริม และอุปกรณ์เพื่อสุขภาพมากว่า 4 ปี โดยทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ แพทย์ และเภสัชกร ทำให้มีโอกาสศึกษาข้อมูลเฉพาะทางเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพอย่างลึกซึ้ง นอกจากความสนใจในเรื่องสุขภาพแล้ว คุณออมยังหลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ทั้งอาหาร การใช้ชีวิต และภาษาญี่ปุ่น โดยเคยเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดมิเอะเป็นเวลา 1 ปี ประสบการณ์นี้ทำให้เธอได้เรียนรู้แนวคิดด้านสุขภาพของชาวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารที่สมดุล วัฒนธรรมการดื่มชา หรือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทำให้คุณออมสนุกกับการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับโภชนาการและการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน โดยเชื่อว่าการเลือกกินที่ดีและการปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสมเป็นสิ่งที่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นอย่างยั่งยืน คุณออมจึงมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อ่านสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
ปกติแล้วคนเราได้รับแคลเซียมโดยการรับประทานอาหารจากทั้งพืชและสัตว์ เช่น ผลิตภัณฑ์นม, ปลาซาร์ดีน, ปลากระดูกอ่อน, เมล็ดพืช, ผักใบเขียว และอื่น ๆ โดยแคลเซียมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการเจริญเติบโตและรักษากระดูกให้แข็งแรง นอกจากนี้ ยังทำให้การทำงานของเซลล์ให้แข็งแรงอีกด้วย โดยร่างกายของเราต้องการแคลเซียมเพื่อสนับสนุนการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ควบคุมความดันโลหิตและระดับฮอร์โมน ตลอดจนช่วยในการสื่อสารระหว่างเซลล์
การได้รับแคลเซียมจากแหล่งอื่นนอกจากอาหาร จะช่วยในการรักษาและป้องกันโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) และภาวะที่เกิดก่อนโรคกระดูกพรุนได้ (Osteopenia) นอกจากนี้ ในการศึกษาล่าสุด แสดงให้เห็นว่าแคลเซียมสามารถช่วยคุมความดันโลหิตได้ และเพื่อให้ได้ประโยชน์นี้ เราอาจต้องได้รับแคลเซียมจากอาหารเสริมมากขึ้น
อาหารเสริมแคลเซียมที่วางขายในปัจจุบันนั้นมีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ แต่แบบไหนที่ดีต่อความต้องการในแต่ละช่วงวัย และเพื่อให้การบริโภคอาหารเสริมแคลเซียมมีประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุด เรามาดูพร้อมกันเลยว่า จะมีเกณฑ์ในการเลือกอย่างไรถึงจะเหมาะสมกับสุขภาพของเรา
ในแต่ละวัยต้องการปริมาณแคลเซียมที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น เช่น เพศ โรคประจำตัว อาหารการกิน และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล
- ทารก อายุ 0 - 6 เดือน : 200 มิลลิกรัม (ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/วัน)
- ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 70 ปี : 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน (แต่ไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน)
- วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ อายุ 14 -18 ปี : 900 - 1,300 มิลลิกรัม (ไม่เกิน 2,500 มิลลิกรัม/วัน)
- ผู้ใหญ่ที่ตั้งครรภ์อายุ 19 - 50 ปี : 900 - 1,200 มิลลิกรัม (ไม่เกิน 2,500 มิลลิกรัม/วัน)
- หญิงให้นมบุตรช่วงวัยรุ่น อายุ 14 - 18 ปี : 900 - 1,300 มิลลิกรัม (ไม่เกิน 2,500 มิลลิกรัม/วัน)
- หญิงให้นมบุตรผู้ใหญ่ อายุ 19 - 50 ปี : 900 - 1,200 มิลลิกรัม (ไม่เกิน 2,500 มิลลิกรัม/วัน)
นอกจากนี้ กลุ่มที่ต้องได้รับแคลเซียมเสริมเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ, ผู้ที่มีอาการแพ้แลคโตสและจำกัดผลิตภัณฑ์จากนม, ผู้ที่บริโภคโปรตีนหรือโซเดียมในปริมาณมาก ซึ่งอาจทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาได้มากขึ้น, ผู้กำลังได้รับการรักษาระยะยาวด้วยยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ และผู้ที่มีโรคลำไส้หรือทางเดินอาหารบางอย่างที่ทำให้ความสามารถในการดูดซึมแคลเซียมลดลง
อาหารเสริมแคลเซียมที่จำหน่ายในท้องตลาด ยังประกอบไปด้วยแคลเซียมเกลือหลายแบบ เช่น Calcium Carbonate, Calcium Lactate, Calcium Acetate, Calcium Citrate และ Calcium L-Threonate เราไปดูกันว่าอาหารเสริมแคลเซียมแต่ละประเภทเหมาะกับกลุ่มคนที่มีความต้องการแบบไหน
อาหารเสริมแคลเซียมประเภท Calcium Carbonate มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับ Calcium Citrate และ Calcium L-Threonate มีปริมาณแคลเซียมสูง และหาซื้อได้ง่าย
อาหารเสริมแคลเซียมประเภท Calcium Carbonate มีปริมาณแคลเซียม (Elemental Calcium) สูงถึง 40% ทำให้จำนวนเม็ดในการทานน้อย แต่ก็มีข้อเสีย คือ Calcium Carbonate ต้องรับประทานพร้อมอาหารเพื่อทำให้เกิดการดูดซึมและทำงานได้เต็มที่ และมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
อาหารเสริมแคลประเภท Calcium Citrate และ Calcium L-Threonate ดูดซึมได้ง่าย ทานเวลาไหนก็ได้ และผลข้างเคียงน้อย จึงเหมาะกับทุกวัย แต่มีราคาสูงและอาจต้องทานหลายเม็ด
อย่างไรก็ตาม อาหารเสริมแคลเซียมประเภท Calcium Citrate และ Calcium L-Threonate ก็มีข้อเสีย คือ ราคาค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างเช่น Calcium Citrate ราคาจะอยู่ที่ 150 - 800 บาท ส่วน Calcium L-Threonate จะมีราคาสูงที่สุด โดยจะเริ่มตั้งแต่ 300 บาท ไปจนถึงหลักพัน นอกจากนี้หากดูในแง่ปริมาณแคลเซียม (Elemental Calcium) แล้ว ปริมาณแคลเซียมของ Calcium Citrate และ Calcium L-Threonate จะมีปริมาณน้อยกว่า Calcium Carbonate โดยจะมีปริมาณอยู่ที่ 21%และ 13% ตามลำดับ ส่วน Calcium Carbonate จะมีปริมาณแคลเซียม ถึง 40% ทำให้จำเป็นต้องรับประทานในจำนวนเม็ดที่มากกว่าเพื่อให้ได้ปริมาณแคลเซียมที่เท่ากัน
หญิงตั้งครรภ์และให้นม ควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมแคลเซียมที่ทำจากเกลือ Calcium Carbonate เพราะทำให้เกิดอาการท้องผูก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัย
ในหญิงที่อยู่ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร หากกำลังจะลองอาหารเสริมแคลเซียม แนะนำว่า ควรเริ่มรับประทานในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนมากขึ้นในภายหลัง แนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Calcium Carbonate เพราะ Calcium Carbonate จะส่งผลให้มีอาการท้องผูกมากที่สุด เพราะในช่วงที่ตั้งครรภ์โดยปกติจะมีอาการท้องผูกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวร่างกายที่น้อยลง ภาวะลำไส้แปรปรวน และการเสิรมธาตุเหล็กที่มีผลต่อระบบขับถ่าย
อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนทุกครั้งหากจะซื้ออาหารเสริมแคลเซียมมาทานเอง เพราะหากมีปริมาณแคลเซียมในเลือดสูง (Hypercalcemia) ในระหว่างตั้งครรภ์อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้มาก โดยอาจส่งผลให้อัตราการแท้งบุตรสูงกว่าปกติถึง 5 - 10 เท่า
ในการศึกษาบางการศึกษาแนะนำว่าการทานแคลเซียมเสริมพร้อมกับวิตามินดี อาจมีประโยชน์มากกว่าเรื่องของสุขภาพกระดูก โดยอาจป้องกันมะเร็ง เบาหวาน และความดันโลหิตสูงได้ด้วย
แคลเซียมเป็นสารอาหารที่ร่างกายดูดซึมได้ยาก สามารถดูดซึมได้ประมาณ 20 - 30% เท่านั้น ฉะนั้น เมื่อเราเลือกอาหารเสริมแคลเซียม จึงควรเลือกส่วนผสมที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายเราดูดซึมแคลเซียมได้มากขึ้น นอกจากนี้ วิตามินอื่น ๆ ที่เติมเข้ามายังช่วยส่งเสริมระบบการทำงานของร่างกายในแต่ละช่วงวัยได้ด้วย
การให้แคลเซียมเสริมสามารถให้ได้ในทุกช่วงอายุ แต่ในเด็กแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการให้แคลเซียมเสริมทุกครั้ง สาเหตุที่เด็กขาดแคลเซียม เกิดจากในวัยนี้เป็นวัยที่ใช้สมองและทำกิจกรรมมาก และยังทานอาหารไม่หลากหลาย จึงอาจจะทำให้ร่างกายขาดแร่ธาตุหลายชนิดรวมถึงแคลเซียมหรือได้รับไม่เพียงพอ ทำให้ส่งผลต่อการเจริญเติบโตได้ โดยร่างกายต้องการแคลเซียมเสริมสูงสุดในช่วงอายุ 9 - 18 ปี การได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอในระหว่างนี้อาจส่งผลต่อความแข็งแรงของกระดูกและการเจริญเติบโตในภายหลังได้
หากต้องการเสริมแคลเซียมในช่วงวัยนี้ แนะนำอาหารเสริมแคลเซียมที่มีส่วนผสมของมัลติวิตามิน (วิตามิน B รวม) หรือกลุ่มวิตามินดีร่วมด้วย เนื่องจากช่วยบำรุงสมองและเพิ่มการดูดซึมของแคลเซียม
ในกลุ่มวัยผู้ใหญ่หรือวัยทำงาน แนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมที่มีส่วนผสมของลูทีน, วิตามินซี, ซิงค์ หรือวิตามินดี ที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายและใช้ในกระบวนการสร้างกระดูก และเพิ่มพวกมัลติวิตามิน (วิตามิน B รวม) โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่ใช้กำลังมาก ผู้ที่ออกกำลังกายหนัก และเพศหญิง เนื่องจากวัยทำงานเป็นวัยที่ใช้สมองและทำกิจกรรมมาก มีความเครียด และยังไม่มีเวลาทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ได้ในทุกมื้อ จึงอาจจะทำให้ขาดแร่ธาตุหลายชนิด
ผู้สูงอายุควรเลือกอาหารเสริมแคลเซียมที่มีส่วนผสมของมัลติวิตามิน (วิตามิน B รวม) และแนะนำกลุ่มที่มีวิตามินดีผสมในปริมาณสูงและคอลลาเจนเพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียม บรรเทาอาการปวดข้อ ทั้งยังช่วยเสริมความยืดหยุ่นของข้อต่อร่วมด้วย แต่อาจะต้องระวังหากผู้สูงอายุมีภาวะสุขภาพที่มีแคลเซียมในเลือดสูง (Hypercalcemia) ก็ควรต้องควรหลีกเลี่ยงการเสริมแคลเซียม
การบริโภคแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอระหว่างการตั้งครรภ์ มีประโยชน์ต่อระบบกล้ามเนื้อกระดูก ระบบประสาท และระบบไหลเวียนโลหิต ของเด็กในครรภ์และผู้ที่ตั้งครรภ์เอง หากผู้ที่กำลังตั้งครรภ์บริโภคแคลเซียมไม่เพียงพอ จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนมากขึ้นในภายหลังได้ โดยหากร่างกายขาดแคลเซียมมักจะมีแสดงอาการดังต่อไปนี้ คือ ปวดขา ปวดข้อ และปวดกระดูกเชิงกราน ในระหว่างตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ การเสริมแคลเซียมอาจช่วย ลดอุบัติการณ์ของความดันโลหิตสูงที่เกิดจากการตั้งครรภ์และภาวะครรภ์เป็นพิษได้
นอกจากนี้ ในผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร วิตามินดีและแคลเซียมในน้ำนม เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการป้องกันโรคกระดูกอ่อนในทารก ดังนั้น หากแม่ขาดแคลเซียมอาจส่งผลต่อทารกได้ และแม่อาจจะสูญเสียแคลเซียมจากการให้นมบุตรร่วมด้วย ดังนั้น การบริโภคแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์และอยู่ในช่วงของการให้นม
การเลือกอาหารเสริมแคลเซียมให้เหมาะกับหญิงที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร แนะนำการใช้อาหารเสริมแคลเซียมร่วมกับวิตามินดี ไม่เกิน 600 IU/วัน เพื่อช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียม และหากทานอาการเสริมแคลเซียมร่วมกับสูตรวิตามินรวมอื่น จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อาหารแคลเซียมเสริมทุกครั้ง
ปัจจุบัน อาหารเสริมแคลเซียมในท้องตลาด แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบด้วยกัน ได้แก่ แบบเม็ด, แบบน้ำ, แบบเม็ดฟู่, แบบแคปซูล และแบบเจลลี่ โดยรูปแบบที่เหมาะสมขึ้นกับความสะดวกของผู้ทาน โดยมีคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการเลือกรูปแบบของอาหารเสริมดังต่อไปนี้
● กลุ่มเด็กเล็กและวัยรุ่น แนะนำเป็นรูปแบบ ผง, เจลลี่ หรือ เม็ดฟู่ มากกว่ารูปแบบเม็ด เพราะการดูดซึมที่รวดเร็วกว่า อาหารเสริมแคลเซียมที่เด็กกินง่ายที่จำหน่ายตามท้องตลาดจะมีรสหวานอร่อย แต่จะมีปริมาณแคลเซียมต่ำกว่ารูปแบบอื่น เพราะต้องใส่ส่วนประกอบของสารปรุงแต่งให้เพื่อให้ความหวาน และมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม ซึ่งอาจทำให้ฟันผุได้ ดังนั้น ควรจะเลือกอาหารเสริมแคลเซียมแบบปกติจะดีกว่า
● กลุ่มผู้ใหญ่ แนะนำอาหารเสริมในรูปแบบเม็ดและแบบแคปซูลมากที่สุด เพราะสะดวกต่อการรับประทาน
● ผู้ที่มีปัญหาในการกลืนยา แนะนำให้เลือกอาหารเสริมแคลเซียมแบบเคี้ยวหรือแบบเหลว
● กลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการเคี้ยว แนะนำอาหารเสริมแคลเซียมในรูปแบบผง, เจลลี่ หรือเม็ดฟู่ มากกว่ารูปแบบเม็ด เพราะการดูดซึมที่รวดเร็วกว่าและรับประทานง่ายกว่า
การพิจารณาเรื่องรูปแบบจะมีผลต่อเรื่องราคาด้วย หากเลือกรูปแบบผง, เจลลี่ หรือเม็ดฟู่ ก็จะมีราคาสูงกว่ารูปแบบเม็ด จึงควรพิจารณาเรื่องความสะดวกในการรับประทานและค่าใช้จ่ายไปพร้อม ๆ กัน
ทุกคนมักจะคาดหวังให้สุขภาพดีขึ้นจากการรับประทานอาหารเสริม แต่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมักจะมีหน้าตาเหมือน ๆ กันไปหมด จนเราดูไม่ออกว่าแบบไหนเป็นแบบที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ดังนั้น จึงขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไว้วางใจได้โดยตรวจสอบฉลากให้ดีก่อนการซื้อทุกครั้ง โดยให้เลือกเฉพาะแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อป้องกันส่วนผสมที่มีพิษหรือเป็นอันตรายต่อร่างกาย
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | รายละเอียด | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
รูปแบบแคลเซียม | รูปแบบอาหารเสริม | ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | มาตรฐานการรับรอง | |||||
Blackmores Bio Calcium+D3 | ![]() | แคลเซียมเสริมวิตามินดี 3 ดูดซึมง่าย มีเครื่องหมายฮาลาล | Calcium Carbonate | แบบเม็ด | 500 mg | 0.005 mg | 60 เม็ด | อย., ฮาลาล | |||
Clover Plus CALCAD | ![]() | มีแคลเซียมบำรุงกระดูก 2 ชนิด พร้อมวิตามินดี ซี และวิตามินบี | Calcium Carbonate、Calcium Citrate | แบบแคปซูล | 500 mg | 1 mg | 30 เม็ด | Iron Amino Acid Chelate, Magnesium Amino Acid Chelate, Vitamin C | อย. | ||
Now Foods Calcium & Magnesium | ![]() | แคลเซียม 3 ชนิด พร้อมแมกนีเซียมช่วยเสริมการดูดซึม | Calcium Carbonate | แบบเม็ด | 500 mg | ไม่ระบุ | 100 เม็ด | Magnesium | อย. | ||
Zenji Calark Calcium | ![]() | แคลเซียมที่ดูดซึมได้ง่าย มีคอลลาเจนจากปลาแซลมอน | Calcium Amino Acid Chelate | แบบแคปซูล | 500 mg | 2 mg | 30 เม็ด | Marine Fish Collagen Peptide, Kelp Extract, EPA, DHA, Undenatured Collagen Type ll, Vitamin C, Black Sesamin Extract, Copper Amino Acid Chelate, Manganese Amino Acid Chelate | อย. | ||
Pharmatron Calcium Plus Vitamin D | ![]() | ดูดซึมง่ายด้วยส่วนผสมจากวิตามินดี ปริมาณแคลเซียมสูง | Calcium Carbonate | แบบเม็ด | 520 mg | 1.8 mg | 30 เม็ด | อย. | |||
Vistra Calplex Calcium 600 mg And Menaquinone-7 Plus | ![]() | เพิ่มความแน่นของมวลกระดูก และช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมน | Calcium Carbonate | แบบเม็ด | 600 mg | 2 mg | 30 เม็ด | Magnesium Oxide, Zinc Amino Acid Chelate, Boron Amino Acid Chelate, Copper Amino Acid Chelate, Manganese Amino Acid Chelate, Vitamin K, Piridoxine Hydrochoride, Vitamin B12, Folic Acid | GMP และ อย. | ||
Newday Calcium plus Collagen Vitamin D | ![]() | มีวิตามินดี 3 ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระแสเลือด | Calcium Carbonate | แบบแคปซูล | 200.40 mg | 0.6 mg | 30 เม็ด | Tripeptide Fish Collagen, Isolated Soy Protein, Magnesium AAC | อย., GMP, HACCP | ||
Amsel Calcium L-Threonate+Collagen Type II | ![]() | กระปุกใหญ่ ผสมคอลลาเจนและวิตามิน เสริมกระดูกและข้อ | Calcium L-Threonate | แบบแคปซูล | 480 mg | 1 mg | 60 เม็ด | Collagen Type II, Vitamin K | อย., ฮาลาล | ||
Vida Calcium L-Threonate+D3 | ![]() | ดูดซึมง่าย ลดปัญหาแคลเซียมตกค้างในทางเดินอาหาร | Calcium L-Threonate | แบบแคปซูล | 600 mg | 3 mg | 60 เม็ด | อย. | |||
Biovitt Calcium D+ | ![]() | HMD ช่วยชะลอการสลายตัว เสริมกล้ามเนื้อให้แข็งแรง | Calcium L-Threonate | แบบแคปซูล | 500 mg | 0.0025 mg | 30 เม็ด | อย. |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium Carbonate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบเม็ด |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 500 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | 0.005 mg |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 60 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | |
มาตรฐานการรับรอง | อย., ฮาลาล |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium Carbonate、Calcium Citrate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบแคปซูล |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 500 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | 1 mg |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 30 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | Iron Amino Acid Chelate, Magnesium Amino Acid Chelate, Vitamin C |
มาตรฐานการรับรอง | อย. |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium Carbonate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบเม็ด |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 500 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | ไม่ระบุ |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 100 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | Magnesium |
มาตรฐานการรับรอง | อย. |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium Amino Acid Chelate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบแคปซูล |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 500 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | 2 mg |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 30 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | Marine Fish Collagen Peptide, Kelp Extract, EPA, DHA, Undenatured Collagen Type ll, Vitamin C, Black Sesamin Extract, Copper Amino Acid Chelate, Manganese Amino Acid Chelate |
มาตรฐานการรับรอง | อย. |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium Carbonate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบเม็ด |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 520 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | 1.8 mg |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 30 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | |
มาตรฐานการรับรอง | อย. |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium Carbonate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบเม็ด |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 600 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | 2 mg |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 30 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | Magnesium Oxide, Zinc Amino Acid Chelate, Boron Amino Acid Chelate, Copper Amino Acid Chelate, Manganese Amino Acid Chelate, Vitamin K, Piridoxine Hydrochoride, Vitamin B12, Folic Acid |
มาตรฐานการรับรอง | GMP และ อย. |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium Carbonate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบแคปซูล |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 200.40 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | 0.6 mg |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 30 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | Tripeptide Fish Collagen, Isolated Soy Protein, Magnesium AAC |
มาตรฐานการรับรอง | อย., GMP, HACCP |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium L-Threonate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบแคปซูล |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 480 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | 1 mg |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 60 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | Collagen Type II, Vitamin K |
มาตรฐานการรับรอง | อย., ฮาลาล |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium L-Threonate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบแคปซูล |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 600 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | 3 mg |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 60 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | |
มาตรฐานการรับรอง | อย. |
รูปแบบแคลเซียม | Calcium L-Threonate |
---|---|
รูปแบบอาหารเสริม | แบบแคปซูล |
ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ด | 500 mg |
ปริมาณวิตามินดีต่อเม็ด | 0.0025 mg |
จำนวนเม็ดต่อบรรจุภัณฑ์ | 30 เม็ด |
ส่วนผสมบำรุงร่างกายอื่น ๆ | |
มาตรฐานการรับรอง | อย. |
เวลาที่ดีที่สุดในการรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียม คือ ควรรับประทานในตอนเช้า โดยทานหลังอาหารเช้าประมาณ 1 ชั่วโมง หรืออาจจะเป็นในช่วงบ่าย พร้อมกับดื่มน้ำปริมาณมาก ซึ่งการทานในเวลาดังกล่าวจะทำให้มีโอกาสที่เราได้รับแสงแดดมากขึ้น โดยผิวหนังจะสังเคราะห์วิตามินดีเพื่อช่วยดูดซึมแคลเซียมให้กับร่างกาย ทำให้แคลเซียมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ถึงแม้แคลเซียมจะมีประโยชน์กับการทำงานของร่างกาย แต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมอาจจะไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะสุขภาพที่มีแคลเซียมในเลือดสูง (Hypercalcemia) ควรหลีกเลี่ยงการเสริมแคลเซียม เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น เกิดแก๊สเกินในท้อง ภาวะท้องผูก และท้องอืด โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับชนิดแคลเซียมที่เลือกทาน โดย Calcium Carbonate จะมีอาการท้องผูกมากที่สุด ดังนั้น เราอาจต้องลองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมหลายยี่ห้อหรือประเภทต่าง ๆ เพื่อหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะสมกับเราที่สุด
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมห้ามรับประทานร่วมกับแร่ธาตุบางชนิด โดยไม่ควรรับประทานแคลเซียมและธาตุเหล็กร่วมกัน เพราะจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ โดยแคลเซียมอาจรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็กได้ ทำให้ประสิทธิภาพธาตุเหล็กลดลถึง 50% โดยหากต้องทานร่วมกัน แนะนำควรรับประทานธาตุเหล็กหลังรับประทานแคลเซียม 1 - 2 ชั่วโมง หรือก่อนรับประทานแคลเซียม 30 นาที
คำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
เครื่องดื่ม
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ